ทำไมใครๆ ก็ลงทุนใน ‘สหรัฐอเมริกา’ ศูนย์กลางการเงินของโลกแห่งนี้…มีมนต์เสน่ห์อะไร ถึงดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกได้
ใครๆ ก็รู้ว่า สหรัฐฯ เป็นตลาดหุ้นมหาอำนาจโลก ที่ไม่ว่าจะเผชิญวิกฤตหลายครั้ง สุดท้ายก็พลิกฟื้นกลับมาเติบโต…ทะยานได้ต่อ
นั่นก็เป็นเพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก เจ้าของแบรนด์สินค้าและบริการต่างๆ ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐฯ ทั้งนั้น รวมไปถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่คุณใช้ในชีวิตประจำวัน…พัฒนามาจากบริษัทสัญชาติอเมริกัน
บทความที่แล้ว ทีมงาน Jitta Wealth พาคุณไปทำความรู้จักกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking ที่เปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกา จีน และเวียดนาม ไฮไลต์จุดเด่นของแต่ละประเทศ หากคุณยังไม่แน่ใจว่า…เลือกลงทุนประเทศไหนดี
บทความนี้…ไปทำความรู้จัก ‘สหรัฐอเมริกา’ มหาอำนาจและศูนย์กลางทางการเงินของโลกให้มากขึ้น เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำและโอกาสลงทุนเพื่ออนาคต และแนะนำ 5 บริษัท ‘หุ้นดีราคาถูก’ ที่แพลตฟอร์ม Jitta คัดสรรมาจัดพอร์ตลงทุนระยะยาว สไตล์ VI (Value Investing) ให้คุณ
‘สหรัฐอเมริกา’ เป็นตลาดหุ้นพัฒนาแล้วที่มีมาร์เก็ตแคปสูงที่สุดในโลก นับถึงสิ้นปี 2563 อยู่ที่ 40.74 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หากนับจนถึง ณ สิ้นเดือนกันยายน อยู่ที่ 48.57 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
นั่นหมายความว่า ผ่านมาได้ 9 เดือน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและวิกฤต Covid-19 ที่ยังคงอยู่ มาร์เก็ตแคปตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเติบโตได้ถึง 19.22%
ตลาดหุ้นหลักในสหรัฐฯ ได้แก่ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) และตลาดหุ้น Nasdaq นอกจากนี้ยังมีตลาดหุ้นอื่นๆ เช่น Chicago Board Options Exchange (CBOE) เป็นตลาดซื้อขายตราสารอนุพันธ์ หรือตลาดหุ้น BATS (Better Alternative Trading System) ที่มี ETF (Exchange Traded Fund) หลายกองซื้อขายในตลาดนี้ด้วย
ดัชนีหลักที่นักลงทุนทั่วโลกติดตามกัน ได้แก่ S&P500 DJIA NASDAQ และ NYSE
ในความเป็นประเทศมหาอำนาจของโลก ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด ‘สหรัฐอเมริกา’ สะท้อนภาพระบบทุนนิยมที่แข็งแกร่ง ศูนย์กลางทางการเงินหนุนให้มีธุรกิจและสตาร์ตอัปใหม่ๆ แจ้งเกิดตลอดเวลา
ธุรกิจที่ขับเคลื่อนตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นหลัก คือ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งก่อร่างสร้างตัวมาตั้งแต่ก่อนวิกฤต Dot Com จนฟองสบู่แตกช่วงปี 2540-2543 ก็ยังพลิกฟื้นกลับมาได้ตลอดระยะเวลา 3 ทศวรรษที่ผ่านมา
ปัจจุบันบริษัทสัญชาติอเมริกันที่มีมาร์เก็ตแคปสูงสุด 10 อันดับแรกในดัชนี S&P500 ส่วนใหญ่เป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ที่มีมูลค่ากิจการระดับเมกะแคปใกล้ๆ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ บางบริษัทมาร์เก็ตแคปทะลุ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว เช่น Alphabet (Google) Amazon Apple Meta (Facebook) Nvidia และ Microsoft
นอกเหนือจากการเป็นบิ๊กเทคสัญชาติอเมริกันแล้ว บริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ที่สุดในโลก 100 อันดับแรก มากกว่าครึ่งอยู่ในสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่ารวม 20.55 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 65% ของมาร์เก็ตแคปรวม 100 บริษัททั่วโลก
ความน่าสนใจของบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ คือ ความเป็นบริษัทระดับโลกในเกือบทุกๆ กลุ่มอุตสาหกรรม ไม่ได้ทำธุรกิจและมีรายได้จากในประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ยังขยายกิจการไปทั่วโลก ล้วนเป็นแบรนด์สินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูง แยกภาคอุตสาหกรรมตามเกณฑ์ Global Industry Classification Standard (GICS) เช่น
นี่คือ ตัวอย่างบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีรายได้จากทุกมุมโลก จากการขยายธุรกิจเพื่อขายสินค้าและบริการ ซึ่งคุณคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่รู้จักบริษัทเหล่านี้
สรุปได้ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกขับเคลื่อนด้วยหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่และแหล่งรวมหุ้นบริษัทระดับโลก สะท้อนภาพความเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและศูนย์กลางตลาดการเงินการลงทุนของโลกใบนี้ด้วย
ในขณะเดียวกัน เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังรักษาความเป็นเบอร์ 1 ด้วยขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่า GDP ณ สิ้นปี 2563 อยู่ที่ 20.93 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้จะเผชิญผลกระทบจาก Covid-19 อย่างหนัก แต่ก็ฟื้นตัวกลับมาเติบโตได้ดีในปี 2564 เช่นเดียวกัน Deloitte คาดการณ์ว่า GDP สหรัฐฯ ในอีก 5 ปีข้างหน้ายังสดใส จะมีการเติบโตได้ดีกว่าช่วงก่อนเกิดการระบาด
ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ไม่ได้เจ็บตัวจากวิกฤต Covid-19 นานมากนัก และพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นได้แข็งแกร่ง ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง 2563 เป็นต้นมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหุ้นเทคโนโลยีหลายสิบหลายร้อยบริษัทแทบไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต กลับกลายเป็นได้รับอานิสงส์จากการใช้งานเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มต่างๆ มากขึ้นทั่วโลก รวมทั้งยังมีอีกหลายๆ บริษัทที่ได้รับผลกระทบระยะสั้นจาก Covid-19 และยังมีผลประกอบการดีมาจนถึงปัจจุบัน
ความเป็นตลาดหุ้นพัฒนาแล้วอย่าง ‘สหรัฐอเมริกา’ ที่มีความแข็งแกร่งมาก อาจจะถูกมองว่า ยังมี ‘หุ้นดีราคาถูก’ หลงเหลืออยู่หรือเปล่า นี่คือ หน้าที่ของแพลตฟอร์ม Jitta ที่จะแสกนหุ้นมากกว่า 4,700 บริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพื่อหาหุ้นพื้นฐานดีๆ และยังมีราคาไม่แพง มาจัดพอร์ต Jitta Ranking สหรัฐอเมริกาให้คุณ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปรียบเสมือน ‘ศูนย์กลางการเงินของโลกที่ไม่มีใครทัดเทียม’ แหล่งรวบรวมบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ที่คุณรู้จักเป็นอย่างดี จากทุกเซ็กเตอร์ ทุกอุตสาหกรรม มีให้คุณลงทุนได้ในประเทศเดียว
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งมาก และคุณ…ในฐานะนักลงทุนสามารถเชื่อมั่นในการกำกับดูแล คุณภาพกิจการ เงื่อนไขการรายงานงบการเงิน และมาตรฐานการทำบัญชี ที่มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้
ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก และมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และตลาดหุ้นเบอร์ 1 ของโลก ก็ยังมี ‘หุ้นดีราคาถูก’ อีกมากมาย ที่ตรงตามหลักการลงทุนสไตล์ Warren Buffett ที่ว่า ‘Buy a wonderful company at a fair price’ (ลงทุนในธุรกิจที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เหมาะสม)
ทีมงาน Jitta Wealth ขอยกตัวอย่าง 5 บริษัท เป็น ‘หุ้นดีราคาถูก’ อันดับต้นๆ ที่อาจจะเข้ามาอยู่ในพอร์ตลงทุน Jitta Ranking สหรัฐอเมริกาของคุณ
บริษัทโฮลดิ้งของ Unity Bank เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการเต็มรูปแบบ ธนาคารระดมเงินฝากจากประชาชนทั่วไป และให้สินเชื่อหลากหลายประเภท เช่น สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อผู้บริโภค และสินเชื่อส่วนบุคคล โดยธนาคารได้ขยายบริการครอบคลุมรัฐนิวเจอร์ซีย์ และ Lehigh Valley รัฐเพนซิลเวเนีย มีมาร์เก็ตแคปในตลาดหุ้น Nasdaq อยู่ที่ 267.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
งบการเงิน | รายได้รวม | % เปลี่ยนแปลง | กำไรสุทธิ | % เปลี่ยนแปลง |
2563 | 70.4 | +8.23% | 23.6 | -0.04% |
2562 | 65.0 | +7.60% | 23.7 | +7.91% |
2561 | 60.4 | +15.17% | 21.9 | +70.01% |
ที่มา: Jitta.com ณ 1 ธันวาคม 2564 หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ธนาคารเก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2430 ให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร มีเป้าหมายจะเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินชั้นนำ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดให้กับ ผู้ใช้บริการ ผู้ถือหุ้น และชุมชน ปัจจุบันได้ขยายธุรกิจจนเติบโตขึ้นกว่า 41 สาขาในรัฐโอไฮโอและรัฐเพนซิลเวเนีย ธนาคารยังคงพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการอยู่เสมอ มีมาร์เก็ตแคปในตลาดหุ้น Nasdaq อยู่ที่ 516.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
งบการเงิน | รายได้รวม | % เปลี่ยนแปลง | กำไรสุทธิ | % เปลี่ยนแปลง |
2563 | 124.2 | +14.48% | 41.9 | +17.10% |
2562 | 108.5 | +7.46% | 35.8 | +9.80% |
2561 | 101.0 | +7.05% | 32.6 | +43.41% |
ที่มา: Jitta.com ณ 1 ธันวาคม 2564 หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ
บริษัทให้บริการทางการเงินและการประกันภัย รวมไปถึงการชำระเงินแก่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการจำนอง ธุรกิจหลักประกอบด้วย การประกันภัยกรรมสิทธิ์ ประกันภัยทรัพย์สิน และประเมินมูลค่าผลิตภัณฑ์และบริการ เป็นสถาบันการเงินที่แข็งแกร่ง และให้ก่อตั้งมายาวนานกว่า 130 ปี มีมาร์เก็ตแคปในตลาดหุ้น NYSE อยู่ที่ 8,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
งบการเงิน | รายได้รวม | % เปลี่ยนแปลง | กำไรสุทธิ | % เปลี่ยนแปลง |
2563 | 7,087 | +14.26% | 696.4 | -1.55% |
2562 | 6,202 | +7.90% | 707.4 | +49.09% |
2561 | 5,748 | -0.42% | 474.5 | +12.16% |
ที่มา: Jitta.com ณ 1 ธันวาคม 2564 หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ธนาคารที่ให้บริการแบบครบวงจร โดยก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2415 ทางธนาคารได้ให้รัฐบาลกู้งบดุล และเข้าซื้อกิจการระดับประเทศ โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อพัฒนาชีวิตของประชากรสหรัฐอเมริกาให้ดีขึ้น รวมไปถึงการบริจาคในการกุศล ธนาคารให้ความสนับสนุนแก่เยาวชนที่มีความคิดสร้างสรรค์ และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ มีมาร์เก็ตแคปในตลาดหุ้น Nasdaq อยู่ที่ 276.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
งบการเงิน | รายได้รวม | % เปลี่ยนแปลง | กำไรสุทธิ | % เปลี่ยนแปลง |
2564 | 140.5 | +90.73% | 71.5 | +214.48% |
2563 | 73.7 | +9.75% | 22.7 | +63.76% |
2562 | 67.1 | +13.92% | 13.9 | -14.12% |
ที่มา: Jitta.com ณ 1 ธันวาคม 2564 หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ หมายเหตุ: ปีงบประมาณ กรกฎาคม – มิถุนายน
ธนาคารให้บริการแก่ธุรกิจ บุคคลและหน่วยงานของรัฐ มีสินเชื่อมากมายเพื่อตอบสนองตามความต้องการ เช่น สินเชื่อเพื่อการค้า การก่อสร้าง การจำนอง และสินเชื่อผู้บริโภค ทั้งมีหลักประกัน และไม่มีหลักประกัน ปัจจุบันได้ขยายธุรกิจจนมีสำนักงาน 44 แห่งในสหรัฐฯ และพัฒนาระบบภายในให้ทันสมัยอยู่เสมอ มีมาร์เก็ตแคปในตลาดหุ้น Nasdaq อยู่ที่ 533.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
งบการเงิน | รายได้รวม | % เปลี่ยนแปลง | กำไรสุทธิ | % เปลี่ยนแปลง |
2563 | 153.4 | +4.23% | 44.1 | -10.75% |
2562 | 147.1 | +6.63% | 49.5 | +17.69% |
2561 | 138.0 | +10.93% | 42.0 | +34.37% |
ที่มา: Jitta.com ณ 1 ธันวาคม 2564 หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ
จะเห็นได้ว่า 5 บริษัท ‘หุ้นดีราคาถูก’ ของ Jitta Ranking สหรัฐอเมริกาอยู่ในกลุ่มภาคการเงิน (Financials) เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นมีขนาดใหญ่ นอกจากจะมีธนาคารขนาดใหญ่ระดับประเทศแล้ว ยังมีธนาคารขนาดกลางและเล็กที่มีความแข็งแกร่งในระดับรัฐและมลรัฐด้วย
นอกจากนี้ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มมีการฟื้นตัว ภาคการเงินมักจะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ เพราะความต้องการด้านสินเชื่อในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และการบริการจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนการกู้เงินในภาคสถาบันการเงินยังไม่สูงมาก เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ยังอยู่ที่ 0.00-0.25%
ส่งผลให้ 5 สถาบันการเงินที่เรายกตัวอย่างมา มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin -NIM) เป็นมาตรวัดรายได้ดอกเบี้ยของธนาคารเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับผู้ฝากเงิน อยู่ในระดับสูง มีประสิทธิภาพในการทำกำไรให้แก่ธนาคาร
ไม่เพียงเท่านั้น แต่ละสถาบันการเงินมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (Selling, General, Administrative Expenses – SG&A) ต่อยอดขายลดลงเรื่อยๆ ส่งผลให้รายได้และกำไรสุทธิในช่วงที่ผ่านมาเติบโต และแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้นของ Jitta ก็ประเมินว่า มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต
นี่คือ ภาพรวมของความน่าสนใจของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในฐานะที่เป็นมหาอำนาจและศูนย์กลางทางการเงินของโลก และ 5 บริษัท ‘หุ้นดีราคาถูก’ ของสหรัฐฯ ที่ทีมงาน Jitta Wealth รวบรวมมาให้คุณได้รู้จัก และเป็นโอกาส ‘ลงทุน Jitta Ranking’ สำหรับคุณ
ถ้าเป้าหมายพอร์ตลงทุนของคุณ คือ เศรษฐกิจทุนนิยมเต็มขั้น ตลาดหุ้นพัฒนาแล้วขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มาตรฐานทางการเงินโปร่งใส ตลาดหุ้นมีพลวัตการเติบโตของบริษัทระดับโลก ศูนย์รวมบริษัทและสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับตลาดผู้ใช้งานทั่วโลก Jitta Ranking สหรัฐอเมริกา คือ คำตอบสุดท้าย
แพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้นของ Jitta จะไม่ได้เฟ้นหามูลค่ากิจการ แต่ AI และอัลกอริทึมที่พัฒนาขึ้นมา จะเจาะลึกลงไปในงบการเงินย้อนหลัง 10 ปีของบริษัทนั้น และวิเคราะห์อีกหลายๆ ปัจจัย เช่น รายได้ อัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรจากการดำเนินงาน งบลงทุน SG&A ต่อยอดขาย และการจ่ายเงินปันผล แล้วนำมาจัดอันดับ ‘หุ้นดีราคาถูก’ ให้คุณได้เป็นเจ้าของกิจการที่ดี และได้ลงทุนในราคาเหมาะสม
พอร์ตลงทุน Jitta Ranking สหรัฐอเมริกา กระจายความเสี่ยงลงทุนใน 5-30 บริษัท และมีการรีวิวพอร์ตทุกไตรมาส ตามการรายงานงบการเงินของแต่ละบริษัท
หากบริษัทที่ลงทุนอยู่ มีงบการเงินที่ส่งสัญญาณว่า มีแนวโน้มเติบโตลดลงหรือไม่เติบโต รวมไปถึง AI และอัลกอริทึมของแพลตฟอร์ม Jitta มีการปรับอันดับ ‘หุ้นดีราคาถูก’ ระบบปรับพอร์ตอัตโนมัติจะจัดสัดส่วนหุ้นในพอร์ตให้เหมาะ ทำการขายหุ้นเดิม และซื้อหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตเข้ามาในพอร์ต คุณจึงมั่นใจได้ว่า พอร์ตลงทุนของคุณจะมีหุ้นพื้นฐานดี ราคาไม่แพงอยู่เสมอ
หากคุณต้องการรู้จัก Jitta Wealth รวมไปถึงกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking มากขึ้น คุณสามารถเข้าไปอ่านข้อมูลได้เว็บไซต์ https://jittawealth.com/jitta-ranking หรือสอบถามเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนได้ที่ Line ID: @JittaWealth
กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ผู้บุกเบิกสตาร์ตอัป WealthTech สัญชาติไทยรายแรก ที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01
ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
จัดพอร์ต ‘หุ้นเมกะแคป’ ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เกาะเทรนด์เศรษฐกิจฟื้น
5 หุ้นเทคสหรัฐฯ ปี 2564 พร้อมดันพอร์ต Jitta Ranking – U.S. Tech เติบโต