รัฐบาลจีนเข้าตรวจสอบบริษัทยักษ์ใหญ่จีนมานานกว่า 1 ปี กดดันราคาหุ้นให้ผันผวนตลอดทั้งปี 2564 คุณคงมีคำถามว่า บริษัทที่ถูกเพ่งเล็งเหล่านี้เป็นอย่างไร ราคาหุ้นตอนนี้น่าลงทุนหรือไม่
บริษัทยักษ์ใหญ่จากจีน มีชื่อดังระดับโลกอย่าง Tencent และ Alibaba ถูกจัดว่า เป็นหุ้นเมกะแคป (Mega Cap) มูลค่ากิจการมากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เรียกได้ว่า อยู่ในกลุ่มเดียวกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ อย่าง Apple Microsoft Alphabet และ Meta Platforms
นอกจากนี้หุ้นบิ๊กแคปที่มีมูลค่าตั้งแต่ 10,000-200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดย 8 บริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนกลุ่มนี้ ติดอยู่ใน 20 บริษัทแรกที่ ETF (Exchange Traded Fund) ธีมตลาดหุ้นจีนหลายร้อยหลายพันกองทุนลงอยู่
แน่นอนว่า พอเจอกระแสการเข้าตรวจสอบของรัฐบาลจีน เจอคำสั่งให้จ่ายค่าปรับบ้าง คำสั่งให้ปรับโครงสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อลดอำนาจเหนือตลาด ความเคลื่อนไหวจากรัฐบาลเหล่านี้ ล้วนมีผลต่อมูลค่ากิจการและราคาหุ้นในรอบปี 2564 ที่ผ่านมา
บทความนี้ ทีมงาน Jitta Wealth จะพาคุณไปทำความรู้จัก เป็น 8 บริษัทจีนที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ โดยเราเปรียบเทียบมาร์เก็ตแคปของแต่ละบริษัทระหว่างต้นปี 2564-2565 รวมไปถึงเจาะลึกข้อมูลของแต่ละบริษัท ว่าประกอบธุรกิจอะไร มีความน่าสนใจอย่างไร และเพราะอะไรถึงน่าลงทุน
ที่สำคัญ คือ ราคาหุ้นที่โดนแรงกดดันต่างๆ นานา ถึงจุด Undervalued หรือยัง แต่คุณภาพกิจการยังแข็งแกร่งอยู่หรือไม่
ด้วยมูลค่ากิจการขนาดใหญ่ ทำให้ 8 หุ้นบิ๊กแคปจีนมีผลต่อความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง มาจากหุ้นกลุ่ม H-Share (อยู่ในตลาดหุ้นฮ่องกง) และ US-ADR (อยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ) บางบริษัทเป็น Dual Listing คือ ซื้อขายผ่าน 2 ตลาดหุ้น
ทั้ง 8 บริษัทที่ทีมงาน Jitta Wealth รวบรวมมานี้ เป็นชิ้นส่วนที่สำคัญที่มีผลต่อเศรษฐกิจจีน เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยี ที่รัฐบาลจีนเองก็ต้องการให้เป็นกลุ่มบริษัทที่สร้างอำนาจต่อรองให้จีนอยู่บนเวทีโลก สร้างความแข็งแกร่งเพื่อให้ทัดเทียมกับสหรัฐฯ
ไม่เพียงเท่านั้น หลายๆ หุ้นบิ๊กแคปจีนยังอยู่ในกลุ่มการเงิน ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน ผ่านการเงินภาคประชาชน ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมของจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีตลาดประชากรระดับ 1,400 ล้านคน มากที่สุดในโลก
ทั้ง 8 บริษัทนี้ มีงบการเงินที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต ซึ่งจะทำให้คุณได้เห็นถึงโอกาสการลงทุนของบริษัททั้ง 8 บริษัทนี้อีกด้วย
มาร์เก็ตแคป
บริษัท IT อันดับ 1 ของจีน ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันแชตชื่อดังอย่าง Weixin และ WeChat ที่มีจำนวนผู้ใช้มหาศาลในจีนแผ่นดินใหญ่
นอกจากนี้ Tencent ยังขยายธุรกิจไปลงทุนในเกมออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ สื่อบันเทิง อสังหาริมทรัพย์ สุขภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้ครอบคลุมกับทุกธุรกิจ ทำให้ Tencent กลายมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดของจีนในระดับเมกะแคป
ที่ผ่านมา Tencent ถูกทางการจีนเข้าตรวจสอบอำนาจเหนือตลาด มีคำสั่งจ่ายค่าปรับต่างๆ และปรับโครงสร้างการให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Tencent Music ที่ไปซื้อกิจการมา เพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาดกับผู้ใช้งานจีน
Tencent มีความสามารถทำกำไรและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาร์เก็ตแคปที่ลดลงในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้ราคาหุ้นมีราคาถูกลงและยัง Undervalued อยู่ ขณะที่ตัวบริษัทยังสามารถสร้างรายได้และกำไรให้เติบโตได้อยู่
2561 | 2562 | 2563 | |
รายได้รวม | 355,998 | 422,003 | 572,146 |
กำไรสุทธิ | 89,621 | 104,369 | 189,717 |
มาร์เก็ตแคป
Alibaba ทำเว็บไซต์อีมาร์เก็ตเพลสที่ใหญ่ที่สุดของจีน ตัวกลางที่ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้เข้ามาพบกัน และเกิดการแลกเปลี่ยนกันทางการค้า โดยกลุ่มธุรกิจหลักแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจคลาวด์ ธุรกิจเทคโนโลยี ธุรกิจสื่อและความบันเทิง
สำหรับอีมาร์เก็ตเพลส Alibaba มีโมเดลธุรกิจที่แบ่งออกง่ายๆ 3 รูปแบบ คือ Business-2-Customer (B2C) Customer-2-Customer (C2C) และ Business-2-Business (B2B)
Alibaba กลายมาเป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ดังที่สุดในโลก มีรายได้หลักมาจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี จนขึ้นมาเป็นบริษัทจีนในระดับเมกะแคป ก่อนที่จะตกลงมาเป็นอันดับ 2 ในปัจจุบัน ซื้อขายใน 2 ตลาดหุ้น คือ สหรัฐฯ และฮ่องกง
ไม่มีข้อยกเว้น สำหรับ Alibaba เช่นเดียวกัน กับการเข้าตรวจสอบจากรัฐบาลจีน เจอคำสั่งจ่ายค่าปรับหลายๆ กรณี ส่งผลให้ราคาหุ้นและมาร์เก็ตปรับลดลงไม่ต่างจากบริษัทอื่นๆ
เมื่อราคาหุ้นลดลง แต่งบการเงินของ Alibaba ยังเติบโตได้ ทั้งรายได้และกำไร รวมไปถึงปีงบประมาณ 2565 (เม.ย. – มี.ค.) ที่ผลประกอบการรายไตรมาสยังมีการเติบโตอยู่ นั่นหมายความว่า ราคาหุ้นถูกลง เป็นหุ้น Undervalued แต่พื้นฐานกิจการยังแข็งแรงอยู่
2562 | 2563 | 2564 | |
รายได้รวม | 440,718 | 557,901 | 851,065 |
กำไรสุทธิ | 102,782 | 163,561 | 178,661 |
มาร์เก็ตแคป
Meituan ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันส่งอาหารของจีน ครอบคลุมตั้งแต่การหาร้านอาหาร รีวิวร้านอาหาร รวมไปถึงการให้บริการด้านไลฟ์สไตล์อื่นๆ แบบครบวงจร ปี 2562 Meituan สามารถส่งอาหารได้มากถึง 25 ล้านรายการต่อวัน
บริษัทมีเป้าหมายเพื่อมอบการบริการที่ดีเยี่ยมให้กับผู้บริโภคทุกคน ทำให้บริษัทเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด และเป็นผู้นำด้านธุรกิจส่งอาหาร Meituan ใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปี จนเติบโตขึ้นมาเป็นบริษัทระดับเมกะแคปของจีนได้ในช่วงปี 2563 และทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในรอบปี 2564 บริษัทเผชิญกับการเข้าตรวจสอบจากรัฐบาลจีนและคำสั่งค่าปรับเช่นเดียวกัน รวมทั้งมีข้อร้องเรียนจากเจ้าของร้านอาหารว่า ถูกจำกัดสิทธิ์ไม่ให้ไปรับบริการจากแพลตฟอร์มสั่งอาหารเจ้าอื่นๆ เพื่อแลกกับค่า GP (Gross Profit) ที่ถูกกว่า
แต่คุณจะเห็นว่า ผลประกอบการของ Meituan ยังมีการเติบโตสูงจากรายได้และกำไร แต่มูลค่าหุ้นที่แพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น Jitta ระบุว่า ยัง Overvalued กว่าพื้นฐานกิจการ โดยวัดจากโอกาสเติบโตในอนาคตและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
2561 | 2562 | 2563 | |
รายได้รวม | 73,741 | 108,208 | 135,196 |
กำไรสุทธิ | N/A | 2,504 | 5,588 |
มาร์เก็ตแคป
ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของจีน เป็นธนาคารเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาในปี 2497 ให้บริการด้านการเงินแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้า ขยายธุรกิจครอบคลุมหลายพื้นที่มากกว่า 14,700 สาขา และมีพนักงานมากกว่า 349,671 คน โดยให้บริการลูกค้าบุคคลและองค์กรหลายร้อยล้านราย จากทั้งหมด 31 ประเทศทั่วโลก
China Construction Bank เป็นธนาคารที่มีมูลค่าบริษัทสูงที่สุดเป็นอันดับ 4 ในบรรดาธนาคารพาณิชย์ทั่วโลก
หุ้นกลุ่มธนาคารมีบทบาทสำคัญต่อตลาดหุ้นจีน การเติบโตของผลประกอบการ อยู่บนพื้นฐานของ GDP ประเทศ ปีที่เกิด Covid-19 เศรษฐกิจไม่ได้ทรุดหนักมาก เพราะแก้ปัญหาการระบาดได้เร็ว รายได้และกำไรของ China Construction Bank ก็เติบโตได้ดี ดังนั้นมูลค่ากิจการที่ลดลงเพียงเล็กน้อยในปี 2564 อาจจะได้รับผลกระทบจากตลาดหุ้นฮ่องกงที่ผันผวน แต่ราคาหุ้นยัง Undervalued อยู่
2561 | 2562 | 2563 | |
รายได้รวม | 578,104 | 606,938 | 667,455 |
กำไรสุทธิ | 289,922 | 298,345 | 321,700 |
มาร์เก็ตแคป
ธุรกิจอีคอมเมิร์ซชื่อดังที่ถูกเรียกว่าเป็น Amazon ของจีน เนื่องจาก JD.com ได้ลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์จำนวนมหาศาล ทั้งศูนย์กระจายสินค้าในจีนกว่า 6,900 แห่ง และพนักงานส่งสินค้ากว่า 70,000 คน ทำให้สามารถส่งสินค้าด่วนภายใน 1 วัน ใน 43 เมืองใหญ่ของจีน ซึ่ง JD.com มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก และมีแผนจะขยายธุรกิจไปอย่างมั่นคง
JD.com อยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ผ่านมามีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในหลายๆ ธุรกิจ ทั้งจับมือกับ Walmart ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของสหรัฐฯ เพื่อบุกตลาดจีน รวมไปถึงในไทยที่จับมือกับกลุ่ม กลุ่ม Central เพื่อขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซและฟินเทคอีกด้วย
ทางการจีนเข้าตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของ JD.com เช่นเดียวกัน เพราะถูกนับเป็นบิ๊กเทคเหมือนกับ Tencent และ Alibaba ส่งผลให้มูลค่ากิจการและราคาหุ้นลดลงในช่วงปีที่ผ่านมา แม้ว่าราคาหุ้นยัง Overvalued แต่ผลประกอบการของ JD.com มีแนวโน้มเติบโตอยู่
2561 | 2562 | 2563 | |
รายได้รวม | 67,168 | 82,847 | 114,164 |
กำไรสุทธิ | -362.2 | 1,966 | 7,779 |
มาร์เก็ตแคป
ธนาคารเก่าแก่ของจีนที่ก่อตั้งมาในปี 2530 มีบทบาทสำคัญที่ช่วยในการปฏิรูปและการเปิดประเทศของจีน China Merchants Bank ได้พัฒนาองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง และสามารถเติบโตจนขยายสาขาไปมากกว่า 1,800 แห่งทั่วโลก โดยให้บริการ 130 เมืองในจีนแผ่นดินใหญ่ และมีเป้าหมายที่จะผลักดันนวัตกรรมธนาคารดิจิทัลและเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการธนาคาร
China Merchants Bank เป็นธนาคารที่มีชื่อเสียงในระดับโลก และอยู่ในอันดับที่ 20 จากการจัดอันดับ Top 1000 Global Banks of the Banker
แม้ว่าผลประกอบการที่ผ่านมามีแนวโน้มเติบโต มูลค่ากิจการและราคาหุ้นเพิ่มขึ้นสูงในช่วงปีที่ผ่านมา แต่การวิเคราะห์จากแพลตฟอร์ม Jitta บอกว่า ราคาหุ้น China Merchants Bank ยัง Overvalued โดยวัดจากสัญญาณการเติบโตของรายได้ และ ค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อยอดขาย (SG&A to Sales) มาแนวโน้มเพิ่มขึ้น
2561 | 2562 | 2563 | |
รายได้รวม | 213,724 | 233,363 | 267,770 |
กำไรสุทธิ | 91,717 | 103,873 | 115,532 |
มาร์เก็ตแคป
กลุ่มธุรกิจประกันผู้บริการการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีชั้นนำของโลก บริษัทเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง และเพิ่มการลงทุนในฟินเทคและเฮลท์เทค เพื่อยกระดับองค์กรให้ไปในทิศทางที่ทันสมัย นอกจากนี้ Ping An Insurance ยังใช้นวัตกรรมเพื่อสนับสนุนบริการการเงิน สุขภาพ และรถยนต์
Ping An Insurance ได้รับการจัดอันดับโดย WPP Kantar Millward Brown Brand ZTM Top 100 Most Valuable Global Brands ให้เป็นบริษัทอันดับ 1 ในกลุ่มบริษัทประกันภัยระดับโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 6
ในช่วงปี 2564 บริษัทถูกหน่วยงานกำกับดูแลด้านธนาคารและประกันของจีน ให้หยุดขายผลิตภัณฑ์การลงทุนทางเลือกที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ และกังวลว่า บริษัทจะเข้าลงทุนและเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ในสัดส่วนที่สูงเกินไป
ประเด็นข่าวนี้ อาจส่งผลให้มูลค่ากิจการและราคาหุ้นของ Ping An Insurance ลดลง แต่ด้วยรายได้และกำไรที่ยังเติบโตสูง ทำให้แพลตฟอร์ม Jitta วิเคราะห์ว่า ราคาหุ้นยัง Undervalued เพราะงบการเงินแข็งแกร่งมาก
2561 | 2562 | 2563 | |
รายได้รวม | 1.216 ล้าน | 1.351 ล้าน | 1.477 ล้าน |
กำไรสุทธิ | 122,278 | 167,114 | 169,840 |
มาร์เก็ตแคป
รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยคำว่า BYD ย่อมาจากคำว่า Build Your Dream ที่แปลว่าสร้างฝันของคุณ จุดเริ่มต้น BYD ผลิตรถยนต์แบบใช้น้ำมัน แต่ในปี 2551 บริษัทได้พัฒนารถยนต์พลังไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริดคันแรกของโลกได้ จนทำให้บริษัทโด่งดังถึงขนาดที่นักลงทุนระดับโลกอย่าง Warren Buffet เข้ามาลงทุน
BYD เป็นบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก โดยเป็นรองเพียงแค่บริษัท Tesla Toyota และ Volkswagen เท่านั้น
ปี 2564 มูลค่ากิจการและราคาหุ้น BYD เพิ่มขึ้นสูงมาก ส่วนหนึ่งมาจากธุรกิจเมกะเทรนด์อย่างรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและเป็นเทคโนโลยียานยนต์ที่เป็นอนาคต ส่งผลให้มีเม็ดเงินจากนักลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
แม้รายได้รวมมีแนวโน้มที่มั่นคง SG&A to Sales ลดลง แต่บริษัทยังมีความไม่แน่นอนในการทำกำไร ใช้เงินลงทุนสูง และมีหนี้สินมาก จึงเป็นหุ้นที่มีราคา Overvalued
2561 | 2562 | 2563 | |
รายได้รวม | 148,066 | 142,877 | 185,861 |
กำไรสุทธิ | 3,165 | 1,806 | 5,026 |
จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่า หลายๆ บริษัทของจีนมีมูลค่าตลาดลดลงอย่างมาก ส่วนหนึ่งมาจากแรงกดดันจากการเข้าตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของรัฐบาลจีน ที่ต้องการจัดระเบียบและออกกฎให้บริษัทเหล่านี้มีการแข่งขันที่เป็นธรรม ดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ไม่มีบริษัทไหนมีอำนาจเหนือตลาด ขณะเดียวกันมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม และมีทางเลือกให้ผู้บริโภคเลือกสินค้าและบริการได้อย่างเสรีโดยไม่มีข้อจำกัด
ในขณะเดียวกันก็มีข่าวสารเชิงลบอื่นๆ เช่น พลังงานที่ไม่เพียงพอในจีน ส่งผลให้ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ รวมไปถึงการผิดนัดชำระหนี้ของ China Evergrande ที่ส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า จะเป็นข่าวร้ายเสมอไป
ราคาหุ้นหลายๆ บริษัทที่ลดลง ส่งผล จีนหลายตัวอยู่ในช่วงราคาที่น่าเข้าลงทุน โดย UBS ธนาคารเพื่อการลงทุนข้ามชาติ ให้มุมมองต่อตลาดหุ้นจีนว่า น่าดึงดูดใจเป็นอย่างมาก ด้วยราคาหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสม หากทางการจีนสามารถจัดการเรื่องนโยบายต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์ จะทำให้ตลาดหุ้นจีนกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ แบงก์ชาติจีนเตรียมลดอัตราเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) อีก 0.5% เพื่อให้มีสภาพคล่องหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น และผู้นำระดับสูงของจีนให้คำมั่นว่าจะรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจจีนในปี 2565 โดยเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายมาตรการควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตในระดับที่เหมาะสมไปพร้อมกับสังคมที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
อย่างไรก็ตามคำถามที่เกิดขึ้นมาคือ หากต้องการจะลงทุนใน ‘หุ้นบิ๊กแคปจีน’ เหล่านี้ สามารถทำได้ด้วยวิธีใดบ้าง ทีมงาน Jitta Wealth ได้รวบรวมวิธีการลงทุนมาให้คุณแล้ว
หากคุณต้องการจะลงทุนใน ‘หุ้นบิ๊กแคปจีน’ รายบริษัท จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก ด้วยราคาหุ้นที่สูงและคุณจำเป็นต้องลงทุนหุ้นหลายๆ บริษัทเพื่อกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตของคุณ
แต่ Jitta Wealth มีวิธีที่ทำให้คุณได้ในหุ้นบิ๊กแคปจีนได้อย่างง่ายดาย ผ่าน ETF ในกองทุนส่วนบุคคล Global ETF และ Thematic พร้อมกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน ETF กองเดียว กับโอกาสลงทุนในหุ้นบิ๊กแคปจีนทั้งกลุ่ม
Global ETF ลงทุนผ่าน Vanguard FTSE Emerging Markets ETF (VWO) เป็น Passive ETF รวมหุ้นทั้งหมดในตลาดหุ้นประเทศกำลังพัฒนา เช่น จีน บราซิล ไต้หวัน และแอฟริกาใต้ และมีสัดส่วนการลงทุนในบริษัทใหญ่ๆ ของจีนอย่าง Tencent Alibaba Meituan และ China Construction Bank ด้วย
Thematic ลงทุนผ่าน Passive ETF หลากหลายประเภท มีให้คุณเลือกจัดพอร์ตเองได้สูงสุด 5 ธีม ผ่านแผน Thematic DIY และให้ AI เลือกธีมจัดพอร์ตลงทุนผ่านแผน Thematic Optimize โดยมี 4 ธีมที่เปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงหุ้นบิ๊กแคปจีน ได้แก่
หากคุณสนใจลงทุน 8 หุ้นบิ๊กแคปจีน รวมไปถึงหุ้นบิ๊กแคปอื่นๆ ที่คุณเชื่อมั่นในโอกาสเติบโตของหุ้นจีน และมองว่า ยังมีช่องว่างการเติบโตอีกมาก เพื่อเป็นหุ้นเมกะแคป มูลค่ามากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอนาคต
ถ้าคุณมีเป้าหมายจะลงทุนระยะยาวในหุ้นจีนคุณภาพดี ช่วงที่ราคาหุ้นหลายๆ บริษัท มีราคา Undervalued แผนการลงทุนจาก Jitta Wealth จะตอบโจทย์ให้คุณได้ ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ หรือสอบถามเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนได้ที่ Line ID: @JittaWealth
กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ผู้บุกเบิกสตาร์ตอัป WealthTech สัญชาติไทยรายแรก ที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01
ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
จัดพอร์ต ‘หุ้นเมกะแคป’ ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เกาะเทรนด์เศรษฐกิจฟื้น
ลงทุน Jitta Ranking ตอนที่ 3 จีน…มังกรพร้อมผงาด
5 ไฮไลต์ ‘ความรู้การลงทุน’ ตั้ง New Year Resolution รับปีเสือนอนกิน