สรุป Live ล้วงลับ! หุ้นญี่ปุ่นพิฆาตฟาดกำไร 9 เด้ง

18 สิงหาคม 2565EventsJitta RankingLive

Live ล้วงลับ! หุ้นญี่ปุ่นพิฆาตฟาดกำไร 9 เด้ง ของ Jitta Wealth เดือนสิงหาคม 2565 เป็น Live สดที่คุณเผ่า แห่ง Jitta Wealth และคุณอาร์ต ชัชวนันท์ สันธิเดช ผู้ก่อตั้งเพจ Club VI มาร่วมพูดคุยถึงภาพรวมและแนวโน้มการเติบโตของตลาดหุ้นญี่ปุ่น รวมไปถึงนโยบายเศรษฐกิจและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังน่าลงทุน 

หากคุณพลาดชม Live สด สามารถรับชมวิดีโอย้อนหลังได้ที่ Facebook และ Youtube 

ดูวิดีโอ CEO ของ Jitta Wealth ย้อนหลัง 

คุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth และ คุณอาร์ต ชัชวนันท์ สันธิเดช ผู้ก่อตั้งเพจ Club VI ได้พูดถึงมุมมองของการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นที่หลายคนเข้าใจว่าเป็น Lost Decades ที่เติบโตช้า และคิดว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นไม่น่าสนใจในการลงทุนแล้ว 

ทำให้หลายๆ คนไม่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นญี่ปุ่นสักเท่าไรนัก แต่คุณอาร์ตได้อัปเดตว่าในช่วง 10 ปีหลัง เศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มเติบโตขึ้นแบบเงียบๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนไม่รู้ และในวันนี้เราจะพาคุณไปล้วงลึก ‘ตลาดหุ้นญี่ปุ่น’ ว่ายังมีโอกาสลงทุนอยู่หรือไม่

มุมมอง ‘เศรษฐกิจญี่ปุ่น’ ในช่วง 10 ปีหลัง 

คุณเผ่า ได้อธิบายถึงจุดเด่นของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นญี่ปุ่นว่ามีหลายอย่างที่น่าสนใจ ดังนี้

  • ญี่ปุ่นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก
  • มีเงินสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก

และรวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย และจะเห็นได้ว่าญี่ปุ่นไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลกมากนัก เพราะอัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นอยู่ที่ 2.4% เท่านั้น 

นอกจากนี้ คุณเผ่าได้บอกว่าในตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีหุ้นถูกและดีเป็นจำนวนมาก และในปี 2565 นี้ญี่ปุ่นได้ถูกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 2.4% สูงสุดในรอบ 12 ปี

คุณอาร์ต ได้พูดถึงมุมมองการอยู่อาศัยในญี่ปุ่น ซึ่งได้พูดถึงทั้งแง่บวกและแง่ลบ และให้ความเห็นว่า ‘ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่น่าไปเที่ยว แต่ไม่น่าอยู่’ แต่ทุกคนต้องยอมรับว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีระเบียบมาก และมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสูง รวมไปถึงใส่ใจคุณภาพชีวิตประชากรอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจญี่ปุ่น เริ่มมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีมากขึ้นจากการบริหารประเทศของอดีตนายก Shinzo Abe ผู้ล่วงลับ ที่กระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้เติบโต และยังเป็นคนสำคัญที่ช่วยให้คนไทยได้เข้าประเทศญี่ปุ่นได้แบบไม่ต้องขอวีซ่า 

อดีตนายกรัฐมนตรี Abe เป็นคนที่กล้าจะออกนอกกรอบ และปรับเปลี่ยนญี่ปุ่นไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้นอย่างมาก รวมไปถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากรให้ดีกว่าเดิม 

โดย Abe ได้พยายามผลักญี่ปุ่นให้ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งด้วยมูลค่าเศรษฐกิจที่ใหญ่มากของญี่ปุ่น การจะผลักดันญี่ปุ่นให้เติบโตเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่อดีตนายกฯ Abe สามารถทำได้ 

แต่ก็ต้องบอกว่าก็มีคนญี่ปุ่นกลุ่มนึงที่ไม่ชอบการบริหารของนายก Abe เช่นกัน ซึ่งเป็น คนญี่ปุ่นที่ Conservative มาก หรือ คนที่คิดว่า Abe ควรบริหารได้ดีกว่านี้ ทำให้เกิดกระแสการประท้วงขึ้นบ้าง แต่หากมองภาพรวมการบริหารของอดีตนายกฯ Abe ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว

คุณเผ่า พูดถึงบริษัทญี่ปุ่นที่มีอายุเกิน 100 ปี โดยบอกว่าบริษัทที่มีอายุเกิน 100 ปี ทั่วโลกมากกว่า 56% อยู่ในญี่ปุ่น หมายความว่ามีบริษัทเก่าแก่ที่สามารถเติบโตขึ้นได้ในยุคปัจจุบัน ซึ่งหากมองถึงสินค้าและธุรกิจบางอย่างจะเป็นธุรกิจดั้งเดิมที่เก่าแก่ซะจนหาไม่ได้จากประเทศอื่นแล้ว 

คุณอาร์ต ได้เสริมในจุดนี้ว่าด้วยความ ‘Conservative’ และ ‘ความเป็นญี่ปุ่น’ ทำให้ธุรกิจเก่าแก่ยังสามารถคงอยู่ต่อไปได้ ซึ่งสามารถปรับไปถึงเรื่องการลงทุนด้วยเช่นกัน หากใครสนใจจะลงทุนในญี่ปุ่น จำเป็นต้องใช้ ‘มุมมองแบบญี่ปุ่น’ จะทำให้เข้าใจและทำให้สามารถวิเคราะห์หุ้นญี่ปุ่นได้ดีขึ้น 

Q: คิดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเติบโตไปได้อีกมากแค่ไหน 

คุณอาร์ต ได้พูดถึงทีมบริหารประเทศญี่ปุ่นในอนาคตว่า หากมีความพลิกแพลง กล้าออกนอกกรอบ และใช้นโยบายเหมือนกับที่ Shinzo Abe ทำ ก็ยังมีโอกาสเติบโตมากขึ้น แต่ต้องบอกว่าหากจะคาดการณ์แนวโน้มจริงๆ เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะไม่มีใครสามารถทำนายอนาคตได้อย่างชัดเจน 

Q: หากสนใจจะลงทุนหุ้นญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ควรเริ่มต้นยังไง

คุณอาร์ต ได้บอกว่าหากมีความสนใจจะเข้าไปลงทุนหุ้นญี่ปุ่น ให้เริ่มจากการเจาะลึกรายอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น คุณอาร์ตได้แชร์มุมมองและประสบการณ์ที่เคยได้ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมค้าปลีก 

เพราะมองว่าอุตสาหกรรมค้าปลีกของญี่ปุ่นมีความน่าสนใจและน่าลงทุน รวมถึงยังขยายธุรกิจออกไปในอุตสาหกรรมอื่นได้อย่างมหาศาล ซึ่งอุตสาหกรรมค้าปลีกของญี่ปุ่นจะค่อนข้างมีความแตกต่างกับสหรัฐฯ หรือไทยอย่างเห็นได้ชัด 

สำหรับทางฝั่งยุโรป อีคอมเมิร์ซเริ่มเข้ามากินส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกมากแล้ว แต่ไม่ใช่ในญี่ปุ่น นี่คือมุมมองความเป็นญี่ปุ่นและความ Conservative ที่ยังคงอนุรักษ์และให้ความสำคัญกับธุรกิจในประเทศซึ่งเป็นเสน่ห์ของคนญี่ปุ่นอย่างแท้จริง 

คุณอาร์ตพยายามค้นหาหุ้นญี่ปุ่นคุณภาพดีและเจอหลายบริษัทด้วยกัน หนึ่งในหุ้นญี่ปุ่นที่คุณอาร์ตลงทุน คือ Pan Pacific International Holdings Corporation ที่มีรายได้และกำไรสุทธิโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และราคาเคยขยับขึ้นไป 1 เท่าตัว หรือเป็น ‘หุ้น 1 เด้ง’ในเวลา 3 ปี

แต่คุณอาร์ตได้ย้ำเตือนการคัดเลือกหุ้นบริษัทญี่ปุ่นเพื่อลงทุนว่า ค่อนข้างหายาก ถึงแม้ว่าจะเคยไปอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นและเลือกลงทุนตามไลฟ์สไตล์ก็ตาม ซึ่งหุ้น Pan Pacific International เป็นหุ้นที่คุณอาร์ตรู้จักและใช้บริการอยู่แล้วจึงตัดสินใจเลือกลงทุนในหุ้นบริษัทนี้ 

Q: ญี่ปุ่นเคยเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีช่วงนึง แต่ทำไมสุดท้ายถึงหายไป

คุณเผ่า ในช่วงที่ถูกเรียกว่า Lost Decades ของญี่ปุ่น สถาบันการเงินใหญ่ๆ ไม่กล้าปล่อยกู้ให้กับธุรกิจใหม่ๆ ทำให้การพัฒนาไม่สามารถแข่งขันกับประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ได้ แต่จะเห็นว่าในตอนนี้ญี่ปุ่นเริ่มกำลังจะกลับมาสู่เส้นทางเทคโนโลยีอีกครั้งแล้ว 

รวมไปถึงนโยบายการสนับสนุนจากรัฐบาลเช่นกัน ที่เริ่มเปลี่ยนสู่ยุค Digital Transformation เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้หลายอุตสาหกรรมีการพัฒนาที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น 

เรื่องที่หลายคนยังไม่รู้ คือ มีบริษัทญี่ปุ่นมากมายเป็นพาร์ตเนอร์หรือทำงานเบื้องหลังบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Apple และ Tesla และต้องบอกว่าหาก Apple และ Tesla ขาดบริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนสำคัญไปอาจทำให้สินค้าขาดแคลนเลยก็ได้ 

ซึ่งคุณสามารถไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ‘บริษัทญี่ปุ่นผู้สร้างเทคโนโลยีล้ำยุค’ ได้ที่นี่ 

เหตุผลที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกเลือกบริษัทญี่ปุ่นในการผลิตสินค้า เพราะมั่นใจในคุณภาพสินค้าที่ผลิตจากบริษัทญี่ปุ่น และทำให้คนทั่วโลกมั่นใจในแบรนด์ที่แปะป้าย Made in Japan ว่าคุณจะได้สินค้าคุณภาพดีอย่างแน่นอน

คุณอาร์ต ได้พูดถึงการทำงานของคนญี่ปุ่นว่า ‘คนญี่ปุ่นจะมี Passionในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ให้ออกมาดีที่สุด’ ทำให้มั่นใจว่าสินค้าและสิ่งต่างๆ ที่คุณได้รับมาจากญี่ปุ่นจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและมีคุณภาพอย่างแน่นอน

Q: ทำไม Jitta Wealth ถึงเปิดนโยบายลงทุน Jitta Ranking ญี่ปุ่น 

คุณเผ่า หลักการจัดพอร์ตของเราคือ QVI (Quantitative Value Investing) ที่จะวิเคราะห์หุ้นทุกตัว เอาตัวเลขทางการเงินมาวิเคราะห์เป็น Jitta Score ที่บอกคุณภาพหุ้น และ Jitta Line ที่บอกว่าราคาเหมาะสมเป็นอย่างไร ถูกหรือแพงเกินไปหรือไม่ และ Jitta Wealth ก็จะทำตามหลักการคือ การซื้อหุ้นดีราคาถูก และกระจายความเสี่ยงโดยการซื้อหุ้นจำนวน 20-30 ตัว พร้อมทั้งคอยปรับพอร์ตให้เรื่อยๆ ทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้พอร์ตลงทุนดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ เมื่อเราได้หุ้นมาเราก็เอามาทำ Back test 10 ปีย้อนหลังซึ่งก็พบว่าผลตอบแทนออกมาดีมาก 

Jitta Wealth ค้นหาหุ้นดีอยู่เรื่อยๆ ผมสังเกตุว่าดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นตลอด 10 ปี ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ เติบโตเฉลี่ยกว่า 13% ต่อปี ซึ่งเป็นรองตลาดหุ้นแค่ 3 ประเทศเท่านั้น คือ เวียดนาม อินเดีย แบะสหรัฐอเมริกา นี่คือสิ่งที่ Jitta Wealth เห็นว่าญี่ปุ่นคือตลาดหุ้นที่ถูกลืมไปแล้ว 

มาดูการทดสอบผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี Jitta Ranking ญี่ปุ่น จะพบว่าเมื่อเทียบกับดัชนี TOPIX กับวิธีการลงทุนตามนโยบายของ Jitta Ranking ญี่ปุ่น TOPIX เติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปี แต่มูลค่าพอร์ตของนโยบาย Jitta Ranking ญี่ปุ่นทำกำไรเฉลี่ยได้ประมาณ 26% ต่อปี ซึ่งเป็นที่มาที่ Jitta Wealth พูดว่า ‘ลงทุนหุ้นญี่ปุ่นกำไร 9 เด้ง’ 

ต้องบอกก่อนว่าไม่มีหลักการอะไรที่จะเอาชนะตลาดได้ทุกปี แต่เมื่อเรามองระยะยาวแล้ว หลังวิกฤตหุ้นมักจะได้ผลตอบแทนที่ดี แล้วเมื่อไหร่ที่ตลาดหุ้นขึ้นดี นักลงทุนเข้ามาลงทุนมากๆ หุ้น VI ก็จะทำงานได้ดีมาก ซึ่งผมเห็นว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นเติบโตได้ดี และ Back test ก็ทำผลตอบแทนชนะดัชนีได้เกือบเท่าตัว ทำให้ผมไปดูที่มาก็พบว่าหุ้นญี่ปุ่นมีมากกว่า 3,000 ตัว คนต่างชาติหรือคนในประเทศเองก็ไม่สนใจเท่าไหร่ ทำให้งบการเงินแต่ละบริษัทส่วนมากค่อยๆ เติบโต ราคาไม่ได้พุ่งสูงแบบฉับพลัน จึงมีหุ้นหลายตัวที่ไม่ได้หวือหวามากแต่เติบโตได้เรื่อยๆ และถ้าย้อนไปดูดัชนีหุ้นญี่ปุ่นตลอด 10 ปี มีเพียงปีเดียวเท่านั้นที่ให้ผลตอบแทนติดลบ 

ที่สำคัญญี่ปุ่นมีหุ้น 10 เด้งอยู่เยอะเหมือนกัน ที่สำคัญญี่ปุ่นมีบริษัทเทคโนโลยี บริษัทคลาวด์ ซึ่งมีรายได้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และยังเป็นกลุ่มที่รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ญี่ปุ่นไม่ได้มีเพียงหุ้น Soft Power อย่างเดียว ตอนนี้คุณต้องเปิดใจกับหุ้นญี่ปุ่นบ้างแล้ว 

Q: ถ้าคุณอาร์ตเลือกหุ้นญี่ปุ่นเอง คุณอาร์ตจะดูจากอะไรบ้าง 

คุณอาร์ต การเลือกหุ้นแบบ QVI ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าส่วนตัวแล้วผมจะลงทุนแบบโฟกัสเลือกหุ้นเป็นรายตัว ซึ่งผมก็ใช้ Jitta.com ในการหาข้อมูลหุ้นญี่ปุ่น และเราก็เลือกหุ้นเป็นรายตัวเข้าพอร์ตของเราเอง ส่วนตัวแล้วถ้าใครที่มีพอร์ตใหญ่ระดับหนึ่ง อาจจะซื้อเป็นกองทุนก็ได้ แต่อีกด้านหนึ่งคุณอาจจะเลือกเป็นหุ้นรายตัวไปด้วยก็ได้ 

Q&A

Q: สังคมผู้สูงอายุของญี่ปุ่น รัฐบาลญี่ปุ่นจัดการอย่างไร  

คุณอาร์ต เป็นข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันที มันเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แต่ถ้าพูดถึงการลงทุน ญี่ปุ่นก็มีธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์จากตรงนี้ เช่น บ้านพักคนชรา ธุรกิจ Healthtech ธุรกิจ Healthcare ซึ่งก็เหมือนเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะหาประโยชน์ได้จากเทรนด์นี้ ไม่ว่าข้อจำกัดจะเป็นอย่างไร มีโอกาสในการลงทุนได้เสมอ 

คุณเผ่า ในภาพใหญ่ที่เรากลัวแต่ก็ยังมีธุรกิจที่ดีที่ยังเติบโตไปได้ รวมถึงนโยบายของรัฐบาลเองก็มีการสนับสนุนให้ผู้สูงอายุกลับมาทำงานด้วย 

คุณอาร์ต ผมเข้าใจว่าทำไมหลายคนกังวลในเรื่องนี้เมื่อพูดถึงเศรษฐกิจญี่ปุ่น 

คุณเผ่า อย่างหนึ่งที่อยากให้มองเช่นกันคือ แรงงานเป็นสิ่งสำคัญ แต่แรงงานขั้นสูงสำคัญกว่าแรงงานทั่วไป ซึ่งญี่ปุ่นเองมีผู้ที่มีทักษะสูงอยู่มาก 

คุณอาร์ต ที่นี่ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลต่อไปนี้ว่าจะจัดการเรื่องเหล่านี้อย่างไร จะเอาแรงงานต่างชาติเข้าไปหรือไม่ ต้องมาดูกัน 

คุณเผ่า ในฐานะนักลงทุน ภาพที่เราเห็นใหญ่ๆ กับเรื่องหุ้นอาจจะแตกต่างกัน อย่างที่เห็นว่าเมื่อคุณดูงบการเงินย้อนหลังที่ผ่านมาก็มีหุ้น 10 เด้งเยอะแยะ ในข้อจำกัดมีโอกาสอยู่ 

Q: ญี่ปุ่นมีคนรุ่นใหม่ ชอบอยู่บ้านเยอะ รัฐบาลมีวิธีจัดการอย่างไร

คุณอาร์ต คนที่เป็นแบบนี้ก็มีในทุกสังคม คนญี่ปุ่นที่ทำงานก็ยังมีเยอะอยู่ รัฐบาลจะแก้ไขแล้วใช้ประโยชน์อย่างไรกับคนที่ทำงาน ทำให้เขาใช้จ่ายได้อย่างไร หรืออาจจะยืดอายุเกษียณ หรือกล้าที่จะเอาคนที่เป็นแรงงานต่างชาติเข้าไปหรือไม่ แต่เราอย่างไปมาแต่ว่าคนกลุ่มหนึ่งมีปัญหาแล้วประเทศจะพัง 

คุณเผ่า เป็นเรื่องจริงที่รัฐบาลเขาเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้ แต่การลงทุนในหุ้นคือการลงทุนในบริษัท บริษัทดีๆ ยังมีอยู่เยอะ ไม่ได้เกี่ยวกับคนเหล่านี้ 

Q: ถ้าเป็นคุณอาร์ต ระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่น เลือกประเทศใด

คุณอาร์ต ผมลงทุนในญี่ปุ่นอยู่แล้ว แต่เวียดนามถ้าจะลงทุนต้องลงเฉพาะหุ้นใหญ่ๆ เท่านั้นเพราะหาข้อมูลง่าย มีข้อมูลที่ทั่วถึง หุ้นเล็กๆ เราไม่ได้รู้จักเชิงลึกเพียงพอ หรืออาจจะซื้อเป็นลักษณะกองทุนรวมแทน 

Q: ค่าเงินเยนตกในรอบ 20 ปี เพราะอะไร 

คุณอาร์ต เป็นเรื่องปกติ เพราะดอกเบี้ยติดลบ เงินจึงไหลออกเป็นเรื่องปกติ ธรรมชาติของเงินคือไหลไปในที่ที่ผลตอบแทนสูงกว่าอยู่แล้ว 

คุณเผ่า ปัจจุบันญี่ปุ่นดอกเบี้ยติดลบ เงินจึงไหลออก

Q: ถ้าสนใจลงทุนระยะยาวเก็บให้ลูกตอนโต Jitta Ranking ญี่ปุ่นมีความน่าสนใจแค่ไหน 

คุณเผ่า ขอพูดถึงค่าเงินตอนนี้ก่อนแล้วกัน การแลกเงินเป็นเงินเยนตอนนี้ก็อาจจะดี 

คุณอาร์ต เป็นประเทศไม่กี่ประเทศในโลกที่เราแลกตอนนี้แล้วคุ้ม 

คุณเผ่า ตอนนี้ไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่ได้ก็เอาเงินตรงนี้มาลงทุนแทนก็ได้ ถ้าถามเรื่องความคุ้มค่าในการลงทุน ในมุมของผมถ้าเราจะเสี่ยงในระยะยาวๆ ผมมองว่ามันก็ควรเสี่ยงกับประเทศที่คุณแน่ใจ ซึ่งถ้ามองในแง่ขนาดเศรษฐกิจก็คือ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เพราะอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้าประเทศเหล่านี้ไม่ล่มสลายหรอก แต่ถ้ามองในแง่ของความเสี่ยงด้านธุรกิจ จีนมีความเสี่ยงมากกว่าญี่ปุ่นอยู่บ้าง ในแง่ความถูกแพงของหุ้น ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาเป็นหุ้นที่แพงสุด จีนถูกที่สุด เพราะฉะนั้นแล้วแต่คุณเลยว่าจะเลือกแบบไหน ถ้าเป็นสหรัฐอเมริกาก็เลือกว่าอยากลงทุนในเทคโนโลยี หรือเฮลท์แคร์  จีนยังมีความน่าสนใจที่เขายังเติบโตได้อีกเยอะ แต่ก็เป็นประเทศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าใครรู้สึกว่ารับความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วไม่ได้ก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ลงทุนในจีน แต่ถ้าถามระยะยาวญี่ปุ่นก็ยังเป็นประเทศที่น่าสนใจ อีกมุมหนึ่งเป็นประเทศที่คนไม่สนใจแต่มีหุ้นดีเยอะ ซึ่งนี่ก็คือโอกาสหนึ่งที่ดี 

คุณอาร์ต ผมเสริมให้ว่ามีคนหนึ่งที่เขาลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นคือ Warren Buffett เขาไม่รู้ว่าธุรกิจไหนจะดี แต่เขาซื้อหุ้นเครือธุรกิจใหญ่ๆ ซึ่งกลุ่มธุรกิจพวกนี้จะเติบโตไปตามเศรษฐกิจญี่ปุ่น Buffett เคยพูดว่า ‘เขายินดีที่ได้มีส่วนร่วมกับอนาคตของประเทศญี่ปุ่น’

 


อ่านสรุป Live ย้อนหลัง

CEO Jitta Wealth เผยความลับ ‘หุ้นญี่ปุ่น’ อีกหนึ่งขุมทรัพย์น่าลงทุน

CEO ของ Jitta Wealth เผยเคล็ดลับปรับพอร์ตรับมือภาวะตลาดหมี

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด