Jitta Wealth Journal - ช้าอด! ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แตะจุดสูงสุดในรอบปี

5 ธันวาคม 2566Jitta Wealth Journal

ไทยเปิดห้างใหม่ ดันภาคค้าปลีก

Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 158 ประจำวันที่ 5 ธันวาคม 2566

ดัชนี S&P 500 ปิดแตะจุดสูงสุดในรอบปี นักลงทุนเชื่อ Fed ลดดอกเบี้ยเร็วสุดมีนาคมปีหน้า Powell ชี้ยังเร็วเกินไป รัฐบาลจีนต้องกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม หลังอุปสงค์ยังคงไม่เพียงพอ สรุปผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดแล้ว! ห้างใหม่ ค้าปลีกไทยกลับมาคึกคัก เวียดนามสั่งตรวจสอบธนาคารกลาง หวังเพิ่มการปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น

รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth


ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ

S&P 500 +0.77% DJIA +2.42% NASDAQ +0.38%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ บวกต่อเนื่อง นักลงทุนเฝ้ารอการประกาศตัวเลข Non-farm Payroll ในสัปดาห์หน้าหวังตัวเลขตํ่ากว่าคาดการณ์หนุน Fed ปรับลดดอกเบี้ย นักวิเคราะห์ต่างปรับคาดการณ์ Fed อาจลดดอกเบี้ยเร็วสุด มีนาคม 2567 จากเดิมที่มองไว้ภายใน พฤษภาคม 2567

ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย

CSI 300 -1.56% TOPIX -0.35% VNI +0.60% SET -1.23%

ตลาดหุ้นจีนยังผันผวนจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์และนโยบายกระตุ้นที่ไม่เพียงพอ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลด นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มส่งออกหลังจากเงินเยนแข็งค่าขึ้น ตลาดหุ้นเวียดนามบวกเล็กน้อย ภาคการผลิตได้รับคำสั่งซื้อมากขึ้นเพื่อรองรับเทศกาลส่งท้ายปี ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง รับแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้า

ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 3 ธันวาคม 2566


สรุป Live พูด-คุยข้อสงสัยภาษีลงทุนต่างประเทศกับ Jitta Wealth 

ประเด็นร้อนที่เกี่ยวกับการลงทุนของนักลงทุนไทยในปีนี้ คงหนีไม่พ้น กฎเกณฑ์การเรียกเก็บภาษีเงินได้จากต่างประเทศ เกณฑ์ใหม่ที่จะเริ่มใช้กันตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไปจะเป็นอย่างไร ควรเปลี่ยนแปลงวิธีการลงทุนหรือไม่ มาวางแผนลงทุนระยะยาว กับเกณฑ์ภาษีใหม่นี้ไปด้วยกัน

อ่านสรุป Live


เศรษฐกิจสหรัฐฯ

ดัชนี S&P 500 ปิดแตะจุดสูงสุดในรอบปี 

ดัชนีอ้างอิง S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดของปีในวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความคาดหวังของนักลงทุนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงจุดสูงสุดแล้ว และอาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเมื่ออัตราเงินเฟ้อค่อยๆ ปรับตัวลดลง 

โดยดัชนีปิดที่ 4,594.63 จุด เพิ่มขึ้น 26.83 จุด หรือ 0.59% และสูงกว่าที่ตลาดปิดในวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ 4,588.96 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในปี 2566

หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายนหลังจากรายได้ที่ลดลงของบริษัทต่างๆ มากกว่าที่นักลงทุนคาดเป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกันซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อค่อยๆ ผ่อนคลายลง ทำให้นักลงทุนเพิ่มความคาดหวัง Fed จะมีการปรับลดดอกเบี้ยที่เร็วขึ้นในปีหน้า 

และดัชนี S&P 500 ได้แรงหนุนอีกครั้งในวันศุกร์ ที่ผ่านมาเมื่อ Jerome Powell ประธาน Fed ยืนยันที่จะดำเนินการอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่าในขณะนี้ความเสี่ยงของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินไปนั้น อยู่ในระดับที่พอ ๆ กับความเสี่ยงในการไม่ควบคุมเงินเฟ้อ ทั้งนี้หาก Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ ดังนี้

1.เพิ่มการกู้ยืมและการลงทุน เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ธุรกิจสามารถกู้ยืมเงินได้ในราคาถูกมากขึ้น กระตุ้นให้บริษัทต่างๆ สามารถลงทุนในอุปกรณ์ใหม่ ขยายการดำเนินงาน และจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น

2.กระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงยังทำให้ผู้บริโภคกู้ยืมเงินถูกลง เช่น สินเชื่อรถยนต์ หนี้บัตรเครดิต และการจำนองต่างๆ นำไปสู่การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป

นักลงทุนเชื่อ Fed ลดดอกเบี้ยเร็วสุดมีนาคมปีหน้า Powell ชี้ยังเร็วเกินไป  

Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ชี้ว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่ Fed จะออกมาประกาศชัยชนะเหนือเงินเฟ้อ เรียกได้ว่าอาจะดับความหวังของตลาดในการปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้า 

“มันเร็วเกินไปที่จะสรุปความเชื่อมั่นว่าเราได้บรรลุจุดยืนในการใช้นโยบายที่มีความเข้มงวดเพียงพอ หรือคาดเดาว่าจะผ่อนนโยบายการเงินลง และเรายังเตรียมพร้อมที่จะใช้นโยบายที่เข้มงวดต่อไป หากเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่จะทำ จนกว่าจะมั่นใจ” Powell กล่าว 

นอกจากนี้ Powell ยังระบุว่า Fed จะไม่มีการกำหนดทิศทางนโยบายไว้ล่วงหน้า และการตัดสินใจในการประชุมแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับข้อมูลจริงๆ ที่มี 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกลับมองสวนทางยังเชื่อมั่นว่า Fed จะปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมีนาคม 2567 

FedWatch Tool ของ CME Group ชี้ว่า นักลงทุนคาดว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธันวา 2566 และมกราคม 2567 และน้ำหนัก 53.7% ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมีนาคม 2567 

เรียกว่าเป็นข่าวที่เราลุ้นความเคลื่อนไหวกันมาตลอด และยังคงต้องลุ้นต่อไปว่า Fed จะทำอย่างไรกันแน่ 


Charlie Munger กับร้านช็อกโกแลตเปลี่ยนโลกลงทุน 

ข่าวการจากไปของนักลงทุนในตำนาน Charlie Munger สร้างความสั่นสะเทือนให้กับโลกลงทุนไม่ใช่น้อย ชายผู้อยู่เคียงข้าง Warren Buffett ตลอดมา แล้วรู้หรือไม่ว่า จริงๆ แล้วเขาคือผู้ยิ่งใหญ่ที่จูงมือพา Buffett มาถึงกลยุทธ์การลงทุนในตำนาน 

อ่านต่อ


เศรษฐกิจจีน

รัฐบาลจีนต้องกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม หลังอุปสงค์ยังคงไม่เพียงพอ 

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนยังไม่พ้นวิกฤตและอาจทำให้รัฐบาลจีนต้องใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ผู้ผลิตมากกว่า 60% รายงานว่ามีอุปสงค์ไม่เพียงพอ และอุปสงค์ทั้งในประเทศและภายนอกยังคงอ่อนแอ 

เศรษฐกิจของจีนชะลอตัวตั้งแต่ช่วงมีนาคม แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และแนวโน้มความต้องการที่น้อยลงกำลังส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยมียอดค้าปลีกที่ชะลอตัวและความไม่สบายใจในกลุ่มนักลงทุนเกี่ยวกับเศรษฐกิจของจีนในอนาคต 

ถึงแม้ว่ากิจกรรมภาคการก่อสร้างขยายตัวเนื่องจากโครงการก่อสร้างสาธารณะ แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงในภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนต่อไป

ทั้งนี้ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพฤศจิกายนของจีนปรับตัวลงสู่ระดับ 49.4 จากระดับ 49.5 ในเดือนตุลาคม ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าว Reuters คาดการณ์ว่าอาจอยู่ที่ 49.7 โดยดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังอยู่ในภาวะหดตัว

แม้ว่านักวิเคราะห์ต่างมองตลาดจีนว่าจะสามารถกลับมาเติบโตได้ในปี 2567 แต่ตัวเลขเศรษฐกิจในบางภาคส่วนยังต้องติดตามกันต่อไปว่ารัฐบาลจะออกนโยบายอะไรมากระตุ้นอีกหรือไม่ 


ก้าวที่ 11 จะลงทุน อย่าลืม ‘ค่าธรรมเนียม’ 

ในสัปดาห์นี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับคำที่คุ้นเคยอย่าง ‘ค่าธรรมเนียม’ มันคืออะไร เจอได้ที่ไหนบ้าง และมีผลกับการลงทุนมากแค่ไหน ทำไมถึงสำคัญจนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ไปหาคำตอบได้เลยที่นี่

อ่านต่อ 


Talk of the Town 

เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official

🌍 Global ETF ท็อปฟอร์มอีกแล้ว YTD โดดเด่นถึง +14.31%

😘 รีวิวพอร์ตขาขึ้น แชร์พอร์ต แชร์มุมมอง

มาร่วมพูดคุยกับเรา

(อย่าลืมกดยอมรับเงื่อนไข เพื่อเข้าร่วมกลุ่ม 🤗)


เศรษฐกิจไทย

สรุปผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่าคณะกรรมการมีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.50% ต่อปี เป็นครั้งแรกที่คงอัตราดอกเบี้ยนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 และปรับคาดการณ์ GDP ปี 2566 อยู่ที่ 2.4% จาก 2.8% และในปี 2567 อยู่ที่  3.2% จาก 4.4% 

โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินได้ทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยรวมแล้ว 2% (ตั้งแต่มิถุนายน 2565 จนถึง พฤศจิกายน 2566) ซึ่งยังถือว่าต่ำกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว และอีกหลายประเทศในแถบเอเชีย 

อีกทั้งการส่งผ่านอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ก็ไม่ได้สูงมาก และอยู่ในเงื่อนไขที่กลับสู่ปกติ ซึ่งเป็นเหตุผลให้ คณะกรรมการนโยบายคงอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ และมองว่าอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบัน มีความเหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่จะมีเสถียรภาพในระยะยาว

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 2.4 และ 3.2 ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ หากรวมผลของโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล อัตราการขยายตัวในปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.8 ลดลงจาก 4.4% ที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน 

ในภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว โดยได้รับแรงส่งจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวดีตามการใช้จ่ายในหมวดบริการ

ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ ธนาคารพาณิชย์มีระดับเงินกองทุนและเงินสำรองที่เข้มแข็ง แต่ต้องติดตามพัฒนาการของคุณภาพสินเชื่อที่อาจได้รับแรงกดดันจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ประกอบการ SMEs และครัวเรือนบางส่วนที่ยังเปราะบางจากภาระหนี้ที่สูงขึ้นและรายได้ที่ยังฟื้นตัวช้าโดยจะต้องมีมาตรการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

เปิดแล้ว! ห้างใหม่ ค้าปลีกไทยกลับมาคึกคัก

วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา The Mall Group ได้เปิดห้างใหม่ Emsphere น้องคนสุดท้องตระกูล Em ให้ผู้คนได้เข้ามาใช้บริการเป็นวันแรก 

โดย Emsphere นั้น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร บนถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ มีพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร มุมถ่ายรูป ทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย คาดจะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของประเทศไทยอย่างแน่นอน

การเปิดตัวศูนย์การค้าแห่งใหม่นี้ เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการค้าปลีกของไทย มีเป้าหมายที่จะทำให้ถนนสุขุมวิทเป็นย่านการค้า การท่องเที่ยว ที่สำคัญ อีกทั้งเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็น Global Destination ในอนาคต

มารอดูไปพร้อมกันว่าศูนย์การค้าใหม่ใจกลางกรุงแห่งนี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยได้มากน้อยแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ มีธุรกิจใหม่ๆ เตรียมให้คุณได้อุดหนุนอีกมากมายแน่นอน


เปิดพอร์ตใหม่! Global ETF กับ Jitta Wealth ปูทางอนาคตให้ลูกสาว

คุณ Than Money Trick วางแผนปูอนาคตการเงินให้น้องพิ้งค์ลูกสาวคนแรกวัย 5 เดือน เพื่อสร้างความมั่งคั่งในอนาคตของลูกน้อยด้วย Global ETF แผนเติบโต เพราะอะไรคุณธัญถึงเลือก Global ETF ไปหาคำตอบได้ที่นี่ 

อ่านต่อ 


เศรษฐกิจเวียดนาม

เวียดนามสั่งตรวจสอบธนาคารกลาง หวังเพิ่มการปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น

รัฐบาลเตรียมตรวจสอบธนาคารกลางเวียดนาม (SVB) หลังจากที่ได้ร้องเรียกว่าการปล่อยสินเชื่อเติบโตช้าเกินไป โดยรองนายกรัฐมนตรี Le Minh Khai ได้ขอให้เริ่มปฏิบัติการตรวจสอบในแถลงการจากกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าในวันที่ 2 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา

การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการเติบโตของสินเชื่อที่ได้รับจากการจัดการของธนาคารกลาง ซึ่งกำหนดเป้าหมายเป็นรายปีให้กับธนาคาร เพื่อควบคุมการให้สินเชื่อและการเจริญเติบโต 

ปีนี้ ธนาคารกลางเวียดนาม ตั้งเป้าการเติบโตของการปล่อยสินเชื่อที่ 14% แต่การปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นเพียง 8.21% จากปลายปีที่แล้ว และการเติบโตของสินเชื่อในกลุ่มธนาคารไม่เท่ากัน โดย Le Minh Khai ประกาศว่าการเติบโตของสินเชื่อต่ำเกินไป และสั่งให้ธนาคารกลางเวียดนาม ตรวจทานการให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์แต่ละที่ 

ซึ่งทางธนาคารกลางเวียดนามได้ออกมาให้เหตุผลของการเติบโตด้านการปล่อยสินเชื่อที่ต่ำว่า เศรษฐกิจยังคงเผชิญกับปัญหาในการฟื้นตัวช้า และความต้องการสินเชื่อยังต่ำมากอีกทั้งเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางเองก็ยังเผชิญกับข้อกล่าวหาทางการเงินที่ซับซ้อน ซึ่งอาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การเติบโตของการปล่อยสินเชื่อมีอัตราที่ต่ำลง 

ทั้งนี้ รัฐบาลเวียดนามจะทำการสอบสวนการจัดการการเจริญเติบโตของการปล่อยสินเชื่อของธนาคารกลางหลังจากที่รัฐบาลได้ร้องเรียนถึงปัญหานี้ เพื่อให้การปล่อยสินเชื่อมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยผลักดันเศรษฐกิจในประเทศต่อไป


รีวิว Jitta Wealth เดินหน้าสร้าง Passive Income ด้วย Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ

คุณวรรณา เจริญวัฒนะ เจ้าของกิจการก่อสร้าง กับพอร์ตลงทุน Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ ที่สร้างผลตอบแทนชนะตลาด แตะ +32.49% เมื่อเทียบกับ S&P 500 Index เส้นทางการลงทุนของคุณวรรณาเป็นอย่างไร มาหาคำตอบไปด้วยกัน

อ่านต่อ 


เป็นอีกสัปดาห์ที่ตลาดแม่อย่างสหรัฐฯ ทำผลงานได้ดี เรียกได้ว่าดีอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ต่างๆ ในปีหน้าอาจสดใสกว่าที่คิด

แม้ความเชื่อจะไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริง ตลาดหุ้นในหลายๆ ประเทศยังต้องเค้นแรงกายแรงใจผลักดันนโยบายต่างๆ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ แต่อย่างน้อยก็พอจะเห็นแสดงสว่างของท้องฟ้าที่ลอดผ่านเมฆฝนสีดำมาบ้างแล้ว

ในตลาดหุ้นที่ราคาไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพทั้งหมด แต่ยังมีอารมณ์และความเชื่อของนักลงทุนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในระยะสั้น ดังนั้นสิ่งที่ควรทำให้มากกว่าก็คือการถือครองสติให้มั่นคง วิเคราะห์ถึงคุณภาพและปัจจัยในระยะยาว เป็นไปได้ว่าความเชื่อ อาจเป็นความจริงเข้าในสักวัน

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – ช้อนก่อนได้เปรียบ Goldman Sachs คาดปีหน้าหุ้นพุ่งแรง!

Jitta Wealth Journal – สหรัฐฯ กลับมารุ่ง Black Friday ขายพุ่งเป็นประวัติการณ์

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด