รู้จัก Thematic ETF ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’ กับ KURE

ไฮไลต์

• จีนเป็นประเทศที่อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์เติบโตเร็วที่สุดในโลกในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เป็นผู้นำอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา และใช้จ่ายในอุตสาหกรรมไปทั้งหมดถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 มีอัตราการเติบโตของรายได้สูงถึง +11% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
• จำนวนประชากรและกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ส่งผลให้ธุรกิจผลิตยาปฏิชีวนะของจีน กินส่วนแบ่งในตลาดยาปฏิชีวนะของสหรัฐฯ ได้ถึง 97% และตลาดวิตามินซีของสหรัฐฯ ได้อีก 90%
• Jitta Wealth เห็นถึงโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์จีน เลือก KraneShares MSCI All China Health Care Index ETF (KURE) มาเป็นตัวแทนของธีมบริการสุขภาพจีน (China Healthcare) ผลตอบแทนรวม3 ปีย้อนหลัง +35.70% ณ 28 กุมภาพันธ์ 2565 
• 5 บริษัทไส้ใน (KURE) อันดับต้นๆ ได้แก่ WuXi Biologics Cayman (แพลตฟอร์มเทคโนโลยีชีวภาพ) Shenzhen Mindray Bio-Medical Electronics (บริการอุปกรณ์และโซลูชันทางการแพทย์) WuXi AppTec (บริษัทโฮลดิงลงทุนในธุรกิจเฮลท์แคร์) Jiangsu Hengrui Medicine (บริษัทเภสัชกรรม) และ CSPC Pharmaceutical Group (บริษัทเภสัชกรรม) จะเห็นได้ว่า ทั้งรายได้และกำไรเติบโตสูงมากๆ ในช่วง 3 ปีย้อนหลัง

ประเดิม Thematic ETF ธีมใหม่ของปี 2565 ด้วย ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’ 

จีนเป็นประเทศที่อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์เติบโตเร็วที่สุดในโลกในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เฮลท์แคร์ไม่ได้จำกัดความแค่การรักษาโรคเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ครอบคลุมไปถึง การทำวิจัยยาและวัคซีน การพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ การบริการรักษาพยาบาล การแพทย์ทางไกล และการประกันสุขภาพ 

เรียกได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ ถูกนับรวมในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ด้วยเช่นกัน

มหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา มีอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่จีน…ยักษ์ใหญ่จากเอเชีย มีการเติบโตด้านบริการสุขภาพไม่แพ้กัน จนดึงความสนใจของคนทั้งโลกให้หันมามองโอกาสลงทุนใน ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’

ด้วยจำนวนประชากรและกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ส่งผลให้ธุรกิจผลิตยาปฏิชีวนะของจีน กินส่วนแบ่งในตลาดยาปฏิชีวนะของสหรัฐฯ ได้ถึง 97% และตลาดวิตามินซีของสหรัฐฯ ได้อีก 90% แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของ ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์จีนยังคงมีโอกาสเติบโตอยู่อีกมาก ด้วยค่าใช้จ่ายที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ เฉลี่ยอยู่ที่ 501 ดอลลาร์สหรัฐต่อหัวเท่านั้น เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของตลาดเฮลท์แคร์ 8 ประเทศแรกของโลก อยู่ที่ 5,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อหัว จะพบว่า อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์จีนมีราคาถูกมาก แต่คุณภาพไม่ได้ด้อยไปกว่าประเทศพัฒนาแล้ว

ปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์จีนเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด สามารถสรุปออกมาได้ ดังนี้ 

• จีนเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก และใช้จ่ายในอุตสาหกรรมไปทั้งหมดถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 มีอัตราการเติบโตของรายได้สูงถึง +11% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
• จีนมีตลาดเฮลท์แคร์ที่โตเร็วที่สุดในโลก ด้วยอัตราการเติบโตแบบทบต้นในช่วงระยะเวลา 10 ปี อยู่ที่ +13% ต่อปี สูงกว่าสหรัฐอเมริกาที่ +3% และญี่ปุ่นที่ +2% ในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์
• รัฐบาลจีนช่วยควบคุมด้านค่าใช้จ่าย เพื่อประชาชนทุกคนเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่ดี เพราะมีแนวโน้มว่าผู้ป่วยจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ดังนั้นค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลมีราคาถูก ส่งผลให้อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์จีนมีช่องว่างในการเติบโตอีกมาก
• สัดส่วนประชากรจีน เริ่มก้าวเข้าสู่สังคมคนสูงอายุ ยิ่งกระตุ้นให้รัฐบาลจีนต้องลงทุนในอุตสาหกรรมบริการสุขภาพ เพื่อรองรับจำนวนคนสูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
• รายได้ต่อหัวที่มากขึ้น ทำให้คนจีนมีความใส่ใจในการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนสูงอายุที่ต้องการการดูแลที่ดีในบั้นปลายชีวิต 

นอกจากปัจจัยต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์จีนเติบโตอย่างรวดเร็ว รัฐบาลจีนยังให้การสนับสนุนด้านงานวิจัยและพัฒนา ซึ่งรวมไปถึงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ โดยให้เงินสนับสนุนมากกว่า 2.7 ล้านล้านหยวนในปี 2564 เพื่อใช้ในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็น 1 ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปี ของจีนอีกด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’ ได้รับความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก และทางเลือกการลงทุนในเฮลท์แคร์จีนที่ง่ายที่สุด คือการลงทุนผ่าน ETF (Exchange Traded Fund) ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ลงทุนในตลาดหุ้น อุตสาหกรรม และธีมธุรกิจที่ชื่นชอบได้ง่าย และยังช่วยกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ในสัดส่วนที่เหมาะสม

แน่นอนว่า Jitta Wealth เห็นถึงโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์จีน จึงเฟ้นหา Thematic ETF ที่ลงทุนใน ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’ และคัดเลือกกองที่ดีที่สุดมาให้คุณ และได้เลือก KraneShares MSCI All China Health Care Index ETF (KURE) มาเป็นตัวแทนของธีมบริการสุขภาพจีน (China Healthcare) ในกองทุนส่วนบุคคล Thematic

‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’ ต้องลงทุนใน KURE

KraneShares บริษัทจัดการลงทุนสัญชาติอเมริกัน ออก ETF ที่โฟกัสลงทุนในหุ้นจีน โดยคัดเลือกอุตสาหกรรมหรือธีมธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต เพื่อเป็นทางเลือกให้นักลงทุนได้ลงทุนในหุ้นจีน ผ่านการจัดพอร์ตที่คัดสรรหุ้นมาเป็นอย่างดี 

รูปแบบ ETF ที่ KraneShares เปิดให้ลงทุนจะเป็น Passive Fund ทำผลตอบแทนให้ไปตามดัชนีอ้างอิง เช่นเดียวกับ KURE ที่ใช้ดัชนี MSCI China All Shares Health Care 10/40 Index คัด ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ในตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง รวมไปถึงบริษัทจีนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ

กว่าจะมาเป็น KURE ที่เป็นตัวแทนของธีมบริการสุขภาพจีน (China Healthcare) ทีมงาน Jitta Wealth มีเกณฑ์ในการคัดเลือก ETF ดังนี้

• มูลค่า AUM สูงสุด อยู่ที่ 131.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ 28 กุมภาพันธ์ 2565
• ค่า Expense Ratio ต่ำสุด อยู่ที่ 0.65% 
• ก่อตั้ง ETF มาตั้งแต่ 31 มกราคม 2561
• ลงทุนในหุ้นมากกว่า 110 บริษัทในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์จีน

นี่คือ รายละเอียดของ KURE เป็น Passive ETF ของธีมบริการสุขภาพจีน (China Healthcare) ของกองทุนส่วนบุคคล Thematic ทีมงาน Jitta Wealth จะพาคุณไปส่องไส้ใน 5 บริษัทเฮลท์แคร์จีน เพื่อคุณจะได้เข้าใจพื้นฐานของกิจการมากขึ้น 

5 ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’ จาก KURE

อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์จะครอบคลุมทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบริการสุขภาพ โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นกลุ่มโรงพยาบาลหรือผู้ผลิตยาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้ผลิตอุปกรณ์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลก 5 ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’ จะไม่ใช่โรงพยาบาลใหญ่ๆ แต่มีความเกี่ยวข้องกับบริการสุขภาพและการแพทย์อย่างแน่นอน

หุ้นทั้ง 5 บริษัทมีสัดส่วนรวมๆ เกือบ 30% ใน KURE มีทั้งบริษัทในตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง และสหรัฐฯ 

WuXi Biologics Cayman

แพลตฟอร์มเทคโนโลยีชีวภาพแบบ Open Access ชั้นนำระดับโลก ที่นำเสนอโซลูชันแบบ End-to-end เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถค้นพบ พัฒนา และผลิตสารชีวภาพจากแนวคิดไปสู่ระดับการผลิต เพื่อการรักษาผู้ป่วยให้หายขาด บริษัทมีเป้าหมายให้บริการเทคโนโลยีชีวภาพแบบครบวงจร 

WuXi Biologics มีแผนจะขยายธุรกิจออกไปสู่ระดับโลกในปี 2567 ในหลายๆ ประเทศ เช่น จีน ไอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และสิงคโปร์ มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 270,700 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง 

รายได้และกำไรสุทธิ 3 ปีย้อนหลังของ WuXi Biologics Cayman

Shenzhen Mindray Bio-Medical Electronics

ให้บริการอุปกรณ์และโซลูชันทางการแพทย์ทั่วโลก บริษัทนำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลผู้ป่วยแบบครบวงจร ครอบคลุมไปถึง การดูแลฉุกเฉิน การดูแลระหว่างผ่าตัด การดูแลผู้ป่วยวิกฤต และโซลูชันด้าน IT อุปกรณ์ทางการแพทย์ของ Mindray มีการวิจัยและพัฒนามาโดยตลอด บริษัทให้ความสำคัญกับผู้ป่วยเป็นอันดับ 1 เสมอ

Shenzhen Mindray Bio-Medical Electronics ได้นำเทคโนโลยีขั้นสูงมาประยุกต์ใช้กับการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ และขยายธุรกิจเพื่อให้บริการแก่ธุรกิจเฮลท์แคร์ทั่วโลก มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 396,700 ล้านหยวนจีน 

รายได้และกำไรสุทธิ 3 ปีย้อนหลังของ Shenzhen Mindray Bio-Medical Electronics

WuXi AppTec

บริษัทโฮลดิง ลงทุนในธุรกิจให้บริการด้านการวิจัย พัฒนา และผลิตยาโมเลกุลขนาดเล็ก และการบำบัดด้วยเซลล์และยีนในจีน ครอบคลุมทวีปเอเชีย สหรัฐอเมริกา ยุโรป และต่างประเทศ บริษัทให้บริการห้องปฏิบัติการ เพื่อทำวิจัย เคมีสังเคราะห์ ชีววิทยา และเคมีทางการแพทย์

WuXi AppTec ทำธุรกิจให้บริการที่แบบครบวงจรในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ มีเป้าหมายเพื่อผลิตยารักษาโรคและการดูแลสุขภาพทั่วโลก สามารถพัฒนาการค้นพบและส่งมอบการรักษาที่ก้าวล้ำให้กับผู้ป่วย และมีวิสัยทัศน์ที่ว่า ยาทุกอย่างสามารถผลิตได้และทุกโรคสามารถรักษาได้ มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 307,200 ล้านหยวนจีน

รายได้และกำไรสุทธิ 3 ปีย้อนหลังของ WuXi AppTec

Jiangsu Hengrui Medicine

บริษัทเภสัชกรรมของจีนที่ผลิตและจำหน่ายวัสดุบรรจุภัณฑ์ยาประเภทต่างๆ ก่อตั้งขึ้นในปี 2513 โดยเดิมเป็นรัฐวิสาหกิจ และเรียกว่าโรงงานเภสัชกรรมเหลียนหยุนกัง Jiangsu Hengrui Medicine ได้เปลี่ยนเป็นบริษัทมหาชนในปี 2520 และทำการวิจัย ค้นคว้า จัดจำหน่ายยาต่างๆ ให้กับทั่วโลก 

Jiangsu Hengrui Medicine ได้ขยายธุรกิจออกไปสู่ประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 258,700 ล้านหยวนจีน 

รายได้และกำไรสุทธิ 3 ปีย้อนหลังของ Jiangsu Hengrui Medicine

CSPC Pharmaceutical Group

บริษัทเภสัชกรรมชั้นนำของจีน โดยมียาที่เป็นนวัตกรรมหลักในการพัฒนาองค์กร ปัจจุบัน CSPC Pharmaceutical มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งในด้านการรักษาโรคระบบประสาท มะเร็งวิทยา การป้องกันการติดเชื้อ และโรคหลอดเลือดหัวใจ 

แบรนด์ CSPC ได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ในแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุด 500 อันดับแรกในจีน เป็นเวลามากกว่า 10 ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2547 มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 104,500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง

รายได้และกำไรสุทธิ 3 ปีย้อนหลังของ CSPC Pharmaceutical Group

ทั้ง 5 บริษัทเป็นเพียงสัดส่วนเกือบ 30% ของ KURE จากมากกว่า 110 บริษัทในกลุ่ม ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’ เมื่อดูงบการเงินต่างๆ คุณจะเห็นว่า ทั้งรายได้และกำไรสุทธิย้อนหลัง 3 ปี มีการเติบโตสูงมาก 

ในภาพใหญ่ๆ ที่ทีมงาน Jitta Wealth รวบรวมมาให้ สะท้อนว่า บริษัทเฮลท์แคร์จีนกระจายตัวในทุกธุรกิจบริการสุขภาพ และเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์สูงที่สุดในโลก

จากตัวอย่างของ 5 บริษัท คุณจะเห็นถึงความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจสู่สากล ซึ่งยา วัคซีน และบริการทางการแพทย์จากจีนมีต้นทุนต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ทำให้มีราคาถูก ในขณะที่ประสิทธิภาพไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน จีนจึงเป็นทางเลือกแรกๆ สำหรับการซื้อยารักษาโรค เครื่องมือทางการแพทย์ และอุปกรณ์เพื่อดูแลสุขภาพ

อ่านมาถึงตรงนี้ คุณคงเห็นภาพชัดเจนขึ้น และได้คำตอบว่า ทำไมเฮลท์แคร์จีนถึงมีความน่าสนใจ ทำไม KURE ถูกเลือกมาเป็นตัวแทนของธีมบริการสุขภาพจีนในกองทุนส่วนบุคคล Thematic 

เมื่อเมกะเทรนด์ของโลก คือ สัดส่วนคนสูงอายุที่จะเพิ่มขึ้น ไม่ว่าประเทศไหนๆ ก็หลีกเลี่ยงเทรนด์นี้ไม่ได้ ตราบใดที่ยารักษาโรค คือ 1 ในปัจจัย 4 สุดท้ายแล้วอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ก็จะยังเป็นที่ต้องการอยู่เสมอ

หากคุณต้องการสร้างความมั่งคั่งด้วยพอร์ตลงทุนระยะยาวกับกองทุนส่วนบุคคล Thematic คุณสามารถเลือกจัดพอร์ตเอง โดยเลือกได้สูงสุด 5 ธีมร่วมกับธีมเมกะเทรนด์อื่นๆ ผ่านแผน Thematic DIY หรือจะให้ AI ของ Jitta Wealth วิเคราะห์และเลือกธีมที่น่าลงทุนที่สุดมาจัดพอร์ตให้ 4 ธีมผ่าน Thematic Optimize 

คุณสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธีมการลงทุน ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’ และธีมเมกะเทรนด์อื่นๆ ที่น่าสนใจของ Jitta Wealth ได้ที่ https://jittawealth.com/thematic/CHINA-HEALTHCARE หรือสอบถามเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนได้ทาง Line ID: @JittaWealth 

กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็น WealthTech แห่งแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01

ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

อ้างอิง

1. แนวโน้มธุรกิจ Healthcare ในอนาคตและการปรับใช้เทคโนโลยีในธุรกิจโรงพยาบาล https://www.princhealth.com/future-of-healthcare/
2. An overview of the Chinese healthcare system https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7867737/
3. Health Insurance and the Healthcare System of China Explained https://www.internations.org/go/moving-to-china/healthcare
4. KURE – KraneShares MSCI All China Health Care Index ETF https://kraneshares.com/kure/
5. Healthcare in China https://www.allianzcare.com/en/support/health-and-wellness/national-healthcare-systems/healthcare-in-china.html
6. WuXi Biologics Offering End-to-End Solutions Discovery From Target to Drug Candidate https://www.wuxibiologics.com/
7. Shenzhen Mindray Bio-Medical Electronics Co Ltd https://www.bloomberg.com/profile/company/300760:CH
8. Bloomberg, “World Ventilator Demand Now 10 Times What’s Available, Says Maker” https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-03-25/world-ventilator-demand-now-10-fold-what-s-available-says-maker
9. Fast growth in China’s pharmaceutical market to benefit foreign firms: report https://www.chinadaily.com.cn/a/201909/29/WS5d901f4ca310cf3e3556e1cc.html
10. The Coronavirus Outbreak Could Disrupt the U.S. Drug Supply https://www.cfr.org/in-brief/coronavirus-disrupt-us-drug-supply-shortages-fda
11. KURE – KraneShares MSCI All China Health Care Index ETF https://kraneshares.com/kure/
12. KraneShares MSCI All China Health Care Index ETF https://etfdb.com/etf/KURE/#etf-ticker-profile

อ่านบทความ Thematic ETF ที่เกี่ยวข้อง

7 ‘ธีมเมกะเทรนด์’ ใหม่ พร้อมให้คุณจัดพอร์ตแล้ววันนี้

8 ‘บริษัทเกม’ ใน HERO ETF ที่น่าสนใจ ดันธีมเกมและอีสปอร์ตโตยาว

เคล็ด (ไม่) ลับ ลงทุน Thematic อย่างไร ท่ามกลางความผันผวน

Exponential Technology คืออะไร ทำไมเป็นเมกะเทรนด์ที่กำลังเติบโต

ส่อง 10 หุ้นเทคโนโลยีจีน รายได้โต กำไรปึก พร้อมท้าดวลผู้นำโลก