Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 139 ประจำวันที่ 25 กรกฎาคม 2566
สหรัฐฯ จีบเวียดนามร่วมนโยบาย Friendshoring ย้ายห่วงโซ่อุปทานไปยังประเทศที่ไว้ใจได้ ข่าวลือหรือเรื่องจริง อัตราการว่างงานจีนอาจสูงถึง 50% แบงค์ชาติชี้ ตั้งรัฐบาลไทยช้าไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจในปีนี้ ญี่ปุ่นตามรอยอเมริกา! สั่งห้ามส่งออกอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ไปจีน Apple ไม่รอช้า เริ่มทดสอบ AI Chat
รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth
S&P 500 +0.69% DJIA +2.08% NASDAQ -0.57%
สหรัฐฯ เตรียมขึ้นดอกเบี้ย นักลงทุนจับตาดูว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ที่ 0.25% จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วหรือยัง กลุ่มหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ผันผวนเล็กน้อยจากการปรับตัวลงของหุ้นตัวใหญ่อย่าง Netflix ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
CSI 300 -1.98% TOPIX +1.03% VNI +1.50% SET +0.75%
ตลาดหุ้นจีนถูกกดดันอย่างหนักจากการลงทุนภาคอสังหาฯที่ลดลง รวมไปถึงตัวเลขส่งออกที่ลดลงกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วย ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังร้อนแรงนักลงทุนให้ความสนใจต่อเนื่อง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นเวียดนามที่เนื้อหอม ดึงดูดต่างชาติลงทุนอยู่เรื่อยๆ ตลาดหุ้นไทยยังผันผวน คาดเพราะ ไม่ได้ข้อสรุปการจัดตั้งรัฐบาล
ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 23 กรกฎาคม 2566
หลังจากที่สหรัฐอเมริกาออกนโยบาย Friendshoring เพื่อย้ายห่วงโซ่อุปทานไปยังประเทศที่เชื่อใจได้เพื่อรักษาความมั่นคงทางตลาด และลดความเสี่ยงในภาคเศรษฐกิจของประเทศ
สหรัฐฯ เตรียมเดินหน้าดึงเวียดนามเป็นคู่พาร์ตเนอร์ขยายเศรษฐกิจ พร้อมสร้างโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น คณะสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียนรายงานว่า การค้าระหว่างสองประเทศได้เติบโตอย่างต่อเนื่องถึง 25% ต่อปี ในสองศตวรรษที่ผ่านมา และได้เอื้อมแตะระดับสูงสุดในปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้การผลิตของสหรัฐฯ ถูกกระจุกอยู่ที่ยูเครนและจีนเป็นส่วนใหญ่แต่เมื่อมีนโยบาย Friendshoring และมีเวียดนามเข้าร่วม ก็น่าจับตามองว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเวียดนามอย่างมีนัยสำคัญอย่างไร
เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official
📚มาแล้ว Jitta Wisdom หนังสือการลงทุนสุดพิเศษ สำหรับนักลงทุนชาว Jitta Wealth
🌏 จุดวกกลับของดอกเบี้ยโลก ‘จุดประกาย’ การลงทุนตราสารหนี้มาร่วมพูดคุยกับเรา
(ตอบคำถามให้ครบ 3 ข้อ เพื่อเข้าร่วมกลุ่ม 🤗)
Zhang Dandan ศาสตร์จารย์มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ออกมาให้ข้อมูลว่า อัตราการว่างงานของเยาวชนอายุระหว่าง 16-24 ปี ของจีนอาจสูงถึง 46.5% ในเดือนมีนาคมนี้ ในขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานอัตราว่างงานไว้เพียง 19.7% ด้วยตัวเลขที่ต่างกันกว่าครึ่ง ทำให้เป็นประเด็นถกเถียงกันถึงความน่าเชื่อถือในข้อมูล
โดย Zhang Dandan เชื่อว่า อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นอีกมากหากรวมกลุ่มที่อยู่ที่บ้านหรือยังพึ่งพาครอบครัวอยู่ โดยงานวิจัยที่มุ่งเน้นถึงผลกระทบจากโควิดต่อศูนย์กลางการผลิตในภาคตะวันออกของจีน ระบุการจ้างงานยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ทำให้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มเยาวชนมากที่สุด
หากนับเฉพาะผู้ที่กำลังมองหางาน อัตราการว่างงานของเยาวชนจีนเพิ่มขึ้นถึง 21.3% ในเดือนมิถุนายน ถือเป็นประวัติการณ์ใหม่ในจีนที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่อ่อนแอในไตรมาสที่สองนี้
และยังมีคนกลุ่มอื่น ที่ได้ออกมายืนยันว่าการหางานในประเทศจีนในช่วงที่ผ่านมานั้นค่อนข้างยากกว่าช่วงเวลาเดิม
ไม่มีใครตอบได้ว่าตัวเลขที่แท้จริงของอัตราการว่างงานของเยาวชนจีนจะเป็นอย่างไรแน่ชัด แต่สิ่งที่น่าติดตามคือ ไม่ว่าอัตราการว่างงานจะเป็น 19.7% หรือ 46.5% คือ แล้วรัฐบาลจีนจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งต้องติดตามต่อ
คุณคงเคยได้ยินเรื่องรางวัลโนเบลกันมาบ้าง และรู้หรือไม่ว่ามีสูตรการลงทุนที่ได้รางวัลโนเบลด้วย แล้วสูตรการลงทุนนี้จะเป็นอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยว่า ‘สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2566 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากและยังคงมีศักยภาพ คาดจะสามารถขยายตัวได้ในระดับ 3-4%’
ส่วนความไม่แน่นอนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ถูกประเมินไว้ว่าจะไม่กระทบภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ให้เปลี่ยนแปลงไปมาก เนื่องจากได้รวมสมมุติฐานดังกล่าวในคาดการณ์แล้ว โดยงบประมาณอาจจะล่าช้าไป 1 ไตรมาส แต่ในความเป็นจริงกระบวนการยังเป็นไปตามปกติ
นอกจากนี้ ยังประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะขยายตัวได้ +4.2% ในครึ่งหลังของปีนี้ ดีกว่าครึ่งปีแรกที่ขยายตัว +2.9% จากการบริโภคที่เติบโตดีขึ้น รวมไปถึงภาคการท่องเที่ยวที่ปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 29 ล้านคน
ขณะที่เงินเฟ้อนั้นต่ำกว่าที่คาด โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่เนื่องจากราคาอาหาร และราคาพลังงานโลกที่ปรับขึ้น อาจส่งผลให้อนาคตมีโอกาสที่อัตราเงินเฟ้อไทยจะขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
แต่ก็ยังคงไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ว่า สถานการณ์ทางการเมืองนั้นจะไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังคงไม่สรุปนั้น อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน อีกทั้งทิศทางของประเทศยังคงต้องดำเนินต่อ ดังนั้นยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร
ชีวิตต้องเลือก และไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ต้องเลือกให้ดีที่สุด สิ่งที่จะทำให้เราคัดกรองเลือกสิ่งที่ดีได้คือ การตั้งเกณฑ์ให้เป็นมาตรฐาน การเลือก ETF เข้าพอร์ตลงทุนก็เช่นกัน จะมีเกณฑ์อะไรบ้าง ไปดู
ญี่ปุ่นสั่งห้ามส่งออกอุปกรณ์สำหรับผลิตเซมิคอนดักเตอร์ 23 รายการไปจีน ตามรอยนโยบายของสหรัฐฯและเนเธอร์แลนด์ก่อนหน้านี้
Japan Institute of International Affairs กล่าวว่า นโยบายการห้ามส่งออกอุปกรณ์สำหรับผลิตชิปของญี่ปุ่น รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ EUV Lithography ในครั้งนี้จะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงของจีนในระยะสั้นถึงปานกลาง
การดำเนินกีดกันเทคโนโลยีต่อจีนของญี่ปุ่นดังกล่าว เป็นการดำเนินตามนโยบายที่สหรัฐฯและเนเธอร์แลนด์ก่อนหน้านี้แล้ว
โดยในปีที่ผ่านมา จีนมีการนำเข้าอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์จากญี่ปุ่นมากถึง 1 ใน 3 โดยบริษัท Tokyo Electron และ Screen Holdings เป็นซัพพลายเออร์ที่สำคัญของจีน
ทั้งนี้ ระเบียบของกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นยังคงเปิดให้บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ส่งสินค้าไปยังจีน แต่ถูกสั่งห้ามอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง
โดยหลังจากที่สหรัฐฯ มีการดำเนินตามนโยบายไปแล้วนั้น จีนก็ตอบโต้กับสหรัฐฯด้วยการสั่งแบนชิปจากบริษัท และออกมาตราการควบคุมการส่งออกโลหะบางประเภท ยังคงต้องดูต่อไปว่า จีนจะตอบโต้ญี่ปุ่นอย่างไร อุตสาหกรรมเทคโนโลยีญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบหรือไม่
Apple บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังพัฒนาเครื่องมือ Generative AI คล้าย ChatGPT เป็นของตัวเอง สร้างและพัฒนาเทคโนโลยีภายใต้รูปแบบ Large Language Model (LLM) เป็นของตัวเอง โดยตั้งชื่อเทคโนโลยีตัวนี้ว่า AJAX ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรต้องรอติดตาม
แม้รายละเอียดจะยังไม่ชัดเจนแต่ตลาดก็ตอบรับข่าวนี้เป็นอย่างดี หุ้นของ Apple ปรับขึ้นเล็กน้อย และส่งผลไปถึงคู่แข่งอย่าง Microsoft ให้ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเช่นกัน
ในปีที่ผ่านมา เทคโนโลยี AI เริ่มมีความสามารถเทียบเคียงมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เป็นประโยชน์ขึ้นจนเป็นที่นิยม และเป็นสิ่งที่นักลงทุนจับตามอง บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งก็พยายามเร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI ของตัวเอง ยิ่งแข่งขันสูง ยิ่งเป็นผลดีกับอุตสาหกรรม คงต้องติดตามกันต่อไปว่า AJAX ของ Apple จะมีบทบาทในตลาด AI และช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสหรัฐฯ ไปได้มากแค่ไหน
สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันหลายประเทศกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ว่าจะไปในทิศทางไหนต่อ มีวิธีรับมือหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นยังไงได้บ้าง
ที่โดดเด่นมากในช่วงนี้คือ เวียดนามที่หลายคนมองว่าโตช้าในช่วงต้นปี แต่ด้วยการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เวียดนามกลับมาเป็นประเทศที่น่าลงทุนมากที่สุดอีกครั้ง
การแก้ไขปัญหาที่ถูกจุดและยั่งยืน เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจและประเทศกลับมาเติบโตในเส้นทางที่ถูกต้อง และจะส่งผลดีไปถึงตลาดหุ้น ดึงดูดการลงทุนมาได้อย่างมหาศาล เวียดนามถือเป็นอีกประเทศที่พิสูจน์ความจริงในข้อนี้
ประเทศต่อไปที่จะแก้ปัญหาได้อย่างถูกจุด จนโดดเด่นอย่างนี้จะเป็นประเทศอะไร ถือเป็นเรื่องที่น่าติดตามต่อไปมาก
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า
Jitta Wealth Journal – หุ้นไทยจะเป็นยังไง?! หลังยังไม่ได้ข้อสรุปนายก