Jitta Wealth Journal - Jitta Ranking พร้อมหรือยัง ภาษีขายหุ้น 0.1%

19 เมษายน 2565Jitta WealthJitta Wealth Journal

รู้จัก Poison Pill แผนเบรก Elon Musk หัวทิ่ม

Jitta Wealth Journal ปีที่ 2 ฉบับที่ 73 วันที่ 19 เมษายน 2565 มีประเด็นข่าวสารและสถานการณ์การเงินการลงทุนที่น่าสนใจจากทั่วโลก ดังนี้

  • ไทยเตรียมเก็บภาษีขายหุ้น 0.1% เริ่มปี 2565
  • เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนมีนาคม พุ่ง +8.5% สูงสุดในรอบ 40 ปี
  • เงินเฟ้อจีนเดือนมีนาคมปรับขึ้น +1.5% หลังล็อกดาวน์เข้ม
  • คลังเวียดนามยืดเวลาจ่ายภาษี หนุนภาคธุรกิจ
  • Twitter ไม่ยอม! งัดมาตรการ Poison Pill สู้ Elon Musk
  • Huawei เตือนอิเล็กทรอนิกส์จีนกระทบหนักจากล็อกดาวน์เข้ม
  • จีนคุมเข้มเกมไม่เป็นผล หุ้นเกมพุ่งสูงกว่า +10%
  • Vinfast ผู้ผลิต EV เวียดนาม เตรียมแต่งตัวเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ไปติดตามกันได้เลย


เศรษฐกิจไทย 

ไทยเตรียมเก็บภาษีขายหุ้น 0.1% เริ่มปี 2565 

ไม่รามือง่ายๆ กระทรวงการคลังประกาศเดินหน้าจัดเก็บ Financial Transaction Tax หรือภาษีขายหุ้น 0.1% โดยมีแผนจะจัดเก็บภายในปี 2565 นี้ มองว่า เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังคงเติบโตและมีการซื้อขายคึกคัก 

ผู้ที่จะถูกเก็บภาษี คือ นักลงทุนที่มีการขายหุ้นที่เกินกว่า 1 ล้านบาทต่อเดือน แต่คาดว่า หากมีการเก็บภาษีขายหุ้น จะส่งผลต่อสภาพคล่องในตลาดหุ้นไทยลดลงประมาณ -30% ถึง -40%

นอกจากนี้การเก็บภาษีขายหุ้นจะกระทบต่อการระดมทุนในตลาดหุ้นไทยด้วย เพราะสภาพคล่องลดลงจากนักลงทุนสถาบันและต่างชาติ หากคิดจะขายหุ้นภายหลัง การทำรายการขายจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ประเมินถึงผลกระทบเชิงบวกจากเก็บภาษีขายหุ้นว่า รัฐบาลจะมีรายได้เพิ่มปีละประมาณ 10,000-20,000 ล้านบาท หากมูลค่าซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับสถิติที่ผ่านมา

ส่วนผลกระทบเชิงลบ ได้แก่ ตลาดหุ้นไทยเริ่มไม่น่าสนใจ จากกำไรขายหุ้นลดลง ต้นทุนการขายที่สูงขึ้น นักลงทุนไทยและต่างประเทศมีแนวโน้มลดลงในอนาคต โดยเฉพาะจากนักลงทุนประเภทเก็งกำไร (Speculator) 

นอกจากนี้ผลกระทบเชิงลบ คือ มูลค่าการซื้อขายลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้การเรียกเก็บภาษีในระยะยาวลดลงด้วยเช่นกัน 

หากกระทรวงการคลังประกาศใช้กฎหมายเก็บภาษีขายหุ้นจริง ผู้ที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่มีมูลค่าการขายหุ้นสูงๆ จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

ถ้าคุณมีพอร์ตลงทุน Jitta Ranking ไทย ทุกครั้งที่มีการปรับพอร์ตอัตโนมัติทุก 3 เดือน และมีมูลค่ารวมเกิน 1 ล้านบาทในเดือนนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า คุณจะถูกเรียกเก็บภาษีขายหุ้นอย่างแน่นอน

แต่หลักการปรับพอร์ตและเทคโนโลยีของ Jitta Wealth เป็นการลงทุนระยะยาว จะขายสินทรัพย์ก็ต่อเมื่อพื้นฐานกิจการเปลี่ยนไป ดังนั้นจะไม่ได้ซื้อขายหุ้นบ่อยครั้ง บางไตรมาส การปรับพอร์ตอาจจะไม่ได้ขายหุ้นออกเลย หรือขายออกก็ไม่เกิน 1 ล้านบาท

ทั้งนี้กระทรวงการคลังยังไม่ได้กำหนดไทม์ไลน์ออกข้อบังคับเก็บภาษีขายหุ้น ต้องติดตามกันต่อไปว่า จะเริ่มเมื่อไรในปี 2565 ซึ่งทีมงาน Jitta Wealth จะคอยติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด และศึกษาผลกระทบต่อการลงทุน Jitta Ranking ไทยพร้อมชี้แจงให้คุณทราบล่วงหน้าอย่างแน่นอน


เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา 

เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนมีนาคม พุ่ง +8.5% สูงสุดในรอบ 40 ปี 

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมีนาคม พุ่งสูง +8.5% แตะระดับสูงที่สุดในรอบกว่า 40 ปี นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2524 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ จากห่วงโซ่อุปทานไม่เพียงพอกับอุปสงค์ของผู้บริโภค วิกฤตการขาดแคลนอาหารโลก และราคาพลังงานที่ผันผวน 

ถ้าวัดกันที่เดือนต่อเดือน อัตราเงินเฟ้อเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น +1.2% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นสูงที่สุด นับตั้งแต่ปี 2548 เป็นผลพวงมาจากราคาน้ำมันเบนซินสูงขึ้น +48% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาสินค้าอุปโภคอื่นๆ พุ่งมากกว่า +10% 

ภาวะเงินเฟ้อเร่งตัว มาพร้อมกับตลาดแรงงานที่เฟื่องฟู และเศรษฐกิจโดยรวมที่แข็งแกร่งขึ้น ในปี 2564 มีอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 6.7 ล้านตำแหน่ง สูงสุดเป็นประวัติการณ์ การเลิกจ้างงานอยู่ในจุดต่ำสุด นับตั้งแต่ปี 2511 

แต่ราคาพลังงานที่เร่งตัวขึ้น เป็นผลเสียต่อความมั่นคงระยะยาวในระบบเศรษฐกิจ ส่งผลต่อต้นทุนในการขนส่งสินค้า ทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุด กดดันธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจัง เพื่อชะลอการกู้ยืม และการใช้จ่าย บรรเทาความร้อนแรงของภาวะเงินเฟ้อ

Jitta Wealth มีความเห็นสอดคล้องกับนักวิเคราะห์หลายๆ สำนัก มองว่า อัตราเงินเฟ้อน่าจะแตะที่จุดสูงสุดไปแล้ว แต่การแพร่ระบาดของ Covid-19 ยังเป็นปัจจัยเสี่ยง รวมไปถึงสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงคุกรุ่น มาตรการ Zero Covid ของจีน ที่อาจส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น ซึ่งอาจจะติดตามต่อไปว่า ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลกระทบยาวนานแค่ไหน แต่ละประเทศจะออกมาตรการอะไรมาบรรเทาปัญหาเหล่านี้  

ภาวะเงินเฟ้อเป็นธรรมชาติของวัฏจักรเศรษฐกิจ หากคุณมีหุ้นคุณค่าที่รายได้ไม่ลดลง เพราะขายสินค้าและบริการได้ หรือมีหุ้นในธุรกิจที่มีอำนาจต่อรองในการขึ้นราคาตามภาวะเงินเฟ้อ คุณสบายใจได้ ขอแค่อดทนและมีทัศนคติที่ดีต่อความผันผวนที่เกิดขึ้นก็พอ


กลยุทธ์ลงทุน

ปรับ ‘กลยุทธ์ลงทุน’ รับมือสงครามยืดเยื้อ

สงครามรัสเซียและยูเครนยังร้อนระอุ ตลาดการเงินการลงทุนผันผวนทั่วโลก ทำเงินเฟ้อเร่งตัวจนธนาคารกลางควบคุมไม่ได้ คุณควรปรับ ‘กลยุทธ์ลงทุน’ รับมือสงครามยืดเยื้ออย่างไรดี เข้าลงทุนช่วงไหนดีกว่ากัน

อ่านต่อ


เศรษฐกิจจีน

เงินเฟ้อจีนเดือนมีนาคมปรับขึ้น +1.5% หลังล็อกดาวน์เข้ม

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ปี 2565 ปรับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน จากอัตราเงินเฟ้อเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ +0.9% ปรับขึ้น +1.5% ในเดือนมีนาคม ผลพวงมาจากราคาน้ำมันพุ่งสูงจากความสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน 

ราคาพลังงานด้านคมนาคมขนส่งปรับขึ้น +24.1% ในขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับลดลงจาก +8.8% เป็น +8.3% แต่ยังสูงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ที่ +8.1% 

สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในจีนที่มีมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจตามเมืองใหญ่หยุดชะงักลง

นักเศรษฐศาสตร์จาก DBS Group ให้ความเห็นว่า CPI จะได้รับผลกระทบมากกว่า PPI จากมาตรการ Zero Covid หากไม่ผ่อนคลายมาตรการลง จะเป็นแรงกดดันให้ดัชนี 2 ตัวอย่างแน่นอน

นอกจากนี้มาตรการ Zero Covid ของจีน ยังส่งผลกระทบต่อระบบห่วงโซ่อุปทานโลก เนื่องจากโรงงานต่างๆ จำเป็นต้องหยุดผลิตสินค้า และไม่สามารถส่งออกสินค้าได้ในช่วงล็อกดาวน์ 

จริงๆ แล้วภาวะเงินเฟ้อของจีน เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก แต่ที่กระทบกับเศรษฐกิจจีนมาก คือ มาตรการล็อกดาวน์แรงๆ ที่กลับมาใช้อีกครั้ง โดยที่ประชาชนและภาคเอกชนมองว่า ไม่จำเป็นแล้ว คุมการระบาดไม่ได้

หากรัฐบาลจีนต้องการให้เศรษฐกิจเติบโตตามเป้า มาตรการกระตุ้นจะต้องถูกนำมาใช้อย่างเร่งด่วน ทั้งนโยบายการเงินการคลัง ทีมงาน Jitta Wealth จะคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และอัปเดตเป็นระยะ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ 


เศรษฐกิจเวียดนาม

คลังเวียดนามยืดเวลาจ่ายภาษี หนุนภาคธุรกิจ

กระทรวงการคลังเวียดนามเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจ เร่งให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจาก Covid-19 โดยจะยืดเวลาการจ่ายภาษี รวมไปถึงการช่วยพัฒนากระบวนการผลิต เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจคึกคักมากขึ้น

มาตรการนี้จะออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 2 ฉบับ คาดว่า จะพิจารณาภายในเดือนเมษายน โดยมีการยืดเวลาการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีนิติบุคคล ภาษีบุคคลธรรมดา ภาษีสาธารณูปโภค และภาษีการเช่าที่ดิน 

ขณะเดียวกันกรมศุลกากรจะผ่อนคลายและปรับปรุงกฎระเบียบ เพื่อเอื้อต่อภาคธุรกิจในการส่งออกให้สะดวกมากยิ่งขึ้น เมื่อ พ.ร.ก. ประกาศใช้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเวียดนามได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

เวียดนามพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจจากกลไกหลักในประเทศ ถึงจะเป็นแค่ขยายเวลาการจ่ายภาษี ไม่ใช่การงดเว้นหรือลดภาษี แต่ก็เป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ และทำให้ผู้บริโภคมีกำลังไปจับจ่ายใช้สอยได้ เป็นทางเลือกในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่ดี


Jitta Wealth พลังงานสะอาด

George Soros ขยับพอร์ตลงทุนหุ้นรถ EV จุดพลุธีมเมกะเทรนด์พลังงานสะอาด

พ่อมดทางการเงินลงทุนในบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 65,000 ล้านบาท เป็นสัดส่วนกว่า 30% ของพอร์ต ด้วยความมั่นใจว่า พฤติกรรมการใช้รถยนต์ของคนทั่วโลกจะเปลี่ยนไป นี่คือ เมกะเทรนด์พลังงานสะอาดที่กำลังเติบโต 

อ่านต่อ 


เทคโนโลยี

Twitter ไม่ยอม! งัดมาตรการ Poison Pill สู้ Elon Musk

เมื่อ 14 เมษายนที่ผ่านมา Elon Musk ได้ประกาศซื้อ Twitter โดยมีความมุ่งหวังจะนำบริษัทออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงบริษัทให้มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมากกว่านี้

ในช่วงก่อนหน้านี้ Musk ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Twitter หลังลงทุนไปมากกว่า 73 ล้านหุ้น เป็นสัดส่วนมากกว่า 9.2% ของหุ้นทั้งหมด และเป็นไปตามที่คาดเอาไว้ว่า Musk ต้องการควบคุม Twitter อย่างแน่นอน

Musk ได้ประกาศรับซื้อหุ้น Twitter ทั้งหมด โดยให้ราคาสูงถึง 54.2 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาปิดของหุ้น Twitter ในวันที่ 14 เมษายน ที่ 45.08 ดอลลาร์สหรัฐ ถึง +20.23% 

อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดูเหมือนจะตอบรับกับข่าวนี้ไม่ดีนัก ทำให้ราคาหุ้น Twitter ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยเหตุผลดังนี้

  1. นักลงทุนหลายคนมองว่า Musk ให้ราคาเสนอซื้อที่ต่ำเกินไป
  2. เจ้าชาย Alwaleed bin Talal ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Twitter ปฏิเสธดีลนี้
  3. บอร์ดบริหารของ Twitter งัดมาตรการ Poison Pill สู้กับ Musk 

สำหรับมาตรการ Poison Pill สามารถอธิบายได้อย่างง่ายๆ คือ กลยุทธ์ในการป้องกันตัวของบริษัทจากการถูกครอบงำกิจการอย่างไม่เป็นมิตร เหมือนที่ Musk กำลังพยายามเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ Twitter ในช่วงเวลานี้ 

มาตรการ Poison Pill เป็นการมอบสิทธิ์ให้กับเหล่าผู้ถือหุ้น Twitter รายเล็กๆ  สามารถซื้อหุ้นเพิ่มได้ในราคาพิเศษ แต่อาจทำให้ราคาหุ้นของบริษัทลดลงไปด้วย ซึ่งจะทำให้การเข้าครอบครองกิจการมีต้นทุนที่สูงขึ้น

การใช้กลยุทธ์นี้ของ Twitter จะลดสัดส่วนการถือหุ้นของ Musk ลง ซึ่งการเข้าครอบงำกิจการครั้งนี้ ต้องติดตามกันต่อไปว่า Musk จะยอมควักเงินมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อกว้านซื้อหุ้น Twitter หรือไม่ แล้วประเด็นนี้จะมีบทสรุปอย่างไร

Huawei เตือนอิเล็กทรอนิกส์จีนกระทบหนักจากล็อกดาวน์เข้ม

Richard Yu ผู้บริหารของ Huawei บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน หวั่นอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ของจีน รวมถึงห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกมีความเสี่ยงได้รับผลกระทบหนัก จากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อคุมการแพร่ระบาด Covid-19 ในนครเซี่ยงไฮ้

Huawei กำลังประสบปัญหาห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์หยุดชะงัก จากการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด กิจกรรมทางเศรษฐกิจเดินหน้าต่อไม่ได้ หากการผลิตในนครเซี่ยงไฮ้ไม่สามารถกลับสู่ภาวะปกติได้ในเดือนพฤษภาคม จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทั้งระบบการผลิต 

ซึ่ง Yu ไม่ใช่ผู้บริหารรายแรกที่ออกมาแสดงความกังวลต่อการล็อกดาวน์ Xiaopeng He ผู้บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง XPeng Motors ผู้ผลิต EV จีนก็ออกมาแสดงความคิดเห็นในทิศทางเดียวกัน 

รัฐบาลจีนมีคำสั่งล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้และบริเวณใกล้เคียง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ Covid-19 มาเป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ ส่งผลให้ซัปพลายเออร์ของบริษัทเทคโนโลยีของโลกต้องหยุดการผลิตชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็น Pegatron ที่ต้องหยุดการผลิต iPhone และ Quanta Computer ผู้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญของ MacBook 


Jitta Wealth Thematic DIY

รีวิว จุก! พอร์ตติดลบ -25% หุ้นจีนเละ หุ้นเทคลบ เกิดจากอะไร เอาไงต่อดี

จารย์โจจอมวางแผน รีวิวพอร์ตลงทุน Thematic DIY ที่ลงทุนมาตั้งแต่เดือนตุลาคม พร้อมวิเคราะห์สาเหตุที่พอร์ตติดลบหนักๆ จากสถานการณ์และตลาดหุ้นทั่วโลก อยากรู้หรือไม่ว่า เขาจะปรับพอร์ตลงทุน หรือยังคงลงทุนธีมที่ขาดทุนอยู่

รับชมผ่าน YouTube


เกมและอีสปอร์ต

จีนคุมเข้มเกมไม่เป็นผล หุ้นเกมพุ่งสูงกว่า +10%

ทางการจีนประกาศห้ามการถ่ายทอดสดวิดีโอเกมที่ไม่ได้รับอนุญาต ส่งสัญญาณกฎเกณฑ์บังคับที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าควบคุมของรัฐบาลจีนต่ออุตสาหกรรมเกม มีเป้าหมายเพื่อล้างเนื้อหาที่ไม่ได้รับการอนุมัติ

สำนักงานวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติ รายงานว่า ทุกแพลตฟอร์มต้องไม่ถ่ายทอดสดเกมที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสตรีมมิงเกมหรือการแข่งขันในต่างประเทศ ไม่ควรดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาต

นอกจากนี้ยังมีความคิดเห็นเพิ่มเติมให้ผู้ถ่ายทอดสดต่อต้านความงามที่ผิดปกติ รวมไปถึงวัฒนธรรมแฟนคลับ โดยมองว่า อาจจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อระบบการปกครองของจีน

อย่างไรก็ตามวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ราคาหุ้นเทคโนโลยีจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเกมและธุรกิจสตรีมมิง หุ้น Tencent เพิ่มขึ้น +3.61% หุ้น NetEase เพิ่มขึ้น +4.21% และหุ้น Bilibili เพิ่มขึ้น +12.78%

สาเหตุที่หุ้นเทคโนโลยีจีนปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากรัฐบาลจีนอนุมัติใบอนุญาตเกมมิง ซึ่งในการอนุมัติครั้งนี้มีเกมที่ได้รับอนุมัติถึง 45 เกม ทำให้บริษัทต่างๆ ได้รับผลประโยชน์ไปแบบเต็มๆ

ปัจจุบันมูลค่าอุตสาหกรรมเกมในจีนเกือบแตะ 300,000 ล้านหยวน หากรัฐบาลจีนปรับปรุงกฎระเบียบและบริษัทเกมสามารถปฎิบัติตามได้อย่างครบถ้วน อุตสาหกรรมเกมของจีน น่าจะได้ผ่านช่วงขาลงไปได้ คาดว่า ราคาหุ้นบริษัทเกมจะกลับมาเติบโตหลังจากนี้ได้


Jitta Wealth Global ETF

รีวิวพอร์ตลงทุน 6 เดือน Global ETF โดย หมอยุ่งอยากมีเวลา

ในช่วง 6 เดือนกับความไม่แน่นอนในโลกการลงทุน พอร์ต Global ETF ยังติดลบได้ ทั้งๆ ที่กระจายความเสี่ยงไว้เป็นอย่างดี อยากรู้หรือไม่ ทำไมคุณหมอยังมั่นใจ ลงทุนใน Global ETF แผนเติบโต พร้อมมุมมองบวกกับพอร์ตลงทุนระยะยาว

อ่านต่อ 


รถยนต์ไฟฟ้า 

Vinfast ผู้ผลิต EV เวียดนาม เตรียมแต่งตัวเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ 

หลังจาก Vinfast ผู้พัฒนาและผลิต EV สัญชาติเวียดนาม วางแผนสร้างโรงงานผลิตในสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดเตรียมจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพื่อหาเงินทุนสร้างโรงงาน และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก  

การสร้างโรงงานผลิต EV ถือเป็นการลงทุนที่ใช้เงินมหาศาล เป็นการเดิมพันต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม EV ทั่วโลก และการแข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์เจ้าตลาดในสหรัฐฯ อย่าง Ford และ GM

Vuong ประธาน Vingroup บริษัทแม่ของ Vinfast บอกว่า การ IPO จะช่วยให้ Vinfast ยกระดับกลายเป็นแบรนด์รถ EV ระดับโลก เป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังขอสินเชื่อจาก Advanced Technology Vehicles Manufacturing (AVTM) จากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีวงเงินเหลือกว่า 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

Jitta Wealth มองว่า หาก Vinfast ประสบความสำเร็จสามารถบุกตลาดโลกและจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ จะสร้างมิติใหม่ให้วงการ EV ทั่วโลก ในเมื่อผู้เล่นรายเดิมในตลาด ค่ายรถยักษ์ใหญ่ขยับตัวช้า ค่ายรถ EV จีนเริ่มแข็งแรง และเวียดนามกำลังจะตามมา

สิ่งที่ต้องวิเคราะห์ต่อ คือ Vinfast ที่พัฒนา EV ได้ เพราะเป็นเจ้าของเทคโนโลยีเอง หรือเป็นการเรียนรู้ ซื้อเทคโนโลยีจากค่ายอื่นๆ มาพัฒนาต่อ จุดนี้จะเป็นความท้าทายของ Vinfast ในขั้นต่อไป เพราะ EV ใช้เทคโนโลยีหลายๆ ด้านเลย


นี่คือ 8 ข่าวสถานการณ์การลงทุนทั่วโลกใน Jitta Wealth Journal ที่ทีมงานรวบรวมมาให้คุณติดตามไปพร้อมๆ กัน

จะเข้าสู่เดือนที่ 3 ของสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่คนทั่วโลกต่างเฝ้ารอ ขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายหาทางออกร่วมกันได้อย่างสันติ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา ไม่ส่งผลดีต่อฝ่ายไหนเลย เศรษฐกิจชะลอตัว ตลาดหุ้นผันผวน เกิดความไม่แน่นอนที่คุณเองก็คาดการณ์ไม่ได้

หวังว่า เดือนหน้าจะไม่เกิดเหตุการณ์ Sell in May เพราะสถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา เกิดแรงเทขายมาเยอะแล้ว หากคุณมั่นใจว่า ตลาดหุ้นตอนนี้เป็นขาลงมากแล้ว Buy on Dip เพิ่มทุนเข้ามาได้ หรือจะรอให้พร้อมกว่านี้ก็ได้เช่นกัน

แล้วพบกันสัปดาห์หน้า

ตราวุทธิ์และทีมงาน Jitta Wealth


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง 

Jitta Wealth Journal – หุ้นจีนซึม…แล้วไง นักลงทุนเฮโลเกือบ 200 ล้านคน 

Jitta Wealth Journal – หุ้นกัญชาพุ่งทะยานแค่ไหน หลังกฎหมายผ่าน 

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด