ศึกท้าชิง หุ้นจีน vs ฮ่องกง Jitta Ranking ที่ควรมีตอนนี้

เปิดปีมังกรทองมานี้ ถือเป็นเรื่องดีที่พบเจอได้ไม่บ่อยนัก สำหรับโอกาสลงทุนหุ้นดีราคาถูกที่มีให้เลือกพร้อมกันถึง 2 ตลาด นั่นก็คือหุ้นจีน และหุ้นฮ่องกง ซึ่งเป็นหุ้นสัญชาติจีนที่นักวิเคราะห์แทบจะทุกสำนักต่างพากันเชียร์ ด้วยราคาที่ถูกลงมามากแต่ศักยภาพและโอกาสเติบโตสูง

และด้วยทั้งสองตลาดมีดีทั้งคู่ แถมการเติบโตยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันอีก จึงเกิดเป็นคำถามว่า แบบนี้ควรจะเลือกลงทุนหุ้นจากตลาดไหนดี หรือลงไปเลยทั้งคู่จะได้หรือไม่

วันนี้เราเลยจะมาเทียบข้อดีให้คุณดูแบบหมัดต่อหมัด วัดกันชัดๆ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ข้อดีมุมฮ่องกง

เริ่มกันที่ฝั่งฮ่องกง ที่กุมความได้เปรียบกว่าเล็กน้อย ในด้านของ Fund Flow จากต่างประเทศ เนื่องจากมาตรฐานทางบัญชีที่ดีกว่า และนักลงทุนต่างชาติเข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งกฎหมายภาษีที่เป็นอิสระ ทำให้ฮ่องกงสามารถใช้นโยบายไม่เก็บภาษีปันผล ณ ที่จ่าย 

ดึงดูดนักลงทุกต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น ทำให้เม็ดเงินมีโอกาสไหลเข้ามากกว่า

และด้วยกฏหมายที่เสรีด้านการค้าและอิสรภาพที่ไม่มีเพดานในการลงทุน ทำให้บริษัทเล็ก-ใหญ่ในตลาดฮ่องกงมีศักยภาพในการแข่งขันและเติบโต นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นดันติด Top 4 ศูนย์กลางทางการเงินของโลก รองจากสิงคโปร์ ลอนดอน และนิวยอร์ค

บริษัทจีนเอง บางส่วนก็หันมาจดทะเบียนที่ฮ่องกงอีกด้วย

ข้อดีฝั่งมุมจีน

ส่วนจีนนั่นมีข้อได้เปรียบในด้านขนาดเศรษฐกิจ และจำนวนผู้บริโภคในประเทศที่สูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้ช่วงที่ผ่านมาตลาดจะโดนกระทบจากวิกฤติภาคอสังหาฯ แต่ภาคส่วนอื่นของจีน เช่นภาคการผลิตและส่งออกหรือการบริโภคในประเทศนั้นยังแข็งแกร่ง

ส่งผลให้หุ้น A-share รวมถึงหุ้นเล็กๆ ที่นิ่งมานานของจีนเองก็มีโอกาสเติบโตได้ในระยะยาวจากจำนวนประชากรและการสนับสนุนของรัฐบาล

และรัฐบาลยังสนับสนุนตลาดหุ้นจีนชัดเจน ทั้งทางอ้อมโดยเพิ่มเพดานเงินกู้เพื่อให้เม็ดเงินไหลเข้าภาคธุรกิจมากขึ้น และทางตรงโดยให้กองทุน Central Huijin Investment LTD เข้าซื้อ ETF และหุ้นในตลาด

ข้อดีที่กินกันไม่ลง ของจีนและฮ่องกง

มาถึงข้อดีที่ทั้งตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นฮ่องกง คู่คี่สูสีมาด้วยกัน และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ในปี 2567 นี้หุ้นสัญชาติจีนกลายเป็นที่สนใจและจับตามองจากนักลงทุนทั่วโลก

นั่นก็คือ ความถูกและความคุ้มค่าของหุ้นในตอนนี้ เพราะทั้งจีนและฮ่องกงถือว่าถูกมาก มีหุ้นคุณภาพดีหลายตัวที่รายได้เติบโตสวนทางกับราคาที่ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง

ถึงตรงนี้ เรียกได้ว่าข้อดีและความน่าสนใจแทบจะกินกันไม่ลงเลยดีเดียว

ตลาดหุ้นที่ใช่ ในแบบของคุณ

แต่ถ้าคุณจำเป็นต้องเลือกแค่ตลาดใดตลาดหนึ่ง เราขอแนะนำความได้เปรียบที่เหลื่อมกันเล็กน้อย นั่นก็คือราคา ที่แม้จะถูกลงมามากทั้ง 2 ตลาด แต่ในแง่ของความถูกนั้น ฮ่องกงยังถือว่ายิ่งถูกเข้าไปอีก เพราะตลาดหุ้นฮ่องกงตกลงมาเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน จนราคาตกลงมาต่ำสุดในรอบ 15 ปีเลยทีเดียว 

หากคุณเป็นสายเร่งรีบอยากเห็นผลลัพธ์เร็วหน่อยหุ้นฮ่องกงก็อาจตอบโจทย์มากกว่า ด้วยราคาที่ถูก ทำให้พอตลาดพลิกกลับมาก็มีโอกาสได้เห็นกำไรแล้ว

แต่ถ้าคุณไม่ได้รีบร้อน และชื่นชอบที่จะเห็นการเติบโตในระยะยาว ตลาดหุ้นจีนก็อาจจะตอบโจทย์มากกว่า เพราะจีนที่ขึ้นชื่อเรื่องจำนวนประชากร และการบริโภคในประเทศที่สูง ทำให้ธุรกิจมีต้นทุนด้านผู้บริโภคที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ 

รวมทั้งรัฐบาลจีนเองก็มีอำนาจที่จะเข้าไปส่งเสริมตลาดหุ้นโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินโดยการให้กองทุนเข้าซื้อ หรือกระตุ้นโดยใช้นโยบายทางเศรษฐกิจอื่นๆ ทำให้ในด้านการเติบโตระยะยาวจีนอาจได้เปรียบอยู่เล็กน้อย

Jitta Ranking ช่วยคุณคว้าโอกาส

ต้องไม่ลืมว่าทั้งราคาและศักยภาพของหุ้นจีนและหุ้นฮ่องกงนั้นอยู่ในระดับที่น่าลงทุนทั้งคู่ ฉะนั้นลงทุนทั้ง 2 ตลาดก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจครับ 

และ Jitta Wealth ก็มีนโยบาย Jitta Ranking ที่คัดสรรหุ้นคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสมให้คุณได้ลงทุนทั้ง 2 ตลาด 

Jitta Ranking หุ้นจีน ลงทุนหุ้นดีราคาถูกในตลาดหุ้น SSE และ SZSE 5-20 บริษัท ลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท เพิ่มทุนขั้นต่ำ 50,000 บาท (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม) 

Jitta Ranking หุ้นฮ่องกง ลงทุนหุ้นดีราคาถูกในตลาดหุ้น HKEX 5-20 บริษัท ลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท เพิ่มทุนขั้นต่ำ 50,000 บาท (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)

อีกทั้งลงทุน Jitta Ranking หุ้นจีนหรือฮ่องกงวันนี้ รับเครดิตค่าธรรมเนียม พร้อมลุ้นรับอั่งเปา เครดิตค่าธรรมเนียมเพิ่มเป็น 2 เท่า อีกด้วย 

โอกาสดีสุดคุ้มขนาดนี้ มีพรุ่งนี้วันสุดท้าย! หมดเขตวันที่ 23 ก.พ. นี้เท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมกิจกรรมลุ้นรับอั่งเปา 2 ต่อได้ที่นี่

โอกาสดีๆ ที่นักลงทุน VI เคยเฟ้นหากันให้ควั่กแบบนี้ รีบคิดรีบคว้า ลงทุนก่อนก็มีโอกาสเติบโตในระยะยาวได้ไกลกว่า

หากคุณมีข้อสงสัยหรือคำถามเกี่ยวกับการอัปเดตอัลกอริทึมและการบริหารจัดการพอร์ต Jitta Wealth สามารถติดต่อสอบถามในกลุ่ม Jitta Wealth Official หรือทาง Line ID: @JittaWealth ได้ในวันและเวลาทำการ

กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็น WealthTech แห่งแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01 ผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไม่การันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงอื่นๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน