Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 159 ประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2566
Bloomberg ชี้ หุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสทำ New High ในปี 2567 จีนเปิดโหวตแผนปรับการลงทุนประกันสังคมสร้างเสถียรภาพตลาดทุน ส่งออกจีนฟื้นตัว หลังยอดส่งออกเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมไทยเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน Nvidia ปักธงเวียดนาม ยกเป็นฐานการผลิตแห่งที่ 2
รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth
S&P 500 +0.21% DJIA +0.01% NASDAQ +0.69%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังทรงตัวอยู่ในแดนบวก ข้อมูลการจ้างงานที่ลดลงเพิ่มความมั่นใจของนักลงทุนว่า Fed จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังเฝ้ารอการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายนและรอการประชุมของ Fed ในช่วงวันที่ 12-13 ธันวาคมนี้ว่าจะมีผลสรุปอย่างไร
CSI 300 -2.40% TOPIX -2.44% VNI +2.02% SET +0.05%
ตลาดหุ้นจีนปรับลด หุ้นธนาคารและบริษัทประกันภัยปรับลง หลังจาก Moody’s ปรับลดแนวโน้มบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลงจากแรงขายหุ้นเทคโนโลยีและนักลงทุนเฝ้ารอการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นเวียดนามปรับบวกจากเงินลงทุน FDI ที่ไหลมาจากนักลงทุนต่างประเทศ ตลาดหุ้นไทยบวกเล็กน้อย นักลงทุนคาดหวังเม็ดเงินที่จะไหลเข้าตลาดจากกองทุน TESG
ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 10 ธันวาคม 2566
โอกาสสุดท้ายของปี! ที่คุณจะได้ถาม-ตอบ อัปเดตข้อมูลการลงทุนใหม่ๆ เตรียมพร้อมรับปี 2567 กับคุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ กันแบบสดๆ พิเศษ! พร้อมลุ้นรับของขวัญปีใหม่ใน Live อีกด้วย
ผลสำรวจล่าสุดของ Markets Live Pulse โดย Bloomberg ในวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 มีโอกาสแตะ New High เป็นประวัติการณ์ในปี 2567 เพราะสหรัฐฯ จะสามารถหลีกเลี่ยงจากภาวะถดถอย (Recession) ได้ โดยกำลังการบริโภคที่หดตัวลงจะไม่เป็นอุปสรรคต่อภาพรวมของการเติบโตในตลาดหุ้น
โดยรายงานระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 518 คนคาดว่าดัชนี S&P 500 จะแตะ 4,808 จุดในปี 2567 ซึ่งจุดสูงสุดก่อนหน้านี้อยู่ที่ 4,797 จุดในเดือนมกราคม 2565 แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี จะลดลงเหลือ 3.8% จากระดับสูงสุดในปีนี้ที่ 5%
เช่นเดียวกับความเห็นของ Aneeka Gupta ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเศรษฐศาสตร์มหภาคของ WisdomTree กล่าวว่า ความโดดเด่นของเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงมั่นคงต่อไป โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนที่ดีขึ้นกว่าจีนและยุโรป ทำให้ S&P 500 มีโอกาสเติบโตในทิศทางบวก
แต่แม้ราคาหุ้นปีหน้าจะสามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ แต่จะเป็นการขยับขึ้นเพียงแค่ประมาณ 4% จากระดับปัจจุบันของดัชนี S&P 500 ซึ่งต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 19% ที่บันทึกไว้ในปีที่ดัชนีพุ่ง ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg
โดยนักยุทธศาสตร์ของ Goldman Sachs Group แนะนำแนวทางที่เหมาะสมที่สุดคือลงทุนในหุ้นต่อไป และหลีกเลี่ยงการเร่งรีบขาย (Urge to Sell) ในช่วงที่มีความผันผวน
คุณวัฒพล สมจิตต์ อดีตนักบริหารความเสี่ยงกับอิสรภาพทางการเงินที่มาถึงไวด้วยหลักการลงทุน การลงทุนในกองทุนดัชนี ที่สร้างผลตอบแทนได้มากกว่าที่คิด ด้วยความเชื่อมั่นในการลงทุนระยะยาวผ่านกองทุนดัชนีในสหรัฐฯ และหมั่นเติมพอร์ตอยู่เสมอ Global ETF แผนเติบโต ของคุณวัฒพลเป็นอย่างไรในเวลา 3 ปีเศษที่ผ่านมา
จีนกำลังพิจารณาขยายขอบเขตการลงทุนของกองทุนประกันสังคมมูลค่า 2.88 ล้านล้านหยวน (406,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยมีข้อเสนอต่างๆ รวมถึงการรวมกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน(ETFs) กองทุนดัชนี และผลิตภัณฑ์ทางการเงิน มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระจายการลงทุนของกองทุนและเพิ่มผลตอบแทน
โดยเสนอการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น การลงทุนโดยตรงในสินเชื่อธนาคาร ตั๋วเงินคลัง กองทุนอุตสาหกรรม และกองทุนหุ้น
กองทุนประกันสังคมของจีนก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนระบบสวัสดิการของประเทศ ซึ่งปรับตัวลดลงถึง 5.1% ในปี 2565 เนื่องจากตลาดหุ้นตกต่ำจากอสังหาริมทรัพย์และ Covid-19 การเปลี่ยนแปลงนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะลดค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) และทำให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น
กระทรวงการคลังได้เผยแพร่การปรับเปลี่ยนและให้ประชาชนออกความเห็นจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2567 เพื่อเป็นการปรับกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้เหมาะสมมากขึ้น นอกเหนือจากการกระจายความเสี่ยงแล้ว การเปลี่ยนแปลงยังมีเป้าหมายที่จะลดค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) ลง 0.1% ถึง 1.5% เพื่อรักษาและเพิ่มมูลค่าของกองทุน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนมองว่าความเคลื่อนไหวนี้เป็นการขยายของอิทธิพลทางการรัฐบาลจีนที่จะมีบทบาทในตลาดเอกชนมากเกินไป โดยแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งคงต้องติดตามท่าทีของนักลงทุนต่างชาติหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการอีกครั้ง แต่คาดว่าผลดีที่เกิดขึ้นจะมีมากกว่า
ทั้งนี้กองทุนประกันสังคมมีกำไรเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 7.66% นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนซึ่งถือว่ามีผลตอบแทนที่ค่อนข้างดี
สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานว่า ยอดการส่งออกของเดือนพฤศจิกายนของจีนปรับขึ้นถึง 0.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วเป็น 290,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นครั้งแรกตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมานี้ ส่วนการนำเข้าลดลง 0.6% ในเดือนนี้ เหลือ 220,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงต่ำกว่าการคาดการณ์จาก Reuters
การส่งออกโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น 54% และการลดราคาสินค้าเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดยังเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการส่งออก ทำให้ปริมาณการส่งออกของจีนพุ่งแตะระดับสูงสุด
อย่างไรก็ตาม Julian Evans-Pritchard หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจประเทศจีนที่ Capital Economics มองว่าการตัดราคาสินค้านั้นไม่ยั่งยืน และปีหน้า จีนจะไม่สามารถลดราคาสินค้าลงต่ำได้อีก เนื่องจากอัตรากำไรการส่งออกของบริษัทในจีนลดลงใกล้กับระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งจะส่งผลเสียต่อภาพรวมการส่งออก
ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออกจีนลดลง 5.2% ในขณะที่การนำเข้าลดลง 6% เนื่องจากการทำการค้ากับสหรัฐฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และคู่ค้าหลักในกลุ่มประเทศอาเซียนที่ลดลง
แต่การค้ากับรัสเซีย ที่เป็นประเทศพันธมิตรโดดเด่นขึ้นมา การค้าทวิภาคีเพิ่มขึ้น 27% เป็น 218,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเดือนสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งทะลุเป้าหมายที่คาดไว้เร็วกว่าที่คิด อย่างไรก็ตามจีนยังต้องอัดนโยบายเพื่อความยั่งยืนเพิ่มขึ้นหากจะทำให้การเติบโตมีเสถียรภาพ
จะทำอย่างไรเมื่อหุ้นที่ใช่กับหุ้นที่รักอาจจะต่างกัน ความเชื่อมั่นในอะไรสักอย่างสามารถทำให้หุ้นบริษัทใดบริษัทหนึ่งขึ้นและลงได้เลยหรอ แล้วเราจะเลือกหุ้นอย่างไรให้ได้ใช้สมองและหัวใจไปพร้อมกันได้ มาดูกรณีศึกษาของหุ้น YG กับข่าว Blackpink และหาคำตอบไปพร้อมกัน
ความเชื่อมั่นทางอุตสาหกรรมของไทยเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนในเดือนพฤศจิกายน โดยได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยว การบริโภค และการส่งออกที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมาตรการใหม่ของรัฐบาล
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่าดัชนีความเชื่อมั่นทางอุตสาหกรรมในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นเป็น 90.9 จุดจาก 88.4 จุดในเดือนตุลาคม และการส่งออกยังดีขึ้นตามความต้องการจากประเทศหุ้นส่วนที่ฟื้นตัว ซึ่งมีส่วนเร่งให้เกิดกระบวนการผลิต
อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากธุรกิจต่างๆ จะต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น ควบคู่ไปกับความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกที่ยังคงกดดันการส่งออก
ซึ่งนักลงทุนต่างยังคงเฝ้ารอการขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่มากขึ้นจากรัฐบาล แต่อย่างน้อยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นก็สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้าในแบบที่ควรจะเป็น
คู่มือลงทุน 101 16 ก้าว สู่การเป็นมือโปร ก้าวมาถึงก้าวที่ 12 ‘การลงทุนระยะยาว’ ต้องยาวแค่ไหน การลงทุนระยะยาวดีกว่าอย่างไร มันดีจริงหรือไม่
VnExpress สื่อท้องถิ่นของเวียดนามเปิดเผยว่า Nvidia ผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ กำลังพิจารณาให้เวียดนามขึ้นแท่นเป็นฐานการผลิตแห่งที่ 2 โดยอ้างอิงคำกล่าวของ Jensen Huang ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nvidia ที่ระบุว่า เล็งเวียดนามเป็นบ้านหลังที่ 2 ที่มีศักยภาพ
ซึ่งคำพูดดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างเข้าร่วมการประชุมเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ใน Hanoi เมื่อวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันรายงานของ VnExpress ยังอ้างถึงข้อมูลจากการประชุมระหว่างผู้บริหาร Nvidia โดยนายกรัฐมนตรี Phan Minh Chinh ระบุว่า Nvidia ได้เริ่มลงทุนเป็นเงินกว่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเวียดนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ VietnamPlus สื่อท้องถิ่นอีกราย ยังรายงานถึงคำกล่าวของ CEO Nvidia ที่กล่าวว่า Nvidia ยินดีที่จะทำงานร่วมกับเวียดนามเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน AI และบุคลากรของประเทศ และชี้ถึงจุดเด่นของเวียดนามที่มีนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จำนวนมาก และเป็นผู้นำระดับโลกในการส่งออกซอฟต์แวร์
Nvidia ไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามรายแรก บริษัทเทคฯ เจ้าดังหลายๆ เจ้าต่างมองเวียดนามเป็นหนึ่งในตัวเลือกชั้นนำเสมอ ตรงกับความตั้งใจและการสนับสนุนของรัฐบาลเวียดนามด้วยเช่นกันที่พร้อมผลักดันให้เวียดนามหันมาเอาดีเรื่องนี้ ถือเป็นข่าวดีของเวียดนามและเป็นประเด็นที่น่าติดตามของนักลงทุนเลยทีเดียว
เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official
🥰 กิจกรรมพิเศษ ‘เรารับเราให้’ เทศกาลแห่งความสุขปีนี้ Jitta Wealth เปิดรับของขวัญเพื่อแบ่งปันและส่งต่อให้กับน้องๆ ผู้ด้อยโอกาสจากมูลนิธิบ้านพระพร
ส่งของที่ต้องการบริจาคมาได้ที่ Jitta Wealth 1111/9-10 หมู่บ้านกลางเมืองรัชดา-ลาดพร้าว ระหว่างซอยลาดพร้าว 23-25 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
แล้วทางทีมงาน Jitta Wealth จะรวบรวมเพื่อไปบริจาคให้เด็กๆ ในวันที่ 11 ม.ค. 67 นี้ เพื่อเป็นของขวัญสำหรับวันเด็ก
เปิดรับบริจาควันนี้ – 5 มกราคม 2567 เท่านั้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์: 02-460-8888 หรือติดต่อผ่าน Line Official @JittaWealth
(อย่าลืมกดยอมรับเงื่อนไข เพื่อเข้าร่วมกลุ่ม 🤗)
เข้าใกล้เทศกาลปีใหม่เข้ามาทุกทีแล้ว ลมหนาวปีนี้แทบจะไม่มาทักทายพวกเราเลยใช่ไหม
แต่ถ้าถามถึงสถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกความร้อนๆ หนาวๆ อาจจะยังไม่หายไปจากนักลงทุน แต่ก็มีมวลอากาศของตลาดที่ค่อยๆ ฟื้นตัวตลอดสิ้นปี นักลงทุนส่วนมากต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในปีหน้ามีโอกาสทำ New High ใหม่ได้ พร้อมเสียงสนับสนุนให้ยังลงทุนในหุ้นจากนักวิเคราะห์อีกด้วย
ส่วนจีนแม้จะยังต้องจับตามองอยู่หลายจุด แต่ก็สัมผัสได้ว่ารัฐบาลจีนพยายามทุกทางให้ตลาดหุ้นจีนดีขึ้นในเวลาอันสั้นที่สุด ปิดท้ายด้วยข่าวดีของเวียดนามที่บริษัทเทคฯ ต่างจับจองพื้นที่เป็นฐานการผลิต
โอกาสของคุณอาจจะอยู่ในข่าวเหล่านี้ก็ได้
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า
Jitta Wealth Journal – สหรัฐฯ กลับมารุ่ง Black Friday ขายพุ่งเป็นประวัติการณ์
Jitta Wealth Journal – ช้าอด! ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แตะจุดสูงสุดในรอบปี