Jitta Wealth Journal - Facebook รายได้โฆษณาลดลง โอกาสโตมีหรือไม่

22 กุมภาพันธ์ 2565Jitta WealthJitta Wealth Journal

ราคาหุ้นเทคจีนซึมยาว ลงทุนตอนนี้ดีไหม

Jitta Wealth Journal ปีที่ 2 ฉบับที่ 65 ประจำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ทีมงานได้รวบรวมและสรุปสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทั่วโลกมาให้คุณแล้ว ดังนี้

  • คาด Fed ขึ้นดอกเบี้ยไม่ถึง 1.75%
  • ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินอีกกว่า 100,000 ล้านหยวน
  • เทคโนโลยีจีนอาจซึมยาว รัฐบาลเดินหน้าคุมเข้มต่อ
  • Airbnb รายได้โตแรงไม่หยุดกว่า +77%
  • มาร์เก็ตแคป Sea ร่วงแรงกว่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • Warren Buffett ก้าวสู่โลก Metaverse
  • ยอดขายเซมิคอนดักเตอร์พุ่งแตะ 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • Facebook รับศึกหนัก ยิงโฆษณายากขึ้น
  • Samsung ทุ่ม 30,000 ล้านบาทสร้างโรงงานในเวียดนาม

ไปติดตามกันได้เลย


เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา

คาด Fed ขึ้นดอกเบี้ยไม่ถึง 1.75%

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนมกราคม พร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากเดิม 0.00-0.25% และลดขนาดงบดุลเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ 

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำอย่างเร็วที่สุดในเดือนมีนาคมนี้ โดยหลังจาก Fed ปล่อยรายงานการประชุม นักวิเคราะห์เกิดความลังเลว่า Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยถึง 1.75% หรือไม่

หากดูตาม FedWatch Tool แล้ว ความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปถึงระดับ 1.75% ลดลงจาก 63.9% เหลือ 42.6% ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังปรับตัวผันผวนเล็กน้อย

เดือนมีนาคมจะเป็นเดือนสุดท้ายที่ Fed จะซื้อสินทรัพย์เป็นจำนวน 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สิ้นสุดการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ หลังจากนั้น Fed จะลดขนาดงบดุลด้วยการปล่อยให้สินทรัพย์ที่ถือครองอยู่ครบกำหนด 

จากรายงานการประชุมแสดงให้เห็นท่าทีของ Fed ว่า อาจจะไม่ได้ดุดันเท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ย 7 ครั้งในปี 2565 ลดลงอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียเป็นปัจจัยหลักกระทบตลาดหุ้นทั่วโลก


ความขัดแย้งรัสเซียยูเครน

ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน คุณต้องกังวลหรือไม่

การปะทะกันระหว่างรัสเซียและยูเครน สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเรื่องภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้นมากขึ้นไปอีก แล้วในความเป็นจริง มันน่ากังวลหรือไม่ และคุณควรรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร 

อ่านต่อ 


เศรษฐกิจจีน

ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินอีกกว่า 100,000 ล้านหยวน

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเพิ่มอีก 100,000 ล้านหยวน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนคงอัตราดอกเบี้ย MLF (Medium-term Lending Facility) เดือนกุมภาพันธ์ไม่เปลี่ยนแปลง 

แต่ประเด็นที่น่าสนใจ คือ PBOC ลดอัตราดอกเบี้ย MLF มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์เมื่อเดือนมกราคม ซึ่งจากการคาดการณ์อยู่ที่ 5 จุดเปอร์เซ็นต์ (Basis-point) ในขณะที่ลดจริงถึง 10 จุดเปอร์เซ็นต์ เหลือ 2.85% ซึ่งเป็นผลพวงจากเศรษฐกิจชะลอตัวไตรมาส 4

ด้วยเหตุผลที่ตัวเลขภาคการเงินที่ปรับตัวดีขึ้นในเดือนมกราคม ทำให้ PBOC ชะลอการปรับลดดอกเบี้ย MLF ออกไป แต่หากตัวเลขภาคการเงินเดือนกุมภาพันธ์ไม่เป็นไปตามคาด อาจจะได้เห็น PBOC ปรับลดดอกเบี้ย MLF อีกครั้งในเดือนมีนาคม 

ในช่วงเวลานี้จีนพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก GDP ชะลอตัวไตรมาส 4 ปี 2564 ที่เติบโตเพียง +4% ทำให้ PBOC จำเป็นต้องออกนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 

ตลาดหุ้นจีนจะได้รับอานิสงส์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้อย่างเต็มที่ และคาดว่า กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2565

เทคโนโลยีจีนอาจซึมยาว รัฐบาลเดินหน้าคุมเข้มต่อ 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า Xi Jinping ประธานาธิบดี เร่งดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายด้านเทคโนโลยี โดยเร่งความเร็วของการออกกฎหมายในด้าน Digital Economy ด้าน Internet Finance ด้าน Artificial Intelligence ด้าน Big Data และ Cloud Computing

Mattie Bekink ผู้อำนวยการจีน ของ Economist Corporate Network คิดว่าการใช้กฎระเบียบเป็นเครื่องมือกำหนดทิศทางเศรษฐกิจและสังคมของจีนนั้นยังไม่สิ้นสุด 

Chen Long หุ้นส่วนของบริษัทวิจัย Plenum กรุงปักกิ่ง บอกว่า Xi ให้ความสำคัญอย่างมากกับการใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นความคิดของเขามานานกว่าทศวรรษ และคาดหวังว่า ปี 2565 จะมีเซอร์ไพรส์เกี่ยวกับกฎระเบียบด้านเทคโนโลยีน้อยลง เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 

Jitta Wealth มองว่า การคุมเข้มบริษัทเทคโนโลยีจีนยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ทางการจีนจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางไหน แน่นอนว่า เมื่อกฎระเบียบชัดเจนมากขึ้น ทุกบริษัทย่อมอยากจะทำตาม ถึงเวลานั้นสถานการณ์จะคลี่คลายมากขึ้น


เทคโนโลยีท่องเที่ยว 

Airbnb รายได้โตแรงไม่หยุดกว่า +77% 

รายได้ ปี 2564 ของ Airbnb เติบโต +77% แตะ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของบริษัทที่สามารถฝ่าวิกฤต Covid-19 มาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และกระทบต่อภาคท่องเที่ยวทั่วโลก

การจองห้องพักผ่าน Airbnb ในปี 2564 แตะที่ระดับ 300 ล้านครั้ง เติบโต +56% ทำให้บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น รวมไปถึงกระแสเงินสดจากการดำเนินการที่พลิกจากเดิมติดลบ -629 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 มาเป็น 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 ได้

บริษัทอยู่ในช่วงการเติบโต รายได้และอัตรากำไรแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ธีมเทคโนโลยีท่องเที่ยวเติบโตได้อีก โดย ETFMG Travel Tech ETF (AWAY) มีสัดส่วนการลงทุนใน Airbnb มากกว่า 4% 

เมื่อทั่วโลกสามารถคุมวิกฤต Covid-19 ได้อย่างสมบูรณ์ การท่องเที่ยวต่างแดนจะเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง และด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้คนใช้ประโยชน์ เพื่อท่องเที่ยวทั่วโลก ผลประกอบการของ Airbnb ปีที่ผ่านมา เริ่มมีสัญญาณดีๆ ให้เห็นแล้ว


เกมและอีสปอร์ต

มาร์เก็ตแคป Sea ร่วงแรงกว่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ราคาหุ้น Sea ลดลงไปมากกว่า -18.39% ในช่วงปิดตลาดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เนื่องจากอินเดียประกาศแบนเกมหลักของบริษัทอย่าง Free Fire

แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อินเดียแบนแอปพลิเคชันจีนไปกว่า 100 แอป และส่งผลกระทบไปถึง Sea อีกด้วย หากย้อนไปในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 ราคาหุ้น SEA พุ่งแตะระดับสูงสุด และเริ่มปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง

การแบนแอปพลิเคชันจีนของอินเดียมาจากเหตุผลความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งมีหลายแอปพลิเคชันที่โดนผลกระทบในตรงนี้ไปด้วย ทาง Sea อยู่ในกระบวนการยื่นอุทธรณ์ เพื่อให้ปลดออกจากลิสต์ 

หากทำสำเร็จจะทำให้ราคาหุ้น Sea อาจจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง แต่หากไม่สำเร็จ และแบนต่อเนื่องไปถึงแอป Shopee นักลงทุนอาจจะจะต้องประเมินมูลค่ากิจการใหม่อีกครั้ง 

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น Sea ลดลง ETF ในธีมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีจีนกับเกมและอีสปอร์ต ที่ลงทุนใน Sea อยู่ สัดส่วนการลงทุนจะลดลงโดยอัตโนมัติ ตามดัชนีอ้างอิง ซึ่งเป็นข้อดีของ Passive ETF  

Warren Buffett ก้าวสู่โลก Metaverse

Berkshire Hathaway เข้าลงทุน Activision Blizzard บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ เป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไตรมาส 4 ปี 2564 ขณะที่เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา Microsoft ได้ประกาศเข้าซื้อบริษัท Activision Blizzard 

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า Berkshire Hathaway ได้เข้าซื้อหุ้น Activision Blizzard ก่อนที่ Microsoft จะเข้ามาซื้อกิจการไป ทำให้ตลาดจับตามองการลงทุนในครั้งนี้ของ Buffett ว่า จะทำกำไรมหาศาล หากดีลการเข้าซื้อสิ้นสุดลง

ขณะที่ Microsoft เข้าซื้อ Activision Blizzard ด้วยราคา 95 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่า 69,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการเข้าซื้อครั้งใหญ่ที่สุด ที่เคยมีมาในอุตสาหกรรมเกม

Activision Blizzard เป็นบริษัทผู้ผลิตเกมยักษ์ใหญ่อันดับที่ 3 ของโลก รองจาก Tencent และ Sony มีสัดส่วนการลงทุนในธีมเกมและอีสปอร์ตผ่าน Global X Video Games & Esports ETF (HERO) สูงที่สุด คาดว่า ผลประกอบการและทิศทางของบริษัท กำลังมีสัญญาณที่ดี 


Thematic Investment

Thematic Investment ทางเลือกการลงทุนในธีมที่คุณชื่นชอบ

การลงทุนในธีม หรือ Thematic Investment เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็พูดถึง เป็นเทรนด์ที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะเห็นถึงศักยภาพเติบโตในระยะยาว ถ้าคุณอยากเริ่มต้นลงทุน Jitta Wealth หาคำตอบมาให้แล้ว 

อ่านต่อ 


เทคโนโลยี

ยอดขายเซมิคอนดักเตอร์พุ่งแตะ 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เผยยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ ปี 2564 ทั่วโลก อยู่ที่ 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต +26.2% เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่า 1.15 ล้านล้านชิ้นเลยทีเดียว 

การขาดแคลนชิปอย่างหนักในปี 2564 ส่งผลให้บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก เพิ่มกำลังการผลิตเป็นจำนวนมากและลงทุนก้อนใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้ยอดขายและยอดส่งมอบสูงสุดเป็นประวัติการณ์

CEO ของสมาคม คาดว่า ความต้องการชิปจะสูงต่อเนื่อง ซึ่งจีนเป็นผู้ซื้อชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก ยอดขายชิปในจีนแตะระดับ 192,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

เซมิคอนดักเตอร์กลายเป็นสินค้าที่มีความต้องการจากทั่วโลก เพราะสินค้าเทคโนโลยีต่างๆ จำเป็นต้องใช้ชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เป็นหัวใจหลัก ดังนั้นธีมเทคโนโลยี รวมไปถึงผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้อง มีโอกาสเติบโตได้อีกไกล

Facebook รับศึกหนัก ยิงโฆษณายากขึ้น 

ศึกใหญ่ที่ Facebook และโซเชียลมีเดียอื่นๆ ต้องวางแผนรับมือ คือ Google เตรียมยกเครื่องระบบ Android ด้วยระบบ Privacy แบบใหม่ ท่ีทำให้การยิงโฆษณาในอนาคตยากมากขึ้น 

Anthony Chavez รองประธานฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ของทีมความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของ Android บอกว่า โซลูชันเหล่านี้จะจำกัดการแชร์ข้อมูลผู้ใช้งานกับบุคคลที่สาม ซึ่งก็คือผู้ให้บริการแอปพลิเคชันต่างๆ ดำเนินการโดยไม่มีตัวระบุข้ามแอป รวมถึงรหัสโฆษณา

ระบบ Andriod กำลังสำรวจเทคโนโลยีที่ลดโอกาสในการรวบรวมข้อมูลแอบแฝง และวิธีที่ปลอดภัยกว่าสำหรับแอปพลิเคชันในการโฆษณา

แนวคิดนี้คล้ายคลึงกับทิศทางของ Apple เมื่อปีที่แล้ว ทำให้แนวทางการยิงโฆษณาของหลายๆ บริษัทแย่ลง 

Meta Platforms บริษัทแม่ของ Facebook บอกว่า ทิศทางนี้ จะทำให้รายได้ของบริษัทผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียในปี 2565 ลดลงกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาร์เก็ตแคปของบริษัทหายไป 232,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันเดียว 

สำหรับ Meta Platforms อยู่ในธีมตลาดหุ้นสหรัฐฯ ธีมเทคโนโลยี ของกองทุนส่วนบุคคล Thematic ขึ้นอยู่กับดัชนีอ้างอิงของ ETF ถ้ามาร์เก็ตแคปและรายได้ลดลง ดัชนีอ้างอิงจะปรับลดสัดส่วนของ Meta Platforms ลงมาเอง

ส่วนแผนการลงทุน Jitta Ranking เทคโนโลยีสหรัฐฯ ที่ Meta Platforms อยู่ในอันดับต้นๆ ตรงนี้อัลกอริทึมของ Jitta Wealth จะทำหน้าที่สแกนงบการเงินทุกๆ ไตรมาส 

หากผลประกอบการบริษัทลดลง ทำให้ AI วิเคราะห์ว่า โอกาสเติบโตของหุ้นเทคโนโลยีนั้นลดลงไปด้วย อันดับของหุ้นนั้นจะลดลงมาและระบบปรับพอร์ตอัตโนมัติจะขายหุ้นออก เพื่อซื้อหุ้นตัวใหม่ที่มีโอกาสเติบโตเข้ามาในพอร์ตแทน


Thematic Investment

เคล็ด (ไม่) ลับ ลงทุน Thematic อย่างไร ท่ามกลางความผันผวน

การลงทุนแบบ Thematic ท่ามกลางราคา ETF ขาลงทั่วโลกต่อเนื่องมาเกือบ 3 เดือน ที่เขาว่า High Risk High Expected Return ยังมีอยู่หรือไม่ อ่านเคล็ด (ไม่) ลับ จัดพอร์ตลงทุนปังๆ

อ่านต่อ 


เศรษฐกิจเวียดนาม 

Samsung ทุ่ม 30,000 ล้านบาทสร้างโรงงานในเวียดนาม 

เวียดนามกำลังเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด Samsung เตรียมลงทุนกว่า 920 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 30,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานในเวียดนาม  

Samsung เป็นนักลงทุนต่างชาติจากเกาหลีใต้และผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยในปี 2564 Samsung ลงทุนกว่า 18,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 580,000 ล้านบาท โดยมีโรงงาน 6 แห่งในประเทศ และกำลังสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ในฮานอย 

นอกจากนี้ ผลสำรวจโดย Jetro หรือ Japan External Trade Organisation สอบถามบริษัทญี่ปุ่นกว่า 4,000 แห่งทั่วโลก มีบริษัทญี่ปุ่นกว่า 55% ต้องการขยายธุรกิจในเวียดนามในปี 2565 และ 2566 

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนจากต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ในเวียดนามเมื่อปี 2564 รองจากสิงคโปร์และเกาหลีใต้ 

เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment – FDI) เป็นตัวชี้วัดในการประเมินปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจที่ยังพึ่งพาการผลิตขนาดใหญ่และมูลค่าการส่งออกสูง ซึ่งเวียดนามอยู่ในจุดนี้

ยิ่งเวียดนามกำลังเนื้อหอม ใครๆ ก็อยากเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิต สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างมูลค่าการส่งออก ทำให้โอกาสเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามในระยะ 5-10 ปีนี้ ยังไปได้อีกไกล


Jitta Wealth

เคล็ด (ไม่) ลับ พิชิตตลาดหุ้น ‘ไม่เป็นใจ’ รอดได้อย่างไร

ตลาดหุ้นมีขึ้นมีลง นอกเหนือจากความรู้ด้านการลงทุน ช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นมีความไม่แน่นอน คุณอาจจะต้องรับมือกับภาวะอารมณ์เมื่อเห็นมูลค่าพอร์ตลดลง Mindset การลงทุนเรื่องสำคัญ คุณจะฝ่าฟันไปได้อย่างไร 

อ่านต่อ 


นี่คือ 9 ข่าวสารการลงทุนทั่วโลกที่เรารวบรวมมาให้ใน Jitta Wealth Journal สัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์

ช่วงนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหุ้นหลักของแผนการลงทุน Jitta Wealth มีความไม่แน่นอนสูง ขึ้นๆ ลงๆ ตามข่าวสารต่างๆ ทำให้ราคาหุ้นเติบโต ที่อยู่ในแผน Jitta Ranking เทคโนโลยีสหรัฐฯ และราคา ETF เมกะเทรนด์ต่างๆ ในแผน Thematic มีความผันผวนขาลง

การตอบรับของตลาดหุ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า วัดใจกับมติของ Fed ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยและลดขนาดงบดุล เราจะอัปเดตให้คุณได้ทราบอย่างทันท่วงที

แล้วพบกันสัปดาห์หน้า


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – Fed ขึ้นดอกเบี้ยทั้งปี ตลาดหุ้นส่อแววผันผวน

Jitta Wealth Journal – หุ้น Facebook ร่วง หุ้นเทคไปยังไงต่อ?

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด