Jitta Wealth Journal - 3 หุ้นสหรัฐฯ แข็งแกร่งสวนกระแสเงินเฟ้อ

18 มกราคม 2565Jitta WealthJitta Wealth Journal

เวียดนามทุ่มเงินหมื่นล้าน ดังเศรษฐกิจโตแกร่ง

Jitta Wealth Journal ปีที่ 2 ฉบับที่ 60 ประจำวันที่ 18 มกราคม 2565 มีประเด็นข่าวสารการลงทุนจากทุกมุมโลกที่น่าสนใจ ดังนี้

  • Buffett แนะนำ 3 หุ้นน่าลงทุนช่วงเงินเฟ้อ
  • GDP จีนพุ่งแรง 8.1% ในปี 2564
  • จีนเปิดโรงงานเซมิคอนดักเตอร์กว่า 2,800 แห่ง
  • คาด GDP เวียดนามโต 6.7% ปี 2565
  • เวียดนามอัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ปี 15,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • IDC เผยยอดขายคอมพิวเตอร์ปี 2564 ทำสถิติสูงสุดในรอบทศวรรษ
  • ราคาที่ดินในโลก Metaverse พุ่งแรง
  • ตลาด Robo-advisor จะแตะ 1.24 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567
  • PayPal เตรียมโดดเข้าคริปโทเคอร์เรนซี
  • ธุรกิจขนาดเล็กเตรียมรับชำระด้วยคริปโทเคอร์เรนซีในปี 2565

ไปติดตามกันได้เลย


Jitta Wealth

จะปรับพอร์ตรับมือตลาดหุ้นผันผวนได้อย่างไร CEO ของ Jitta Wealth มีคำตอบ 

กลับมาอีกครั้ง กับ Exclusive Q&A with CEO ประจำเดือนมกราคม 2565 คุณตราวุทธิ์จะมาตอบข้อซักถาม หากคุณสนใจลงทุนกับ Jitta Wealth อยากสอบถามแนวคิดการเลือกหุ้นและ ETF รวมไปถึงวิธีรับมือ เมื่อมูลค่าพอร์ตลดลง

Webinar ผ่าน Zoom

วันที่ 23 มกราคม 2565

เวลา 14:00 น.

ลงทะเบียน


ปรับพอร์ตลงทุน

Buffett แนะนำ 3 หุ้นน่าลงทุนช่วงเงินเฟ้อ

Warren Buffett แนะนำให้เลือกลงทุนในบริษัทที่มี 2 คุณสมบัติ คือ กิจการที่สามารถเพิ่มราคาสินค้าและบริการได้ และกิจการที่สามารถขยายธุรกิจมากขึ้น โดยที่ต้นสูงเพิ่มขึ้นไม่มากเกินไป ซึ่งเป็นคุณภาพของกิจการที่สามารถรับมือกับภาวะเงินเฟ้อเร่งตัวได้

ประเด็นเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ถูกพูดถึงมาตลอดปี 2564 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2565 โดยรายงานจากกรมแรงงานล่าสุด คือ Consumer Price Index (CPI) ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธันวาคม พุ่งไป 7% เร่งตัวแรงสูงสุดในรอบ 40 ปี และนับเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่ตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ รายเดือนสูงกว่า 5%

ในปี 2524 ช่วงที่เกิดภาวะเงินเฟ้อสูงในสหรัฐฯ Buffett เคยระบุในจดหมายผู้ถือหุ้นของ Berkshire Hathaway ว่าคุณลักษณะของกิจการที่ดี 2 ข้อ จะสะท้อนความแข็งแกร่งของบริษัทที่สามารถทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อเร่งตัว 

เมื่อบริษัทมีอำนาจต่อรองในการเพิ่มราคาสินค้าและบริการได้ รวมไปถึงขยายธุรกิจ โดยที่ต้นทุนไม่เพิ่มขึ้นมากนัก ผลที่ตามมา คือ รายได้ยังคงเติบโต ต้นทุนการขายและบริหารต่ำ และความสามารถทำกำไรอยู่ในระดับที่สูงนั่นเอง

ท่ามกลางความกังวลใจต่อภาวะเงินเฟ้อ นักลงทุนชื่อดังระดับโลกอย่าง Buffett มองเห็นว่า ยังมีอีกหลายๆ กิจการในตลาดหุ้นที่สามารถปรับมูลค่าสินค้าและบริการไล่ตามภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้

และนี่คือ 3 บริษัทที่ Buffett มองว่า บริษัทยังแข็งแกร่งสวนกระแสภาวะเงินเฟ้อ ได้แก่ American Express Coca-Cola และ Apple แน่นอนว่า เป็น 3 บริษัทที่ Berkshire Hathaway ลงทุนอยู่นั่นเอง

2 คุณสมบัติที่ Buffett บอกไว้เมื่อ 4 ทศวรรษที่แล้ว ยังสามารถประยุกต์ใช้ได้ในภาวะปัจจุบัน และเป็นประเด็นที่ คุณตราวุทธิ์เคยตอบข้อซักถามใน Exclusive Q&A with CEO หลายๆ ครั้ง

ในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นและเติบโต ธุรกิจที่มีอำนาจต่อรองและกำหนดราคาคือสินทรัพย์ที่น่าลงทุน ซึ่งแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น Jitta และกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking สามารถรับมือกับภาวะนี้ได้

AI ของแพลตฟอร์ม Jitta จะเลือก ‘หุ้นดี ราคาเหมาะสม’ จากงบการเงินที่แข็งแกร่งในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด ถ้ารายได้และกำไรยังคงเติบโต ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อเร่งตัว นี่คือ คุณภาพกิจการที่ดี และจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจให้คุณได้ในระยะยาว


Jitta

Jitta Ranking ปี 2564 ผลตอบแทนชนะดัชนีตลาดหุ้น

ปี 2564 ท่ามกลาง Covid-19 ที่ไม่ได้จางหายไป ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวแบบลุ่มๆ ดอนๆ มาหาคำตอบว่า ทำไมผลตอบแทน Jitta Ranking ถึงชนะดัชนีตลาดหุ้นได้มากกว่า 90%

อ่านต่อ


เศรษฐกิจจีน 

GDP จีนพุ่งแรง 8.1% ในปี 2564

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า GDP จีนในปี 2564 เติบโตขึ้นถึง 8.1% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 10 ปี โดยมูลค่าเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นสวนทางกับแรงกดดันในตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง

อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำให้ตัวเลข GDP ของจีนเพิ่มขึ้นเพียง 4% ในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว

ด้าน Goldman Sachs ลดคาดการณ์ของการเติบโตเศรษฐกิจจีนในปี 2565 มาอยู่ที่ 4.3% จาก 4.8% เนื่องจากผลกระทบจากไวรัส Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ แต่เชื่อมั่นว่าจีนจะสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดและฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

ในปี 2565 ทิศทางเศรษฐกิจจีนยังไปได้ดี รวมไปถึงการออกนโยบายต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโตตามแผนพัฒนา 5 ปีของประเทศ 

แต่ด้วยแรงกดดันจากมาตรการของรัฐบาลต่อธุรกิจเทคโนโลยี ตอนนี้ราคาหุ้นจีนหลายบริษัทอยู่ในช่วงที่น่าลงทุน และยังคงเป็นตลาดหุ้นที่นักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจมาก

จีนมีโรงงานเซมิคอนดักเตอร์กว่า 2,800 แห่ง

ท่ามกลางปัญหาชิปที่ขาดแคลนทั่วโลก จีนกำลังเร่งขยายกำลังผลิตในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ มีเป้าหมายเพื่อส่งออกทั่วโลก โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 2,810 แห่ง

จีนสามารถผลิตชิปคุณภาพสูงที่ในใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทั่วโลก โดยมีเป้าหมายว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดเซมิคอนดักเตอร์ของโลก ซึ่งเป็นหัวใจหลักในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว 

นี่เป็นสัญญาณที่ดีของฝั่งจีน เพื่อพลิกเกมจากปัญหาเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนมาเป็นผู้นำ สร้างห่วงโซ่อุปทานใหม่พร้อมส่งออกสินค้าได้ทันที ต้องติดตามต่อไปว่า แนวโน้มบริษัทเทคโนโลยีจีนและทั่วโลกจะเป็นอย่างไร เมื่ออุปทานในตลาดมีเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจจีนจะได้รับอานิสงส์อย่างไร จากความเคลื่อนไหวรอบนี้


16 Thematic

16 ธีมจาก Thematic ปี 2564 ใครกำไร ใครขาดทุน 

Jitta Wealth ได้จัดอันดับผลตอบแทน 16 ธีมจากกองทุนส่วนบุคคล Thematic ปี 2564 ปีที่ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกธีมจะมีผลกำไร มาดูกันดีกว่าว่า ใครกำไร ใครขาดทุน แล้วคุณจะรับมืออย่างไร 

อ่านต่อ 


เศรษฐกิจเวียดนาม 

คาด GDP เวียดนามโต 6.7% ปี 2565 

ธนาคาร Standard Chartered คาดการณ์ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนามจะเร่งตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปี 2565 โดยคาดว่า GDP จะเติบโตที่ 6.7% และเพิ่มคาดการณ์การเติบโตปี 2566 เป็น 7% นอกจากนี้ ยังมองแนวโน้มเชิงบวกของพื้นฐานเศรษฐกิจเวียดนามจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

Standard Chartered มีมุมมองเกี่ยวกับการฟื้นตัวในปี 2565 และสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลกที่ดีขึ้นเรื่อยๆ การเติบโตของรายได้แซงหน้าการใช้จ่ายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะส่งผลให้เศรษฐกิจเวียดนามมีความแข็งแกร่งและเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม Standard Chartered แนะนำให้เวียดนามเน้นเรื่องพัฒนาภาคการส่งออก และปรับปรุงกระบวนการต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเข้าสู่การค้าโลก 

ธนาคารกลางเวียดนามคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4% ในปี 2565 เพื่อรองรับการเติบโตของสินเชื่อและจัดการความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ แสดงให้เห็นถึงการจัดการและนโยบายการเงินที่ชัดเจนของเวียดนาม 

เวียดนามอัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ปี 15,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รัฐบาลเวียดนามเตรียมอนุมัติงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2565-2566 มูลค่า 15,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแบ่งเป็นงบประมาณการคลัง 83% การสนับสนุนจากนโยบายการเงิน 14% และด้านอื่นๆ อีก 3% เพื่อมุ่งเน้นไปที่โครงสร้างพื้นฐาน การปรับลดภาษี และสนับสนุนภาคธุรกิจ

การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินและการคลังจะเป็นตัวเร่งชั้นดีให้เศรษฐกิจเวียดนามมีมูลค่าเพิ่มขึ้น รวมไปถึงตลาดหุ้นที่จะเติบโตตามตัวเลข GDP ด้วย 

แม้ว่าเวียดนามไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการซื้อสินทรัพย์จากตลาดการเงินเหมือนประเทศผู้นำอย่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป แต่การกระตุ้นด้วยเม็ดเงินมหาศาลขนาดนี้จะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานประเทศให้แข็งแกร่ง ภาคธุรกิจเติบโต และประชาชนมีรายได้มากขึ้น

ผลที่ตามมา คือ ตลาดหุ้นเวียดนามจะได้รับแรงส่งเชิงบวกเหล่านี้ด้วย บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมไปถึงดึงดูดเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาลงทุน ทั้งทางตรงและทางอ้อม ต้องบอกว่าเวียดนามกำลังได้รับความสนใจมากๆ ในช่วง 5-10 ปีจากนี้ไป


Jitta Wealth

Sun Rise ‘ตลาดหุ้นเวียดนาม’ ดาวรุ่งแห่งเอเชีย 

ปี 2564 ที่ผ่านมานักลงทุนทั่วโลกต่างฮือฮากับดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามที่พุ่งทะยานสุดขีด มาทำความเข้าใจกับตลาดหุ้นเวียดนามและพื้นฐานเศรษฐกิจ แล้วคุณจะเข้าใจว่า ทำไมตลาดหุ้นนี้ถึงร้อนแรง 

อ่านต่อ 


เทคโนโลยี 

IDC เผยยอดขายคอมพิวเตอร์ปี 2564 ทำสถิติสูงสุดในรอบทศวรรษ

ยอดขายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกแตะที่ 349 ล้านเครื่อง เติบโต 14.8% ในปี 2564 ทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี โดยบริษัทที่มียอดขายมากที่สุดคือ Lenovo ด้วยยอดขาย 81.9 ล้านเครื่อง ตามมาด้วย HP Dell และ Apple ตามลำดับ

ความต้องการคอมพิวเตอร์เพิ่มมากขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา การระบาด Covid-19 ส่งผลให้ผู้คนทั่วโลกต้องทำงานที่บ้าน รวมไปถึงเด็กนักเรียนที่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการเรียนออนไลน์มากขึ้น 

ยอดขายที่สูงขึ้น ส่งผลดีต่อบริษัทเทคโนโลยีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์ต่างๆ ทั่วโลก และดูเหมือนว่าอุปสงค์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการใช้เทคโนโลยีในอนาคต

ราคาที่ดินในโลก Metaverse พุ่งแรง 

นักลงทุนบางส่วนยอมทุ่มเงินหลายล้านเพื่อซื้อที่ดินในโลกเสมือนจริงอย่าง Metaverse โดยเฉพาะทำเลทองอย่างนิวยอร์กและเบเวอร์ลีฮิลส์ ราคาที่ดินใน Metaverse พุ่งขึ้นสูงเกือบ 500% ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา 

Grayscale ประเมินว่า อุตสาหกรรมโลกเสมือนจะมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในอนาคตอันใกล้นี้ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยอมรับว่าการลงทุนใน Metaverse ยังคงมีความเสี่ยง ต้องเตรียมใจไว้สำหรับความผันผวนและความไม่แน่นอนด้วย 

ตลาด Robo-advisor จะแตะ 1.24 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า มูลค่าตลาด Robo-advisor จะแตะ 1.24 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในไม่ช้า ด้วยอัลกอริทึมที่ทันสมัยและพัฒนาตัวเองได้ Robo-advisor ในโลกการเงินการลงทุน จะทำหน้าที่ ‘ที่ปรึกษาทางการเงิน’ ได้อย่างสมบูรณ์และแม่นยำมากยิ่งขึ้น

ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่า Robo-advisor นั้นสามารถทำได้ดีกว่ามนุษย์ในบทบาท ‘ที่ปรึกษาทางการเงิน’ หรือไม่ แต่สามารถบอกได้ว่า Robo-advisor สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้ง่าย และทำให้นักลงทุนมือใหม่สามารถใช้งาน เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดต่อการจัดพอร์ตลงทุน

ตลาด Robo-advisor ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่ Apple เปิดตัว iPhone และเติบโตมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันตลาด Robo-advisor ในโลกการเงินการลงทุน บริหารสินทรัพย์สูงถึง 785,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากผู้ใช้งานเชื่อมั่นการทำงานของอัลกอริทึม

จะเห็นว่า อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และ AI มีบทบาทในหลายๆ ด้าน มีวิวัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่งและพัฒนาตัวเองจนเข้าไปเป็น Game Changer ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลก ในอนาคต หุ่นยนต์และ AI จะเป็นสิ่งที่ผู้คนใช้กันเป็นปกติและขาดไม่ได้อย่างแน่นอน


Passive Way

เกมและอีสปอร์ต มีดียังไง เกี่ยวข้องอะไรกับ Metaverse?!

วิดีโอเกมถือกำเนิดบนโลกใบนี้มานานกว่า 50 ปีแล้ว สร้างกลุ่มผู้เล่นเกมทั่วโลกนับพันล้านคน จากงานอดิเรกธรรมดาๆ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ สู่ธุรกิจแข่งขันเล่นเกมหรืออีสปอร์ต และเตรียมตัวเข้าสู่ Metaverse

อ่านต่อ


ฟินเทค 

PayPal เตรียมโดดเข้าคริปโทเคอร์เรนซี 

บริษัทฟินเทคยักษ์ใหญ่ PayPal เปิดเผยว่า บริษัทกำลังเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับ Stablecoin เหรียญที่ถูกค้ำมูลค่าด้วยเงินสกุลหลัก เพื่อเตรียมขยายบริการคริปโทเคอร์เรนซีในอนาคต 

โดยหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า PayPal กำลังศึกษาเกี่ยวกับ Stablecoin นั้นคือ การเผยภาพโค้ดโปรแกรมและรูปภาพของแอปพลิเคชันของ PayPal ที่กำลังทำงานเกี่ยวกับ PayPal Coin ซึ่งค้ำประกันโดยเงินดอลลาร์สหรัฐ

แม้ต่อมา PayPal ออกมาชี้แจงว่า รูปภาพนั้นเป็น Internal Hackathon หรือการจัดการแข่งขันโปรเจกต์ย่อยภายในบริษัท ซึ่งตัวบริการจริงอาจจะแตกต่างจากภาพที่หลุดออกมา

Jose Fernandez da Ponte รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบล็อกเชน คริปโทเคอร์เรนซี และสกุลเงินดิจิทัล บอกว่า การจะนำ Stablecoin มาใช้นั้น ระบบดูแลหลังบ้าน ทั้งในแง่ความปลอดภัยและการขยายระบบต้องเสถียรมาก และควรมีความชัดเจนด้านการให้ใบอนุญาตและกรอบการทำงานของฝ่ายกับกำดูแลเพิ่มเติมในอนาคตด้วย 

ธุรกิจขนาดเล็กเตรียมรับชำระด้วยคริปโทเคอร์เรนซีในปี 2565 

Visa เผยผลสำรวจ 1 ใน 4 ของธุรกิจขนาดเล็กจาก 9 ประเทศทั่วโลก กว่า 2,250 ราย วางแผนรับสกุลเงินดิจิทัลเป็นรูปแบบการชำระเงินในปี 2565 และ 13% ของผู้บริโภค คาดว่าร้านค้าปลีกจะเริ่มให้บริการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลในปีเดียวกัน

ประเทศที่อยู่ในผลสำรวจนี้ ได้แก่ บราซิล แคนาดา เยอรมนี ฮ่องกง ไอร์แลนด์ รัสเซีย สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหรัฐอเมริกา โดย 30% ของธุรกิจขนาดเล็กวางแผนที่จะเสนอทางเลือกให้แก่ลูกค้าในการชำระเงินด้วยคริปโทเคอร์เรนซีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 

นอกจากนี้ 19% ของธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐฯ และ 3% ในแคนาดา คาดว่า จะใช้คริปโทเคอร์เรนซีเป็นตัวเลือกในการชำระเงินภายในปี 2565 และ 82% ของธุรกิจทั่วโลกในผลสำรวจ วางแผนยอมรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลภายในปีนี้ 


Fun Manager

ศึกคนชน AI by Fun Manager x Jitta Wealth 

รีวิวพอร์ต Thematic ของ Fun Manager คุณจะเห็นภาพชัดมากขึ้นว่า ระหว่าง Thematic DIY และ Thematic Optimize ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เมื่อมูลค่าพอร์ตลงหนักๆ เขารับมืออย่างไร 

EP. 02 – 3 เดือนผ่านไป ทำไมลงหนักเลยเนี่ย

EP. 01 – Thematic DIY vs Thematic Optimize 


นี่คือ สรุปข่าวสารและสถานการณ์การลงทุนทั่วโลก ที่ทีมงาน Jitta Wealth รวบรวมมาให้คุณได้ติดตามไปพร้อมๆ กัน

เปิดปี 2565 ข้อกังวลของหลายๆ คน ยังคงเป็นมูลค่าพอร์ตลงทุนหุ้นและ ETF ที่ขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลาใช่หรือไม่ บางคนอาจจะยังลังเล ไม่แน่ใจว่า จะเริ่มลงทุนดีหรือไม่ ความเสี่ยงจากการลงทุนมีอะไรบ้าง

ให้คุณตราวุทธิ์ ช่วยคลายข้อสงสัยเหล่านี้ได้ ลงทะเบียน Webinar และทิ้งคำถามไว้ได้เลย

แล้วพบกันสัปดาห์หน้า


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – ตลาดหุ้นติดลบหนัก จะรับมืออย่างไรดี

JItta Wealth Journal – 4 เหตุผลดันเศรษฐกิจจีนทะยานในปีเสือ

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด