Jitta Wealth Journal - ญี่ปุ่นยัน! ใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อ

28 กุมภาพันธ์ 2566Jitta Wealth Journal

สาเหตุหลักที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ยคืออะไร? 

Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 118 ประจำวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566

สวัสดีวันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนหลังประกาศตัวเลขทางการเงิน Fed อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ ตลาดหุ้นจีนไม่อินกับ ChatGPT ฉุดตลาดทรงตัว แต่อุตสาหกรรมอื่นยังโดดเด่น ตลาดหุ้นเวียดนามขึ้นลงเหมือนรถไฟเหาะ นักลงทุนเสียงแตกจะทำกำไรหรือลงทุนยาว ประธานธนาคารกลางญี่ปุ่นคนใหม่ยืนยันใช้นโยบายทางการเงินผ่อนคลายต่อไป 

ทีมงานย่อยข่าวเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกมาให้คุณแล้ว ไปติดตามกันได้เลย

รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth


ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ

S&P 500 -2.67% DJIA -2.99% NASDAQ -3.33%

นโยบายการเงินของ Fed กดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่อเนื่องหากอัตราเงินเฟ้อไม่ลดลงสู่เป้าหมาย ตลาดหุ้นคาดว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงลิบลิ่วจะอยู่นานกว่าที่คาด หลังจากได้เห็นรายละเอียดการประชุม FOMC ที่เนื้อหายังคงเดิม ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าเงินเฟ้อจะจบลงเมื่อไร 

ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย

CSI 300 +0.66% TOPIX -0.18% VNI -1.86% SET -1.07%

ตลาดหุ้นเวียดนามได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นทั่วโลก หุ้นกลุ่มอสังหาฯ หลายบริษัทติดลบแตะ Floor ฉุดตลาด ตลาดหุ้นจีนยังเนื้อหอม ต่างชาติเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง วาณิชธนกิจระดับโลกตกหลุมรักหุ้นจีนเข้าเต็มเปา ดึงดูดให้คนเข้ามาลงทุน ส่วนตลาดหุ้นไทยโดนสถานการณ์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กดดัน

ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 26 กุมภาพันธ์ 2566


คำคม ‘เลิกรอ’ แบบไหนที่ใช่คุณ?  

Wallpaper นักลงทุน VI ไอเทมเสริมดวงการเงินปี 2566 ของ Jitta Wealth มีความหมายอะไรบ้าง แบบไหนที่ใช่ เรียกสติคุณได้ดี ไปเปิดความหมายของแต่ละอันกันได้เลย

อ่านต่อ 


เศรษฐกิจสหรัฐฯ

‘ตลาดแรงงาน’ สาเหตุหลัก Fed ขึ้นดอกเบี้ย

ในการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 31 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการเห็นว่า ตลาดแรงงานยังตึงตัวอยู่มาก ส่งแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อและค่าแรง มีโอกาสที่จะทำให้ Fed กลับมาปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในอนาคต 

คณะกรรมการบางคนที่มีแนวคิดแบบ Hawkish สนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% โดยมองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ทำให้ Fed ไปถึงเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% เร็วขึ้น

ปัจจุบันแม้ตัวเลขเงินเฟ้อที่วัดด้วยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Consumer Price Index หรือ CPI) จะปรับตัวลงต่อเนื่อง แต่ตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่งกดดันให้เงินเฟ้อมีโอกาสปรับขึ้นมาอีก นั่นคือสาเหตุหลักที่ทำให้ Fed ขึ้นดอกเบี้ยไม่หยุดสักที 

ตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงสุดแตะ 5.5% แต่สัญญาณที่ดีคือมีแนวโน้มว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยลงเล็กน้อยในช่วงปลายปี 2566 คงต้องติดตามตัวเลขทางเศรษฐกิจกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้วจะออกมาในทิศทางไหน

ตัวเลข PCE พุ่ง คาด Fed เตรียมปรับดอกเบี้ย 

สหรัฐฯ ประกาศอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก Personal Consumption Expenditure (PCE) ขยายตัว 5.4% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ 5.3% ในขณะที่ Core PCE ปรับเพิ่มขึ้น 4.7% สูงกว่าคาดที่ 4.3% โดย Fed มีเป้าหมายในการดึงเงินเฟ้อ PCE ให้ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2% โดยการเพิ่มขึ้นเช่นนี้ยิ่งทำให้ตลาดกังวลว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยแรง 

สาเหตุหลักที่ทำให้ตัวเลข PCE พุ่งขึ้นไม่หยุดมาจากการใช้จ่ายของประชาชนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าประเภทรถยนต์ อาหาร และบริการ และตัวเลขภาคแรงงานที่ตึงตัวก็ทำให้เป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของ Fed เป็นไปได้ยากขึ้น 

Bloomberg Economist ให้ข้อมูลว่าการใช้จ่ายที่มากขึ้นในสินค้าและบริการเป็นข่าวร้ายสำหรับอัตราเงินเฟ้อที่ Fed คาดหวัง ห่วงโซ่อุปทานที่คลี่คลายทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากยังเป็นเช่นนี้อยู่ Fed เองก็มีโอกาสปรับดอกเบี้ยไปสูงกว่า 5.25% ภายในปี 2566

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คงต้องเผชิญกับความท้าทายจากเงินเฟ้อไปอีกระยะ เงินเฟ้อ CPI มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ในขณะที่เงินเฟ้อ PCE กลับเพิ่มขึ้นสวนทาง จากการบริโภคภายในประเทศที่ยังร้อนแรง 


ทำไม Thematic Optimize ถึงปรับพอร์ตทุก 3 เดือน? 

เจาะเหตุผล ทำไม Thematic Optimize ต้อง ‘ปรับพอร์ต’ ทุก 3 เดือน เทียบกันให้เห็นชัดๆ ว่าปรับพอร์ต 3 เดือนดียังไง

อ่านต่อ 


เศรษฐกิจจีน

จีนผ่อนคลายกฎ IPO ดันสตาร์ตอัป

แนวโน้มตลาดหุ้นจีนในตอนนี้กำลังฟื้นตัวเต็มที่ ล่าสุดทางการจีนพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการช่วยบริษัทสตาร์ตอัปหรือบริษัทขนาดเล็กให้สามารถจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นได้ง่ายขึ้น และลดระยะเวลาดำเนินการอีกด้วย

Huang Hongwei นักวิเคราะห์จาก Chasing Securities บอกว่า “นี่เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบตลาดทุนจีน ช่วยดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีที่มีคุณภาพเข้ามาจดทะเบียนมากขึ้น”

ตั้งแต่ปี 2533 เป็นต้นมา หน่วยงานกำกับดูแลของจีนจะอนุมัติการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จากกำไรหรือความสามารถการเติบโตในอนาคต และบริษัทสามารถระดมทุนได้ไม่เกิน 23 เท่าของกำไรเท่านั้น รวมถึงยังต้องมีกำไร 3 ปีติดต่อกันด้วย 

แต่สำหรับเงื่อนไขใหม่ กำหนดให้บริษัทต้องมีมูลค่าตลาดอย่างน้อย 5,000 ล้านหยวนและต้องมีกำไรอย่างน้อย 1 ปี ส่งผลดีต่อบริษัทขนาดเล็กและกลางที่อยู่ในช่วงเติบโตที่กำไรยังผันผวนสูง

การผ่อนคลายเงื่อนไขครั้งนี้ช่วยให้บริษัทเอกชนจีนเข้าจดทะเบียนเพื่อระดมทุนได้เร็วขึ้น ทำให้มีเงินทุนไปพัฒนาสินค้าและบริการต่อยอดนวัตกรรมในอนาคต เป็นแนวโน้มที่จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นจีนอย่างมีนัยสำคัญอย่างแน่นอน


5 ขั้นตอน เธอกับฉันจับเข่าคุยเรื่องเงินทอง 

การเงินมีผลกับชีวิตคู่ แต่คู่รักมักจะหลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องการเงิน มาเริ่มละลายพฤติกรรม คุยกันไปทีละขั้น ให้รู้จักทัศนคติการเงินของกันและกันมากขึ้น เพื่อความมั่นคงของความสัมพันธ์

อ่านต่อ 


3 เรื่องการเงินลูกน้อย ที่พ่อแม่ไม่ควรปล่อยให้ค้างคา

การวางแผนการเงินสำคัญสำหรับคนทุกเพศทุกวัย และแผนก็สามารถปรับเปลี่ยนให้รับกับเป้าหมายในชีวิตที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน แล้วแผนการเงินแบบไหน เหมาะสำหรับคนที่กำลังสร้างครอบครัวและวางแผนที่จะมีลูก มาดูกัน 

อ่านต่อ  


เศรษฐกิจญี่ปุ่น 

ญี่ปุ่นจะใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป 

Kazuo Ueda ประธานธนาคารกลางญี่ปุ่นคนใหม่แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคต มองว่าการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไปเป็นเรื่องที่เหมาะสม แต่หากอัตราเงินเฟ้อเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2% อย่างมีเสถียรภาพก็ควรกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบปกติ 

ปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นอยู่ที่ 4.3% สูงที่สุดในรอบ 41 ปี ดังนั้นเป้าหมายสำคัญของประธานธนาคารกลางคนใหม่คือการใช้นโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง พร้อมกับควบคุมเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง

หากพิจารณาจากคำแถลงของ Ueda และผลงานในอดีตที่ผ่านมา เขามองว่าการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายขั้นสุดต่อไปในระยะยาวจะส่งผลเสียต่อญี่ปุ่น แต่หากถอนคันเร่งและเปลี่ยนนโยบายการเงินเร็วเกินไป ก็อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในระยะสั้นได้ 

จากการแถลงของประธานธนาคารกลางคนใหม่ส่งผลให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้น คลายความกังวลว่าประธานธนาคารกลางคนใหม่จะเร่งใช้นโยบายการเงินตึงตัว


Talk of the Town 

เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official

🇯🇵 Jitta Ranking Japan หุ้นญี่ปุ่นสีเขียวสดใส

🤑 มาเงียบๆ! พอร์ต Jitta Ranking Japan ทำ New High 

🎉 เดือนมีนาคม เพิ่มทุนกองไหนดี? มาแชร์กัน

มาร่วมพูดคุยกับเรา

(ตอบคำถามให้ครบ 3 ข้อ เพื่อเข้าร่วมกลุ่มนะ 🤗)


ธีมหุ่นยนต์และ AI

สบายตัว! หุ่นยนต์จะทำงานบ้านแทนได้ถึง 39%

BBC รายงานการวิจัยร่วมระหว่างอังกฤษและญี่ปุ่น โดยสำรวจความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ถึง 65 คนที่จะใช้หุ่นยนต์ช่วยทำงานบ้าน รวมไปถึงการช่วยซื้อของในร้านค้า ดูแลเด็กและผู้สูงอายุ โดยคาดว่าในปี 2576 งานทั้งหมดนี้ถึง 39% จะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์

งานวิจัยดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์มีศักยภาพที่จะแบ่งเบาภาระได้สูงมาก สำหรับงานดูแลเด็กและผู้สูงอายุ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าหุ่นยนต์จะแบ่งเบาได้ถึง 28% ขณะที่งานเลือกซื้อของในร้านค้า หุ่นยนต์ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระได้ถึง 60% 

หากคุณสังเกตประเทศทั่วโลกจะพบว่าอัตราการเกิดลดลงต่อเนื่อง เป็นไปได้ว่าในอนาคตอันใกล้โลกอาจขาดแคลนแรงงาน และอุตสาหกรรมที่จะโดดเด่นขึ้นมา คือหุ่นยนต์และ AI ที่กำลังมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของทุกคน ส่งผลดีต่อธีมหุ่นยนต์และ AI ที่เป็นเมกะเทรนด์โลกโดยแท้จริง


เทคโนโลยีจีน

Alibaba กำไรพุ่งสวนกระแส Zero-COVID

ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ Alibaba ออกมาแล้ว มีตัวเลขงบการเงินที่น่าสนใจดังนี้ 

  • รายได้ขยายตัว 2.47% แตะที่ระดับ 247,760 ล้านหยวน 
  • กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 396%yoy สูงถึง 35,030 ล้านหยวน
  • กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 138%yoy สูงถึง 45,750 ล้านหยวน 

แม้ในไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว จีนจะใช้นโยบาย Zero-COVID เข้มงวด แต่ธุรกิจต่างประเทศของบริษัทกลายเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้ และในตอนนี้จีนกลับมาเปิดประเทศจะยิ่งทำให้บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่แห่งนี้ได้อานิสงส์โดยตรง คุณคงพอจะมองออกว่า Alibaba กำลังมีอนาคตที่สดใสเลยทีเดียว

Alibaba เป็นอีกบริษัทที่อยู่ในหลายธีมเมกะเทรนด์ โดยเฉพาะธีมอีคอมเมิร์ซที่มีสัดส่วนการลงทุนสูงถึง 13.46% และเป็นอีกธีมที่มีกำลังฟื้นตัวดี รวมไปถึงการผ่อนคลายการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีจีนจะยิ่งช่วยให้ Alibaba เติบโตอย่างแข็งแกร่ง


ถึงเวลาบอกลาเดือนแห่งความรัก เตรียมต้อนรับเดือนที่ 3 และเตรียมสิ้นสุดไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 กันแล้ว 

การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ก็ยังเป็นประเด็นที่น่าจับตามองอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีใครสามารถคาดเดาได้เลยว่าสิ่งที่เป็นอยู่นี้จะมีทิศทางอย่างไร 

แม้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed จะมีผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในภาพรวม รวมไปถึงหลายประเทศเองก็ได้รับผลกระทบไปด้วย 

แต่ดูเหมือนว่า จีนเองจะกลับมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศอีกครั้ง มีการผ่อนปรนกฎต่างๆ ที่เคยออกมาเพื่อควบคุมบริษัทต่างๆ ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้บริษัทเทคฯ จีน ได้เริ่มหายใจหายคออีกครั้ง ยกตัวอย่างเช่น Alibaba 

ธีมธุรกิจที่กำลัง Trendy อยู่ในตอนนี้หรือตลอดเดือนนี้ที่ผ่านมาหนีไม่พ้นธุรกิจหุ่นยนต์และ AI สิ่งที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์ที่หุ่นยนต์ทำงานแทนมนุษย์ได้มากขึ้นเรื่อยๆ เป็นภาพที่เห็นชัดเจนมากขึ้นเช่นกัน 

โลกในอนาคตอันใกล้นี้อาจกำลังส่งสัญญาณบอกคุณเป็นนัยว่า อนาคตของคุณจะเป็นไปในทิศทางไหน

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – Baidu หุ้นพุ่ง! เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชันจีน

Jitta Wealth Journal – Xi Jinping เผย 2 กลยุทธ์ดันเศรษฐกิจจีนโต

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด