Jitta Wealth Journal - ต่างชาติคาด...ปีนี้หุ้นไทยพุ่ง

24 มกราคม 2566Jitta Wealth Journal

หุ้นเทคฯ จีนกลับมาแล้ว ขึ้นแรงกว่า 90%

Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 113 ประจำวันที่ 24 มกราคม 2566

นักลงทุนสหรัฐฯ กลับมากังวลใจเป็นครั้งแรกในรอบปี 2566 และนักลงทุนบางส่วนเริ่มขายทำกำไรจากตลาดหุ้นส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เกิดแรงผันผวนเล็กน้อย ในขณะที่จีนยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่องไม่หยุด หรือว่า…ปีนี้จะเป็นปีทองของการลงทุนแดนมังกร

ทีมงานย่อยข่าวเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกมาให้คุณแล้ว ไปติดตามกันได้เลย

รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth


ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ

S&P 500 -0.66% DJIA -2.71% NASDAQ +0.55%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนตามความกังวลในการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed และแรงเทขายทำกำไรช่วงต้นปี นักลงทุนบางส่วนยังคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยลงในปลายปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง 

ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย

CSI 300 +2.63% TOPIX +1.25% VNI +4.52% SET -0.27%

นักลงทุนในตลาดหุ้นจีนเริ่มคลายกังวลมากขึ้น สวนทางกับฝั่งสหรัฐฯ รัฐบาลจีนแสดงสัญญาณผ่อนคลายมากขึ้น ตลาดหุ้นเวียดนามพุ่งแรงต่างชาติเข้าซื้อต่อเนื่องดันตลาดหุ้นเติบโตไปเหนือระดับ 1,000 จุด ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่นักลงทุนกำลังจับตาดูผลประกอบการ

ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 22 มกราคม 2566


ฤกษ์ดี! ลงทุน ‘หุ้นจีน’ วันนี้ รับอั่งเปาเครดิตค่าธรรมเนียม 

ตรุษจีนปีนี้ Jitta Wealth แจกอั่งเปาเครดิตค่าธรรมเนียมสูงสุด 100,000 บาท พร้อมของขวัญ Limited Edition เพียงลงทุนหรือเพิ่มทุนแผน Jitta Ranking หุ้นจีนหรือหุ้นเทคโนโลยีจีน 

ภายใน 16-31 ม.ค. 66 นี้เท่านั้น 

รายละเอียดแคมเปญ 


เศรษฐกิจเวียดนาม

ช็อกโลก! ประธานาธิบดีเวียดนามลาออก

วันที่ 18 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา รัฐสภาเวียดนามได้เปิดประชุมพิเศษอนุมัติการลาออกของประธานาธิบดี Nguyen Xuan Phuc โดยคาดว่า Nguyen Phu Trong ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งเวียดนามจะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป

แน่นอนว่าข่าวเกี่ยวกับการเมืองการปกครองแนวนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อจิตใจของนักลงทุนหลายคน และอาจจะรวมไปถึงตัวคุณที่มีหุ้นเวียดนามอยู่ในพอร์ตด้วย วันนี้ทีมงานจึงมาสรุปให้คุณว่า การลาออกของประธานาธิบดีเวียดนาม ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยังไง

  • Ha Hoang Hop จากสถาบัน ISEAS-Yusof Ishak มีมุมมองว่า “การลาออกของประธานาธิบดีเวียดนามส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางด้านการเมืองและความเชื่อมั่นนักลงทุน”
  • Nikkei วิเคราะห์ว่า “การลาออกของ Phuc เกิดขึ้นจากการรับผิดชอบเรื่องการทุจริตที่เกิดขึ้นในช่วงระบาด Covid-19 โดยก่อนหน้ามีรองนายกฯ ลาออกถึง 2 คน ด้วยเหตุผลเดียวกัน”
  • การลาออกในครั้งนี้อาจกระทบด้าน เศรษฐกิจเวียดนามในระยะสั้น นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและอาจรอความชัดเจนด้านนโยบายว่า จะสนับสนุนการลงทุนตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจเหมือนเดิมหรือไม่ 

แต่สถานการณ์ที่น่าแปลก คือ แทนที่ตลาดเวียดนามจะกลับตัวเป็นขาลง แต่แรงซื้อจากต่างชาติยังเข้าตลาดหุ้นเวียดนามไม่หยุดจนทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามบวกแรงในอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นไปได้ว่านักลงทุนอาจจะมองว่าการลาออกของ Phuc เป็นสัญญาณดีต่อความเข้มงวดเรื่องการทุจริตมากขึ้นก็เป็นได้

แต่ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเดิมหรือนโยบายใหม่ เป้าหมายหลักของเวียดนาม คือ มุ่งสู่เวทีนานาชาติ เตรียมก้าวขึ้นเป็นประเทศชั้นนำระดับภูมิภาคและระดับโลกในอนาคตอย่างชัดเจน ศักยภาพการเติบโตของหุ้นเวียดนามยังคงมี และเป็นที่ต้องการลงทุนของนักลงทุนทั่วโลก

Samsung เวียดนามโชว์เหนือ! มูลค่าส่งออก 65,000 ล้านเหรียญฯ

บริษัท Samsung เวียดนามประกาศยอดส่งออกของบริษัทในปี 2565 อยู่ที่ 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 9% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดของเวียดนามในปี 2565 โดยเป็นเครื่องย้ำเตือนว่า Samsung เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม

Park Hark Kyu ประธาน Samsung Electronics ได้กล่าวว่า “ผมเดินทางมาเวียดนามมากกว่า 20 ครั้งเพื่อมองหาโอกาสลงทุน ซึ่งการตั้งโรงงานในเมือง Thai Nguyen เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม”

ถึงแม้ปัญหาด้านการเมืองของเวียดนามจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่มันจะส่งผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายระยะยาวของเวียดนามยังคงเดิมและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในอนาคต 

ดังนั้นบริษัทต่างชาติยังคงมองเวียดนามเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ในการตั้งฐานการผลิต ส่งผลให้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างที่คุณได้เห็น และส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นด้วยเช่นกัน 


3 เทคนิค บริหารเงิน ‘อั่งเปา’ เสริมความเฮงให้ชีวิต 

ตรุษจีนที่ผ่านมา ได้อั่งเปามาเป็นกอบเป็นกำ แต่ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดี 

เรามีคำตอบมาให้คุณกับ 3 เทคนิคบริหารเงินอั่งเปา 

ที่จะช่วยให้ชีวิตของคุณ มั่งคั่ง มั่นคง ขึ้นในระยะยาว 

เอาอั่งเปาไปทำอะไรดี ไปดูกัน 


เศรษฐกิจจีน

หุ้นเทคจีนพุ่ง! ตอบรับการผ่อนคลายรัฐบาลจีน

การที่รัฐบาลจีนมีสัญญาณผ่อนคลายในกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อหุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ของจีนมาก หุ้นที่นักลงทุนคุ้นเคยอย่าง Tencent และ Alibaba ปรับขึ้นแรงอย่างก้าวกระโดด โดย Tencent ปรับขึ้นมาแล้วกว่า 95% จากเดือนตุลาคม 2565 

ในช่วงที่ผ่านมาคุณจะเห็นสัญญาณการผ่อนคลายจากรัฐบาลจีนมากขึ้น ทั้งการอนุญาตให้ Ant Group ระดมทุนกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ถูกสั่งระงับการ IPO ในปี 2565 และเป็นจุดเริ่มต้นการควบคุมกลุ่มเทคโนโลยีจีน 

นอกจากนี้บริษัทล่าสุดที่ได้รับการปลดล็อก คือ Didi ที่รัฐบาลอนุญาตให้รับลูกค้าใหม่ได้ หลังถูกแช่แข็งตั้งแต่ปี 2564 ทำให้หุ้น Didi ปรับตัวขึ้นกว่า 35% ตั้งแต่เปิดปี 2566 เป็นต้นมา

ปีนี้มีปัจจัยสนับสนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจีนมากมาย และส่งผลดีต่อการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีจีน หรือธีมเมกะเทรนด์ที่เกี่ยวข้องกับหุ้นเทคโนโลยีจีนหลายตัว จีนเปิดตัวแรงมาก ซึ่งหากรักษาความสม่ำเสมอแบบนี้เอาไว้ จะทำให้บรรลุเป้าการเติบโตในปีนี้ได้ไม่ยากเลย 

จีนทดลองวิ่ง Hyperloop ครั้งแรก สวนกระแสในสหรัฐฯ 

ในขณะที่กระแส Hyperloop ในสหรัฐฯ เริ่มซาลง จีนกลับเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ทดลองวิ่งเป็นครั้งแรกแล้วด้วยขนาดแคปซูลจริง

การทดลองดังกล่าวเกิดขึ้นในเมือง Datong มณฑล Shanxi โดยคาดการณ์ความเร็วสูงสุดไปแตะที่ระดับ 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถ้าแล้วเสร็จจะกลายเป็น พาหนะบนบกที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลก ซึ่งในการทดลองที่ผ่านมา ความเร็วอยู่ที่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

China Aerospace Science and Industry Corporation Aerospace Company (CASIC) ผู้ดูแลการพัฒนาครั้งนี้กล่าวว่า ระบบแม่เหล็ก ระบบไฟฟ้า ระบบความปลอดภัยและเซนเซอร์ทำงานปกติตามแผน จึงเตรียมยกระดับให้วิ่งในความเร็วที่สูงขึ้น และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอีกด้วย 

จีนมีเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงที่ยาวที่สุดในโลก โดยมีความยาวกว่า 42,000 กิโลเมตร และมีความได้เปรียบในเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ จากเม็ดเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ในโลกแห่งเทคโนโลยี จีนจึงก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งรายสำคัญของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ได้ น่าจับตามองว่าโปรเจกต์นี้จะเป็นยังไงต่อไป 


‘Li Lu’ อัจฉริยะ VI จีน ศิษย์ปู่ Buffett 

คุณเคยได้ยินเรื่องราวของนักลงทุนอัจฉริยะ VI ชาวจีนกันบ้างไหม? 

มารู้จักกับชายที่ได้ร่ำเรียนวิชาการลงทุนโดยตรงมาจาก Warren Buffett 

และเคยถูกวางให้สืบทอดตำแหน่งของ Warren Buffett ต่อด้วย

ไปรู้จักกับ Li Lu ศิษย์ปู่ Buffett ได้ที่นี่ 


Passive Way Podcast ซีรีส์ที่ 2 Episode 06 เจาะเวลาอาณาจักรโรม…วิกฤตการเงินเขย่าโลกปี ค.ศ. 33  

เจาะเวลาเรียนรู้บทเรียนในอดีต เพื่อปัจจุบันและอนาคตที่ดีขึ้น 

กับวิกฤตการเงินเขย่าโลกเมื่อ 2,000 ปีก่อน 

มันเกิดอะไรขึ้น และคุณจะเอามันมาประยุกต์ใช้ได้อย่างไร 

ฟัง Passive Way Podcast ซีรีส์ 2 Episode 06 


เศรษฐกิจไทย

JP Morgan ยกไทยเป็น Top Pick ตลาดหุ้นอาเซียน

JP Morgan สถาบันการเงินชั้นนำระดับโลกได้บอกว่า “อานิสงส์จากการเปิดประเทศของจีน ทำให้หุ้นไทยน่าสนใจ และปัญหาราคาน้ำมันแพงที่เริ่มคลี่คลาย ช่วยลดต้นทุนการผลิตของบริษัทจดทะเบียนในไทยหลายแห่ง จะทำให้ตลาดหุ้นไทยทำผลงานได้โดดเด่นในปีนี้”

JP Morgan คาดการณ์ว่าในปีนี้ตลาดหุ้นไทยจะปรับเพิ่มขึ้น 7% แตะที่ระดับ 1,800 จุด และมีมุมมองในเชิงบวกต่อสินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภค สินค้าฟุ่มเฟือย และกลุ่มอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์

ข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ตลาดหุ้นไทยจะปรับขึ้น 5-6% ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ ในขณะที่ความต้องการในประเทศยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ต้องมารอดูการคาดการณ์ในครั้งนี้ของ JP Morgan แล้วว่าจะถูกต้องหรือไม่สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่สิ่งที่ชัดเจน คือ ไทยจะได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศของจีนอย่างแน่นอน 


ผลตอบแทนจริงทุกนโยบายของ Jitta Wealth ปี 2565 

ตลาดหุ้นทั่วโลกตลอดปี 2565 หลายคนคงมองว่า ‘อาการหนักอยู่เหมือนกัน’ 

แต่หลายคนก็คิดว่า ‘เป็นโอกาสที่ดีมากๆ ในการลงทุน’ 

แล้วผลตอบแทนจริงของนโยบายต่างๆ ของ Jitta Wealth เป็นยังไง 

ไปส่องผลตอบแทนทุกนโยบาย Jitta Wealth ที่นี่ 


เศรษฐกิจอินเดีย

แซงจีน! อินเดียมีประชากรมากที่สุดในโลก

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปัจจุบันนี้ อินเดียมีประชากรมากกว่าจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอินเดียมีประชากรอยู่ที่ 1,417 ล้านคน ในขณะที่จีนมีประชากร 1,412 ล้านคน และจำนวนประชากรของอินเดียก็มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

จากตัวเลขนี้ ทีมงานสรุปให้แล้วว่า เมื่ออินเดียมีประชากรมากกว่าจีนจะส่งผลยังไงต่อเศรษฐกิจของอินเดียในอนาคตบ้าง 

  • อินเดียมีโอกาสพัฒนาตัวเลขทางเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น หากผู้หญิงอินเดียมีงานทำมากขึ้น จะเพิ่มประสิทธิภาพและจำนวนแรงงานในระบบมหาศาล และช่วยดึงดูดการลงทุนจากประเทศพัฒนาแล้วมากขึ้น 
  • เพิ่มโอกาสขยายฐานการผลิตบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก เช่น Apple Foxconn หรือ GM เนื่องจากแรงงานอินเดียยังอยู่ในระดับค่าแรงถูก ทำให้ดึงดูดบริษัทต่างๆ ให้เข้ามาลงทุนและทำให้อินเดียเป็นฐานการผลิตสำคัญของโลก
  • อินเดียมีโอกาสเป็นห่วงโซ่อุปทานสำคัญของโลกในอนาคต หากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่เพียงพอ จะทำให้เศรษฐกิจอินเดียเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยบุคลากรที่มากความสามารถและสื่อสารภาษาอังกฤษได้ จะทำให้อินเดียเติบโตด้วย New Economy 

ในตอนนี้อินเดียเป็นที่จับตามองของโลก และ Jitta Wealth ก็มีทางเลือกให้คุณลงทุนในอินเดียได้ ผ่านการเลือกธีม ตลาดหุ้นอินเดีย ในแผน Thematic DIY ซึ่งเป็นธีมที่น่าสนใจและน่าจับตามองมากที่สุดในช่วงเวลานี้


Talk of the Town 

เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official

📈 เทียบชัด! รายได้และมาร์เก็ตแคปทุกธีมของ Jitta Wealth เป็นยังไงบ้าง?

🇯🇵 ถึงตรุษจีนแต่พอร์ตญี่ปุ่นดันปรับขึ้น เพราะอะไรไปดู!

🧐 ระหว่าง Thematic กับ Global ETF เลือกอะไรดีนะ ช่วยตอบที

มาร่วมพูดคุยกับเรา

(ตอบคำถามให้ครบ 3 ข้อ เพื่อเข้าร่วมกลุ่มนะ 🤗)


เศรษฐกิจญี่ปุ่น 

ญี่ปุ่นเร่งสนับสนุนสตาร์ตอัป ผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการลงทุน 

ญี่ปุ่นเตรียมยกเลิกข้อจำกัดการลงทุนต่างประเทศของกองทุน Venture Captial เพื่อสนับสนุนการเติบโตของสตาร์ตอัป การยกเลิกข้อจำกัดนี้จะช่วยให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในการเลือกลงทุนรวมไปถึงกระตุ้นเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสู่กองทุนลักษณะดังกล่าวของญี่ปุ่นด้วย 

การยกเลิกมาตรการดังกล่าวจะใช้กับนักลงทุนประเภท Limited Partnership ซึ่งนักลงทุนประเภทนี้จะรับความเสี่ยงเฉพาะส่วนที่ตนเองลงทุนเท่านั้น ส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และยังเป็นการช่วยกองทุน Venture Capital (VC) ของญี่ปุ่นให้สามารถออกไปลงทุนในต่างประเทศได้มากขึ้น สร้างโอกาสในการลงทุนและดึงดูดเม็ดเงินมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสตาร์ตอัปในญี่ปุ่น

ร่างกฎหมายดังกล่าวจะส่งให้รัฐสภาพิจารณาในปี 2567 ปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นขึ้นไปแตะที่ระดับ 4% ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก นี่อาจจะเป็นสัญญาณเตือนคนญี่ปุ่นว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อรักษาอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยในอนาคต 

นอกจากนี้ สัญญาณการปลดล็อกและการผ่อนคลายข้อกำหนดการลงทุนของกองทุน VC ญี่ปุ่น น่าจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินเข้าไปลงทุนในกองทุน VC ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น สร้างโอกาสในการเติบโตของสตาร์ตอัปในอนาคต 


การ ‘รอ’ ของคุณ…มีราคาเท่าไร?

หากคุณเป็นนักลงทุนมาสักระยะต้องเคยผ่านประสบการณ์ ‘ตกรถ’ กันมาบ้าง

เหตุผลหลักที่ทำให้หลายคนตกรถเพราะมัวแต่ ‘รอจับจังหวะ’ ใช่ไหม

แต่กลยุทธ์จับจังหวะมันดีจริงไหม ทำให้เสียเงินจากการ ‘รอ’ ไปมากแค่ไหน

ไปหาคำตอบได้จากบทความนี้


แม้จะเกิดความผันผวนบ้างเล็กน้อย แต่สัญญาณดีของตลาดหุ้นทั่วโลกในปี 2566 ยังคงโผล่ออกมาให้เห็นเป็นระยะ หลายประเทศเริ่มเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งเพื่อก้าวสู่ตลาดโลก และปัญหาที่เคยรังควานก็เริ่มคลี่คลายลงอย่างชัดเจน

อย่างที่เราเคยย้ำเตือนคุณอยู่เสมอว่า ในระยะยาวตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าหากคุณลงทุนอย่างถูกหลักการในระยะยาว พอร์ตคุณจะเติบโตได้อย่างแน่นอน…และการลงทุนระยะยาวยังช่วยฝึกจิตใจของคุณให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วยนะ

ใกล้จะจบเดือนมกราคมเข้าไปทุกที คงปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเดือนแรกของในปี 2566 นี้ เปิดตัวได้ดีกว่าปีที่แล้วมาก และเราหวังว่าการลงทุนของคุณในปีนี้จะดีกว่าทุกๆ ปีที่เคยผ่านมานะ

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า 

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด