ลงทุน ETF ต่างประเทศ งบ 50,000 หรือ 100,000 บาท แบบไหนดี

ไฮไลต์

• หาก ‘ลงทุน ETF ต่างประเทศ’ กับ Jitta Wealth ระหว่างเริ่มต้น 50,000 และ 100,000 บาท หลักการลงทุนเหมือนกันหรือไม่ มีส่วนไหนที่ต่างกันที่ควรรู้ไว้
• จำลองพอร์ตลงทุน Global ETF แผนเติบโตและ Thematic Optimize ระหว่าง 50,000 และ 100,000 บาท ผลตอบแทนแตกต่างกันหรือไม่ ทำไมการเพิ่มทุนอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้พอร์ตลงทุนเติบโตได้อย่างยั่งยืน
• ข้อดีของ ‘ลงทุน ETF ต่างประเทศ’ ด้วยงบ 50,000 บาท เปิดโอกาสให้คุณวางแผนการเงินส่วนบุคคลได้ง่ายขึ้น ตั้งเป้าหมายการลงทุนระยะยาว และกันเงินสดบางส่วน ไว้เพิ่มทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นขาลง 
• แนะนำให้คุณหมั่นเพิ่มทุนสม่ำเสมอ ให้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำของกองทุนส่วนบุคคลปลายทาง เพื่อผลตอบแทนทบต้นที่คุณจะได้รับอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ก่อนจะเปลี่ยนแผน

ตามคำเรียกร้อง คุณสามารถ ‘ลงทุน ETF ต่างประเทศ’ กับ Jitta Wealth เริ่มต้นเพียง 50,000 บาท

นับเป็นการปิด Pain Point จุดใหญ่ๆ เลยทีเดียว หากคุณมีเงินก้อนไม่ใหญ่มาก เงินลงทุนเริ่มต้นไม่สูง นับเป็นการเปิดโอกาสให้คุณเป็นเจ้าของกองทุนส่วนบุคคลได้ง่ายขึ้น 

Jitta Wealth มีให้คุณเลือก ‘ลงทุน ETF ต่างประเทศ’ ได้ 2 แผนการลงทุน คือ Global ETF และ Thematic

คุณอาจจะตั้งคำถามว่า ระหว่างงบ 50,000 หรือ 100,000 บาท จะมีความแตกต่างกันหรือไม่ เช่น สัดส่วน ETF ที่เข้าพอร์ต และผลตอบแทนย้อนหลัง

บทความนี้ Jitta Wealth จะมาตอบทุกข้อสงสัย เพื่อให้คุณได้ลงทุนอย่างสบายใจ และเพิ่มพูนความมั่งคั่งไปด้วยกัน

เริ่มต้น 50,000 บาท ‘ลงทุน ETF ต่างประเทศ’ ดีอย่างไร

Jitta Wealth ลดเงินลงทุนเริ่มต้นของ Global ETF และ Thematic เหลือ 50,000 บาทนั้น นอกจากคุณจะเริ่มลงทุน มีกองทุนส่วนบุคคลได้ง่ายขึ้น ยังมีข้อดีอีกมากมาย ดังนี้

• วางแผนการเงินส่วนบุคคล

เมื่อเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินจำนวนที่น้อยลง คุณจะสามารถตั้งเป้าหมายการสร้างความมั่งคั่งได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มมูลค่าเงินลงทุนระยะยาว หรือวางแผน DCA (Dollar Cost Averaging) เป็นช่วงเวลา

เช่น คุณจะลงทุนในพอร์ตนี้นานแค่ไหน 3 ปี 5 ปี 10 ปี หรือนานกว่านั้น คุณมีเป้าหมายใส่เงินเพิ่มให้ได้เท่าไร 100,000 บาท 300,000 บาท 500,000 บาท หรือ 1 ล้านบาท และเมื่อถึงเวลานั้น มูลค่าเงินในพอร์ตนี้จะเอาไปทำอะไร 

• ทยอยลงทุนได้ ในช่วงที่ไม่มั่นใจสถานการณ์

ในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวน ไม่รู้ว่า ดัชนีจะขึ้นหรือลง ไม่กล้าลงทุนทีเดียวเป็นก้อนใหญ่ การแบ่งเงินเป็นก้อนๆ และเพิ่มทุนเป็นครั้งๆ จะเป็นตัวช่วยที่คุณจะกระจายความเสี่ยงด้วยการเฉลี่ยต้นทุนราคา ETF ได้ 

ยกตัวอย่างเช่น คุณมีเงินก้อน 100,000 บาท เริ่มพอร์ตลงทุน Thematic Optimize ที่ 50,000 บาท คุณจะเหลือเงินสดอีก 50,000 บาท โดยคุณสามารถวางแผนทยอยเข้าครั้งละ 10,000 บาทได้อีก 5 ครั้ง

หากคุณเริ่มลงทุน 50,000 บาท Thematic Optimize เมื่อเดือนตุลาคม 2564 แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า ช่วงเดือนธันวาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นขาลง และกดดันราคา ETF ด้วย ดังนั้นเงินสดที่เหลืออยู่ 50,000 บาท เหมือนเป็นกระสุนสำรอง ไว้ยิงได้อีก 5 ครั้ง คุณสามารถเพิ่มทุนได้ เฉลี่ยราคา ETF ในช่วงตลาดหุ้นขาลงได้

• กระจายความเสี่ยงด้วย ETF

ETF หรือ Exchange Traded Fund เป็นสินทรัพย์การเงินในรูปแบบของกองทุน แต่ซื้อขายในตลาดหุ้น เสมือนเป็นหุ้นบริษัท เมื่อเป็นกองทุน คือการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ เป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพัน ดังนั้นการลงทุนใน ETF เพียงกองเดียว เหมือนได้กระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ที่คุณอยากลงทุนไปในตัว

แต่นโยบายการลงทุนของ ETF แต่ละกองมีความแตกต่างกันไป หากคุณเลือกเพียงกองเดียว ไม่อาจจะเรียกได้ว่า กระจายความเสี่ยงได้สมบูรณ์ ทั้ง Global ETF และ Thematic ของ Jitta Wealth จึงออกแบบมาให้คุณลงทุนใน ETF หลายๆ กอง หลายๆ สินทรัพย์ สูงสุด 5 กอง ขึ้นอยู่กับแผนการลงทุนที่คุณเลือก

ทำไมลงทุนจริง สัดส่วนสินทรัพย์ไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้

คำถามนี้ คุณจะค้นพบก็ต่อเมื่อเริ่มลงทุน Global ETF และ Thematic ไปแล้ว ดูจากรายงานประจำเดือนที่ Jitta Wealth ส่งให้ในวันทำการ ประมาณวันที่ 10-15 ของทุกเดือน หรือล็อกอินเข้าดูในแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ Jitta Wealth

ไม่ว่าจะเป็นเงินลงทุนเริ่มต้น 50,000 หรือ 100,000 บาท คุณอาจจะพบว่า สัดส่วนการลงทุนของแต่ละสินทรัพย์ไม่ตรงตามที่ Jitta Wealth แจ้งไว้ และมีเงินสดเหลือในพอร์ตมากกว่าปกติ 

แต่ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด เพราะก่อนจะส่งคำสั่งซื้อขาย ระบบของ Jitta Wealth จะกันเงินสดไว้ก่อนประมาณ 1% สำหรับค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการบริหารกองทุนส่วนบุคคล ซึ่งจะคำนวณให้คุณทุกไตรมาส

อย่างไรก็ตาม เมื่อส่งคำสั่งซื้อสินทรัพย์ตามแผนการลงทุนที่คุณเลือกไว้ คุณจะพบว่า พอร์ตยังมีเงินสดคงเหลืออยู่มากกว่า 1% (รวมกับที่กันไว้ 1% เพื่อชำระค่าธรรมเนียม) ซึ่งมีเหตุผลดังนี้

1. ระบบส่งคำสั่งซื้อขายของ Jitta Wealth ไม่สามารถซื้อ ETF ให้มีสัดส่วนตามที่แจ้งไว้ได้ เนื่องจากราคา ETF บางกองมีราคาสูงกว่าเงินสดคงเหลือในพอร์ตของคุณ โดยเฉพาะราคาสูงๆ มากกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ ระบบอาจจะซื้อ ETF ราคาสูงๆ ได้ในสัดส่วนที่มากกว่า แต่จะส่งผลให้ซื้อ ETF ราคาต่ำๆ ได้ในสัดส่วนที่น้อยกว่า
2. ราคา ETF ทุกกองจะเปลี่ยนแปลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ระบบของ Jitta Wealth จะติดตามราคาทุกวัน หากราคา ETF ตกลงมาจนน้อยกว่ามูลค่าเงินสดคงเหลือ หรือคุณเพิ่มทุนเข้ามาในพอร์ต ระบบจะส่งคำสั่งซื้อ ETF เพิ่มให้อัตโนมัติ เพื่อให้สัดส่วนของแต่ละสินทรัพย์ใกล้เคียงกับที่ Jitta Wealth กำหนดไว้
3. เมื่อ ‘ลงทุน ETF ต่างประเทศ’ ต้องลงทุนในเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ต้องใช้เงินสกุลบาทไทยในมูลค่าที่มากพอ ดังนั้นยิ่งเงินลงทุนเริ่มต้นสูง ย่อมทำให้ซื้อ ETF ได้สัดส่วนใกล้เคียงกับที่กำหนดไว้ได้ง่ายขึ้น 

ทีมงาน Jitta Wealth จำลองพอร์ตลงทุน Global ETF และ Thematic โดยเปรียบเทียบสัดส่วน หากเริ่มต้น 50,000 และ 100,000 บาท เพื่อให้คุณได้เห็นภาพชัดเจนและเข้าใจมากขึ้น

เมื่อจำลองพอร์ตลงทุน Global ETF แผนเติบโต คุณจะเห็นว่า พอร์ตที่เริ่มต้น 50,000 บาท จะมีเงินสดคงเหลือมากกว่าพอร์ตที่เริ่มต้น 100,000 บาท เหตุผล คือ ราคา ETF ของ Global ETF มีราคาสูงกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐเป็นส่วนใหญ่ การจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation) ให้ได้ตามที่กำหนดไว้ จะค่อนข้างยาก 

สำหรับจำลองพอร์ตลงทุน Thematic Optimize คุณจะเห็นภาพแบบเดียวกัน คือ เงินสดในพอร์ต 50,000 บาทเหลือมากกว่า 100,000 บาท แม้ว่า ราคา ETF ของ Thematic ส่วนใหญ่ยังต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ แต่การซื้อและจัดสรร ETF ให้ได้สัดส่วนตามที่กำหนดไว้ ยังมีความแตกต่างกัน บางธีมได้ 25% บางธีมได้น้อยกว่า 25%

เมื่อระบบของ Jitta Wealth ส่งคำสั่งซื้อและลงทุนจริง พอร์ตของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับวันที่ระบบส่งคำสั่ง ราคา ETF และอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาเช่นกัน 

หากคุณลงทุน Thematic Optimize มี AI ของ Jitta Wealth คอยวิเคราะห์และคัดกรองธีมที่น่าลงทุนที่สุดในช่วงเวลานั้น มาจัดพอร์ต 4 ธีมให้คุณ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่คุณเริ่มลงทุนและการปรับพอร์ตอัตโนมัติ ธีมและราคา ETF อาจจะแตกต่างกันไปเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ทีมงาน Jitta Wealth จะคอยพัฒนาระบบการซื้อขายให้คุณเหลือเงินสดอยู่ในพอร์ตน้อยที่สุดอยู่เสมอ เพื่อให้คุณได้ประโยชน์สูงสุด จากการสร้างความมั่งคั่งผ่านกองทุนส่วนบุคคล ทั้งโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีและการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม

ลงทุน 50,000 หรือ 100,000 บาท อะไรดีกว่ากัน

เมื่อคุณมีทางเลือก ‘ลงทุน ETF ต่างประเทศ’ มากขึ้น ไม่ว่าจะเริ่มต้นด้วย 50,000 หรือ 100,000 บาท ด้วยจำนวนเงินสดคงเหลือแตกต่างกัน คุณอาจจะมีคำถามอีกว่า เริ่มต้นเงิน 50,000 หรือ 100,000 บาท แบบไหนผลตอบแทนดีที่สุด

ทีมงาน Jitta Wealth จึงได้จำลองพอร์ตลงทุนเดิม 2 พอร์ตเปรียบเทียบกัน ทั้ง Global ETF แผนเติบโตและแผน Thematic Optimize ระหว่าง 50,000 และ 100,000 บาท เพื่อดูว่า ผลตอบแทนย้อนหลัง 4 ปี แตกต่างกันมากหรือไม่

ผลตอบแทนช่วงปี 2561-2564 ทีมงาน Jitta Wealth คำนวณโดยหักค่าธรรมเนียมต่างๆ ตามจริง เพื่อให้คุณเห็นผลตอบแทนจากกองทุนส่วนบุคคลอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จะเห็นได้ว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีระหว่าง 50,000 และ 100,000 บาท ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ทำให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกเริ่มต้นลงทุนได้ 2 รูปแบบ 

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้พอร์ตลงทุนมีสัดส่วนสินทรัพย์ใกล้เคียงกับที่กำหนดไว้มากที่สุด ทีมงาน Jitta Wealth แนะนำให้เพิ่มทุนเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงตลาดหุ้นขาลง คุณจะได้เฉลี่ยราคา ETF เพราะยิ่งมูลค่าพอร์ตสูงมากเท่าไร โอกาสที่ระบบจะจัดสรรสินทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพย่อมมีสูงขึ้นเช่นเดียวกัน

Jitta Wealth คัดสรร Passive ETF และ Thematic ETF ที่มีคุณภาพดีและมีโอกาสเติบโตอยู่แล้ว วินัยการลงทุนที่ดี คือ หมั่นเพิ่มทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพอร์ตลงทุนเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ทำไมลงทุน 50,000 บาท ยังเปลี่ยนแผนการลงทุนไม่ได้

โดยปกติแล้วหากคุณเปิดพอร์ตลงทุนกับ Jitta Wealth ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย Global ETF นโยบาย Thematic และนโยบาย Jitta Ranking สามารถเปลี่ยนแผนการลงทุนข้ามกันได้ เพียงแต่เงินลงทุนขั้นต่ำต้องตามเกณฑ์ของกองทุนส่วนบุคคลปลายทาง โดยไม่ต้องปิดพอร์ต

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณลงทุน Global ETF ใช้เงินรวมอยู่ที่ 1 ล้านบาท คุณสามารถย้ายแผนการลงทุนไปเป็น Jitta Ranking เวียดนามได้ หรือเงินลงทุนอยู่ที่ 100,000 บาท สามารถย้ายไปลงทุนในแผน Thematic Optimize ได้ 

ถ้า ‘ลงทุน ETF ต่างประเทศ’ ด้วยเงินลงทุน 50,000 บาท ตอนนี้ระบบของ Jitta Wealth ยังไม่สามารถเปลี่ยนนโยบายลงทุนให้ได้ เนื่องจากสัดส่วน ETF ในพอร์ตลงทุน Global ETF และ Thematic อาจจะยังไม่ใกล้เคียงกับที่กำหนดไว้ หากซื้อขายเพื่อเปลี่ยนสินทรัพย์ในระยะเวลาอันสั้น อาจจะทำให้ผลตอบแทนที่คุณจะได้รับจริงลดลงได้ 

หากคุณหมั่นเพิ่มทุนเข้ามาในพอร์ตจนมีมูลค่าเงินลงทุนจริงมากกว่า 100,000 บาท ระบบ Jitta Wealth ปรับสัดส่วนการลงทุนได้เหมาะสม และย้ายแผนการลงทุนให้คุณได้ หากคุณต้องการเปลี่ยนระหว่าง Global ETF และ Thematic 

อย่างไรก็ตาม แผน Thematic DIY คุณสามารถเปลี่ยน เพิ่ม และลดธีมได้เองไตรมาสละ 1 ครั้งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย หากย้ายมาเป็น Thematic Optimize คุณจะเปลี่ยนธีมเองไม่ได้ ต้องให้ AI ของ Jitta Wealth วิเคราะห์และจัดพอร์ต 4 ธีมไตรมาสละ 1 ครั้งโดยอัตโนมัติ 

ไม่ว่าจะเป็นแผนการลงทุนไหน Jitta Wealth ออกแบบมาให้เป็นการลงทุนระยะยาว เชื่อในผลตอบแทนทบต้น และไม่ซื้อขายสินทรัพย์บ่อยๆ หากคุณลงทุนในแผนนั้นๆ ได้นานกว่า 3 ปี ก็สามารถเปลี่ยนแผนได้ และคุณยังคงได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนที่นานพอ

นอกจากนี้ ‘ลงทุน ETF ต่างประเทศ’ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 50,000 บาท ปัจจุบันจะไม่สามารถถอนเงินบางส่วนออกมาได้ เนื่องจากแผนการลงทุนส่วนใหญ่ของ Jitta Wealth เป็นการซื้อขายสินทรัพย์ต่างประเทศ การโอนย้ายมีต้นทุน การถอนเงินบางส่วนจากพอร์ตลงทุนที่มูลค่าเงินลงทุนต่ำกว่า 100,000 บาท จะทำให้ไม่คุ้มกับค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้น แต่คุณสามารถทำได้ด้วยการปิดพอร์ตลงทุนและถอนเงินออกมาทั้งหมด

เพื่อให้คุณได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุด จากกองทุนส่วนบุคคล Global ETF และ Thematic คุณสามารถถอนเงินบางส่วนออกมาได้ เมื่อมูลค่าพอร์ตลงทุนมากกว่า 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขให้มูลค่าเงินลงทุนคงเหลือหลังจากถอนอยู่ที่ 100,000 บาท เช่น มูลค่าเงินลงทุน 150,000 บาท คุณสามารถถอนออกมา 50,000 บาท

นี่คือ 4 ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ ‘ลงทุน ETF ต่างประเทศ’ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 50,000 บาท ที่ทีมงาน Jitta Wealth รวบรวมทุกข้อสงสัยมาให้คุณ หากคุณยังมีคำถามในเรื่องอื่นๆ สามารถสอบถามเข้ามาได้ที่ Facebook: Jitta Wealth และ Line ID: @JittaWealth หรืออ่านข้อมูลการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://blog.jittawealth.com/ 

หากคุณต้องการ ‘ลงทุน ETF ต่างประเทศ’ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 50,000 บาท สามารถเข้าไปดูแนวทางการลงทุนและรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่

• เปิดบัญชีลงทุนเริ่มต้น 50,000 บาท https://jittawealth.com/startwith50k
• Global ETF https://jittawealth.com/global-etf
• Thematic https://jittawealth.com/thematic

​​กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ผู้บุกเบิกสตาร์ตอัป WealthTech สัญชาติไทยรายแรก ที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01

ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

อ่านบทความ ‘ลงทุน ETF ต่างประเทศ’ ที่เกี่ยวข้อง

รู้จัก Thematic ETF ‘หุ้นเมตาเวิร์ส’ กับ METV

8 ‘บริษัทเกม’ ใน HERO ETF ที่น่าสนใจ ดันธีมเกมและอีสปอร์ตโตยาว

รู้จัก Thematic ETF ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’ กับ KURE

เคล็ด (ไม่) ลับ ลงทุน Thematic อย่างไร ท่ามกลางความผันผวน