Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 135 ประจำวันที่ 27 มิถุนายน 2566
Fed กล่าวการขึ้นดอกเบี้ยยังไม่จบเส้นทางยังอีกยาวไกล ตลาดหุ้นเวียดนามพุ่งสูงสุดใน 9 เดือนแม้เจอความผันผวน จีนเร่งเครื่องลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กระตุ้นเศรษฐกิจ ธุรกิจยุโรปในจีนโอดยังทำงานยากแม้ Covid-19 จะคลายลง ญี่ปุ่นเตรียมออกตราสารหนี้ GX ช่วยหนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม
รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth
S&P 500 -1.39% DJIA -1.67% NASDAQ -1.44%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงหลังจากที่ Jerome Powell ประธาน Fed ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อีกประมาณ 2 ครั้ง เพราะยังไม่พอใจกับอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันและต้องการลดลงมาเพื่อให้อยู่ในระดับ 2% ให้ได้ แม้ว่าแนวโน้มเงินเฟ้อจะลดลงแต่ก็ยังไม่ถึงระดับเป้าหมายตามที่ Fed ต้องการ
CSI 300 -2.51% TOPIX -1.55% VNI +1.27% SET -3.45%
ตลาดหุ้นจีนร่วงแรงหลังจากนักวิเคราะห์มองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.1% เป็นการปรับลดที่น้อยเกินไปที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในช่วงเวลานี้ได้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นถูกกดดันจากหุ้นเทคสหรัฐฯ ตลาดหุ้นเวียดนามมีแนวโน้มจะได้การลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากต่างชาติ ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามสหรัฐฯ และความผันผวนของหุ้นตัวใหญ่อย่าง DELTA
ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 25 มิถุนายน 2566
อาทิตย์สุดท้าย…ที่คุณจะได้ออกตัวคว้า ‘หุ้นดีราคาถูก’ กับ Jitta Ranking
ลงทุนหรือเพิ่มทุนในนโยบาย Jitta Ranking แผนใดก็ได้
ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 66 นี้ รับเครดิตค่าธรรมเนียมสูงสุด 100,000 บาท
Jerome Powell ประธาน Fed ได้กล่าวหลังจากการประชุม Federal Open Market Committee (FOMC) สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ‘ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคต จนกว่าจะลดเงินเฟ้อได้’
Powell ชี้แจงว่าไม่อยากให้นักลงทุนมองว่าการหยุดขึ้นในครั้งนี้จะเป็นการสิ้นสุดนโยบายเข้มงวดของ Fed และผู้เข้าร่วม FOMC เกือบทั้งหมดก็เห็นพ้องต้องกันว่าควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ถึงแม้ว่าจะขึ้นในปริมาณที่เล็กน้อยก็ตาม
แม้ว่าจะมีสัญญาณตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อลดลงแต่ก็ยังสูงกว่าเป้าหมายของ Fed ที่ 2% ซึ่งการหยุดปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้เป็นตัวช่วยประเมินผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ยว่ามีผลต่อเศรษฐกิจอย่างไร
การปรับขึ้นดอกเบี้ยถึงแม้ว่าจะทำให้ตลาดหุ้นและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลดความร้อนแรงลง แต่ Fed ก็ยังมองว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่จะลดเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ คงต้องรอดูการประเมินของ Fed ว่าจะเอายังไงต่อไป แต่นักวิเคราะห์คาดว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะจบลงในปีนี้
เรียนรู้วิธีปรับใช้ ‘กฎแรงดึงดูด’ กับการลงทุนของคุณ
วิธีที่มีประสิทธิภาพแบบไม่น่าเชื่อ จากกฎ 3 ข้อที่คุณทำตามได้ง่ายๆ
ดึงหุ้นให้ถูก ดูดเงินเข้ากระเป๋า ด้วยวิธีที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
ในช่วงเดือนมิถุนายนตลาดหุ้นเวียดนามประสบกับความผันผวน แต่สุดท้ายสามารถปิดตัวที่ระดับ 1,125.30 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 9 เดือน แม้ว่าในปีนี้ตลาดหุ้นเวียดนามจะเคลื่อนที่ขึ้นแรงลงแรง แต่ก็เป็นตลาดหุ้นที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
ธนาคารและบริษัทพลังงานเป็นภาคส่วนสำคัญที่มีส่วนหนุนตลาดหุ้น บริษัทเช่น Saigon Thuong Tin Commercial และ Commercial Bank for Foreign Trade of Vietnam ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องและเป็นบริษัทที่ติดอยู่ใน TOP 20 ของ Jitta Ranking เวียดนาม
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเกาหลีใต้กำลังให้ความสนใจและอาจจะเข้ามาลงทุนในเวียดนามเพิ่ม ซึ่งเกาหลีใต้เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในเวียดนามในบริษัท Samsung
เวียดนามยังคงเป็นตลาดที่มีโอกาสและเนื้อหอมต่อนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ การลงทุนในหุ้นเวียดนามอาจเกิดความผันผวนขึ้นได้ แต่หากเจาะลึกไปที่พื้นฐานธุรกิจจะพบว่าไม่ได้รับผลกระทบและยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจมาก
เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official
💸 ถ้าเอา Global ETF เทียบสลากออมสินผลจะเป็นยังไงไปดูกัน
🤩 รีวิวพอร์ต Jitta Ranking สหรัฐฯ กำไรพุ่งกว่า 100%
♟️ อยากเล่นบอร์ดเกมกับทีมงาน Jitta Wealth ไหม มาลงชื่อกัน
(ตอบคำถามให้ครบ 3 ข้อ เพื่อเข้าร่วมกลุ่มนะ 🤗)
หากคุณกำลังหาคำตอบว่าจะลงทุนใน S&P 500 ETF กองไหนดี
คำตอบไม่ยากเลย เพราะคุณสามารถลงทุนตามปู่ Buffett ได้เช่นกัน
แต่ปู่ Buffett ลงทุน S&P 500 ETF กองไหนบ้าง ไปหาคำตอบพร้อมกัน
ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นและระยะกลาง (MLF) ลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำกว่าที่คาดจากการเผชิญอุปสรรคร้ายแรงในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลต่อการลงทุนและการบริโภคภายในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
จีนมองเห็นถึงภาวะเศรษฐกิจที่กำลังซบเซา จึงประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มอีก 2 รายการ ดังนี้
ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 10 เดือนเช่นกัน การปรับลดอัตราดอกเบี้ย มีวัตถุประสงค์กระตุ้นเศรษฐกิจให้ดำเนินต่อไปได้ ตั้งแต่ภาคอุตสาหกรรม การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร การค้าต่างๆ ให้กลับมาดีขึ้นอีกครั้ง
ภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศของจีนโดยรวมยังคงเป็นที่จับตามองของทั่วโลก และต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจีนมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่อาจส่งผลกระทบวงกว้างได้ในอนาคตนั่นเอง
แม้ว่าสถานการณ์ Covid-19 จะได้รับการควบคุมและผ่อนคลายลงแล้ว แต่ บริษัทยุโรปที่ดำเนินกิจการในประเทศจีนกำลังเผชิญกับอุปสรรคและข้อจำกัดที่เพิ่มยิ่งขึ้น เนื่องจากรัฐบาลจีนมีความเข้มงวดกับข้อจำกัดในธุรกิจต่างชาติ นโยบายกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้นของประเทศและความพยายามในการส่งเสริมการพึ่งตนเองในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
EUCCC กล่าวว่า “ประเทศจีนได้ยกเลิกนโยบาย Zero-COVID แล้ว แต่อุปสรรคอื่นๆ ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการแก้ไข หากจีนต้องการฟื้นฟูความน่าดึงดูดในภาคธุรกิจ”
แนวโน้มการทำธุรกิจในจีนของบริษัทยุโรปยังคงมีความน่ากังวล ซึ่งเห็นได้ชัดในภาคส่วนต่างๆ เช่น ภาคเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ซึ่งจีนผลักดันให้พึ่งพาสินค้าและบริการที่ผลิตในประเทศมากขึ้น ทำให้บริษัทยุโรปประสบปัญหาการขอใบอนุญาต และต้องพบกับการตรวจสอบที่เข้มงวดจากรัฐบาลจีน
การดำเนินนโยบายดังกล่าว เป็นหนึ่งในสัญญาณของจีนที่มีความพยายามจะฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของประเทศหลังการยกเลิกมาตรการ Covid-19 หากจีนปรับตัวในส่วนนี้และเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจยุโรปมากขึ้น ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีนได้
บลจ. จิตตะ เวลธ์ จำกัด จะปรับปรุงระบบซื้อขายหลักทรัพย์ ETF ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ช่วงวันที่ 26 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2566 เพื่อประโยชน์แก้ผู้ลงทุน
โดยกระทบกับผู้ลงทุนนโยบาย Global ETF และ Thematic ทั้ง DIY และ Optimize เท่านั้น
กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นมีมติแต่งตั้งให้ Daiwa Securities Group หรือธนาคารเพื่อการลงทุน (โบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น) เป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับการออกตราสารหนี้ Green Transformation (GX)
ตราสารหนี้ GX ถูกออกแบบเพื่อนำไปใช้ในโครงการด้านสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงสนับสนุนนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์
โดยรัฐบาลญี่ปุ่นมีแนวทางที่จะผลิตพันธบัตรดังกล่าวในรูปแบบพันธบัตรรัฐบาลแบบใหม่ และตั้งเป้าให้ตราสารหนี้ GX ผ่านการรับรองจากองค์กรนานาชาติ ภายในช่วงฤดูใบไม้ร่วง 2566 เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลก
เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายข้างต้น รัฐบาลญี่ปุ่นจำเป็นที่จะต้องนำเสนอแผนงานเกี่ยวกับ งบประมาณในการออกตราสารหนี้ GX และนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้กับนักลงทุน
ในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะเห็นว่าญี่ปุ่นก็ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ เพราะมีแผนที่จะพัฒนาโครงการรวม ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าการออกตราสารหนี้ GX จะช่วยหนุนอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดในญี่ปุ่นให้เติบโตหรือไม่
ตามที่คาดตลาดหุ้นกลับมาผันผวนอีกครั้งจากถ้อยคำแถลงของ Fed ที่บอกว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยต่ออีกประมาณ 2 ครั้งด้วยกัน
แต่หากเจาะลึกลงไปจะเห็นข่าวดีที่ซ่อนอยู่ในถ้อยคำแถลงนี้ เพราะเหลืออีกแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ก็มีโอกาสที่ Fed จะหยุดปรับขึ้นดอกเบี้ย และให้ธุรกิจต่างๆ ได้หายใจหายคอกันสะดวกขึ้นบ้าง และอาจจะมีแผนสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ อีกก็เป็นได้
ทางฝั่งเวียดนามสถานการณ์ต่างๆ เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ตลาดหุ้นเริ่มปรับตัวเป็นขาขึ้นและหากเวียดนามแก้ไขปัญหาไปพร้อมกับกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติต่อไปเรื่อยๆ จะยิ่งทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามเนื้อหอมกว่าเดิมอย่างชัดเจน
นี่แหละคือเสน่ห์ของการลงทุนระยะยาวที่คุณจะพบเจอกับสถานการณ์ต่างๆ ระหว่างทางที่จะทำให้คุณมีความเข้าใจตลาดมากยิ่งขึ้น และอาจช่วยให้จิตใจของคุณแข็งแกร่งบนเส้นทางระยะยาวนี้ด้วยเช่นกัน และ Jitta Wealth จะคอยยืนอยู่ข้างคุณเสมอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า