อัปเดตส่งท้ายปี การลงทุน Jitta Wealth ปี 2567 มีอะไรใหม่บ้าง

15 ธันวาคม 2566Jitta WealthThematic

ในปีนี้ที่ตลาดหุ้นโลกมีความผันผวนอย่างมาก จากการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ภาคอสังหาจีนที่มีปัญหา สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส และ อื่นๆ อีกมากมาย ทำเอานักลงทุนหลายๆ คนกลัวการลงทุนในตลาดหุ้นไปเลยทีเดียว แต่แล้วพอเข้าสู่ปลายปี ดัชนี S&P 500 ก็กลับวิ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดใหม่ได้

นักลงทุนบางคนอาจจะรู้สึกสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่นี่ก็คือธรรมชาติของการลงทุนระยะยาว ที่มักจะมีปีที่ดีและไม่ดี หรือปีที่ทำให้ชื่นใจและปีที่ทำให้หนักใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในปีนี้ก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ของการลงทุนเท่านั้นเอง สิ่งที่เราควรจะต้องทำก็คือ มุ่งมั่นลงทุนตามหลักการที่ถูกต้องไปเรื่อยๆ 

สำหรับปีนี้ ผลตอบแทนโดยรวมของ Jitta Wealth เป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งเราได้อัปเดตผลตอบแทนของปี 2566 และแนวโน้มการลงทุนในปี 2567 ไปแล้วใน สรุป Live ลงทุนโค้งสุดท้าย ปรับพอร์ตให้รุ่งพุ่งสู่ปีมังกร 

Warren Buffett เคยพูดเอาไว้ว่า “The more you learn, the more you earn.” (ยิ่งคุณเรียนรู้มากเท่าไหร่ คุณก็จะได้รับมากเท่านั้น) และเราเชื่อแบบนั้น… 

ทำให้เป็นประจำทุกปี ไม่ว่าตลาดหุ้นจะขึ้นหรือจะลง Jitta Wealth จะเก็บเกี่ยวรวบรวมสิ่งที่ได้เรียนรู้ ปัญหาที่เจอ รวมไปถึงข้อติชมและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากนักลงทุน มาเรียนรู้ ต่อยอด พัฒนาเทคโนโลยีการบริหารพอร์ตลงทุนเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นของพอร์ตทุกๆ คน

สำหรับในสิ้นปี 2566 นี้ เรามีสิ่งที่เตรียมอัปเดตกับทุกๆ คน ก่อนเข้าสู่การลงทุนในปี 2567 ดังนี้

1. ปรับแนวทางการรีบาลานซ์พอร์ตของ Thematic Optimize ให้ดียิ่งขึ้น!

นโยบาย Thematic Optimize เป็นการลงทุนในธีมธุรกิจเมกะเทรนด์ที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีในอนาคต 10-20 ปีข้างหน้า ซึ่งคุณไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งคอยติดตามข่าวสาร ดูข้อมูลต่างๆ เพื่อเลือกธีมเมกะเทรนด์ดีๆ เพราะ Thematic Optimize ใช้ AI เลือกให้คุณเรียบร้อยแล้ว

โดยที่ผ่านมานั้น AI จะทำการเลือกลงทุนใน 4 ธีม ที่ดีที่สุด (จากทั้งหมด 19 ธีม) และ ทำการปรับพอร์ตทุกๆ 90 วัน เพื่อเลือกลงทุนใน 4 ธีมที่ดีที่สุดให้กับคุณอยู่เสมอ

โดยแนวทางในการปรับพอร์ตคือ เราจะขายธีมที่หลุด 4 อันดับแรกออกไป แล้วนำเงินกลับไปลงทุนในธีมที่ดีที่สุด 4 อันดับแรก ณ เวลานั้น ซึ่งด้วยแนวทางการปรับพอร์ตแบบนี้ ก็จะทำให้ได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว 

แต่ตลอดปีนี้ จากการวิเคราะห์พอร์ตต่างๆ อย่างใกล้ชิดเป็นประจำของ Jitta Wealth ทำให้เราพบว่า ในช่วงที่มีการประกาศงบการเงิน ธีมต่างๆ อาจจะมีพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างตามงบที่ออกมา ซึ่งหลายๆ ธีมนั้นมีพื้นฐานและการเติบโตแตกต่างกันไม่มาก ทำให้อันดับจากการคำนวณของ AI อยู่ใกล้กันมาก และ มีการสลับกันขึ้นๆ ลงๆ ระหว่าง อันดับ 1 2 3 4 5 และ 6 

ผลคือ ในบางครั้งธีมที่เคยอยู่อันดับ 4 ในช่วงปรับพอร์ตครั้งที่แรก กลายเป็นมาอยู่อันดับ 5 ในการปรับพอร์ตครั้งต่อมา และวิ่งกลับมาอยู่อันดับ 4 ในการปรับพอร์ตครั้งที่ 3 ซึ่งถ้าหากเราปรับพอร์ตโดยการลงทุนเฉพาะธีมที่ดีที่สุด 4 อันดับแรก ก็จะทำให้มีการซื้อขายธีมนี้สลับไปมา เพราะธีมนี้มีอันดับขึ้นๆ ลงๆอยู่ที่อันดับ 4 และ อันดับ 5 

เราลองนำข้อมูลนี้กลับมาคิดต่อดูว่า เราจะสามารถพัฒนาวิธีการปรับพอร์ตตรงนี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง เพราะธีมดังกล่าวจริงๆ ก็เป็นธีมที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่มีการหลุดจากอันดับ 4 ไปบ้างในบางครั้ง ถ้าเราสามารถลงทุนในธีมนี้ให้ยาวขึ้นได้ โดยไม่ซื้อขายไปมา น่าจะทำผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ตดีขึ้น

และเราก็ทดสอบการปรับพอร์ตในหลายๆ แนวทาง และพบว่า ถ้าเวลาที่เราปรับพอร์ต จากเดิมธีมที่อยู่เกินอันดับ 4 จะถูกขายออกไป กลายเป็น ธีมที่อยู่เกินอันดับ 6 จะถูกขายออกไป และเมื่อขายธีมที่เกินอันดับ 6 ไปแล้ว จากนั้นจึงค่อยนำเงินนั้นกลับมาลงทุนในธีมที่อยู่ใน 4 อันดับแรกเหมือนเดิม

เช่น สมมติว่า เราลงทุนไปแล้วในธีม A B C D ซึ่งเป็น 4 ธีมที่ดีที่สุดในตอนเริ่มลงทุน เมื่อถึงเวลาปรับพอร์ต ธีม A B C D ยังอยู่ใน 6 อันดับแรกครบทุกธีม ระบบก็จะไม่ได้ขายธีมไหนออกไปเลย จะทำเพียงแค่จัดสัดส่วนการลงทุนในแต่ละธีมให้เท่าๆ กันอย่างเหมาะสม

ด้วยแนวทางการปรับพอร์ตแบบใหม่นี้ จะทำให้พอร์ตโดยรวมของเรานิ่งขึ้น ธีมที่ถูกขายออกไป ก็จะเป็นธีมที่มีพื้นฐานเปลี่ยนไปมากแล้วจริงๆ ไม่ใช่ธีมที่พื้นฐานยังเหมือนเดิมอยู่ แต่อันดับขึ้นๆ ลงๆ อยู่ระหว่าง 1 2 3 4 และ 5 6 ซึ่งการปรับตรงนี้จะส่งผลให้ในระยะยาวผลตอบแทนรวมของพอร์ต Thematic Optimize ของเราดีขึ้น

ทั้งนี้การอัปเดตอัลกอริทึมของ Thematic Optimize จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป และ ทุกพอร์ตที่ทำการรีบาลานซ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ก็จะมีการ Rebalance ด้วยแนวทางใหม่นี้อย่างอัตโนมัติ 

2. เปลี่ยน ETF ใหม่ไฉไลกว่าเดิมในนโยบาย Thematic 

ในโลกการลงทุนมี ETF กว่า 9,000 กองทุนและอาจจะเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี หลายกองก็มีนโยบายที่คล้ายคลึงกัน และหากปีไหนทีมงาน Jitta Wealth พบกองใหม่ที่ดีกว่าเดิม แน่นอนว่าคุณจะไม่พลาดโอกาสนั้นอย่างแน่นอน 

และในปี 2566 นี้ Jitta Wealth ก็ได้เสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบและรีวิว ETF ประจำปีเพื่อเฟ้นหาสินทรัพย์ที่จะเป็นโอกาสการลงทุนที่ดีกว่าให้คุณเช่นเคย

โดยจะมีการปรับเปลี่ยน ETF 2 กองทุนใหม่สำหรับนโยบาย Thematic เพื่อให้คุณได้ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพมากขึ้น 

โดย ETF ในพอร์ตของคุณจะถูกสับเปลี่ยนโดยอัตโนมัติตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ตามรายละเอียดดังนี้

2.1 เปลี่ยน ETF ของนโยบาย Thematic ธีมเทคโนโลยี

ในนโยบาย Thematic ทั้งแผน Thematic DIY และ Thematic Optimize กองทุน ETF สำหรับการลงทุนในธีมเทคโนโลยีจะมีการเปลี่ยนแปลง โดย iShares Exponential Technologies ETF (XT) จะถูกเปลี่ยนเป็น iShares Global Tech ETF (IXN) ด้วยเหตุผลดังนี้

จากตารางคุณจะเห็นว่า IXN มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายรวมที่ต่ำกว่า ยิ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำ เงินลงทุนของคุณก็ยิ่งเหลือไปลงทุน สร้างผลตอบแทนทบต้นได้มากขึ้น และด้วยมูลค่าสินทรัพย์ ที่สูงกว่า XT ก็แสดงถึงความมั่นคงและสภาพคล่องที่สูงกว่า ยิ่งส่วนของอัตราการเติบโตทบต้น 5 ปี IXN ยิ่งกินขาด +22.35%

Jitta Wealth จึงตัดสินใจเปลี่ยน ETF สำหรับการลงทุนในธีมเทคโนโลยีของ Thematic จาก XT เป็น IXN

2.2 เปลี่ยน ETF ของนโยบาย Thematic ธีมตลาดหุ้นสหรัฐฯ

กองทุน ETF สำหรับการลงทุนในธีมตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในนโยบาย Thematic DIY  จะมีการเปลี่ยนแปลง โดย Schwab U.S. Large-Cap ETF (SCHX) จะถูกเปลี่ยนเป็น iShares Core S&P 500 ETF (IVV) ด้วยเหตุผลดังนี้

จากตารางคุณจะเห็นว่า IVV มีมูลค่าสินทรัพย์สูงกว่า SCHX หลายเท่าตัวซึ่งแสดงถึงความมั่นคงและสภาพคล่องที่สูงกว่าแม้ว่าค่าอัตราส่วนค่าใช้จ่ายรวมจะเท่าๆ กัน แต่มาลองดูที่อัตราการเติบโตทบต้น 5 ปี ก็จะเห็นได้ว่า IVV มีโอกาสเติบโตมากกว่า ให้ผลตอบแทนได้มากกว่าในระยะยาว 

Jitta Wealth จึงตัดสินใจเปลี่ยน ETF สำหรับการลงทุนในธีมเทคโนโลยีของ Thematic จาก SCHX เป็น IVV

และทั้งหมดนี้คือคำตอบว่าทำไม Jitta Wealth ถึงตัดสินใจเปลี่ยน ETF ทั้ง 2 กองทุนสำหรับนโยบาย Thematic เพื่อผลตอบแทนที่มากกว่าของคุณในระยะยาว

Jitta Wealth จะอำนวยความสะดวกในการสับเปลี่ยน ETF ให้กับผู้ที่ลงทุนในนโยบาย Thematic ที่มีธีมตลาดหุ้นสหรัฐฯ และ ธีมเทคโนโลยีอยู่ โดย ETF ในพอร์ตของคุณจะถูกสับเปลี่ยนโดยอัตโนมัติในวันที่ 2 มกราคม 2567 เป็นต้นไป โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติม

Jitta Wealth ทำตามสัญญาเสมอ เราจะคอยเฝ้าดูแลพอร์ตการลงทุนของคุณอยู่ตลอดเวลา และทีมงานจะยังคงกระบวนการทบทวนและรีวิว ETF ต่อไปในอนาคต รวมไปถึงพัฒนาอัลกอริทึมให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปในทุกๆ ปี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้ลงทุนในสิ่งที่ดีที่สุดอยู่เสมอ…ให้สมกับที่คุณไว้วางใจเรา 


กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็น WealthTech แห่งแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01

ผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไม่การันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงอื่นๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด