Jitta Wealth Journal - Fed ขึ้นดอกเบี้ยอีก รอบสุดท้ายหรือยัง?!

9 พฤษภาคม 2566Jitta Wealth Journal

ญี่ปุ่น-เกาหลี ประชุมเศรษฐกิจในรอบ 7 ปี

Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 128 ประจำวันที่ 9 พฤษภาคม 2566

Fed ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สูงสุดในรอบ 16 ปี หวังฉุดเงินเฟ้อ JPMorgan เข้าซื้อธนาคาร First Republic Bank เพื่อรักษาเสถียรภาพ ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ประชุมเศรษฐกิจครั้งประวัติศาสตร์ ภาคบริการญี่ปุ่นโตไม่หยุดเติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 GDP เวียดนามมีโอกาสต่ำกว่าคาด ภาคบริการจีนมีแนวโน้มชะลอตัว 

รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth


ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ

S&P 500 -0.80% DJIA -1.25% NASDAQ +0.07%

Fed ขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 5 – 5.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2550 หุ้นธนาคารหลายแห่งฟื้นตัวดีส่งผลให้ภาพรวมบรรยากาศตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีขึ้น นักลงทุนจับตาดูว่า Fed จะมีแนวโน้มหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วหรือยัง 

ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย

CSI 300 -0.30% TOPIX +0.88% VNI -0.84% SET +0.27%

ตลาดหุ้นจีนเคลื่อนที่อยู่ในกรอบ หุ้นญี่ปุ่นปิดบวกต้อนรับวันหยุดยาว หุ้นเวียดนามผันผวนยังไม่ได้ข้อสรุปในการดำเนินการแก้ไขของรัฐบาล ตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับตัวเล็กน้อยแต่ยังเคลื่อนที่อยู่ในกรอบ นักลงทุนไทยจับตามองการเลือกตั้งในสัปดาห์นี้

ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 7 พฤษภาคม 2566


Jitta Wealth Journal

Jitta Wealth แจกฟรี Wallpaper ดัชนี Nasdaq 

Wallpaper ที่จะพาคุณย้อนกลับไปสำรวจวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น Nasdaq 

ตั้งแต่ยุค Y2K จนถึงปัจจุบัน 

ผสมผสานกับเรื่องเล่าการลงทุนผ่านเส้น 3 เส้น

ที่จะเป็นเครื่องเตือนใจให้กับคุณ 3 เส้นนั้นจะมีความหมายอย่างไรบ้าง

อ่านต่อ 

ดาวน์โหลด Wallpaper 


เศรษฐกิจสหรัฐฯ

Fed ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สูงสุดในรอบ 16 ปี 

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5 – 5.25% เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับเป้าหมาย และลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดหุ้นผันผวนเล็กน้อยแต่ก็เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์

การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้เกิดการชะลอตัวในการลงทุนและการใช้จ่าย ทุกธุรกิจจะได้รับผลกระทบ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ถูกมองได้อีกทางด้วยว่า เป็นสัญญาณของความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจ ซึ่งบ่งชี้ว่าจะสามารถทนต่ออัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้

คุณคงเห็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed มาตั้งแต่ช่วงปี 2565 และหากสังเกตดีๆ จะเห็นภาพรวมในระยะสั้น แต่ภาพรวมระยะยาวอาจยังไม่แน่ชัดซึ่งสรุปได้ดังนี้

  • ภาพรวมระยะสั้น ตลาดจะตอบสนองเชิงลบต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย และนักลงทุนอาจระมัดระวังในการลงทุนมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้หุ้นมีราคาที่ถูกลง แต่จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบ 2 – 3 ครั้งที่ผ่านมาดูเหมือนว่านักลงทุนเริ่มชินและตอบสนองเชิงลบน้อยลงแล้ว
  • ภาพรวมระยะยาว เศรษฐกิจจะแข็งแรงมากขึ้น และมีอัตราเงินเฟ้อที่ควบคุมได้ซึ่งจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในระยะยาวตลาดหุ้นจะได้ความเชื่อมั่นกลับมาอีกครั้ง และมีเสถียรภาพซึ่งเป็นเป้าหมายที่ Fed พยายามทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นแบบนั้นอยู่เสมอ

การลงทุนในทุกนโยบายของ Jitta Wealth จะเป็นการลงทุนระยะยาว เราถึงอยากนำเสนอภาพรวมระยะยาวให้คุณได้เห็นด้วย สำหรับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ แต่ก็เริ่มใกล้จุดเป้าหมายที่ Fed จะหยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว และนั่นจะทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาเติบโตอย่างมีเสถียรภาพได้อีกครั้งนึงอย่างแน่นอน

JPMorgan เข้าซื้อธนาคาร First Republic Bank 

JPMorgan บริษัทการเงินระดับโลกเข้าซื้อธนาคาร First Republic Bank เพื่อป้องกันวิกฤตภาคธนาคารในสหรัฐฯ การเข้าซื้อในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก First Republic Bank ประสบปัญหาเงินฝากเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงิน 

การเข้าซื้อของ JPMorgan มีเป้าหมายเพื่อรักษาความเชื่อมั่นในระบบธนาคารและหลีกเลี่ยงวิกฤตที่อาจเกิดขึ้น การเข้าซื้อในครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ฝากเงินมีความเชื่อมั่นว่า เงินฝากจะยังคงปลอดภัยด้วยเครดิตชื่อเสียงของ JPMorgan 

การแทรกแซงเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตการธนาคารเน้นย้ำถึงความสำคัญของการควบคุมและการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพในภาคการเงิน การตอบสนองอย่างรวดเร็วของหน่วยงานกำกับดูแลและ JPMorgan แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการรักษาเสถียรภาพและป้องกันความเสี่ยงนั่นเอง

วิกฤตธนาคารหลายแห่งในตอนนี้เริ่มฟื้นฟูกลับมาได้แล้ว จะเห็นได้ว่าที่หลายคนกังวลว่า วิกฤตในครั้งนี้อาจจะรุนแรงเหมือนวิกฤตสินเชื่อซับไพรม์ในปี 2551 นั้นค่อนข้างจะเกินจริงไปหน่อย เพราะสหรัฐฯ ได้รับบทเรียนไปแล้วและจะทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำอย่างแน่นอน 


Jitta Wealth Journal

Talk of the Town 

เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official

📈 รีวิวพอร์ต Global ETF ลงทุนระยะยาวอย่างเข้าใจ

🧐 ทำไม ‘ยิ่งลงทุนนาน โอกาสขาดทุนยิ่งน้อยลง’ ? 

🥹 ส่องกำลังใจดีๆ จากเพื่อนนักลงทุน

มาร่วมพูดคุยกับเรา  

(ตอบคำถามให้ครบ 3 ข้อ เพื่อเข้าร่วมกลุ่มนะ 🤗)


เศรษฐกิจญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ร่วมประชุมทางเศรษฐกิจครั้งประวัติศาสตร์

รัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ประชุมทวิภาคีครั้งแรกในรอบ 7 ปี มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดและเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยทั้งสองประเทศมีข้อตกลงที่น่าสนใจดังนี้

  • ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเงินร่วมกัน
  • เสริมสร้างการแลกเปลี่ยนสกุลเงินทวิภาคี (เยนและวอน)
  • จัดหาเงินทุนร่วมกันในโครงการโครงสร้างพื้นฐานในประเทศที่สาม
  • ปรับปรุงความร่วมมือด้านการเงินสีเขียวและดิจิทัล

การประชุมรัฐมนตรีคลังเป็นขั้นตอนเชิงบวกในการแก้ไขข้อพิพาททางประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนานและความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศ 

การพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจจะช่วยให้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเกี่ยวกับความท้าทายในระดับภูมิภาคและระดับโลก 

ภาพรวมในระยะยาว ความร่วมมือนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอย่างมาก ญี่ปุ่นจะเข้าถึงตลาดเกาหลีใต้ได้ดีขึ้น ใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว

ธุรกิจภาคบริการของญี่ปุ่นเติบโตเป็นประวัติการณ์

ภาคบริการของญี่ปุ่นเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเมษายน โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นหลังสิ้นสุดมาตรการ Covid-19

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (PMI) ของ Au Jibun Bank เพิ่มขึ้นเป็น 55.4 จุดในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นจาก 55.0 จุดในเดือนมีนาคม ซึ่งสูงกว่าระดับ 50 ที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของเศรษฐกิจ เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน

ญี่ปุ่นได้ยุติมาตรการด้าน Covid-19 ที่เข้มงวด เพื่อให้การเดินทางเข้าประเทศมีความสะดวกมากขึ้น ซึ่งมีผู้มาเยือนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 1.82 ล้านคนในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาด

ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อและมี Soft power ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ตัวรัฐบาลเองก็ไม่ได้นิ่งเฉย และยังคงออกนโยบายมาสนับสนุนมากมาย ทำให้ญี่ปุ่นขณะนี้ไม่ต่างจากเสือที่กำลังติดปีกเลยทีเดียว


เศรษฐกิจเวียดนาม

เศรษฐกิจเวียดนามเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในไตรมาส 2

HSBC คาดเวียดนามจะยังคงเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 สาเหตุหลักมาจากผลกระทบของโรคระบาดและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน การเติบโตของ GDP ของเวียดนามมีโอกาสต่ำกว่าคาด 

เพื่อลดผลกระทบของความท้าทายเหล่านี้ รัฐบาลเวียดนามกำลังมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ เร่งการลงทุนภาครัฐ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางเศรษฐกิจด้วยการลดความซับซ้อนขั้นตอนการบริหารและลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

ในระยะยาว ความพยายามของภาครัฐจะช่วยเศรษฐกิจเวียดนามฟื้นตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน แม้ว่าความท้าทายในปัจจุบันจะมีความสำคัญ แต่ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของเวียดนาม จะทำให้เวียดนามกลายเป็นตลาดที่สดใสสำหรับนักลงทุนในอนาคต


Calendar Effect

Calendar Effect ในตลาดหุ้น เรื่องจริงหรืออุปาทานหมู่

เดือนพฤษภาคมกำลังเริ่มต้นขึ้น คำว่า ‘Sell in May and Go Away’ 

ก็เริ่มกลับมาให้ได้ยินอีกครั้ง ว่าแต่ว่า 

ทำไมต้องขายหุ้นในเดือนพฤษภาคม ความเชื่อนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่

อ่านต่อ


เศรษฐกิจจีน

Caixin เผยแนวโน้มการชะลอตัวของภาคบริการจีน

ธุรกิจภาคบริการของจีนเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนเมษายน แม้ว่าแนวโน้มจะชะลอตัวลงก็ตาม ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (PMI) ของ Caixin/S&P อยู่ที่ 56.4 จุดในเดือนเมษายน ลดลงจาก 57.8 จุดในเดือนก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 แสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ยังคงเติบโต

นักวิเคราะห์ต่างออกมาเตือนว่าแนวโน้มอาจลดลงอีก เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และจำเป็นต้องมีการสนับสนุนด้านนโยบายมากกว่านี้

โดยเศรษฐกิจจีนเติบโตเร็วเกินคาดในไตรมาสแรก เนื่องจากธุรกิจและผู้บริโภคผ่อนคลายจากมาตรการควบคุม Covid-19 ที่เข้มงวด แต่เศรษฐกิจกำลังเผชิญกับการฟื้นตัวที่ไม่สม่ำเสมอ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจจีนจะยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องในไตรมาส 2 แม้การเติบโตจะชะลอตัวลงก็ตาม

จีนจะยังคงสนับสนุนเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นไปที่อุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งต้องติดตามว่า รัฐบาลจะมีการใช้นโยบายสนับสนุนเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อให้ตัวเลขการเติบโตคงที่อย่างต่อเนื่อง


ข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องของตลาดหุ้นและการลงทุน ดูเหมือนเป็นเรื่องเหนือการควบคุม แต่จริงๆ แล้วมันก็มีกลไกเหตุและผลของมันอยู่ อาจจะเกิดขึ้นซ้ำๆ กันบ้าง หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นอีกเลยถ้านักลงทุนในตลาดเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตมากพอ 

Fed ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยสูงสุดในรอบ 16 ปี ก็เพราะมีเป้าหมายที่ต้องการลดระดับเงินเฟ้อ วิกฤตธนาคารที่เคยเป็นประเด็นใหญ่หลายสัปดาห์ก็กลับถูกคลี่คลายอย่างรวดเร็วเพราะสหรัฐฯ ไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย 

เรื่องของการลงทุนสามารถควบคุมได้มากกว่าที่คุณคิด เพียงแค่คุณต้องเข้าใจให้ได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรโฟกัสเพราะควบคุมได้ และอะไรคือสิ่งที่คุณควรปล่อยวางไป 

จิตใจของคุณเอง และความมุ่งมั่นในการลงทุนระยะยาว ไม่หวั่นไหวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นสั้นๆ เป็นสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้มากที่สุดแล้ว

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – ญี่ปุ่นสุดปัง ค่าเงินเยนอ่อนแต่หุ้นพุ่ง!

Jitta Wealth Journal – จีนมาแรง GDP ไตรมาสแรกโตเกินคาด!

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด