Jitta Wealth Journal - Jack Ma มาแล้ว! จีนอนุมัติระดมทุน Ant Group

10 มกราคม 2566Jitta WealthJitta Wealth Journal

Fed ประกาศกร้าวขึ้นดอกเบี้ยต่อ แต่ตลาดไม่คิดแบบนั้น

Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 111 ประจำวันที่ 10 มกราคม 2566

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มองสวน แม้ Fed จะประกาศว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตลาดหุ้นจีนพลิกกลับมาแรงรับกระแสการเปิดประเทศของจีน และกระแสเกี่ยวกับ Ant Group ที่ในตอนนี้ทางการจีนมีท่าทีอ่อนลงอย่างชัดเจน Standard Chartered คาดเศรษฐกิจเวียดนามโต 7.2% ในปีนี้ CATL จับมือ BYD ครองตลาดแบตเตอรี่โลก

ทีมงานย่อยข่าวเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกมาให้คุณแล้ว ไปติดตามกันได้เลย

รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth


ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ

S&P 500 +1.45% DJIA +1.46% NASDAQ +0.98%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดบวกต้อนรับสัปดาห์แรกของปี 2566 นักลงทุนมองว่า Fed จะลดความร้อนแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ตามตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงเรื่อยๆ แม้หุ้นตัวใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Apple และ Tesla จะปรับตัวลดลงแต่โดยรวมตลาดยังไปในทิศทางบวก 

ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย

CSI 300 +2.82% TOPIX -0.84% VNI +4.37% SET +0.31%

ตลาดหุ้นจีนบวกแรงรับกระแสเปิดประเทศ หุ้นเกี่ยวกับ Information Technology ปรับขึ้นแรงหลังจีนเปิดตัวตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกในปักกิ่ง ตลาดหุ้นเวียดนามบวกแรงจากหุ้นกลุ่มธนาคารและต่างชาติเข้าซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินเยนที่กำลังอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 8 มกราคม 2566


Jitta Wealth แจก Wallpaper สายมู VI 

พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้! 

มูต้องปัง หลักการต้องเป๊ะ เพราะเรื่องลงทุน มูอย่างเดียวไม่พอ 

ให้นักลงทุนระดับโลกมา Quote เตือนใจคุณ ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีของการลงทุนของคุณ 

ดาวน์โหลด Wallpaper


เศรษฐกิจจีน

Jack Ma มาแล้ว! จีนอนุมัติระดมทุน Ant Group

หน่วยงานกำกับดูแลของจีนอนุมัติแผนระดมทุน Ant Group เป็นจำนวนเงินประมาณ 10,500 ล้านหยวน หรือ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งสัญญาณบวกบางอย่างต่อกลุ่มธุรกิจ 

คณะกรรมการธนาคารและประกันภัยจีนได้เปิดไฟเขียวให้ Ant Group เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 18,500 ล้านหยวน ทำให้รัฐบาลเมืองหางโจวถือหุ้น Ant Group เพิ่มเป็น 10% กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของ Ant Group 

การปลดล็อกครั้งนี้เป็นสัญญาณดีมากของ Ant Group หลังจากถูกควบคุมไม่ให้เข้า Initial Public Offering (IPO) ในปี 2563 เนื่องจากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล และเป็นสัญญาณดีสำหรับการผ่อนคลายการควบคุมบริษัทบิ๊กเทคของจีนอีกด้วย

จากข่าวดังกล่าวทำให้หุ้น BABA ในสหรัฐฯ ปรับขึ้นอย่างแรงถึง +21.92% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และเป็นสัญญาณดีที่ตลาดหุ้นจีนจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ในปี 2566 นี้ หากคุณสังเกตตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 ที่ผ่านมาจบพบว่า รัฐบาลจีนผ่อนคลายการควบคุมบริษัทบิ๊กเทคอย่างต่อเนื่อง

แน่นอนว่าข่าวนี้อาจจะเป็นเพียงแนวโน้มระยะสั้นแต่เป็นจุดเริ่มต้นและการเปิดปี 2566 ที่ดีของฝั่งจีน ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจากสถานการณ์การผ่อนคลาย และการเปิดประเทศของจีนในปีนี้ จะทำให้จีนกลับมาเติบโตได้มากแค่ไหน 

จีนเล็งถูกจุด…ฟื้นฟูภาคอสังหาฯ ดันตลาดระยะยาว

จีนกลับมาอนุญาตให้บริษัทอสังหาฯ สามารถระดมทุนจากกองทุน Private Equity ได้อีกครั้ง เป็นมาตรการเร่งช่วยแก้ปัญหาภาคอสังหาฯ โดยรวม 

Asset Management Association of China ได้อนุญาตให้กองทุนประเภท Private Equity สามารถจดทะเบียนกองทุนใหม่ที่เข้าไปลงทุนในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ได้ หลังจากหยุดออกใบอนุญาตตั้งแต่ปี 2564

การที่ภาคอสังหาไม่สามารถระดมทุนจากกองทุน Private Equity ได้ ทำให้บริษัทอสังหาฯ หลายแห่งขาดสภาพคล่อง เป็นเหตุให้บริษัทอสังหาฯ บางรายต้องชะลอหรือหยุดการก่อสร้าง ปัญหานี้ได้ลามไปถึงประชาชนจีนที่หยุดจ่ายค่างวดบ้านให้กับธนาคารเลยทีเดียว

ตัวเลขยอดขายบ้านในจีนยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง จากผลกระทบมาตรการ Zero-COVID ดังนั้นรัฐบาลจึงออกมาตรการช่วยเหลือต่างๆ เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาฯ ให้กลับมาเติบโตได้อีกครั้งนึง

ภาคอสังหาฯ มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจจีนอย่างมาก ดังนั้นรัฐบาลต้องพยายามหามาตรการในการช่วยเหลือทั้งด้านหนี้ ยอดขาย และสภาพคล่อง เป็นไปได้ว่าในปี 2566 นี้คุณจะได้เห็นมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาฯ ของทางการจีนอย่างต่อเนื่อง


Talk of the Town 

เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official

🤔 เกิดอะไรขึ้น?! ทำไม Jitta Wealth ขาย ETF ใน Thematic DIY

🎉 แนวทางกลุ่ม Jitta Wealth Official จะเป็นยังไงในปี 2566

Jitta Ranking คำนวณได้ละเอียดมากแค่ไหน

มาร่วมพูดคุยกับเรา

(ตอบคำถามให้ครบ 3 ข้อ เพื่อเข้าร่วมกลุ่มนะ 🤗)


เศรษฐกิจสหรัฐฯ 

Fed ประกาศกร้าวขึ้นดอกเบี้ยต่อ แต่ตลาดไม่คิดแบบนั้น

คณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ประกาศรายงานการประชุมรอบเดือนธันวาคม โดยมีเนื้อหาหนักแน่นที่จะ ‘คงระดับดอกเบี้ยสูง และไม่มีท่าทีจะลดดอกเบี้ยในปี 2566’ 

FOMC มองว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่ลดลง แต่ยังคงห่างไกลกับระดับเป้าหมายที่ 2% โดยมองว่าการปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีเสถียรภาพมากเท่าไร ดังนั้นการคงดอกเบี้ยสูงเพื่อดึงเงินเฟ้อยังเป็นสิ่งจำเป็น

ในรายงานการประชุมไม่มีคณะกรรมการคนไหนเลย ที่คาดการณ์ปรับลดดอกเบี้ยในปี 2566 โดยนักเศรษฐศาสตร์สหรัฐฯ มองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) เร็วๆ นี้ เป็นผลกระทบจากนโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ยที่สูง

แต่ Fed ก็ยังไม่ปฏิเสธที่จะปรับเปลี่ยนนโยบาย หากตัวเลขเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่เริ่มไปสู่จุดเป้าหมายที่ Fed ต้องการ โดยประธาน Fed ได้บอกเอาไว้เสมอว่า “การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในแต่ละครั้งต้องพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจ ณ ช่วงเวลานั้นประกอบด้วย”

ในขณะเดียวกันทางฝั่งตลาดมองว่าดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ Wall Street คาดการณ์ว่า Recession มีโอกาสเกิดขึ้นประมาณ 65% เป็นเหตุผลว่าทำไมตลาดจึงคาดการณ์สวนทาง FOMC ในการปรับลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี

จีนและสหรัฐฯ เตรียมสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

Qin Gang อดีตเอกอัครราชทูตจีนจีนประจำสหรัฐฯ รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแทน Wang Yi ที่ขึ้นไปเป็นรองนายกรัฐมนตรีดูเรื่องต่างประเทศ โดยการเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ส่งสัญญาณดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และ จีน 

Qin มีความคุ้นเคยกับรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นอย่างดีโดยเฉพาะรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ Antony Blinken โดย Blinken ได้กล่าวผ่าน Twitter ว่า ได้ต่อสายตรงคุยกับ Qin Gang เพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

แม้ว่าทั้งจีนและสหรัฐฯ จะมีความขัดแย้งในหลายด้าน แต่ความสัมพันธ์ด้านการค้าขายหรือด้านอื่น ยังคงมีอยู่ ทั้งจีนและสหรัฐฯ ต่างก็มีส่วนที่จำเป็นต้องพึ่งพากันและกันอยู่บ้าง หากความตึงเครียดและการแข่งขันผ่อนคลายลง จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมหาศาลทีเดียว


‘จับจังหวะตลาด’ ดีจริงไหม…คุ้มค่าแค่ไหน? 

กลยุทธ์ ‘จับจังหวะตลาด’ เป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนทั่วโลกเคยใช้ 

แต่มันสร้างผลตอบแทนได้แตกต่างมหาศาลหรือไม่ 

หรือมีกลยุทธ์อะไรที่เรียบง่าย และอาจจะเหมาะกับคุณมากกว่า 

ไปหาคำตอบได้ในบทความนี้ 


เศรษฐกิจเวียดนาม 

Standard Chartered คาดปีนี้เศรษฐกิจเวียดนามโตพุ่ง 7.2% 

Standard Chartered ประมาณการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2566 อยู่ที่ 7.2% ลดลงจากตัวเลขจริงของปี 2565 ที่ 8.02% แต่ยังสูงเมื่อเทียบในภูมิภาค

Tim Leelahaphan นักเศรษฐศาสตร์จาก Standard Chartered ให้ความเห็นว่า “ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตที่สูงของเวียดนาม” 

แม้ว่าในช่วงไตรมาส 4 ปี 2565 ตัวเลขเศรษฐกิจจะอ่อนลงบางตัว แต่ตัวเลขค้าปลีกและการบริโภคในประเทศยังคงแข็งแกร่ง แสดงถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่เพิ่มขึ้น มีการลงทุนจากต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามาในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น

นอกจากนี้การลงทุนจากต่างประเทศยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนสำหรับเศรษฐกิจเวียดนาม โดยเฉพาะการลงทุนจากจีนที่น่าเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง เวียดนามยังคงเนื้อหอมอย่างต่อเนื่อง


‘ลิซ่า BLACKPINK’ ชีวิตจริงที่ไม่ได้ BORN PINK มาง่ายๆ 

คนที่ประสบความสำเร็จจะมีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันเสมอ คือ ‘ความอดทน’ 

วันนี้เราถือโอกาสนำเรื่องราวความอดทนของ ลิซ่า Blackpink 

ที่เข้ากับกับสถานการณ์การลงทุนในช่วงนี้อย่างมาก

อ่านเรื่องราว ลิซ่า Blackpink ต่อได้ที่ 


แบตเตอรี่และลิเธียม 

CATL จับมือ BYD ครองส่วนแบ่งตลาดแบตเตอรี่โลก 

CNEVPost รายงานยอดติดตั้งแบตเตอรี่ในเดือนพฤศจิกายน ทำให้เราได้พบเจอกับสิ่งที่น่าสนใจที่จะนำมารายงานให้คุณดังนี้

  • CATL มีส่วนแบ่งในตลาดแบตเตอรี่โลก 40.9% สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 
  • BYD มีส่วนแบ่งในตลาดแบตเตอรี่โลก 15.6% ตามมาเป็นอันดับ 2 
  • LG มีส่วนแบ่งในตลาดแบตเตอรี่โลก 11.9% ครองตำแหน่งอันดับ 3

สาเหตุมาจากการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ที่ทำให้บริษัทแบตเตอรี่ของจีนสามารถครองส่วนแบบการตลาดโลกได้เกือบครึ่ง

อุตสาหกรรมแบตเตอรี่มีความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ รวมไปถึงเทรนด์การใช้พลังงานสะอาดในอนาคต ซึ่งครึ่งหนึ่งมาจากผู้ผลิตจากจีน รวมไปถึงเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2603 ของจีน จะช่วยเร่งการเติบโตของธีมพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่องในอนาคต


ปีนี้มีเรื่องน่าลุ้นหลายเรื่องอยู่เหมือนกันนะ หลายประเทศฟื้นตัวจากการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเริ่มหลั่งไหลเข้าประเทศ สร้างรายได้อย่างมหาศาลรวมทั้งในประเทศไทยด้วยเช่นกัน 

เริ่มต้นปี 2566 จีนดูเหมือนจะออกตัวแรงมาก และมีหลายเหตุการณ์ที่ช่วยกระตุ้นทั้งตลาดหุ้นและเศรษฐกิจให้เติบโตอีกครั้งนึง ทำให้รู้ว่าปีนี้จีนไม่ได้มาเล่นๆ และพร้อมจะพุ่งทะยานพิชิตเป้าหมายการเติบโตให้ได้ 

รวมไปถึงธีมเมกะเทรนด์หลายธีมที่เริ่มเห็นแนวโน้มเติบโตมากขึ้น เชื่อว่าในปีนี้คงได้เห็นอะไรที่ชัดเจนขึ้นอีก และแน่นอนว่า Jitta Wealth Journal จะคอยอัปเดตสถานการณ์นั้นให้กับคุณอยู่เสมอ

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า 


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – จีนเปิดประเทศ ‘ไทย’ จุดหมายหลัก

Jitta Wealth Journal – ญี่ปุ่นคึกคัก นักท่องเที่ยวเพิ่มเท่าตัว

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด