Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 115 ประจำวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566
นักลงทุนสหรัฐฯ ช้อนหุ้นต่อเนื่องหลัง Fed ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด อัตราการว่างงานสหรัฐฯ ต่ำสุดในรอบ 53 ปี หุ้น Meta พุ่งหลังผลประกอบการดีกว่าคาด เศรษฐกิจเวียดนามและจีนยังแรงดีไม่มีตก ญี่ปุ่นเร่งพัฒนาไซเบอร์ซิเคียวริตีหลังโดนแฮกเกอร์เจาะระบบเป็นว่าเล่น
ทีมงานย่อยข่าวเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกมาให้คุณแล้ว ไปติดตามกันได้เลย
รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth
S&P 500 +1.62% DJIA -0.15% NASDAQ +3.31%
นักลงทุนสหรัฐฯ มีมุมมองบวกต่อหุ้นเทคโนโลยี หลายบริษัทประกาศผลประกอบการดีเกินคาด ส่งผลให้ตลาดหุ้นคึกคัก แม้จะมีแรงฉุดจากนักลงทุนที่เทขายทำกำไรไปบ้าง แต่ทิศทางการเติบโตยังคงดี ตลาดคาด Fed อาจหยุดขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้
CSI 300 -0.95% TOPIX -0.63% VNI -3.58% SET +0.42%
หุ้นเวียดนามร่วงแรงหลังนักลงทุนเทขายทำกำไร ตลาดหุ้นจีนผันผวนเล็กน้อยจากหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และการแพทย์ หุ้นไทยยังคงไปในทิศทางเดียวกับสหรัฐฯ และยังแข็งแกร่งกว่าตลาดในภูมิภาคเดียวกันอย่างชัดเจน
ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 5 กุมภาพันธ์ 2566
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ตามตลาดคาดการณ์ ถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 8 ติดต่อกัน
ครั้งนี้เป็นสัญญาณดีในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% สอดคล้องกับตัวเลขเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง แต่ทาง Jerome Powell ประธาน Fed บอกว่างานของพวกเขายังไม่เสร็จ เพราะเงินเฟ้อยังไม่ถึงเป้าหมายที่ต้องการ
FOMC มองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือที่ช่วยฉุดเงินเฟ้อให้กลับลงมาได้ แต่การชะลอความเร็วลงจะช่วยให้ FOMC มีความคล่องตัวด้านนโยบายการเงินต่อการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจในอนาคตได้
ตลาดหุ้นตอบสนองด้วยการปรับตัวพุ่งขึ้นแรง โดยเฉพาะดัชนี NASDAQ ที่รวมหุ้นเทคโนโลยีไว้มากมายได้ปรับตัวขึ้นกว่า 3% และนักลงทุนเริ่มชายตามองไปที่หุ้นเทคโนโลยีอีกครั้งนึง อาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลกระทบหนักในปี 2565 ที่ผ่านมา
เพราะจากประวัติศาสตร์จะพบว่า ตลาดหุ้นจะลงไปที่จุดต่ำสุดก่อนเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และตลาดหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นก่อนที่เศรษฐกิจจะกลับตัว
สหรัฐฯ ประกาศอัตราการว่างงานที่ 3.4% ต่ำสุดในรอบ 53 ปี สวนทางกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มีการปลดพนักงานเป็นจำนวนมาก ตัวเลขภาคแรงงานที่แข็งแกร่งจะสร้างแรงกดดันต่อ Fed ในการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดความร้อนแรงของภาคแรงงาน ซึ่งมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อในอนาคตได้
ขณะที่ตัวเลขค่าจ้างล่าสุดขยายตัวที่ 4.4%yoy และ 0.4%mom ต่ำกว่าเดือนที่แล้ว โดยตัวเลขค่าจ้างทั้ง 2 ตัวนี้กำลังบอกว่าแม้ภาคแรงงานจะค่อนข้างตึงตัว ตำแหน่งว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ค่าแรงกลับไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น ค่าแรงที่เพิ่มขึ้นแบบชะลอตัวเป็นอีกหนึ่งดัชนีที่บอกว่าภาคแรงงานอาจจะไม่ได้สร้างปัญหาให้กับภาวะเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ
CME FedWatch Tools ยังคงคาดการณ์ระดับดอกเบี้ยสูงสุดที่ระดับ 4.75% – 5.00% แต่ปรับเพิ่มประมาณการณ์ดอกเบี้ยช่วงปลายปีจาก 4.25% – 4.50% เป็น 4.50% – 4.75% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ปรับเพิ่มขึ้นเป็นเหนือระดับ 4.30% จาก 4.10% สะท้อนความคาดหวังของตลาดว่าเฟดยังคงดอกเบี้ยระดับสูงต่อไป
สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นไปตามที่ Fed บอกไว้ว่าต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มเป็นขาลงอย่างมีเสถียรภาพก่อนถึงจะวางใจ และเริ่มผ่อนคลายการใช้นโยบายการเงินตึงตัว
Jitta Wealth พาไปรู้จักอีกด้านหนึ่งของ Adk ก้องไก่กุ๊กๆ สตรีมเมอร์ลูก 2 การผันตัวจากมนุษย์ออฟฟิศสู่สตรีมเมอร์เต็มเวลา พร้อมประสบการณ์การลงทุนที่ไม่ธรรมดา และการเตรียมพร้อมให้ลูกในอนาคต
เปิดปี 2566 มา ราคาหุ้น Meta พุ่งขึ้นไปเกือบ 50% หลัง Mark Zuckerberg ออกมาเปิดเผยแผนการพัฒนาโซเชียลมีเดียให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หากย้อนไปในปี 2565 ที่ผ่านมา คุณจะเห็นว่า Zuckerberg ทุ่มเทการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง Metaverse แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Zuckerberg บอกว่าปี 2566 นี้จะเป็น ‘ปีแห่งประสิทภาพ’
Zuckerberg ยังบอกอีกว่าเขาจะทำให้องค์กรทำงานสะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความเร็วในปฎิบัติงาน และช่วยบริษัทลดต้นทุนได้อย่างมหาศาลด้วย
ในช่วงปลายปี 2565 Meta ปลดพนักงานไปกว่า 11,000 ตำแหน่งหรือ 13% ของพนักงานทั้งหมดเนื่องจากรายได้ที่ลดลง แต่ด้วยข้อมูลและผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่ยังคงเกาะติดอยู่กับแพลตฟอร์มก็สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ Meta อยู่เสมอ
การกลับมาโฟกัสกับโซเชียลมีเดียเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้น Meta ปรับขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดในปี 2566 นักลงทุนเริ่มกลับมามองเห็นโอกาสเติบโตของ Meta อีกครั้ง
เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official
😚 อัปเดต! วิธีดาวน์โหลดเอกสารภาษีปันผลเพื่อยื่นภาษี
💸 Jitta Wealth ปรับพอร์ตบ่อยเพราะได้ค่าธรรมเนียมซื้อขายจริงหรือ
📊 รีวิวพอร์ต Thematic Optimize ของคุณ Than Money Trick
(ตอบคำถามให้ครบ 3 ข้อ เพื่อเข้าร่วมกลุ่มนะ 🤗)
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ประกาศตัวเลขรายได้หลังหักภาษี (Disposible Income) ในปี 2565 ของ 31 มณฑลทั่วประเทศในวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ตัวเลขรายได้หลังหักภาษีต่อหัวเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 36,883 หยวน เพิ่มขึ้น 5%yoy
โดย 3 อุตสาหกรรมที่มีรายได้ต่อหัวสูงที่สุด ประกอบไปด้วย ‘Information Technology’ ‘Finance’ และ ‘Scientific Research’ ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าแม้ปี 2565 จีนจะประสบกับปัญหาล็อกดาวน์ แต่รายได้หลังหักภาษีต่อหัวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่น่าสังเกตคือกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีรายได้สูงที่สุดของมณฑลเซี่ยงไฮ้ แสดงให้เห็นว่าองค์กรในจีนให้ความสำคัญกับการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์มาก และจ่ายค่าตอบแทนให้กับบุคลากรในอุตสาหกรรมนี้สูง
การเพิ่มขึ้นของรายได้ต่อหัวส่งผลดีต่อการบริโภคในประเทศ หลังสถานการณ์ต่างๆ เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ และจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยดันเศรษฐกิจจีนในปี 2566
รับชม TNN Wealth Talk ‘ถึงเวลาลงดอย กองทุนหุ้นจีน’ กับคุณตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth คุณประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เมอร์ชั่น พาร์ตเนอร์ และคุณ ณัฏฐะ มหัทธนา, CFA ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ถึงเวลาของกองทุนจีนหรือยัง ไปหาคำตอบได้
เศรษฐกิจของเวียดนามยังดีต่อเนื่อง หลังล่าสุดสำนักสถิติเวียดนามประกาศ ยอดค้าปลีกในเดือนมกราคม 2566 ที่ 544 ล้านล้านดองหรือ 23,220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากช่วงเดียวกันของปี 2565
แม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและการบริโภคจะดันอัตราเงินเฟ้อทั่วไปให้ปรับขึ้นสูง แต่เป็นสัญญาณดีว่าการบริโภคในเวียดนามได้ฟื้นตัวกลับมาแล้ว และจะส่งผลดีต่อการเติบโตของเวียดนามอย่างชัดเจน
ในปี 2566 ภาคส่งออกอาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลต่อนโยบายการเงินของเวียดนามเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ แต่ตอนนี้ตลาดเวียดนามยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่อง เพราะมี ‘หุ้นคุณภาพดี ราคาถูก’ มากมาย
อัตราเงินเฟ้อคือสิ่งที่เวียดนามต้องเฝ้าระวังไว้ หากควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ จะทำให้เวียดนามมีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน
ถึงตอนนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ChatGPT เจ้า Chatbot อัจฉริยะของ OpenAI แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนยังไม่รู้คือ เจ้า ChatGPT เขามีความเห็นทางการเงินในโลกอนาคตมาแชร์ให้ทุกคนฟังกันด้วย Jitta Wealth ไปสัมภาษณ์เขามาให้ทุกคน
แฮกเกอร์มุ่งโจมตีทางไซเบอร์ในองค์กรของญี่ปุ่นมากขึ้น เนื่องจากญี่ปุ่นยังล้าหลังในด้านนี้เมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ แต่รัฐบาลญี่ปุ่นไม่นิ่งเฉย เร่งพัฒนาระบบไซเบอร์ซิเคียวริตี
สำนักข่าว Nikkei รายงานว่ามีพนักงานด้านไอทีของญี่ปุ่นเพียง 34% เท่านั้นที่สามารถตรวจสอบความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้ เมื่อเทียบกับต่างประเทศที่มีถึง 42% ซึ่งเคสถูกโจมตีต่อวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 และในปี 2565 ที่ผ่านมามีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตมากถึง 7,800 เคสต่อวัน เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากปี 2562
รัฐบาลญี่ปุ่นได้เริ่มสร้างระบบเพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ หลังจากได้ร่างยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงแห่งชาติเพื่อเสริมการป้องกันทางไซเบอร์ของประเทศแล้ว
ในยุค Digital Transformation มีการโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลายประเทศยังไม่ค่อยตื่นตัวกับการโจมตีนี้ อุตสาหกรรมไซเบอร์ซิเคียวริตียังมีช่องว่างอีกมากให้เติบโต เพื่อช่วยเหลือองค์กรในแต่ละประเทศป้องกันการโจมตีเหล่านี้ได้
มาเจาะลึกกลโกงแชร์ลูกโซ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความเสียหายกว่า 2 ล้านล้านบาทกับชายที่ชื่อ Bernie Madoff โคตรปีศาจแห่ง Wall Street
ฟัง Passive Way Podcast ซีรีส์ 2 Episode 08
เป็นสัปดาห์ที่เหมือนจะมีแต่ข่าวดีๆ ในตลาดหุ้นทั่วโลกทั้งนั้นเลย ทั้งนักลงทุนสหรัฐฯ เริ่มมองบวกต่อหุ้นเทคโนโลยี หลังจากที่หลายบริษัทเทคฯ มีผลประกอบการดีเกินคาด หุ้น Meta เองที่เคยร่วงไปก่อนหน้า ก็พุ่งทะยานกลับมาในช่วงนี้
แถม Fed ยังขึ้นดอกเบี้ยแค่ 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ สอดคล้องกับตัวเลขเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มผ่อนคลาย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จึงปรับตัวขึ้น แปลว่า Fed เริ่มถอนคันเร่งบ้างแล้ว
เศรษฐกิจทางฝั่งเอเชียเองก็ดีวันดีคืน รายได้ต่อหัวของคนจีนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยดันเศรษฐกิจจีนให้กลับมาเติบโต เศรษฐกิจเวียดนามเองก็แรงดีไม่มีตก หลังยอดค้าปลีกพุ่งขึ้นกว่า 20%
ภาพรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกดีขึ้นให้นักลงทุนได้ชื่นใจบ้างแล้ว เหมือนตลาดหุ้นกำลังบอกรักนักลงทุนต้อนรับเดือนแห่งความรักเลย
ขอให้นักลงทุนทุกคนมีความรักที่ดี สุขภาพพอร์ตแข็งแรงนะ
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า