Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 153 ประจำวันที่ 31 ตุลาคม 2566
AI เป็นเหตุ สร้างปัญหาเงินเฟ้อ – ค่าแรงต่ำในสหรัฐฯ จีนออกพันธบัตรกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐและเอกชนไทย ระดมสมองวางแผนกระตุ้น GDP ต่างชาติแห่ลงทุนเวียดนามไม่หยุด โต 54% ใน 10 เดือน จับตา Elon Musk ดันอุตสาหกรรมฟินเทค
รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth
S&P 500 -2.53% DJIA -2.14% NASDAQ -2.62%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังผันผวน นักลงทุนจับตาประชุม Fed ในสัปดาห์นี้ คาดอัตราว่างงานยังคงที่ที่ 3.8% อัตราการเติบโตของรายได้คงที่ที่ 4% ตํ่าสุดตั้งแต่วิกฤต Covid-19 อาจส่งสัญญาณว่า Fed ไม่จำเป็นต้องเพิ่มดอกเบี้ยอีกครั้ง
CSI 300 +1.48% TOPIX -0.04% VNI -4.28% SET -0.79%
ตลาดหุ้นจีนปิดบวก รัฐสภาจีนได้อนุมัติการออกพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 1 ล้านล้านหยวนกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดลบเล็กน้อย รัฐบาลประกาศจะไม่ขึ้นภาษีเพื่อลดภาระของประชาชน ตลาดหุ้นเวียดนามปรับลดจากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจที่ตํ่ากว่าคาดและสถานการณ์ตลาดโลกที่โดยรวมยังไม่ค่อยฟื้นตัว ตลาดหุ้นไทยปรับลด นักลงทุนกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัว
ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 29 ตุลาคม 2566
คุณสาวิตรี เวศกาวี นักลงทุนสาย Day Trade อดีตพนักงานประจำที่ผันตัวมาเป็นนักลงทุน และให้ Jitta Wealth เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุน ช่วยบริหารความเสี่ยงพอร์ตลงทุนให้ อะไรคือจุดเริ่มต้นการลงทุน การกระจายความเสี่ยงในการลงทุนสำคัญอย่างไร พอร์ตลูกรัก Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ สร้างผลตอบแทนมากแค่ไหน
การประท้วงของแรงงานในสหรัฐฯ และยุโรป เนื่องจากความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือ เทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ ที่เข้ามาแทรกแซงความสามารถของแรงงานคน
การนัดหยุดงานของแรงงานในสหรัฐฯ และยุโรปที่ปรับตัวรุนแรงและเพิ่มจำนวนมากขึ้น เช่นในสหราชอาณาจักรมีการนัดหยุดงานเกิดขึ้นหลายภาคส่วน รวมถึงบริการสาธารณะและการขนส่ง ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพการทำงานที่ไม่เหมาะสมและค่าจ้างที่ไม่เหมาะสมกับอัตราเงินเฟ้อ ที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 7.9% เป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
ผู้เชี่ยวชาญต่างถกเถียงกันว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยีจะส่งผลต่องานอย่างไรในอนาคต ตามรายงานของ World Economic Forum คนงานจำนวนมากขาดทักษะที่จำเป็นในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่มีเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ แม้ว่าในที่สุด AI และยานพาหนะไฟฟ้าจะนำไปสู่โอกาสในการทำงานใหม่ก็ตาม
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องท้าทายที่ธุรกิจและพนักงานต้องหาทางออกในการสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงของงานและการเติบโตของบริษัทในช่วงที่ AI สามารถเข้ามาแทนที่มนุษย์ได้
ท่ามกลางความกังวลภาคลงทุนเศรษฐกิจจีน GDP จีนกลับโตเฉลี่ยในรอบ 9 เดือน ตอกย้ำ! การสนับสนุนที่แข็งแกร่งของรัฐบาล ทิศทางการลงทุนของหุ้นจีนจะเป็นอย่างไร อุตสาหกรรมไหนโดดเด่นจนน่าลงทุนเก็บไว้ ไม่ลงทุนตอนนี้จะตกขบวนหรือไม่ มาฟังแนวทางการลงทุนหุ้นจีน จากคุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth ได้ในรายการ TNN รู้ทันลงทุน
จีนเดินหน้าออกพันธบัตรรัฐบาลช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ รัฐสภาของจีนได้อนุมัติการออกพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ และเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานของเมืองต่างๆ
โดยจีนได้เพิ่มการขาดดุลงบประมาณในปี 2566 อย่างมีนัยสำคัญเป็น 3.8% ของ GDP จากที่ตั้งไว้ที่ 3% ในตอนแรก รัฐบาลมีเป้าหมายว่าพันธบัตรจะป้องกันการใช้เงินทุนในทางที่ผิด และแม้ว่าหนี้ของรัฐบาลกลางจะเพิ่มขึ้น แต่ทางการยืนยันว่าระดับหนี้ยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม
จีนได้แถลงถึงแผนนี้ว่า ครึ่งหนึ่งของเงินทุนที่ได้จากการออกหุ้นกู้จะถูกจัดสรรไปยังรัฐต่างๆในปีนี้ และส่วนที่เหลือจะถูกนำไปใช้ในปีถัดไป นักวิเคราะห์ของ UBS คาดว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติม รวมถึงการเพิ่มการขาดดุลงบประมาณ การปรับอัตราดอกเบี้ย และการลดอัตราส่วนข้อกำหนดเงินสำรองของธนาคาร (RRR) เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป
โดยสามารถสรุปประโยชน์จากการออกพันธบัตรรัฐบาลได้ดังนี้
การกระตุ้นเศรษฐกิจ การออกพันธบัตรใหม่ส่งสัญญาณถึงการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในด้านที่สำคัญ เช่น โครงสร้างพื้นฐานและการบรรเทาภัยพิบัติ การอัดฉีดเงินทุนนี้สามารถกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สร้างโอกาสในการทำงาน และเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การก่อสร้างวัสดุและสาธารณูปโภคมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ผลกระทบเชิงบวกต่อราคาหุ้นของบริษัทที่ดำเนินงานในภาคส่วนเหล่านี้ การใช้จ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นในโครงการโครงสร้างพื้นฐานสามารถผลักดันความต้องการวัตถุดิบและบริการก่อสร้าง นำไปสู่ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นตามมา
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เศรษฐา ทวีสิน ปาฐกถาพิเศษในงาน Thailand CEO ECONMASS Award 2023 เรื่อง ‘เร่งเครื่อง ติดสปีด เศรษฐกิจไทย’ โดยมองว่า ไทยต้องกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เพื่อให้ประชาชนได้ลืมตาอ้าปาก ยืนยันจะเพิ่มค่าแรงและลดค่าใช้จ่าย
ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะกลางและยาว การเจรจา FTA และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต้องเกิดขึ้น โดยเฉพาะโครงการแลนด์บริดจ์ ที่ช่วยย่นระยะเวลาการขนส่งสินค้าทางเรือ ดึงดูดนักลงทุนเข้าประเทศ เป็นศูนย์กลางการสร้างโรงงาน ไม่ใช่แค่ทางผ่านส่งออกสินค้า
และท่านอื่นๆ ได้มีการพูดถึงประเด็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเน้นย้ำการแก้ปัญหาต่างๆ เช่น รายได้การส่งออกที่ลดลง รวมถึงการผลักดันการค้าเสรี (FTA) เพิ่มเติม เพื่อหาตลาดใหม่ ความก้าวหน้าแบบยั่งยืนของอุตสาหกรรมไทย โดยให้ความสำคัญกับชุมชน ครอบคลุมไปจนถึงการกระจายรายได้
การพัฒนาระบบคมนาคมต่างๆ การดำเนินการตั๋วใบเดียว และการนำรถเมล์ไฟฟ้า (EV) เข้ามาในระบบสาธารณะ ต่อยอดไปรถแท็กซี่ไฟฟ้า และขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าจากทางเดี่ยวเป็นรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน
ด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เน้นให้นักท่องเที่ยวอยู่นานและมีการใช้จ่ายสูงขึ้น โดยผลักดันให้คนเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับเมืองรอง การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์และยกระดับรายได้ในอนาคต ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์และแผนที่น่าจับตามองเลยทีเดียวกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในปี 2567 ที่จะถึงนี้
เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official
💰แชร์เทคนิคการออมเงินที่ใช้ได้ผลของทุกคน
📚ส่งต่อหนังสือ Jitta Wisdom ให้เพื่อนักลงทุน อ่านได้แล้วที่ห้องสมุดห้วยขวาง
(อย่าลืมกดยอมรับเงื่อนไข เพื่อเข้าร่วมกลุ่ม 🤗)
ในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมา Foreign Direct Investment (FDI) ในประเทศเวียดนาม มีมูลค่าการจดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้นถึง 54% โดยรวมมูลค่าการลงทุน และจำนวนโครงการที่เพิ่มขึ้นเท่ากับ 66.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ทาง Foreign Investment Agency (FIA) รายงานว่ามูลค่า FDI ทั้งหมดเพิ่มขึ้นถึง 14.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีมูลค่าทั้งหมดกว่า 25,760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในจำนวนนี้ มีการลงทุนมูลค่ากว่า 5,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในโครงการเดิมจำนวน 1,051 โครงการ แม้เงินทุนที่ใส่เพิ่มจะลดลง 39% แต่จำนวนโครงการกลับเพิ่มขึ้นถึง 19.4% จากปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังคงให้ความเชื่อมัน
โดยในช่วงเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา หลายประเทศต่างพากันนำเงินมาลงทุนในเวียดนาม ซึ่งสิงคโปร์เป็นประเทศที่ลงทุนมากที่สุด เกือบ 4,650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนจีน เป็นอันดับหนึ่งในด้านจำนวนโครงการใหม่ๆ และเกาหลีใต้เป็นอันดับหนี่งในการเข้าซื้อหุ้น
เรียกได้ว่าในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวน เวียดนามกลับเป็นประเทศที่เนื้อหอมสุดๆ เลยก็ว่าได้
การลงทุน มีเงินมาเกี่ยวข้องเสมอ ทำให้หลายครั้งก็รู้สึกว้าวุ่นใจ แต่จะทำอย่างไรให้ลงทุนได้อย่างสบายใจมากขึ้น วันนี้ Jitta Wealth มีวิธีมาบอก
ดาวน์โหลดลายแทง
ก้าวที่ 5
ก้าวที่ 6
Elon Musk มหาเศรษฐีเจ้าของแพลตฟอร์ม X (Twitter) มีแผนการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในปี 2024 ที่จะรองรับการให้บริการทางการเงินแบบเต็มรูปแบบสำหรับผู้ใช้บริการ X
Musk ต้องการให้ X มีบริการทางการเงินแบบครบวงจร ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเงินจะอยู่บนแพลตฟอร์มนี้ ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือหลักทรัพย์อะไรก็ตาม อีกทั้งผู้ใช้งานไม่จำเป็นจะต้องมีบัญชีธนาคารเพื่อใช้บริการทางการเงินของ X
ซึ่งปัจจุบันนี้ X กำลังทำการขอใบอนุญาตเพื่อบริการทางการเงินระหว่างรัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ และขณะนี้ได้รับใบอนุญาตมาแล้ว 9 รัฐ
แผนเปิดตัวฟีเจอร์การเงิน เป็นก้าวแรกที่จะพัฒนา X เป็น Super App ศูนย์รวมการใช้งานต่างๆ แบบครบวงจร ประกอบด้วย
1. Digital Lending หรือการปล่อยสินเชื่อผ่านช่องทางการเงินดิจิทัล
2. การประเมินสินเชื่อโดย AI
3. การโอนเงินข้ามโลกแบบเรียลไทม์
4. Banking Technology หรือการนำเทคโนโลยีฟินเทคเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับเงิน โอนเงิน หรือการจ่ายเงินต่างๆ ที่สามารถทำงานได้ในฟังก์ชันเดียว
5. การบริการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี
ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองว่าโครงการนี้ของทาง Elon Musk จะสั่นสะเทือนวงการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และอุตสาหกรรมฟินเทคได้มากขนาดไหน
เวลาล่วงเลยมาถึงเดือนที่ 11 ของปีแล้ว แต่เศรษฐกิจยังไม่ลดความร้อนแรงลงเลย ทุกประเทศต่างคิดนโยบาย ออกมาตรการต่างๆ มากระตุ้นกันอย่างไม่ลดละ
แม้ว่าตลาดหุ้นในหลายๆ ประเทศจะยังไม่ฟื้นตัวมากนักแต่ก็มีสัญญาณที่ดีออกมาให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ
การอัดฉีดเม็ดเงินหรือลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ยังคงเกิดขึ้นอยู่เสมอๆ นั่นหมายถึงโอกาสในการลงทุนที่ยังเปิดกว้าง อาจไม่ขึ้นขั้นที่ว่า ‘ตาดีได้ตาร้ายเสีย’ แต่นักลงทุนก็ต้องใช้ความระมัดระวังที่มากขึ้นในการตัดสินใจ
อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ที่ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าใช้ได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจอย่างการ DCA หรือการลงทุนแบบสม่ำเสมอก็ยังเป็นเครื่องมือที่ดี ที่จะช่วยให้คุณไม่พลาดโอกาสในการลงทุน มองหาสินทรัพย์ดีๆ ตามระดับความเสี่ยงที่คุณเองรับได้ แล้วให้ระยะเวลาเป็นตัวช่วยลดความผันผวนในระยะยาว
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า
Jitta Wealth Journal – สงครามในอิสราเอลเสี่ยงกระทบต่อเศรษฐกิจโลกหรือไม่