ท็อป 5 Thematic รายได้เติบโตดีปี 2566

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเราได้จัดอันดับ ท็อป 3 Thematic กำไรดี! ปี 2566 ไปเรียบร้อยแล้ว และหวังว่าคุณคงได้ไอเดียเอาไปจัดพอร์ต Thematic DIY ของคุณพร้อมโอนเงินลงทุนและเตรียมตัวเติบโตไปด้วยกัน 

แต่กำไรไม่ใช่ตัวชี้วัดเดียวของการเติบโตในธีมต่างๆ ยังมีอีกมิติหนึ่งคือการเติบโตของรายได้ในแต่ละธีม ซึ่งสามารถเป็นหน่วยชี้วัดอย่างหนึ่งได้ว่า ธุรกิจหรืออุตสาหกรรมนั้นๆ เป็นที่ต้องการของตลาด สินค้าขายดีและบริษัทกำลังเติบโต! 

บทความนี้ Jitta Wealth ได้ไปรวบรวมและจัดอันดับ 5 Thematic ที่รายได้เติบโตสูงที่สุดจากทั้งหมด 23 ธีมที่เราคัดสรรมาให้แล้ว จะมีธีมไหนบ้างที่ทำรายได้พุ่งเกิน +50% ในปีนี่ผ่านมา เผื่อเป็นไอเดียให้คุณเอาไปจัดพอร์ตของคุณในปีนี้กัน 

5 ธีมเมกะเทรนด์ รายได้เติบโตปี 2566

5 ธีมนี้ยังส่งสัญญาณดี มีอนาคต น่าลงทุน

มาที่ 2 อันดับแรกที่ต้องเซอร์ไพรส์ ธีมสุขภาพจีนและพลังงานสะอาดจีนครับ ที่เติบโตสวนทางกับตลาดหุ้นจีนแบบสุดๆ

ธีมสุขภาพจีน ลงทุนใน KURE ETF การเติบโตของรายได้ +66.96%

ปัจจัยที่ 4 ของมนุษย์ทุกคนและทุกเชื้อชาติคือ เสื้อผ้า อาหาร ที่อยู่อาศัย และ ยารักษาโรค ซึ่งเป็นคำตอบได้แล้วว่า สุขภาพที่ดีเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ต้องการ และทำให้อุตสาหกรรมสุขภาพรวมไปถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เติบโตต่อไปเรื่อยๆ ได้ 

อุตสาหกรรมด้านสุขภาพของจีนก็เป็นหนึ่งในตลาดสุขภาพชั้นนำของโลก มีโอกาสในการเติบโตสูง ด้วยบริษัทด้านการดูแลสุขภาพชั้นนำกว่า 370 แห่ง จึงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้น A-share เลยทีเดียว 

ปัจจัยอีกอย่างที่แข็งแกร่งและส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้ของจีนคือ จำนวนประชากรผู้สูงอายุของจีน แถมยังมีการใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ 

มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2578 ประชากรกว่า 30% ของจีนจะเป็นผู้สูงอายุ บวกกับชนชั้นกลางก็จะหันมาสนใจบริการทางด้านสุขภาพมากขึ้น ดันอุตสากรรมสุขภาพจีนเติบโตต่อไป 

ธีมพลังงานสะอาดจีน ลงทุนใน KGRN การเติบโตของรายได้ +51.68%

ตามมาดูธีมพลังงานสะอาดจีนที่ถ้าใครติดตามข่าวอาจจะพอเดากันถูก เพราะตลอดปีที่ผ่านมาเรามักได้ข่าวการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าของจีนไม่หยุดหย่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวของกับธีมนี้ด้วย 

จีนมีเป้าหมายที่ชัดเจน ตั้งเป้าสู่การเป็น Emission Peak หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดได้ถึง 2573 และหลังจากนั้นจะลดลงเรื่อยๆ จนในปี 2603 จะไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกต่อไป

และเมื่อและปัจจัยต่างๆ ทางเศรษฐกิจเองก็ขับเคลื่อนการเติบโตของพลังงานหมุนเวียนในจีน ส่งสัญญาณการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของรัฐบาล ทำให้จีนก้าวเข้าสู่ผู้ผลิตพลังงานสะอาดชั้นนำของโลก มีอำนาจในการกำหนดปริมาณและราคาอย่างน่าจับตามอง

พลังงานสะอาดจีนไปแล้ว อีกธีมที่ตามมากันติดๆ คือ 

ธีมลิเธียมและแบตเตอรี่ ลงทุนใน LIT การเติบโตของรายได้ +50.04%

อีกหนึ่งธีมที่เติบโตไปพร้อมๆ กับพลังงานสะอาด และยานยนต์ไฟฟ้า 

แบตเตอรี่คิดเป็นต้นทุนหลัก 30% ของรถยนต์ไฟฟ้า การเพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโต และเมื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขยายตัว ความต้องการแบตเตอรี่เหล่านี้ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

Bloomberg คาดการณ์ว่ายอดขาย EV สำหรับผู้โดยสารทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 180% จาก 20 ล้านในปี 2565 และขยับเป็น 56 ล้านภายในปี 2583 

รวมไปถึง กรมพลังงานสหรัฐฯ คาดการณ์กำลังการผลิตแบตเตอรี่จะแตะระดับ 2,492 Gwh ภายในปี 2025

ตามมาด้วยธีมเทคโนโลยีท่องเที่ยวที่ชะลอการเติบโตไปในช่วง Covid-19 และธีมจีโนมิกซ์ที่เติบโตสูงมากในช่วงโรคระบาด 

ธีมเทคโนโลยีท่องเที่ยว ลงทุนใน AWAY การเติบโตของรายได้ +45.80%

ถ้าย้อนกลับไปในช่วง Covid-19 ใหม่ๆ ที่การเดินท่องเที่ยวทางภายในประเทศยังลำบาก การเดินทางในต่างประเทศไม่ต้องพูดถึงเพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้ 

และเมื่อสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายอุตสาหกรรมที่กลับมาบูมได้อย่างรวดเร็วก็คือการท่องเที่ยว จึงไม่แปลกใจที่ธีมเทคโนโลยีท่องเที่ยวจะติดอันดับรายได้เติบโตดีในท็อป 5 

สัดส่วนการลงทุนของ AWAY เน้นธุรกิจท่องเที่ยวสมัยใหม่ซึ่งเป็นเทรนด์ในอนาคต พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไป โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยี นักท่องเที่ยวสามารถใช้เทคโนโลยีหาข้อมูลและวางแผนการท่องเที่ยวและด้วยการเติบโตของกลุ่มนักท่องเที่ยว GenZ ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีในการหาที่พัก  เที่ยวบินต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Booking.com Expedia และ Airbnb ทำให้อนาคตการเติบโตของธีมนี้ยังสูง

ธีมจีโนมิกซ์ ลงทุนใน IDNA การเติบโตของรายได้ +45.47%

1 ในธีมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสุขภาพ ที่เติบโตและเป็นที่พูดถึงอย่างมากในช่วง Covid-19 ที่มนุษย์ทุกคนต้องการหาทางเอาชนะกับโรคระบาด และจีโนมิกซ์ก็เข้ามาช่วยพวกเรา 

หากมองภาพระยะยาว ธีมจีโนมิกส์ยังเป็นเมกะเทรนด์ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อไปอีก 10-20 ปีข้างหน้า เพราะการประยุกต์การถอดรหัสพันธุกรรมและตัดต่อ DNA เป็นประโยชน์อย่างมากต่ออุตสาหกรรมทางการแพทย์ 

ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้ตรงจุด และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงการวิจัยและพัฒนาเชิงลึกผ่านยีนของสิ่งมีชีวิตอีกด้วย วงการสาธารณสุขก็มียาและวัคซีนที่ตอบโจทย์ในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคร้ายแรงในอนาคต สร้างโอกาสในการลงทุนของหลายบริษัทเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของทุกคน

จากการคาดการณ์ของ Precedence Research ขนาดตลาดจีโนมิกส์ของสหรัฐ มีมูลค่า 7,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 และคาดว่าจะสูงถึงประมาณ 43,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2575 โดยคิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 19.40%

เรียกได้ว่าผลตอบแทนดี และสินค้าหรือบริการในอุสาหกรรมก็เป็นที่นิยมของตลาด รายได้ส่งสัญญาณเติบโตชัดเจน บวกกันตั้งแต่ +45% ถึง +67% เป็นโอกาสดีที่คุณจะได้คว้าโอกาสเติบโตไปกับธีมเมกะเทรนด์เหล่านี้ 

ที่สำคัญ คุณไม่จำเป็นต้องเลือกธีมใดธีมหนึ่งเท่านั้น เพราะการลงทุนในนโยบาย Thematic DIY ของ Jitta Wealth ให้คุณเลือกกระจายความเสี่ยงในพอร์ตของคุณได้สูงสุดถึง 5 ธีม! 

ที่สำคัญยังมีการปรับสัดส่วนของพอร์ตอัตโนมัติเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อย 5% เพื่อรักษาวินัยในการลงทุนให้คุณแบบอัตโนมัติ

เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นไอเดียดีๆ ให้คุณไปประกอบการตัดสินใจ  เลือกธีมเมกะเทรนด์อนาคตไกลได้เร็วขึ้น 

ลงทุนเมกะเทรนด์ทั้งที ก็ต้องคัดสรรมาอย่างดี และสะดวกแบบนี้เท่านั้น 

โอนเงินเริ่มลงทุน Thematic DIY

เงินลงทุนเริ่มต้น 10,000 บาท เพิ่มทุน 1,000 บาท 

ประสบการณ์ของผู้ลงทุนจริง 

คุณศิริรัตน์ สมิทธ หนึ่งในพนักงาน Jitta ที่เล็งเห็นความสำคัญของการลงทุนในเมกะเทรนด์ระดับโลก โดยมีเป้าหมายคือ ให้เงินได้เติบโตไปเรื่อยๆ เหมือนโลกที่หมุนไป ผลตอบแทนของ Thematic DIY ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา +16.06% 

“ปกติก็ลงทุนอยู่แล้วในหลายๆ รูปแบบพอได้มารู้จากการลงทุนใน ETF ธีมเมกะเทรนด์ ก็รู้สึกเลยว่า สิ่งนี้คือสิ่งที่เราตามหา เป็นการมัดรวมหุ้นในแต่ละอุตสาหกรรมในอนาคตไว้ด้วยกัน แถม Jitta Wealth ยังให้เรา DIY พอร์ตของเราได้ถึง 5 ธีม ส่วนตัวเลยเลือกธีมที่ส่วนตัวรู้สึกว่าจะเติบโตสูงในอนาคตเพราะคนต้องใช้มันแน่ๆ (เลือกแค่จากที่ Jitta Wealth คัดมาให้พอ) จากนั้นก็ DCA ทุกเดือนไม่เคยขาดเลย ผ่านไป 1 ปีเห็นผลตอบแทนแล้วมันชื่นใจ”

หากคุณมีข้อสงสัยหรือคำถามเกี่ยวกับการอัปเดตอัลกอริทึมและการบริหารจัดการพอร์ต Jitta Wealth สามารถติดต่อสอบถามในกลุ่ม Jitta Wealth Official หรือทาง Line ID: @JittaWealth ได้ในวันและเวลาทำการ

ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็น WealthTech แห่งแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01 ผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไม่การันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงอื่นๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน