Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 117 ประจำวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566
เงินเฟ้อสหรัฐฯ ลดแต่สูงกว่าคาด ตลาดมอง Fed ไม่หยุดขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ จีนเคลื่อนทัพ 2 กลยุทธ์สำคัญบริหารเศรษฐกิจ รัฐบาลจีนจัดประชุมหารือบริษัทบิ๊กเทคฯ ส่งสัญญาณคลายความกดดันอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าสดใสคาดโตไวในอนาคต
ทีมงานย่อยข่าวเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกมาให้คุณแล้ว ไปติดตามกันได้เลย
รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth
S&P 500 -0.28% DJIA -0.13% NASDAQ +0.59%
หุ้นเทคสหรัฐฯ ผลประกอบการดีเกินคาด หนุนตลาดหุ้นให้ทรงตัวแม้ตัวเลขเงินเฟ้อจะออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะในกลุ่มการท่องเที่ยวที่บวกแรงจากสถานการณ์การท่องเที่ยวทั่วโลกที่กลับมาเป็นปกติ
CSI 300 -1.75% TOPIX +0.25% VNI +0.38% SET -0.77%
ตลาดหุ้นจีนร่วงแรง นักลงทุนจีนเทขายทำกำไรออกเป็นส่วนใหญ่ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวกสูงสุดในรอบ 2 เดือน ตลาดหุ้นเวียดนามกลับมาเป็นบวกแต่ต่างชาติเริ่มเทขายทำกำไรออกไปบ้าง ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากหุ้นหลายตัว โดยเฉพาะกลุ่ม JMART ที่ปรับตัวลงยกแผง
ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 19 กุมภาพันธ์ 2566
ใครจะรู้ว่าแม้แต่ ‘พอร์ตลงทุน’ ยังต้องการความรัก
สำรวจ 5 วิธี เติมความรักให้พอร์ตอย่างง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพ
เพื่อผลลัพธ์การลงทุนที่ดีขึ้นในระยะยาว
ไปดู 5 วิธีเติมความรักให้พอร์ต
Ford Motor เตรียมลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรีมูลค่า 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับการสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยีและเครื่องจักรจาก CATL บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรีอันดับ 1 ของโลก
การตั้งโรงงานแบตเตอรีในสหรัฐฯ นอกจากจะเป็นการลดการพึ่งพาแบตเตอรีจากเอเชีย ยังสามารถรับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีจาก Inflation Reduction Act ที่ให้เครดิตภาษีสูงถึง 7,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อการซื้อรถไฟฟ้าหนึ่งคัน
การร่วมมือในครั้งนี้ถึงแม้ว่า CATL ไม่ได้มีหุ้นในบริษัทลูกของ Ford แต่ก็แสดงให้เห็นว่าบริษัทแบตเตอรีจีนได้รับความไว้วางใจจากบริษัทรถยนต์ตะวันตกในการเข้ามาช่วยจัดตั้งโรงงานและติดตั้งเครื่องจักร
การสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของกฎหมาย Inflation Reduction Act (IRA) จะส่งผลให้อัตราการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าจากรถยนต์ทั้งหมดจะไปแตะที่ระดับ 20% ภายในปี 2573 จากการสนับสนุนของกฎหมาย IRA
โอกาสการเติบโตของธีมลิเธียมและแบตเตอรีสดใสมากทีเดียว โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งในอนาคตอาจกลายเป็นนวัตกรรมที่ผู้คนใช้งานกันทั่วโลก และเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่และมีความต้องการทั่วโลก
หากคุณคุ้นเคยกับช่วงเวลาเดิมๆ ที่คนเทขาย หรือ เข้าซื้อในแต่ละปี
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ถูกเรียกว่า Calendar Effect
แต่คุณอยากรู้ไหมว่ามันคือ ‘เรื่องจริง’ หรือ ‘อุปาทานหมู่’
ไปหาคำตอบ Calendar Effect ได้ที่นี่
โหลด Calendar Effect Wallpaper ฟรีได้ที่นี่
จากรายงานการประชุมเศรษฐกิจกลางในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ประธานาธิบดี Xi Jinping ได้กล่าวไว้ว่า “การส่งออกและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจะเป็น 2 ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของจีน”
Xi ต้องการสร้างเสถียรภาพการส่งออกในประเทศพัฒนาแล้ว และขยายการส่งออกในประเทศกำลังพัฒนา หมายความว่า Xi จะให้ความสำคัญกับการสร้างพันธมัตรในประเทศกำลังพัฒนาเป็นหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่จีนทำมาตลอดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
นอกจากนี้ จีนยังมองเห็นถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการส่งออกให้ประเทศพัฒนาแล้วเช่นกัน และมองว่าเป็นคู่ค้าที่สำคัญสำหรับจีนที่จะทำให้จีนเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ Xi มองว่าจีนต้องการนักลงทุนต่างชาติคุณภาพสูงเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตของจีน ด้วยการดึงดูดกลุ่มบริษัทที่มีคุณภาพทั้งด้านวัตกรรมและบุคคลากรเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมในจีน
สาเหตุที่ทำให้ Xi ให้ความสำคัญกับทั้ง 2 ส่วนนี้ เนื่องจากเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกผันผวนมากที่สุด เป็นการแก้ไขที่ตรงจุดและจะช่วยหนุนจีนให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง จีนมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ชัดเจนและเห็นได้ชัดว่ามีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
บริษัทจัดการกองทุนสถาบันการเงินโลก ทั้ง Fidelity และ Abrdn มีมุมมองว่า ‘การประชุมสองสภาที่จะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมจะเร่งตลาดหุ้นจีนให้เติบโตอย่างรวดเร็ว’
โดยเราได้สรุปมุมมองของทั้งสองสถาบันมาให้คุณแล้ว โดยรายละเอียดมีดังนี้
สถาบันการเงินระดับโลกทั้ง 2 แห่งมองเห็นโอกาสลงทุนในตลาดหุ้นจีน ซึ่งคุณจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นหลังการประชุมว่ารัฐบาลจีนจะเดินไปทางไหน จะสนับสนุนอุตสาหกรรมใดบ้าง การประชุมสองสภาจะจัดขึ้นในวันที่ 4-5 มีนาคม รอติดตาม Jitta Wealth Journal เอาไว้ให้ดี
หุ้นธุรกิจช็อกโกแลตเป็นเหมือน ‘ขนมหวาน’ ของนักลงทุนสาย VI
แม้แต่ปู่ Warren Buffett ยังมีหุ้นตัวโปรดเป็นหุ้นช็อกโกแลต
เจาะ 3 หุ้นช็อกโกแลตที่โด่งดัง และวิเคราะห์เชิงลึกด้วยแพลตฟอร์ม Jitta
ส่อง 3 หุ้นโรงงานช็อกโกแลตที่นี่
ดูเหมือนว่าการควบคุมหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของจีนจะคลี่คลายต่อเนื่อง ล่าสุด กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีได้จัดประชุมหารือร่วมกับบริษัทบิ๊กเทค ในหัวข้อการพัฒนาอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตอย่างมีคุณภาพ
การประชุมจัดขึ้นที่ปักกิ่ง โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีเป็นประธาน พร้อมกับผู้บริหารจากบริษัทเทคโนโลยีจีนชื่อดังอย่าง Tencent Holding Baidu Xiaomi และ NetEase
และข่าวดีคือในการประชุมมีความเห็นร่วมกันว่าควรเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและเชื่อมโยงเข้ากับภาคเศรษฐกิจจริง โดยอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตจะช่วยเสริมความแกร่งในด้าน 5G Gigabit Ethernet และศูนย์ข้อมูล รวมไปถึงปูรากฐานไปสู่เทคโนโลยี 6G AI และควอนตัมคอมพิวเตอร์ในอนาคต
ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป รัฐบาลจีนจะเริ่มพิจารณาคำขอจัดตั้งบริษัทในจีนที่ต้องการจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศ รวมไปถึงฮ่องกง หลังจากถูกแช่แข็งมาเป็นเวลากว่า 20 เดือนตั้งแต่ปี 2564
ดูเหมือนว่าจีนจะเริ่มเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เพื่อหนุนเศรษฐกิจให้เติบโตไปข้างหน้า การผ่อนคลายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีนจะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มเป็นอย่างมาก และเป็นไปได้ว่าคุณจะได้เห็นมาตรการสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยีจีนอีกด้วย เป็นอุตสาหกรรมที่น่าลงทุนมากทีเดียว
เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official
📈 อ่านรีวิวพอร์ต Global ETF และ Thematic Optimize หลัง 1 ปี
🎙️ ร่วมถกพอดคาสต์ทรงคุณค่า ‘DCA ขาดทุน ไปต่อหรือพอแค่นี้’
☁️ Corner หุ้น คืออะไรทำไมกลายเป็นประเด็นใหญ่หุ้นไทยในตอนนี้
(ตอบคำถามให้ครบ 3 ข้อ เพื่อเข้าร่วมกลุ่มนะ 🤗)
ช่วงเวลาที่นักลงทุนสหรัฐฯ ทั่วโลกรอคอยมาถึงแล้ว สหรัฐฯ ประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Consumer Price Index) หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมกราคมขยายตัวที่ 6.4%yoy และ 0.5%mom สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 6.2%
แม้ว่าจะมีแนวโน้มลดลงชัดเจน แต่เงินเฟ้อที่ยังสูงส่งผลต่อการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนไปมา แต่ที่น่าสนใจคือดัชนีหุ้นเทคอย่าง NASDAQ กลับปิดตัวเป็นบวกได้
หากพิจารณาตามถ้อยแถลงของประธาน Fed ที่ว่า “ถ้าอัตราเงินเฟ้อไม่แสดงให้เห็นว่ามีแนวโน้มลดลงอย่างมีเสถียรภาพ Fed จะต้องทำงานต่อไป และมีโอกาสพิจารณาใช้นโยบายการเงินจากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดเป็นปัจจัยหลัก” คุณพอจะคาดการณ์ได้ว่า Fed จะยังปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง จนอัตราเงินเฟ้อลดลงไปสู่เป้าหมายที่ Fed ต้องการ
แต่แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจจะไม่รุนแรงเท่าในปี 2565 หากดูราคาหุ้นหลายตัวในสหรัฐฯ ปรับลงมาค่อนข้างมากแล้ว ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงโอกาสลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ถูกๆ อยู่และเมื่อสถานการณ์กลับมาสู่ปกติจะทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาเติบโตอีกครั้งได้อย่างแน่นอน
ดูเหมือนคุณจะเริ่มเห็นภาพการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ชัดเจนขึ้นแล้วนะเพราะ Fed มีความมุ่งมั่นที่จะลดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปให้ลงไปสู่จุดเป้าหมายให้จนได้
จริงๆ แล้วในช่วงที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ยและส่งผลให้หุ้นหลายตัวราคาตกลงไป เป็นช่วงที่นักลงทุนสายเน้นคุณค่าหลายคนเข้าไปแอบสะสมของอย่างเงียบๆ เพราะมีหุ้นคุณภาพดีหลายตัวอยู่ในช่วงลดราคาทำให้น่าสะสมเอาไว้ สำหรับเป้าหมายลงทุนระยะยาว
ทุกคนควรมีเป้าหมายเป็นของตัวเองแต่ที่ไม่ควรจะลืมคือ วิธีการเพื่อทำให้เป้าหมายนั้นเป็นจริง ซึ่งมีทางเลือกให้กับคุณมากมายจนนับไม่ถ้วน และ Jitta Wealth เองก็เป็นวิธีการที่จะพาช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในการลงทุนระยะยาว
เมื่อคุณมีวินัยและปฏิบัติตามหลักการแบบไม่หวั่นไหว สุดท้ายคุณจะเป็นคนที่ได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า
Jitta Wealth Journal – Baidu หุ้นพุ่ง! เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชันจีน