Jitta Wealth Journal - เงินเฟ้อพุ่งสูงแบบไม่ต้องลุ้น เศรษฐกิจถดถอยหรือยัง?

7 มิถุนายน 2565Jitta Wealth Journal

ราคาลิเธียมพุ่ง 5 เท่า Thematic ETF ไหนได้ประโยชน์

Jitta Wealth Journal ปีที่ 2 ฉบับที่ 80 ประจำวันที่ 7 มิถุนายน 2565 ทีมงานสรุปสถานการณ์การลงทุนทั่วโลก พร้อมเสิร์ฟให้คุณ ดังนี้

  • กูรูเตือนเศรษฐกิจสหรัฐฯ เสี่ยงเผชิญภาวะสาหัส
  • เซี่ยงไฮ้เปิดเมือง ดัชนี PMI ฟื้นตัว
  • ยอดขาย EV ไทยแตะ 63,000 คัน จากแรงหนุนของภาครัฐ
  • BYD ลุยทำแบตเตอรี เข้าซื้อเหมืองลิเธียม 6 แห่ง
  • ราคาลิเธียมพุ่งขึ้น 5 เท่าจากความต้องการใช้ EV มากขึ้น
  • มูลค่าการค้าเวียดนามโตแรง ตั้งเป้าแตะ 750,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • Coinbase เบรกแผนจ้างงานใหม่อย่างไม่มีกำหนด หลังรายได้ลดลง -27% 

ไปติดตามกันได้เลย


ภาวะตลาดหุ้นทั่วโลก

สหรัฐอเมริกา

ภาพรวม 3 ดัชนียังเป็นขาลง ทั้งความเคลื่อนไหวใน 1 สัปดาห์ MTD (Month to Date) 3 เดือน และ YTD (Year to Date) จับตาการประกาศภาวะเงินเฟ้อรายเดือนและผลประกอบบริษัทจดทะเบียน

  • S&P500 1 สัปดาห์ (-1.20%) MTD (-0.57%) 3 เดือน (-5.84%) และ YTD (-13.80%)
  • DJIA 1 สัปดาห์ (-0.94%) MTD (-0.27%) 3 เดือน (-2.65%) และ YTD (-9.46%)
  • NASDAQ 1 สัปดาห์ (-0.98%) MTD (-0.57%) 3 เดือน (-11.27%) และ YTD (-23.22%)

ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 3 มิถุนายน 2565

เอเชีย

ตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย กลับมาเขียวในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากการคลายล็อกดาวน์ในจีน ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ มีพื้นฐานจากเศรษฐกิจในประเทศ

  • CSI300 1 สัปดาห์ (+4.13%) MTD (+1.83%) 3 เดือน (-7.34%) และ YTD (-15.67%)
  • SET 1 สัปดาห์ (-0.46%) MTD (-1.05%) 3 เดือน (-1.53%) และ YTD (-0.44%)
  • VNI 1 สัปดาห์ (+0.35%) MTD (-0.21%) 3 เดือน (-14.30%) และ YTD (-13.90%)

ข้อมูลจาก S&P Capital IQ และ Investing ณ 6 มิถุนายน 2565


เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา

กูรูเตือนเศรษฐกิจสหรัฐฯ เสี่ยงเผชิญภาวะสาหัส

ปัญหาเงินเฟ้อยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยบรรดานักลงทุนต่างจับตารอดูตัวเลขดัชนี Consumer Price Index (CPI) รายเดือนของสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ เพื่อดูแนวโน้มของเงินเฟ้อว่า ชะลอตัวลงหรือยังขึ้นต่อไป

นักวิเคราะห์มองว่า หากดัชนี CPI ยังคงมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น หลายๆ ฝ่ายเกรงว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ใช้ยาแรง เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก กระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม

Allianz Investment Management มองว่า รายงานการจ้างงานยังตอกย้ำความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในภาพรวม แต่ก็มีปัจจัยบ่งชี้ว่า Fed ยังต้องปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ปีนี้

คาดว่า ดัชนี CPI จะขยับเพิ่มขึ้นเป็น +8.3% ในเดือนพฤษภาคม แต่ยังอยู่ในระดับทรงตัวเทียบกับ +8.1% ในเดือนเมษายน อย่างไรก็ตามดัชนี CPI ที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน มีแนวโน้มชะลอตัวลงเหลือ +0.5% ในเดือนพฤษภาคม

แนวโน้มเงินเฟ้อเร่งตัวส่งผลให้ Goldman Sachs ออกมาเตือนว่า ให้ระวังถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และการเผชิญกับช่วงที่ยากลำบากในอนาคต

คำเตือนของ Goldman Sachs สอดคล้องกับ JPMorgan ที่ได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า พายุเฮอริเคนลูกใหญ่กำลังมา นักลงทุนทุกคนควรเตรียมพร้อมตั้งรับให้ดี

ในช่วงเวลานี้อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังคงคาดเดาไม่ได้ว่าถึงจุดสูงสุดหรือยัง และยังเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นอยู่ ส่งผลให้ราคาหุ้นและดัชนีปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง

แต่เป็นข้อดี เพราะหุ้นพื้นฐานดีและ ETF ที่มีโอกาสเติบโตมีราคาถูกลงเยอะมาก หากคุณยังต้องการลงทุนระยะยาว การเพิ่มทุนเพื่อเฉลี่ยราคาสินทรัพย์เป็นอีกทางเลือก

เพื่อขจัดความผันผวนระยะสั้นออกไป ให้เวลาอดทนรอภาวะตลาดหุ้นกลับมาเป็นขาขึ้น ซึ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตได้แน่นอน


Jitta Wealth

ควานหาหุ้นเด่นสหรัฐฯ ท่ามกลางภาวะตลาดหมี 

ช่วงตลาดหุ้นขาลง ราคาหุ้นของแต่ละบริษัทเริ่มโดนเทขาย ตลาดหุ้นย่ำแย่ พอร์ตติดลบกันไปตามๆ กัน นักลงทุนทั่วโลกเริ่มวิตกกังวล แต่ Warrent Buffett กลับมองเห็นโอกาส และทุ่มเงินนับหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ชอปปิงหุ้นดีในช่วงขาลง

อ่านต่อ 


เศรษฐกิจจีน

เซี่ยงไฮ้เปิดเมือง ดัชนี PMI ฟื้นตัว

สถานการณ์ Covid-19 ในจีนเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะในเซี่ยงไฮ้มีผู้ติดเชื้อรายวันเหลือเพียง 30 ราย รัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์ เริ่มตั้งแต่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป 

ก่อนหน้านี้โรงงานอุตสาหกรรมบางแห่ง ได้เปิดดำเนินการแล้วภายใต้มาตรการของรัฐ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจจีนในช่วงครึ่งปีหลัง 2565

ดัชนี PMI เดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นเป็น 49.6 จาก 47.4 ในเดือนเมษายน รวมไปถึงดัชนี PMI นอกภาคการผลิต ในเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้นมาที่ 47.8 จาก 41.9 เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม Pinpoint Asset Management กล่าวว่า ตัวเลขดัชนีที่ต่ำกว่า 50 ยังถือว่าอยู่ในสภาวะหดตัว และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะได้รับอานิสงส์จากการเปิดเมืองเซี่ยงไฮ้ และดัชนี PMI อาจแตะระดับ 50 ได้ในเร็วๆ นี้

เมื่อ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการอัดฉีดเงิน 60,000 ล้านหยวน เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนซื้อรถยนต์ กระตุ้นการบริโภคและช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ

มาตรการลดภาษีซื้อรถยนต์อยู่ใน 33 ข้อของนโยบายรัฐบาล เพื่อสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในจีนจะเพิ่มขึ้นมากถึง 2 ล้านคัน และกระตุ้นยอดขายได้ถึง 21 ล้านคันในปี 2565

สาเหตุที่รัฐบาลจีนต้องการกระตุ้นยอดขายรถยนต์เนื่องจาก 4 เดือนแรกของปี 2565 ยอดขายรถยนต์หดตัว -11.9% สาเหตุเกิดจากการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด จากมาตรการ Zero Covid ซึ่งมาตรการกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ผ่านการอัดฉีดเม็ดเงิน คาดว่าจะดึงยอดขายรถให้กลับมาเป็นบวกได้

กิจกรรมทางเศรษฐกิจจีนตอนนี้ขึ้นอยู่กับมาตรการ Zero Covid ดังนั้นต้องติดตามกันว่า จะมีการระบาดใหญ่ที่กระทบกับเศรษฐกิจจีนอีกหรือไม่ เพราะจีนมีเป้าหมาย GDP ขยายตัวปีนี้ที่ +5.5% เรียกได้ว่า ต้องใช้ยากระตุ้นกันขนานใหญ่เลย


Passive Way

เข้าใจ ‘ภาวะตลาดหุ้น’ ด้วย Cocktail Party Theory ของ Peter Lynch – Episode 03

Passive Way Story 8 เรื่องเล่าจาก Wall Street ลงทุนไม่พัง ต้องฟังทางนี้ Episode 03 จะพาคุณไปทำความรู้จักวิธีการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นผ่านวิธีคิดในงานค็อกเทล ที่ Peter Lynch บอกว่า ช่วงไหนดี ช่วงไหนอันตราย

ฟังทาง YouTube

กด Subscribe ช่องทางพอดคาสต์


รถยนต์ไฟฟ้า 

ยอดขาย EV ไทยแตะ 63,000 คัน จากแรงหนุนของภาครัฐ 

ttb analytics คาดการณ์ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของไทยปี 2565 พุ่งแตะ 63.000 คัน เติบโต +48% จากมาตรการส่งเสริมการผลิตในประเทศของรัฐบาล สวนทางกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงที่หดตัวลง -8.8% 

บทวิเคราะห์ระบุว่า โรดโมปยกเลิกการใช้รถยนต์ที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในจากหลายๆ ประเทศ และการพัฒนาเทคโนโลยี EV ที่ทำให้ความจุของแบตเตอรีดีกว่าเดิม ส่งผลให้รถ EV มีราคาจับต้องได้มากขึ้น 

ผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ผู้ที่ต้องการซื้อรถใหม่จึงให้ความสนใจกับ EV มากขึ้น ทำให้ปี 2564 ยอดขาย EV เติบโตอย่างก้าวกระโดด

นอกจากอุตสาหกรรม EV จะเติบโตอย่างมากแล้ว คาดการณ์ว่าธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างแบตเตอรี ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สถานีชาร์จไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ ก็มีแนวโน้มสดใสไปด้วย 


ลิเธียมและแบตเตอรี

BYD ลุยทำแบตเตอรี เข้าซื้อเหมืองลิเธียม 6 แห่ง

สื่อจีนรายงานว่า BYD ใกล้บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อเหมืองลิเธียมในแอฟริกา 6 แห่ง โดย 1 ใน 6 เหมืองนี้มีแหล่งแร่ลิเธียมออกไซด์ 25 ล้านตันที่สามารถสกัดออกมาเป็นลิเธียมคาร์บอเนตได้ 1 ล้านตัน

ดีลนี้คาดว่า จะส่งผลต่อต้นทุนลิเธียมที่เหมาะสมในการผลิตแบตเตอรี โดยจะต่ำกว่า 200,000 หยวนต่อตัน ปัจจุบันลิเธียมเกรดแบตเตอรีมีราคาอยู่ที่ 450,000 หยวนต่อตัน

สำหรับเหมืองแร่ที่มีลิเธียมคาร์บอเนตสำรองมากกว่า 1 ล้านตัน สามารถนำมาผลิตแบตเตอรีสำหรับ EV ที่มีขนาดแบตเตอรี 60 KWh ได้ถึง 27 ล้านคัน ซึ่งจะทำให้ปัญหาในการขาดแคลนแร่ลิเธียมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

BYD มีเป้าหมายขาย EV ภายในปี 2565 ที่ 1.5 ล้านคัน ดังนั้นดีลซื้อเหมืองลิเธียมครั้งนี้จะช่วยให้ BYD สร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบได้นานกว่า 10 ปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อธีมพลังงานสะอาดกับธีมลิเธียมและแบตเตอรี

ปลายปี 2563 ราคาลิเธียมอยู่ที่ 50,000 หยวนต่อตัน แต่ในปี 2564 ราคาลิเธียมพุ่งสูงขึ้นกว่า 10 เท่าเป็น 500,000 หยวนต่อตัน ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต EV ด้วยเช่นกัน

ราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ผลิตแบตเตอรีและ EV พวกเขาจะส่งภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภคที่ต้องซื้อ EV ในราคาที่สูงขึ้น จริงๆ แล้วแร่ลิเธียมมีอย่างเพียงพอบนโลก แต่ด้วยการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ รวมไปถึงการเก็งกำไร ทำให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างมาก

แต่ด้วยเทคโนโลยีจะช่วยให้ผู้ผลิตสร้างสรรค์แบตเตอรีที่ใช้วัตถุดิบน้อยลงในกำลังเท่าเดิม รวมไปถึงการรีไซเคิลแบตเตอรีเก่า ทำให้ความต้องการลิเธียมในอนาคตอาจจะลดน้อยลง 

สถานการณ์นี้สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของ Goldman Sachs บอกว่าราคาวัตถุดิบในการผลิตแบตเตอรีถึงจุดสูงสุดแล้ว ดังนั้นการเติบโตของอุตสาหกรรมเหมืองลิเธียม แบตเตอรี และ EV จะเป็นไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะเข้าลงทุนเพื่ออนาคต

ราคาลิเธียมพุ่งขึ้น 5 เท่าจากความต้องการใช้ EV มากขึ้น 

บริษัทวิจัย Argus Media ของอังกฤษเปิดเผยว่า ราคาลิเธียม ซึ่งเป็นโลหะหายากที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรีแบบชาร์จไฟ เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า ตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2564 เนื่องจากความต้องการจากผู้ผลิต EV มากขึ้น 

นอกจากความต้องการลิเธียมที่เพิ่มขึ้นแล้ว สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ซัปพลายเชนของลิเธียมหยุดชะงักลง ความต้องการแร่ลิเธียมที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคา EV เพิ่มสูงขึ้นไปด้วย 

Tesla ได้ประกาศขึ้นราคา EV ทั้งหมดในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ กำลังเร่งปรับตัวในการผลิต EV เช่นกัน ทำให้มีแนวโน้มว่า ราคาอาจจะเพิ่มขึ้นอีก 

SMBC Nikko Securities มองว่า หากราคาโลหะหายากและวัตถุดิบอื่นๆ ที่ใช้ในการผลิต EV มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ผู้ผลิตจำเป็นต้องขึ้นราคา EV อีกประมาณ +30% หรือมากกว่านั้น จนกว่าราคาลิเธียมจะปรับตัวลดลง


Jitta Wealth

ความผิดพลาดครั้งใหญ่ 4 เซียนหุ้นระดับโลก 

ตลาดหุ้นผันผวนนานหลายเดือน คนที่เริ่มลงทุนช่วงนี้อาจจะรู้สึกโชคร้าย คนที่ลงทุนมานานอาจจะรู้สึกเหนื่อยใจ แต่เซียนหุ้นมือฉมังก็ทำผิดพลาดกันมาเยอะ อยากรู้หรือไม่ว่า เขากลับมาปั้นพอร์ตลงทุนเป็นหมื่นล้านแสนล้านได้อย่างไร 

อ่านต่อ


เศรษฐกิจเวียดนาม

มูลค่าการค้าเวียดนามโตแรง ตั้งเป้าแตะ 750,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานสถิติเวียดนามรายงานว่า มูลค่าการค้าระหว่างประเทศ 5 เดือนแรก ปี 2565 อยู่ที่ 305,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว +15.6% มูลค่าส่งออกในช่วงเดียวกันอยู่ที่ 152,810 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต +16.3%

ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์มีมูลค่าส่งออกมากที่สุด มูลค่ารวม 36,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต +28.6% ในขณะที่มูลค่านำเข้าอยู่ที่ 152,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น +15% จากช่วงเดียวกันของปี 2564

นักวิเคราะห์คาดว่า มูลค่าการค้าเวียดนามปี 2565 จะถึง 750,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดุลการค้าเวียดนาม 5 เดือนแรกยังเป็นบวก เกินดุลเล็กน้อยที่ 516 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

หากคุณมองในมุมการส่งออก สินค้าหลายประเภทของเวียดนามยังมีการเติบโตสูง การส่งออกยังคงเป็นเครื่องยนต์เคลื่อนเศรษฐกิจเวียดนาม เกิดจากการเป็นฐานการผลิตให้บริษัทจากทั่วโลก

นอกจากนี้มีรายงานข่าวว่า Apple เตรียมตั้งฐานการผลิต iPad ใหม่นอกจีน โดยคาดว่า Apple มีเป้าหมายที่เวียดนาม หลังจากมาตรการ Zero Covid ในจีนส่งผลกระทบต่อระบบการผลิต

อย่างไรก็ตาม Apple ได้หารือร่วมกับซัปพลายเออร์จีนในการหาฐานการผลิตชิ้นส่วน iPad นอกจีน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนสินค้าในระบบการผลิต

ก่อนหน้านี้ Apple ได้พิจารณาเตรียมย้ายการผลิตบางส่วนออกจากจีนไปยังเวียดนาม แต่ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ในเวียดนามต้นปี 2565 ทำให้แผนต้องเลื่อนออกไป

การย้ายฐานการผลิตครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากรัฐบาลเวียดนาม เพราะเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เข้าพบ Tim Cook เพื่อหารือเพิ่มการลงทุนในเวียดนาม 

การพบกันระหว่างนายกรัฐมนตรีเวียดนามและผู้บริหาร Apple จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจในการลงทุนในเวียดนามมากขึ้น ดังนั้นเวียดนามจึงกลายเป็นจุดหมายสำคัญในการตั้งฐานการผลิต 

หาก Apple ตั้งโรงงานในเวียดนามเพิ่มมากขึ้น จะยิ่งส่งผลให้เศรษฐกิจเวียดนามแข็งแกร่งขึ้น ในอนาคต Apple อาจพิจารณาตั้งฐานการผลิตสินค้าสำคัญอย่าง iPhone และสินค้าประเภทอื่นๆ ในเวียดนามก็เป็นได้

เมื่อเศรษฐกิจของเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตดี จะส่งผลให้ตลาดหุ้นเวียดนามเช่นเดียวกัน นอกจากขับเคลื่อนจากนักลงทุนในประเทศแล้ว นักลงทุนต่างประเทศจะเพิ่มมากขึ้นตามศักยภาพการเติบโต ซึ่งเป็นผลดีในระยะยาว


Thematic ETF

รู้จัก Thematic ETF โอกาสการลงทุนในธีมเมกะเทรนด์โลก 

ถ้าอยากลงทุนในธุรกิจเมกะเทรนด์แห่งอนาคต มีโอกาสเติบโตสูงในระยะยาว โดยมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ETF กำลังเป็นคำตอบให้คุณ โดย Than Money Trick มาแนะนำการลงทุนแบบง่ายๆ ใน Thematic ETF กับ Jitta Wealth 

อ่านต่อ 


ฟินเทค

Coinbase เบรกแผนจ้างงานใหม่อย่างไม่มีกำหนด หลังรายได้ลดลง -27% 

แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ของโลก Coinbase ประกาศเบรกแผนจ้างงานพนักงานใหม่อย่างไม่มีกำหนด รวมไปถึงการยกเลิกสัญญาผู้สมัครงานบางส่วน หลังรายได้ลดลง -27% 

มูลค่า Coinbase ปรับลดลงถึง -70% นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หลังกระแสความนิยมลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีเริ่มลดลง จำนวนฐานลูกค้าและรายได้ของ Coinbase ก็ลดลงด้วย ซึ่งบริษัทเทคโนโลยีหลายๆ บริษัท เช่น Uber Technologies และ Meta Platforms ก็เผชิญชะตากรรมเดียวกัน 

อย่างไรก็ตาม ทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลกที่กลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากเริ่มหันกลับมาสนใจลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากกว่าคริปโทเคอร์เรนซีที่มีความเสี่ยงสูงกว่า 

แต่ Coinbase มองว่า ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมีความผันผวน ถือเป็นบททดสอบใหม่ขององค์กร ถ้าบริษัทปรับตัว เพื่อสร้างเป้าหมายระยะยาว จะสามารถกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้อีกครั้ง 


นี่คือ 7 ข่าวสารที่น่าสนใจจากทั่วโลก ที่เรารวบรวมมาให้ใน Jitta Wealth Journal 

เดือนมิถุนายนเป็นเดือนสุดท้ายของไตรมาสที่ 2 และครึ่งแรกของปี 2565 ท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกที่ไม่เป็นใจเอาเสียเลย จนมาถึงตอนนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะพลิกกลับเป็นขาขึ้น

ไม่มีใครคาดการณ์ได้ถูกต้อง 100% ว่า ตลาดหุ้นจะลงอีกนานแค่ไหนหรือเป็นขาขึ้นอีกเมื่อไร สำคัญที่คุณภาพสินทรัพย์ที่คุณลงทุนอยู่ว่า จะมีโอกาสเติบโตท่ามกลางความไม่แน่นอนเหล่านี้หรือไม่

ราคาหุ้น และ ETF เวลาลงก็ลงเหมือนกันหมด แต่เมื่อฟื้นตัวแล้ว ราคาเป็นขาขึ้นไม่เท่ากัน หุ้นและ ETF คุณภาพดีย่อมกลับมาสร้างมูลค่าได้ดีกว่า สินทรัพย์อื่นๆ ที่คุณภาพดีน้อยกว่า

กำไรจากการลงทุนในตลาดหุ้น ไม่ได้อยู่ที่ว่า คุณซื้อขายบ่อยแค่ไหน แต่อยู่ที่ความอดทน ลงทุนสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโต จนสร้างผลตอบแทนทบต้นได้ในระยะยาวต่างหาก

แล้วพบกันสัปดาห์หน้า


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – จีนเวอร์ชัน Zero Covid ดันหุ้นจีนได้อย่างไร

Jitta Wealth Journal – เมื่อตลาดหุ้นเป็นหมีเซื่องซึม จะเพิ่มทุนดีหรือไม่

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด