Jitta Wealth Journal - 5 ฉากจบสงครามรัสเซีย-ยูเครน

8 มีนาคม 2565Jitta Wealth Journal

อุตสาหกรรมเกมดึงเม็ดเงินลงทุนโต + 192%

Jitta Wealth Journal ปีที่ 2 ฉบับที่ 67 วันที่ 8 มีนาคม 2565 ทีมงานได้รวบรวมข่าวสารและสรุปสถานการณ์การลงทุนทั่วโลกมาให้คุณแล้ว ดังนี้ 

  • 5 ฉากจบสงครามรัสเซีย-ยูเครน 
  • คาดเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนกุมภาพันธ์พุ่ง +7.8% 
  • ประธาน Fed คาดขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เดือนมีนาคม
  • อุตสาหกรรมเกมดึงเม็ดเงินลงทุนโต +192%
  • มูลค่าลงทุนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ 
  • Apple มียอดขายสมาร์ตโฟนมากที่สุดในโลก
  • EV จีนเข้าตีตลาดนอร์เวย์
  • ราคาหุ้นพลังงานสะอาดจีนพุ่งขึ้นตลอดสัปดาห์ 
  • เวียดนามลด VAT เหลือ 8% ดันยอดขายในประเทศ

ไปติดตามกันได้เลย


Live : ตำราพิชัยลงทุนให้ชนะสงคราม

Live: ตำราพิชัยลงทุนให้ชนะสงคราม 

ประเด็นร้อนที่สร้างความกังวลให้กับคุณคงหนีไม่พ้น สงครามรัสเซียและยูเครน พร้อมตอบข้อสงสัยลดความกังวล และชี้โอกาสการลงทุน เพื่อพิชิตสงครามกับ คุณตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO ของ Jitta Wealth 

กด ‘Going’ เพื่อรับการแจ้งเตือน 


สงครามรัสเซียและยูเครน 

5 ฉากจบสงครามรัสเซีย-ยูเครน 

ประเด็นร้อนที่นับวันก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คงหนีไม่พ้นสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดการเงินการลงทุน ราคาน้ำมัน และสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วโลก 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทั่วโลกก็แสดงท่าทีต่อสงคราม ทั้งในภาคของรัฐบาลของหลายๆ ประเทศ ที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือยูเครน มีอาสาสมัครนานาชาติเข้าร่วมสงคราม สหรัฐฯ ร่วมหารือกับโปแลนด์เตรียมส่งเครื่องบินรบให้ยูเครน มีประชาชนยูเครนอพยพออกนอกประเทศกว่า 1.5 ล้านคน โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรป 

ภาคธุรกิจก็ร่วมออกมาหยุดให้บริการในรัสเซีย เพื่อแสดงจุดยืน ไม่ว่าจะเป็น ‘Netflix’ ‘Tiktok’ ‘American Express’ ‘Visa’ และ ‘Mastercard’ ซึ่งแน่นอนว่า สร้างความลำบากให้กับประชาชนรัสเซียเองในการดำเนินชีวิต 

ด้านของตลาดเงิน สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ในยุโรปประกาศคว่ำบาตรธนาคารกลางรัสเซีย และตัดธนาคารรัสเซียบางส่วนออกจากระบบการชำระเงินทั่วโลกของ SWIFT ถือเป็นการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินส่วนใหญ่ทั่วโลก สหรัฐฯ ปิดกั้นการส่งออกและนำเข้าของรัสเซีย และหลายประเทศก็ตัดสินใจเพิ่มเงินสำรองระหว่างประเทศเป็นสกุลเงินดอลลาร์มากขึ้น ส่งผลให้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักทั่วโลก

เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า แล้วสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนในครั้งนี้ จะจบลงอย่างไร สำนักข่าว BBC ได้ประเมิน ฉากจบของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนเอาไว้ 5 กรณี คือ

  1. สงครามระยะสั้น รัสเซียจะโหมโจมตีทางการทหารอย่างหนักหน่วง พร้อมแนวรบไซเบอร์มุ่งเป้าไปที่สาธารนูปโภคระดับประเทศ กรุงเคียฟจะแตกภายในเวลาไม่กี่วัน จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ที่เป็นหุ่นเชิดของทางการรัสเซีย ส่งผลให้กองทัพรัสเซียมีประสิทธิภาพมากขึ้น 
  2. สงครามระยะยาว มีความเป็นไปได้ว่า กองทัพรัสเซียเองจะถูกสกัดกั้น การสู้รบกันพัฒนาไปเป็นสงครามอันยืดเยื้อ กองทหารของยูเครนเองอาจจะได้รับการสนับสนุนจากประเทศตะวันตก และในที่สุดรัสเซียอาจจะต้องถอนกำลังออกจากยูเครนไปเอง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในสงครามในอัฟกานิสถาน 
  3. สงครามในยุโรป มีความเป็นไปได้ว่า สงครามอาจขยายตัวออกไปนอกยูเครน รัสเซียอาจส่งกองทัพไปยังประเทศที่เคยอยู่ในอาณัติ หากเป็นเช่นนี้ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามกับ NATO สูง 
  4. การเปิดเจรจาทางการทูต ฉากจบนี้อาจจะเกิดขึ้นได้หากรัสเซียย่ำแย่จากการรบ และมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ หรือ หากยูเครนเองมีผู้คนล้มตาย บ้านเมืองเสียหาย รัฐบาลยูเครนก็อาจจะเจรจาวางอาวุธเพื่อรักษาชีวิตประชาชนเอาไว้ 
  5. Vladimir Putin สิ้นอำนาจ แม้จะเป็นภาพฉากที่ไม่มีใครกล้าคิด แต่ก็ต้องยอมรับว่าอะไรก็เปลี่ยนแปลงได้ และโลกก็เดินไวเสมอ Lawrence Freedman ศาตราจารย์ศูนย์ศึกษาสงคราม King’s College London ชี้ว่า มีความเป็นไปได้ หากทหารรัสเซียมากมายต้องตาย เศรษฐกิจของรัสเซียทรุดโทรม แรงสนับสนุนในประเทศของ Putin ก็อาจจะลดลงตาม 

เมื่อความขัดแย้งแปรเปลี่ยนเป็นสงคราม โลกก็เปลี่ยนไปด้วย นี่เป็นเพียง 5 ฉากจบที่ถูกคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้น หรืออาจผสมกันไป ทำให้มีฉากจบมากออกไปอีก สิ่งที่แน่นอนที่สุด คือไม่มีอะไรแน่นอนและทุกคนทั่วโลกรู้เรื่องนี้ดี ทำให้ทุกคนต่างมองหาทางเอาตัวรอด และจับตามองความขัดแย้งในครั้งนี้ 

สงครามจะกระทบทิศทางเศรษฐกิจไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และยังมีประเด็นอื่นๆ ต้องจับตา เช่น ภาวะเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยขาขึ้น ราคาน้ำมันและราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น แต่อย่าผันผวนไปตามอารมณ์ตลาดมากเกินไปนัก มองการลงทุนอย่างมีเหตุผลและหาโอกาสในวิกฤตให้ได้


ความขัดแย้งรัสเซียยูเครน

ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน คุณต้องกังวลหรือไม่ 

การปะทะกันระหว่างรัสเซียและยูเครน สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลกและไม่มีทีท่าว่าจะลดลง แล้วในฐานะนักลงทุนระยะยาว คุณจะรับมือกับเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร 

อ่านต่อ


มองแบบ VI หาทางรอดใน Perfect Storm

มองแบบ VI หาทางรอดใน Perfect Storm

คุณตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO ของ Jitta Wealth ได้พูดคุยในรายการ Mr.Messenger Talk ของ Finnomena ถึงหลักการลงทุนสไตล์ VI ของ Jitta Wealth ท่ามกลางความผันผวนในตลาดการลงทุนทั่วโลก ที่ส่งผลต่อมูลค่าพอร์ตลงทุน แล้วหลักการนี้…ยังใช้ได้จริงหรือไม่

ดูวิดีโอ 


เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา 

คาดเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนกุมภาพันธ์พุ่ง +7.8% 

การรุกรานยูเครนของรัสเซีย สร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อตลาดเงินและตลาดทุนในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะตัวเลขเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐฯ ที่จะถูกประกาศในวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อสหรัฐฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้นสูงจากเดือนมกราคม อาจพุ่งสูงถึง +7.8% 

การเปิดเผยข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้จะมีเพียงตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เท่านั้น นักเศรษฐศาสตร์หลายคนประเมินว่า ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ +7.8% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งสูงกว่า +7.5% ในเดือนมกราคม 

Paul Hickey ผู้ร่วมก่อตั้งของ Bespoke Market Intelligence ให้ความเห็นว่า ตลาดหุ้นหลักกำลังอยู่ในเทรนด์ขาลง ในระยะสั้นๆ ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวของตลาดในเวลาที่เกิดวิกฤตความขัดแย้งขึ้น คุณจะเห็นการแกว่งขึ้นลงค่อนข้างมากเป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มนิ่งอีกครั้ง 

ประธาน Fed คาดขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เดือนมีนาคม 

Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงตอบคำถามสมาชิกรัฐสภา เกี่ยวกับการแก้ไขภาวะเงินเฟ้ออย่างเร่งด่วน โดยมีข้อสรุปว่า มีแนวโน้มสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.25% จากเดิม 0.00-0.25%

Powell ได้กล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และกระทบต่อการกำหนดนโยบายอย่างไร

ในขณะที่ Bloomberg Economic ให้ความเห็นว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed อาจจะไม่ดุดันเหมือนที่คาดการณ์ไว้

หากดูความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมของ FedWatch Tools ความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 97.8% เป็นไปตามคำกล่าวของ Powell 


9 Mindset การลงทุน ก่อนตัดสินใจล้างพอร์ต

9 ‘Mindset การลงทุน’ ที่ต้องรู้…ก่อนล้างพอร์ต

ทีมงาน Jitta Wealth พาคุณไปทำความเข้าใจ 9 Mindset การลงทุน ที่คุณต้องรู้ ก่อนตัดสินใจล้างพอร์ต ขอเพียงแค่ปรับมุมมอง ลบอคติเมื่อเห็นพอร์ตติดลบหนักๆ แล้วคุณจะลงทุนอย่างสบายใจ ไร้กังวล

อ่านต่อ 


ปรมาจารย์โชว์ดาต้าไหนล่ะ ฟองสบู่?

ปรมาจารย์โชว์ดาต้า ไหนล่ะ ฟองสบู่?

หลังจากที่ Jeremy Grantham ออกมาเตือนว่า ฟองสบู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะแตก สร้างความกังวลให้นักลงทุนทั่วโลก ไหน Fed จะขึ้นดอกเบี้ยอีก เรามีตัวเลขประเมินมูลค่าดัชนี S&P500 มายืนยันจาก Aswath Damodaran จริงๆ แล้วแพงหรือไม่

อ่านต่อ


เกมและอีสปอร์ต 

อุตสาหกรรมเกมดึงเม็ดเงินลงทุนโต +192% 

Digital Development Management (DDM) เอเจนซีวิดีโอเกมชั้นนำของโลก รายงานตัวเลขเงินลงทุนในอุตสาหกรรมเกมปี 2564 โตขึ้นจากปีก่อน +192% แตะ 38,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

รายงานระบุว่าการลงทุนมูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่สามารถเปิดเผยกับสาธารณะได้ เป็นการลงทุนในเกมที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชน เช่น การเข้าซื้อ GSN Games ของ Scopely และการเข้าซื้อ StarLark ของ Zynga

รวมไปถึงข่าวใหญ่ของ Microsoft เข้าซื้อ Activision Blizzard มูลค่ากว่า 69,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

แม้ว่าในปี 2565 นี้ สถานการณ์ Covid-19 จะเริ่มคลี่คลาย แต่นักลงทุนก็ยังเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตจะเติบโตไปได้อีก และเป็นไปได้ว่า จะมีการลงทุนในธีมเกมและอีสปอร์ตมากขึ้นด้วย 


บริษัทเกม

8 ‘บริษัทเกม’ ใน HERO ETF ที่น่าสนใจ ดันธีมเกมและอีสปอร์ตโตยาว

ส่องงบการเงินของ 8 บริษัทเกมที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งใน HERO ETF เมื่อราคา ETF พ้นจุดต่ำสุดแล้ว นี่คือโอกาสของธีมเกมและอีสปอร์ต เพราะคนนับพันล้านคนทั่วโลก ชอบเล่นเกม

อ่านต่อ 


HERO ETF

ลงทุน HERO ETF อย่างไร ให้ได้ราคาตลาด

เราจะพาคุณไปหาวิธี ‘ลงทุน HERO ETF’ ให้ได้ราคาตลาด พร้อมกระจายความเสี่ยงหลายๆ ธีม เพื่อให้คุณจัดพอร์ตได้เป๊ะปัง ท่ามกลางราคา Thematic ETF ผันผวน หาคำตอบได้ที่นี่

อ่านต่อ 


เทคโนโลยี 

มูลค่าลงทุนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ 

IC Insight คาดการณ์ว่า มูลค่าการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จะมีมูลค่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ แตะ 190,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น +24% ในปี 2565 โดยเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า +40% ใน 13 บริษัทชั้นนำของโลก

TSMC เป็นบริษัทที่คาดว่า จะมีการลงทุนมากที่สุดถึง 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วย Intel ด้วยเม็ดเงินกว่า 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เม็ดเงินการลงทุนมหาศาลมาจากสถานการณ์ขาดแคลนชิป เพราะบริษัทเทคโนโลยีต้องการชิปเพื่อผลิตสินค้าฮาร์ดแวร์มากขึ้น ดังนั้นอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ยังมีช่องว่างขยายตัวได้อีกมาก

Apple มียอดขายสมาร์ตโฟนมากที่สุดในโลก

Counterpoint รายงานยอดขายสมาร์ตโฟนทั่วโลกแตะ 448,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Apple มียอดขายสมาร์ตโฟนสูงที่สุดในโลก ยอดขายสูงถึง 196,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามมาด้วย Samsung ที่ 72,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่น่าจับตามอง คือ แบรนด์จีน Oppo Xiaomi และ Vivo ที่มียอดขายเติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน

ราคาขายเฉลี่ยของ Apple เพิ่มขึ้น +12% ที่ 322 ดอลลาร์สหรัฐต่อเครื่อง เนื่องจากการอัปเกรดสมาร์ตโฟนเป็นระบบ 5G รวมไปถึงความสำเร็จของ iPhone 13 ในปี 2564 ที่ช่วยดึงราคาขายเฉลี่ยให้ปรับตัวสูงขึ้น

Apple เป็นผู้นำตลาดที่มียอดขายสมาร์ตโฟนคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 44% ของทั้งหมด รายได้เพิ่มขึ้น +35% โดยประเทศกำลังพัฒนามีอัตราการเติบโตสูงสุด เช่น อินเดีย ไทย เวียดนาม และบราซิล


Jitta Wealth Journal

แพ้ตลาดให้ชนะแบบ Buffett

 Warren Buffett ผู้ทำผลตอบแทนชนะดัชนี S&P 500 ได้เกือบเท่าตัวตลอด 57 ปีที่ผ่านมา พอทำผลตอบแทนแพ้ตลาด 5 ปีหลังสุด โดนมองว่าล้าสมัย ไม่ทันกับโลกการลงทุนยุคนี้ มาหาคำตอบว่า ทำไมเขายังมั่นใจในหลักการลงทุนของตัวเอง  

อ่านต่อ 


พลังงานสะอาด 

EV จีนเข้าตีตลาดนอร์เวย์

Nio ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีน ประกาศผ่านเว็บไซต์เกี่ยวกับแผนการตีตลาด EV ในนอร์เวย์ เริ่มตั้งแต่ปี 2564 เช่นเดียวกับผู้ผลิต EV หลายq ค่ายของจีน ต่างมองเห็นโอกาสในนอร์เวย์ เพราะมีสัดส่วนยอดขาย EV สูงถึง 65% ในปี 2564 และคาดว่าจะเติบโตสูงถึง 80% ในปี 2565 

ค่าย EV ของจีนอื่นๆ ที่เตรียมตัวเข้าตลาดนอร์เวย์ เช่น BYD Hongqi และ Voyah รวมไปถึง Xpeng ที่ตีตลาดนอร์เวย์ ตั้งแต่ปี 2563 

นอร์เวย์เป็นประเทศที่มียอดขาย EV มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก มีสัดส่วนยอดขายต่อประชากรมากที่สุดในโลก เนื่องจากรัฐบาลให้สิทธิประโยชน์ในการซื้อ EV และภายในปี 2568 นอร์เวย์จะไม่อนุญาตให้ขายรถยนต์น้ำมัน 

ราคาหุ้นพลังงานสะอาดจีนพุ่งขึ้นตลอดสัปดาห์

จากมาตรการของรัฐบาลจีนที่สนับสนุนธุรกิจพลังงานสะอาด ส่งผลให้ราคาหุ้นพลังงานสะอาดในตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 7 วัน ซึ่งมีสาเหตุมาจาก 3 ปัจจัยประกอบไปด้วย

  1. ข่าวดีสนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดทั้งในและต่างประเทศ
  2. ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ราคาน้ำมันพุ่ง หนุนการใช้พลังงานสะอาด
  3. นโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนสนับสนุนให้ใช้พลังงานหมุนเวียนทดแทนพลังงานฟอสซิล

หลายๆ ประเทศตระหนักและให้ความสำคัญกับปัญหาภาวะโลกร้อน ส่งผลให้พลังงานสะอาดถูกพูดถึงมาโดยตลอด ซึ่งแต่ละประเทศประกาศนโยบายอย่างชัดเจน เพื่อลดการปล่อยมลภาวะในอากาศ

จีนประกาศว่า ภายในปี 2573 พลังงานสะอาดจะมีสัดส่วนถึง 25% ของพลังงานทั้งหมด ด้านสหภาพยุโรปจะลดการปล่อยคาร์บอน 55% ภายในปีเดียวกัน ในขณะที่สหรัฐฯ เข้าร่วมข้อตกลงปารีสอีกครั้ง หลังถอนตัวไปยุคของ Donald Trump

ธีมพลังงานสะอาดกลายมาเป็นธีมที่น่าจับตามอง เพราะทั่วโลกให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ในอนาคตพลังงานสะอาดจะกลายเป็นพลังงานหลักที่ใช้แทนพลังงานฟอสซิล


เศรษฐกิจเวียดนาม 

เวียดนามลด VAT เหลือ 8% ดันยอดขายในประเทศ

รัฐบาลเวียดนามเห็นชอบลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 10% เหลือ 8% คาดว่า รัฐจะเสียรายได้ไปกว่า 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศได้มากขึ้น 

นโยบายนี้เคยใช้มาแล้วในปี 2552 ในช่วงวิกฤต Subprime โดยการปรับลด VAT ในครั้งนี้จะสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2565 ในสินค้าและบริการทั่วไป ยกเว้นค่าใช้จ่ายด้านโทรคมนาคม

การปรับลด VAT เป็นนโยบายการคลัง จะช่วยลดแรงกดดันด้านราคาสินค้า เพิ่มการบริโภค ช่วยธุรกิจต่างๆ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากยอดขายสินค้าและบริการ มาตรการลด VAT ได้รับการพิสูจน์จากหลายๆ ประเทศแล้วว่า กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นได้จริงๆ


Jitta Wealth Journal

รีวิวพอร์ต Thematic Optimize จากเซนเซแป๊ะ เพจสรุปให้

อ่านมุมมองของเซนเซแป๊ะ เมื่อเห็นมูลค่าพอร์ต Thematic Optimize ติดลบไปมากกว่า -10% แต่เขายังมั่นใจว่า เป้าหมายลงทุนระยะยาว ไม่ซื้อขายบ่อย จะทำให้ได้ผลตอบแทนดีมาก จนเขาเองยังประหลาดใจ

​​อ่านต่อ


นี่คือ 9 ข่าวที่น่าสนใจของ Jitta Wealth Journal สำหรับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ย่อมไม่ผิดอะไรที่คุณจะตั้งคำถามหรือมีความไม่มั่นใจกับการลงทุน

ทั่วโลกกำลังตกอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถควบคุมอะไรได้ ทำได้เพียงคอยดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ พร้อมกับบริหารความเสี่ยงและควบคุมสติอารมณ์ ไม่ให้ผันผวนไปตามตลาดเงินตลาดทุนมากเกินไป 

อย่าลืมมองหาโอกาสในวิกฤต เพราะไม่มีอะไรที่จะเป็นจุดจบของการลงทุน ขอเพียงคุณมีวินัย บริหารความเสี่ยงตามหลักเหตุผล แล้วพาพอร์ตให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้  

แล้วพบกันสัปดาห์หน้า

ตราวุทธิ์และทีมงาน Jitta Wealth


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – ถ้าสงครามยืด เงินเฟ้อพุ่ง เข้าลงทุนดีไหม

Jitta Wealth Journal – Facebook รายได้โฆษณาลดลง โอกาสโตมีหรือไม่

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด