Jitta Wealth Journal - หุ้นจีนเนื้อหอม! ทุนนอกหลงเสน่ห์

17 มกราคม 2566Jitta Wealth Journal

เงินเฟ้อสหรัฐฯ ร่วง ดันตลาดหุ้นเขียวสดใสทั่วโลก

Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 112 ประจำวันที่ 17 มกราคม 2566

นักลงทุนครื้นเครง! เงินเฟ้อสหรัฐฯ ลงมาเหลือ 6.5% ตลาดคาด Fed ชะลอขึ้นดอกเบี้ย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จับมือพุ่งทะยาน ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ ก็เปิดปี 66 อย่างสวยงาม Wall Street หลงเสน่ห์หุ้นจีน แค่ 8 วันทำการปูพรมซื้อหุ้นจีนไปแล้ว 50,000 ล้านหยวน Bloomberg คาดยอดขายรถ EV ปี 66 ยังโตต่อ TSMC เตรียมลงทุนเพิ่มในญี่ปุ่น พร้อมกางแผนบุกยุโรป

ทีมงานย่อยข่าวเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกมาให้คุณแล้ว ไปติดตามกันได้เลย

รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth


ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ

S&P 500 +2.67% DJIA +2.00% NASDAQ +4.82%

นักลงทุนสหรัฐฯ มองเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง และคลายความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ตลาดหุ้นปิดบวก หุ้นบิ๊กเทคฯ หลายบริษัทจับมือกันปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง สถานการณ์ต่างๆ ใกล้กลับสู่ภาวะปกติ นักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น

ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย

CSI 300 +2.35% TOPIX +1.46% VNI +0.83% SET +0.47%

ตลาดหุ้นจีนบวกไม่หยุดหลังรัฐบาลผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้รับแรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ลดลง นักลงทุนคาดการณ์ว่าค่าเงินเยนจะกลับมามีเสถียรภาพในไม่ช้า รวมไปถึงตลาดอื่นๆ ในเอเชียก็ได้รับแรงหนุนจากสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน 

ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 15 มกราคม 2566


Jitta Wealth Journal

ฤกษ์ดี! ลงทุน ‘หุ้นจีน’ วันนี้ รับอั่งเปาเครดิตค่าธรรมเนียม

ตรุษจีนปีนี้ Jitta Wealth แจกอั่งเปาเครดิตค่าธรรมเนียมสูงสุด 100,000 บาท พร้อมของขวัญ Limited Edition เพียงลงทุนหรือเพิ่มทุนแผน Jitta Ranking หุ้นจีนหรือหุ้นเทคโนโลยีจีน 

ภายใน 16-31 ม.ค. นี้เท่านั้น 

รายละเอียดแคมเปญ 


เศรษฐกิจสหรัฐฯ

เงินเฟ้อสหรัฐฯ ร่วง! เดือน ธ.ค. ขยายตัว 6.5% ต่ำสุดในรอบปี 

สัญญาณดีเริ่มปรากฎ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคมขยายตัวอยู่ที่ 6.5%YoY เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.1%YoY เงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยหลักที่ดันเงินเฟ้อสูงในช่วงปี 2565 มาจากราคาพลังงาน อาหาร และที่อยู่อาศัย

เงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่องส่งผลให้ตลาดหุ้นคลายความกังวลมากขึ้น และมีมุมมองว่า Fed จะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงนัก นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยช่วงปลายปี 2566 

CME FedWatch Tools คาดว่าในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2566 เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ก่อนจะปรับลดลงมาเท่ากับระดับปัจจุบันในเดือนธันวาคม 2566 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งนึง

จากตัวเลขที่ออกมาอาจทำให้ Fed คิดทบทวนดูว่าจำเป็นต้องปรับดอกเบี้ยขึ้นแรงอีกต่อไปหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แม้เงินเฟ้อตาม Consumer Price Index (CPI) จะลดลงต่อเนื่อง แต่ Personal Consumption Expenditure (PCE) ยังสูงกว่าเป้าหมาย 2% ที่ Fed ต้องการ แต่แนวโน้มที่ตัวเลขจากทั้ง 2 ดัชนีกำลังลดลง ก็ถือเป็นสัญญาณดีต่อการลงทุนในปี 2566 


Passive Way Story

Passive Way Podcast ซีรีส์ที่ 2 Episode 05 สูตรลงทุนสุดประหลาด! ที่ทำกำไรงาม John Templeton 

ใครๆ ก็อยากได้สูตรสำเร็จในการลงทุน เราหาสูตรการลงทุนที่ใช้ได้จริงมาให้คุณแล้ว แต่ถ้าอยากใช้สูตรนี้ ก็ต้องมีความกล้า ความศรัทธาพอสมควร

จะเป็นยังไงนั้น ต้องไปฟัง Episode นี้

ฟัง Passive Way Podcast ซีรีส์ 2 Episode 05 


เศรษฐกิจจีน

Wall Street หลงเสน่ห์ตลาดหุ้นจีน

หลังจากที่จีนเปิดประเทศ สถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายมากขึ้น สถาบันการเงินระดับโลกอย่าง Morgan Stanley และ Goldman Sachs มีความเห็นสอดคล้องกันว่า ตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มเป็นบวก รวมไปถึงค่าเงินหยวนที่เริ่มมีเสถียรภาพ

Laura Wang จาก Morgan Stanley ได้กล่าวว่า “การเปิดประเทศและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยหนุนหลัก และคาดการณ์เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 5.7% ในปี 2566”

นอกจากนี้ Morgan Stanley ยังมองว่าค่าเงินหยวนจะแข็งค่าแตะที่ระดับ 6.65 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ และมองว่าหุ้นจีนจะทำผลงานได้โดดเด่นในปี 2566 โดยคาดว่าดัชนี MSCI China Index จะแตะที่ระดับ 80

ในฝั่งของ Goldman Sachs คาดการณ์ว่าค่าเงินหยวนจะแข็งค่าไปแตะที่ระดับ 6.5 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยจะแข็งค่าจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและเม็ดเงินที่ไหลเข้าจากต่างประเทศ

ปีนี้ดูเหมือนว่าจีนจะได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศมหาศาล กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การกระตุ้นจากรัฐบาลเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หากสิ่งต่างๆ เป็นไปตามที่ Morgan Stanley และ Goldman Sachs คาดการณ์ นักลงทุนต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในจีนจะได้กำไรจากทั้งตลาดหุ้นและค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้น

ต่างชาติดาหน้าซื้อหุ้นจีนกว่า 50,000 ล้านหยวน

เงินทุนนอกแห่เข้าซื้อหุ้น A-Share ไปแล้วกว่า 50,000 ล้านหยวน ภายในระยะเวลาแค่ 8 วันทำการ และดูเหมือนว่าจะเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยมีการคาดการณ์ว่าในปี 2566 ทุนนอกจะเข้าซื้อ A-Share มากถึง 300,000 ล้านหยวน

ตลาดหุ้นจีนกำลังเนื้อหอม มีเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าซื้อหุ้นต่อเนื่อง โดยเงินที่หลั่งไหลเข้าตลาดจำนวน 50,000 ล้านหยวนในช่วง 8 วันทำการแรกของปี 2566 เทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งของเงินลงทุนจากต่างประเทศในปี 2565 ทั้งปี 

China Industrial Securities วิเคราะห์เหตุผลที่ทุนนอกไหลเข้าหุ้น A-Share ของจีนมากขึ้นดังนี้

  • ทุนนอกมองบวกต่อเศรษฐกิจจีนในปี 2566
  • ค่าเงินหยวนแข็งค่าอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ
  • รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการต่างๆ และสนับสนุนธุรกิจแพลตฟอร์มมากขึ้น
  • ตลาดต่างประเทศผันผวนน้อยลง นักลงทุนกล้าลงทุนหุ้นต่างประเทศมากขึ้น

การเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ทำให้ตลาดหุ้นจีนกลับมาเป็นไฮไลต์อีกครั้ง โดยเฉพาะการผ่อนคลายอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุนผ่อนคลายความกังวลต่อการควบคุมของรัฐบาล

ต้องรอดูกันต่อไปว่ารัฐบาลจีนจะสามารถพาประเทศเติบโตตามเป้าหมายที่กำลังจะถูกกำหนดในเดือนหน้าได้หรือไม่ ถือเป็นตลาดหุ้นที่น่าสนใจมากในปี 2566 นี้


Talk of the Town

Talk of the Town 

เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official

🤖 ถึงคิวปรับพอร์ต Thematic Optimize อัลกอริทึมเลือกธีมอะไรให้บ้าง? มาแชร์กัน

✔️ นโยบาย Global ETF เปลี่ยน ETF ใหม่ เพื่ออนาคตที่ดีกว่า

💡 รีวิวพอร์ตทั้งตัวของแอดมินกลุ่ม Jitta Wealth Official จะเขียวหรือแดง ไปดูกัน

มาร่วมพูดคุยกับเรา

(ตอบคำถามให้ครบ 3 ข้อ เพื่อเข้าร่วมกลุ่ม 🤗)


ลิเธียมและแบตเตอรี่

Bloomberg คาดยอดขายรถ EV ทั่วโลกปีนี้โต 32% 

Bloomberg ทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าโลก โดยมี 3 ประเด็นหลักที่น่าสนใจดังนี้ 

  • Bloomberg คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2566 จะอยู่ที่ 13.6 ล้านคัน โดยจีนยังคงเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้า และภายในสิ้นปีนี้จะมีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งบนถนนมากกว่า 40 ล้านคันทั่วโลก 
  • ยอดขายรถตู้และรถบรรทุกไฟฟ้าจะขยายตัวกว่า 80%YoY จากปี 2565 
  • แท่นชาร์จซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.1 ล้านแท่นทั่วโลกภายในปี 2566 

รถยนต์ไฟฟ้ายังอยู่ในกระแสของคนทั่วโลก ยอดขายในแต่ละปียังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รัฐบาลในแต่ละประเทศต่างสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุด Zero Emission และในปัจจุบัน ผู้ผลิตที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าต่างก็วิจัยผลิตภัณฑ์เพื่อให้รถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงผู้บริโภคให้ง่ายที่สุด

ในอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาต่ำลง โครงสร้างพื้นฐานประเภทสถานีชาร์จก็จะมีมากขึ้น ผู้บริโภคส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี หรืออุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน 


Jitta Wealth Journal

สำเร็จ vs ล้มเหลว พฤติกรรมซ้ำๆ ในโลกลงทุน! 

พบกับคุณเผ่า ตราวุทธิ์ และคุณเฟิร์น ศิรัถยา ในรายการลงทุนนิยม Live  ตอน “สำเร็จ VS ล้มเหลว” พฤติกรรมซ้ำๆ ในโลกลงทุน ความรู้ด้านการลงทุนที่น่าฟัง กับปัญหาโลกแตกที่นักลงทุนทุกคนต้องเคยเจอ

ชม Live ย้อนหลัง 


เซมิคอนดักเตอร์

TSMC เล็งสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ในญี่ปุ่น กางแผนบุกยุโรป 

TSMC ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่เตรียมลงทุนตั้งโรงงานแห่งที่ 2 ในญี่ปุ่น และกำลังพิจารณาตั้งโรงงานแห่งแรกในยุโรป 

CEO ของ TSMC ให้สัมภาษณ์ว่า “เรากำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานผลิตชิปสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์โดยเฉพาะ เรื่องของโรงงานในญี่ปุ่น หากมีอุปสงค์มากพอและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เราจะสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ในญี่ปุ่น”

TSMC คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในปี 2566 อาจหดตัวลง 4% จากอัตราการเติบโตที่สูงผิดปกติในช่วง Covid-19 และในปี 2566 ความต้องการก็กลับมาเป็นปกติ แต่ Mark Li นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ให้ความเห็นว่า ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ลดลงเป็นแค่เรื่องชั่วคราวเท่านั้น

TSMC ยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องกว่า 100,000 ล้านบาทเพื่อพัฒนาและผลิตสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการ


ตลาดหุ้นทั่วโลกเปิดปี 2566 มาได้อย่างสดใส สภาวะเศรษฐกิจที่เคยกดดันตลาดหุ้นในปีที่แล้วก็ดูดีขึ้น ทั้งเรื่องเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่เริ่มลดลง และจีนกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง ซึ่งก็น่าจะยิ่งทำให้สินค้าที่เคยขาดแคลนกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง ปัญหาเงินเฟ้อก็ยิ่งเบาบางลงไปอีก

แต่นักลงทุนก็อย่าเพิ่งวางใจ‘อารมณ์’ นั้นเป็นวายร้ายของการลงทุน ยิ่งในช่วงตลาดหุ้นดูสดใสแบบนี้ ยิ่งต้องคอยระวังอย่าปล่อยให้ตัวเองลงทุนติดประมาทจนเกินไป หลักการอะไรที่เคยทำในช่วงตลาดหุ้นขาลง ก็ควรจะนำมาใช้ในช่วงตลาดขาขึ้นด้วยตามความเหมาะสม

สุดสัปดาห์นี้ หลายๆ ครอบครัวที่มีเชื้อสายจีนก็น่าจะฉลองเทศกาลตรุษจีนกัน ทีมงาน Jitta Wealth ขออวยพรนักลงทุนว่า ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ 新正如意 新年发财 คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนา มั่งคั่ง ร่ำรวย เฮงๆ กันตลอดทั้งปี

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – Jack Ma มาแล้ว! จีนอนุมัติระดมทุน Ant Group

Jitta Wealth Journal – จีนเปิดประเทศ ‘ไทย’ จุดหมายหลัก

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด