Jitta Wealth Journal - หุ้นกลุ่มแบงก์ทำพิษ ตลาดสหรัฐฯ ร่วงยกแผง

14 มีนาคม 2566Jitta Wealth Journal

หุ้นเวียดนามมาแล้ว! รัฐจัดการปัญหาอสังหาฯ 

Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 120 ประจำวันที่ 14 มีนาคม 2566

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนหนัก หลังธนาคาร 3 แห่งมีปัญหาจนหุ้นกลุ่มแบงก์ดิ่งเหว ตลาดหุ้นจีนโดนเทขายทำกำไรต่อเนื่อง ตลาดหุ้นเวียดนามบวกแรงหลังรัฐบาลแก้ปัญหาภาคอสังหาฯ SEA Limited เจ้าของ Shopee มีกำไรครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้ง

รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth


ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ

S&P 500 -4.55% DJIA -4.43% NASDAQ -4.71%

หุ้นกลุ่มแบงก์ร่วงหนักจากเหตุการณ์ธนาคาร Silvergate Bank ยุติการให้บริการส่งผลให้หุ้น Silvergate Capital Corporation ปรับตัวลดลงกว่า -52.90% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ แรงกดดันต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยน้อยลงเล็กน้อย จากตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 

ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย

CSI 300 -3.96% TOPIX +0.60% VNI +2.75% SET -0.45%

ตลาดหุ้นจีนได้รับแรงกดดันจากนักลงทุนที่เทขายทำกำไรจากหุ้นที่ปรับขึ้นแรง ซึ่งเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ ChatGPT และกลุ่มท่องเที่ยว ตลาดหุ้นเวียดนามมีแนวโน้มที่ดีขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 อาทิตย์ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมาแรงทำผลตอบแทนแซงหน้าตลาดโลกในขณะที่หุ้นไทยยังเคลื่อนที่ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ อยู่

ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 12 มีนาคม 2566


อยากลงทุนเมกะเทรนด์ช่วงนี้ จะลงทุนธีมอะไรดี? 

ธีมเมกะเทรนด์อะไรน่าลงทุนในตอนนี้ แต่ละธีมมีแนวโน้มอย่างไร มาสรุปทุกประเด็น ตอบทุกคำถาม ภาพรวมทุกธีมของ Jitta Wealth ทั้งปีก่อนและแนวโน้มในอนาคตกับนักวิเคราะห์ของ Jitta Wealth กัน

รับชมคลิปวีดีโอ 


เศรษฐกิจสหรัฐฯ

Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยแรงในเดือนมีนาคม

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 Jerome Powell ประธาน Fed ตอบคำถามในสภาเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคต คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงในการประชุมรอบเดือนมีนาคม หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ร้อนแรง เร่งให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้น

หลังจากตอบคำถามในสภา ตลาดหุ้นตอบสนองต่อคำตอบของประธาน Fed ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวน จากข้อมูลของ CME FedWatch Tool ตลาดคาดการณ์ว่า Fed มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก 0.25% เป็น 0.50% ในการประชุมรอบเดือนมีนาคม 2566 นี้

Goldman Sachs คาดการณ์ดอกเบี้ยสูงสุดอาจแตะระดับ 5.50 – 5.75% โดย Fed จะพิจารณาตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ ก่อนจะปรับขึ้นดอกเบี้ย เช่น ตัวเลขภาคแรงงาน ยอดค้าปลีก และอัตราเงินเฟ้อ หากตัวเลขทั้งสามยังร้อนแรงก็มีแนวโน้มสูงที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยแรง

Powell กล่าวอีกครั้งหลังการประชุมนโยบายการเงินรอบล่าสุดว่า การลดดอกเบี้ยที่เร็วเกินไปจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งในอดีตก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว นั่นหมายความว่าเส้นทางการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ยังอีกยาวไกล

ตอนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะยังผันผวนต่อไปตามแนวโน้มดอกเบี้ยและความกังวลนักลงทุน แต่สังเกตได้ว่าตลาดไม่ได้ผันผวนแรงเหมือนช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา เพราะ Fed ไม่ได้มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงเหมือนปีที่แล้ว โอกาสเข้าลงทุนช่วงตลาดผันผวนยังมีอยู่

Silicon Valley Bank ถูกสั่งปิด กระทบอะไรบ้าง?

Silicon Valley Bank (SVB) ธนาคารที่เน้นปล่อยกู้ให้กลุ่มสตาร์ตอัปมากที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ ถูกทางการสั่งปิด ให้หยุดดำเนินธุรกรรมทุกประเภทเพื่อหยุดความเสียหาย จากปัญหาคนแห่ถอนเงิน (Bank Run) จนส่งผลกระทบต่อสภาพคล่อง และอาจทำให้ธนาคารล้มละลายในที่สุด 

ในช่วงที่ผ่านมาวงการสตาร์ตอัปของสหรัฐฯ ขยายตัวอย่างรวดเร็วและได้รับการสนับสนุนจาก Venture Capital (VC) หรือนักลงทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัป ซึ่งในปี 2564 เหล่า VC ได้ลงทุนในธุรกิจต่างๆ ไปมากถึง 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐและ Sillicon Valley Bank เป็นธนาคารที่ VC ทำธุรกรรมด้านการเงินด้วยมากที่สุด

ปัญหาเกิดขึ้นจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วของ Fed จนทำให้ราคาตราสารหนี้ลดลงในพอร์ตของ SVB ลดลงอย่างรวดเร็ว บวกกับ SVB ได้เพิ่มทุนกว่า 2,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อนักลงทุนเจอข่าวการขาดทุนจากส่วนต่างราคาตราสารหนี้จึงเป็นกังวล และแห่ไปถอนเงินทันทีกว่า 42,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จนทำให้หน่วยงานกำกับดูแลต้องสั่งให้ธนาคารหยุดทำธุรกรรมทุกประเภท

ล่าสุดทั้ง Fed และกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้เข้ามาแก้ปัญหานี้แล้ว โดยจัดตั้ง Bank Term Funding Program เพื่อเสนอเงินกู้อายุ 1 ปีให้แก่สถาบันการเงิน แลกกับการที่สถาบันการเงินต้องนำสินทรัพย์ทางการเงินมาค้ำประกันกับกองทุน นอกจากนี้ ภาครัฐยังคุ้มครองเงินฝากทั้งหมดที่อยู่ใน SVB เพื่อสร้างความมั่นใจให้ภาคเอกชนว่าจะได้ทรัพย์สินคืนเต็มจำนวนอีกด้วย

หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ เข้ามาดูแล ส่งผลให้ ดัชนี Dow Jones Futures พุ่งขึ้นไปกว่า 300 จุด นักลงทุนต้องคอยติดตามดูว่าปัญหาสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐฯ จะจบลงอย่างไร และมีหุ้นตัวไหนที่ราคาตกตามตลาดแต่ไม่ได้รับผลกระทบบ้าง ถือเป็นโอกาสลงทุนที่ดี


Talk of the Town 

เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official

😊 เทียบชัด! ผลการลงทุนเฉลี่ยของนักลงทุนทั้งหมดที่ลงทุนใน Jitta Ranking แผนต่างๆ

🎉 รีวิวพอร์ต 1 ปี Jitta Ranking US-Tech เติบโตมากแค่ไหนมาดูกัน

ราคาของความยืนหยัดคือความสำเร็จ เพิ่มทุก Thematic Optimize ครั้งที่ 5 

มาร่วมพูดคุยกับเรา

(ตอบคำถามให้ครบ 3 ข้อ เพื่อเข้าร่วมกลุ่มนะ 🤗)


เศรษฐกิจเวียดนาม

ต่างชาติมองเวียดนามอยู่ในแผน China Plus One

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ China Plus One กันก่อน ในอดีตหากบริษัทจะตั้งฐานการผลิตสินค้าแน่นอนว่าประเทศแรกที่ถูกนึกถึงคือจีน แต่ปัจจุบันด้วยปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องหาฐานการผลิตใหม่ และเป้าหมายต่อไปคือเวียดนาม 

Keppel Corporation บริษัทยักษ์ใหญ่จากสิงคโปร์ที่เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาฯ มองว่าเวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ในการกระจายความเสี่ยงออกจากจีน

หากพูดถึงนโยบาย China Plus One เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่ทุกคนจับตามอง หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ขยายฐานการผลิตมาเวียดนามเป็นจำนวนมาก เช่น ‘Samsung’ ‘Apple’ ‘Xiaomi’ และ ‘LG’ ส่งผลให้เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันเวียดนามเผชิญกับปัญหาภาคอสังหาฯ แต่รัฐบาลเวียดนามก็ทยอยออกมาตรการออกมาช่วยเหลือภาคอสังหาฯ แล้ว ขณะที่เศรษฐกิจในส่วนอื่นๆ ของเวียดนามก็ยังเป็นไปตามปกติ

อสังหาฯ เวียดนามเฮ รัฐบาลยืดอายุหนี้ 

รัฐบาลเวียดนามประกาศยืดอายุหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย พร้อมปรับโครงสร้างหนี้ที่ผิดนัดชำระไปแล้วเพื่อช่วยเหลือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมีผลในวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา 

มาตรการดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาอสังหาริมทรัพย์ในด้านสภาพคล่อง และสร้างสมดุลระหว่างความต้องการขายและความต้องการซื้อที่แท้จริง และมาตรการดังกล่าวจะรวมไปถึงการพัฒนาโครงการ Social Housing การปรับปรุงอะพาร์ตเมนต์เก่า อาคารสำนักงานให้เช่า และการบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ด้วย

นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามก็ได้ขอความช่วยเหลือจากธนาคารพาณิชย์ให้ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ โดยธนาคารของรัฐทั้ง 4 แห่งได้เตรียมวงเงินกู้พิเศษ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 170,000 ล้านบาทพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าปกติ 1.5 – 2% สำหรับผู้พัฒนาและผู้ซื้อโครงการ Social Housing

การออกมาตรการช่วยเหลือถือเป็นสัญญาณดีของภาคอสังหาริมทรัพย์เวียดนาม และจะมาช่วยผ่อนคลายแรงกดดันที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้


Tim Ferriss ส่งต่อวิชาลงทุนปู่ Buffett

คำสอนของปู่ Buffett ที่ถูกถ่ายทอดผ่าน Tim Ferriss ผู้เขียนหนังสือ ‘The 4-hour Workweek’ ข้อคิดหลายอย่าง มีประโยชน์ทั้งในเรื่องการลงทุนและการใช้ชีวิต ถ้าอยากรู้ข้อคิดแต่ละเรื่องมีอะไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

อ่านต่อ


เทคโนโลยีการเงิน

Silvergate คืออะไร กระทบยังไงกับโลกฟินเทค?

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิด การล่มสลายครั้งใหญ่ของธนาคารที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งก็คือธนาคาร Silvergate Bank สาเหตุที่ธนาคาร Silvergate ปิดตัวลงเป็นเพราะโดนเล่นงานจากภาวะตลาดหมีของสกุลเงินคริปโทฯ และความวุ่นวายในวงการคริปโทฯ 

โดย Silvergate ระบุว่าการตัดสินใจยุติการให้บริการนั้นเกิดจากสถานการณ์ในวงการคริปโทฯ และการกำกับดูแลกฎระเบียบ การยุติให้บริการและขายทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว

เมื่อธนาคารขนาดใหญ่อย่าง Silvergate ล่มสลายลง ย่อมส่งผลต่ออุตสาหกรรมการเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หุ้น Silvergate ปรับตัวลงจากจุดสูงสุดมากกว่า -95% ในเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา และทำให้นักลงทุนเริ่มจะไม่เชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัลว่าจะมีอนาคตที่มั่นคง

เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบไปถึง ธีมเทคโนโลยีการเงิน แต่เมื่อเข้าไปดูหุ้นใน ETF จะพบว่าไม่ได้ถือครองหุ้น Silvergate เอาไว้ และผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีของธีมฟินเทคยังคงเป็นบวก แต่กรณีของ Silvergate อาจส่งผลให้ราคาหุ้นเทคโนโลยีหลายบริษัทปรับตัวลงด้วย


อีคอมเมิร์ซ

SEA บริษัทแม่ Shopee มีกำไรครั้งแรก

คุณคงเคยใช้บริการแอปพลิเคชัน Shopee กันมาบ้างและคงคุ้นเคยกับบริษัท SEA Limited ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ที่ในตอนนี้ SEA ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2565 กำไรออกมาเป็นบวกครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ทำให้หุ้นพุ่งขึ้นกว่า 10% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในไตรมาสที่ 4 บริษัทมีกำไรอยู่ที่ 426 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการควบคุมต้นทุนในการดำเนินธุรกิจที่ดีขึ้น และอีกส่วนนึงมาจากการปลดพนักงานกว่า 7,000 คน ทำให้ต้นทุนด้านทรัพยากรบุคคลลดลง นอกจากนี้ ยังยุติการดำเนินธุรกิจในอินเดีย และบางตลาดในยุโรปและละตินอเมริกาเพื่อลดต้นทุนเพิ่มเติมด้วย

SEA Limited เหมือนกับบริษัทอื่นที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วง Covid-19 รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงปกติทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นสูงอย่างมากในช่วง Covid-19 ก่อนจะร่วงลงอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา

หลังจากนี้เป็นไปได้ว่าบริษัทเทคโนโลยีจะเติบโตตามความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคหรือผู้ใช้งาน การปรับขนาดองค์กรของหลายบริษัทจะสะท้อนผลลัพธ์ผ่านทางรายได้และกำไรของบริษัท ดังนั้นหลังจากนี้เราอาจจะได้เห็นการเติบโตที่มั่นคงของบริษัทเทคฯ ก็เป็นได้ 


ความผันผวนหรือผลกระทบระยะสั้นที่ทำให้นักลงทุนหลายคนตกใจ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในเส้นทางการลงทุนระยะยาว และในบางครั้งมันก็เป็นโอกาสในการถัวเฉลี่ยหุ้นในราคาต่ำลงด้วยเช่นกัน 

ส่วนนักลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามน่าจะหายใจสะดวกกันมากขึ้น อย่างที่ได้บอกเอาไว้ว่าวิกฤตดังกล่าวกำลังได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนจากรัฐบาลเวียดนาม และไม่เกี่ยวข้องกับพื้นฐานหุ้นคุณภาพดีในอุตสาหกรรมอื่นๆ ของเวียดนามเลย

ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ นักลงทุนเริ่มชินชาต่อการขึ้นนโยบายดอกเบี้ยของ Fed ทำให้ตลาดหุ้นผันผวนน้อยลงกว่าปีก่อนมาก และธีมเมกะเทรนด์หลายธีมก็มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน 

ตอนนี้หุ้นหลายบริษัทเครื่องเริ่มติดแล้ว ขอให้ทุกคนขึ้นรถกันให้ทันนะ 

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า

ทีมงาน Jitta Wealth


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – ญี่ปุ่นยัน! ใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย

Jitta Wealth Journal – เวียดนามยังโตแรง! อสังหาฯ รั้งไม่อยู่

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด