ธีมฮ่องกง iShares MSCI Hong Kong ETF (EWH) น่าลงทุนตรงไหนในปี 2567

หลายคนที่กำลังหมายตาลงทุนหุ้นจีน อาจรู้สึกท้อไปกับการศึกษากฎเกณฑ์ข้อบังคับในตลาดหุ้นจีนที่เข้มงวดและได้รับอิทธิพลจากการเมืองค่อนข้างสูง ตลาดหุ้นฮ่องกงจึงเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงหุ้นจีนได้ง่ายกว่า เพราะนอกจากจะเป็นตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว ยังได้รับการยอมรับด้านมาตรฐานและความโปร่งใสระดับโลก ทำให้ ETF (Exchange Traded Fund) ที่ลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั่วไปที่ไม่ต้องการวิเคราะห์หุ้นรายตัว

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึก iShares MSCI Hong Kong (EWH) กองทุน ETF ที่จะช่วยคุณปลดล็อกพอร์ตมังกรทองด้วยศักยภาพการเติบโตของจีน ผ่านการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในฮ่องกง

EWH ETF คืออะไร 

EWH หรือ iShares MSCI Hong Kong ETF เป็น ETF ที่ลงทุนในหุ้นฮ่องกง H-share ตามดัชนี MSCI Hong Kong 25/50 ที่มีหุ้นกลางถึงใหญ่ของตลาดฮ่องกง ซึ่งคิดเป็น 85% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจชั้นนำของจีน

EWH ETF น่าลงทุนแค่ไหนในปี 2567

ตลาดหุ้นฮ่องกง เปรียบเหมือนสะพานเชื่อมหุ้นจีนกับตลาดโลก ที่นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนหุ้นจีนได้ง่ายขึ้น ด้วยกฎเกณฑ์ที่เอื้ออำนวยมากกว่า ดึงดูดธุรกิจชั้นนำของจีนเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง โกอินเตอร์สู่สายตานักลงทุนทั่วโลก

สาเหตุที่ทำให้หุ้นฮ่องกงน่าลงทุนสุดๆ ในปี 2567 ประกอบด้วย 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนและธุรกิจจีนที่ยังสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และมูลค่าหุ้นในตลาดฮ่องกงที่ลดลงมาเยอะมาก ราคาถูกที่สุดในรอบ 15 ปี ถือเป็นนาทีทองให้นักลงทุนเข้าจับจอง ‘หุ้นดีราคาถูก’ 

โดยคาดการณ์การเติบโตของ GDP จีน ปี 2567 อยู่ที่ 4.6% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ในขณะที่อัตราส่วน P/E ที่ใช้ประเมินความถูกแพงของหุ้น สำหรับดัชนี MSCI Hong Kong 25/50 อยู่ที่ 14.18 ต่ำกว่าดัชนี MSCI China A Onshore IMI ที่ 18.12 แสดงว่าหุ้นจีนในตลาดหุ้นฮ่องกงนั้น มูลค่า ‘ถูกกว่า’ หุ้นจีนด้วยกันเองในตลาดเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น

ทำให้ EWH ETF กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียวสำหรับปี 2567 ให้คุณได้กระจายลงทุนหุ้นจีนคุณภาพดีราคาไม่แพงในตลาดหุ้นฮ่องกง คว้าโอกาสลุ้นทำกำไรในระยะยาว

5 หุ้นเด่นที่ EWH ETF ลงทุน

เราคัดตัวอย่างธุรกิจจีนจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงที่ EWH ETF เข้าไปลงทุนมาให้เห็นภาพมากขึ้น ว่าหากลงทุนใน EWH ETF แล้ว คุณจะได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจจีนแบบไหนบ้าง

1. AIA Group Limited
สัดส่วนการลงทุน 20%

ให้บริการทางการเงินด้านประกันชีวิต ครอบคลุมตลาดทั่วโลก เป็นบริษัทที่อยู่มานานกว่า 100 ปี และมี Market Cap ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นฮ่องกง มีฐานะการเงินที่มั่นคง อัตราการจ่ายปันผลสูง เป็น 1 ในบริษัทประกันที่คนไว้ใจมากที่สุดในโลก

2. Techtronic Industries Company Limited
สัดส่วนการลงทุน 4.8%

บริษัทชั้นนำระดับโลกในการออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายเครื่องมือช่าง อุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับงานนอกบ้าน และผลิตภัณฑ์ดูแลพื้น ภายใต้ชื่อแบรนด์ดังอย่าง Milwaukee Ryobi AEG และ Hoover ดำเนินธุรกิจในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก 

ตั้งแต่ 2558 จนถึง 2565 บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้นในทุกๆ ปี P/E ในปัจจุบันปรับลดลงมาจาก 34.5 เท่าในปี 2563 เหลือเพียงแค่ 20.2 เท่า

3. CK Hutchison Holdings Limited
สัดส่วนการลงทุน 4.5%

ดำเนินธุรกิจหลายประเภท แบ่งเป็น 6 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ท่าเรือและบริการที่เกี่ยวข้อง การเงินการลงทุน การค้าปลีก โครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน และโทรคมนาคม 

อย่างร้าน Watsons ที่เรารู้จักกันดี ก็อยู่ภายใต้ AS Watson Group ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่คือ CK Hutchison Holdings นี่เอง

หรือ Hutchison Ports บริษัทข้ามชาติด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีฐานธุรกิจอยู่ใน Hong Kong มีพนักงานประมาณ 300,000 คน ในมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ก็เป็นบริษัทในเครือของ CK Hutchison Holdings เช่นกัน

4. CLP Holdings Limited
สัดส่วนการลงทุน 4.5%

ดำเนินธุรกิจด้านการผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าในฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ อินเดีย ไต้หวัน ออสเตรเลีย และประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประกอบธุรกิจมายาวนานกว่า 120 ปี

ธุรกิจของบริษัทยังสอดคล้องกับความพยายามของรัฐบาลจีนในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทำให้มีโอกาสได้รับผลพลอยได้จากนโยบายของจีนในอนาคตอีกด้วย

5. Galaxy Entertainment Group Limited (GEG)
สัดส่วนการลงทุน 3.87%

พัฒนาและดำเนินงานรีสอร์ต ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร โรงแรม และกาสิโนครบวงจรขนาดใหญ่ในมาเก๊า มายาวนานกว่า 20 ปี ปัจจุบันบริษัทมีรีสอร์ต 3 แห่ง ได้แก่ Galaxy Macau Broadway Macau และ StarWorld Macau ล้วนประสบความสำเร็จอย่างสูง

นอกจาก 5 บริษัทเหล่านี้ที่เราแนะนำให้คุณรู้จักแล้ว EWH ETF ยังกระจายการลงทุนไปยังบริษัทจีนจดทะเบียนในฮ่องกงอีกว่า 30 บริษัทเลยทีเดียว ทำให้มั่นใจได้ว่า คุณจะได้กระจายความเสี่ยงลงทุนหุ้นจีนในหลากหลายอุตสาหกรรม แม้จะเกิดปัญหากับภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีน แต่ธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจอุปโภคบริโภค ค้าปลีก พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐาน ก็ยังเติบโตต่อไปได้

ลงทุน EWH กับ Thematic DIY

หากคุณสนใจลงทุน EWH ETF ธีมตลาดฮ่องกง และธีมเมกะเทรนด์อื่นๆ เช่น ธีมตลาดหุ้นจีน ธีม AI และธีมเซมิคอนดักเตอร์ ฯลฯ ไม่ต้องไปไหนไกล Jitta Wealth มีคำตอบ! กับนโยบาย Thematic DIY ที่ให้คุณได้ลงทุนในธีมเมกะเทรนด์ผ่าน Passive ETF ค่าธรรมเนียมต่ำคุณภาพดีมากมาย ให้คุณเลือกกว่า 20 ธีม

จุดเด่นที่ไม่มีใครเหมือน ของนโยบาย Thematic DIY 

• กระจายความเสี่ยง ธีมเมกะเทรนด์อนาคตไกลมากมาย คัดมาให้คุณเลือกลงทุนได้ถึง 1-5 ธีมต่อพอร์ต รวมถึงธีมตลาดหุ้นฮ่องกง EWH ด้วย คุณจะได้จัดพอร์ตกระจายความเสี่ยงให้เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงที่รับได้ของตนเอง
• ปรับพอร์ตอัตโนมัติ ระบบอัจฉริยะของ Jitta Wealth จะรีบาลานซ์พอร์ตให้คุณแบบออโต้ เมื่อสัดส่วนของธีมใดธีมหนึ่งเปลี่ยนแปลงเกิน 5% ขึ้นไป ช่วยลดความเสี่ยง ป้องกันไม่ให้น้ำหนักการลงทุนไปตกอยู่ที่เมกะเทรนด์อันใดอันหนึ่งมากเกินไป และได้ขายทำกำไรเป็นครั้งคราว เพื่อนำกำไรนั้นมาเพิ่มทุนในธีมที่ราคายังไม่สูงมาก พร้อมพาพอร์ตเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย 
• ค่าธรรมเนียมต่ำ ลงทุนเหมือนมีมืออาชีพคอยดูแล แต่ค่าธรรมเนียมบริหารจัดการต่ำเพียง 0.5% ต่อปี ช่วยให้คุณนำกำไรกลับไปลงทุนต่อเสริมพอร์ตโตได้ดีขึ้นในระยะยาว

เลือกลงทุนธีมตลาดหุ้นฮ่องกง EWH ETF อย่างมีหลักการและเป็นระบบไปกับ Thematic DIY ตอนนี้ ในขณะที่ P/E หุ้นฮ่องกงยังอยู่แค่ 8 นิดๆ นอกจากจะลงทุนได้สะดวกและสบายใจแล้ว ยังได้ซื้อหุ้นในราคาที่ถูกที่สุดในรอบ 15 ปี เพิ่มโอกาสทำกำไรสูงขึ้นอีกในระยะยาว

‘ฮ่องกง’ ประตูชัยสู่หุ้นจีน

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจและเศรษฐกิจของจีน แต่หลีกเลี่ยงความซับซ้อนของหุ้น A-share ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น การลงทุนธีมตลาดหุ้นฮ่องกงใน EWH ETF กับนโยบาย Thematic DIY มอบโอกาสเติบโตนั้นให้คุณได้ 

นอกจากจะได้กระจายความเสี่ยงลงทุนในบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นฮ่องกงกว่า 30 หุ้นแล้ว ยังได้กระจายความเสี่ยงลงทุนธีมฮ่องกงควบคู่กับธีมเมกะเทรนด์อื่นๆ พร้อมปรับสัดส่วนการลงทุนแต่ละธีมให้เท่ากันอยู่เสมอแบบอัตโนมัติ และยิ่งคุณตัดสินใจลงทุนตอนนี้ ก็จะได้เป็นเจ้าของหุ้นฮ่องกงเหล่านี้ในราคาที่ถูกที่สุดในรอบ 15 ปีอีกด้วย!

แต่อย่าลืมว่า ไม่ว่าจะกระจายความเสี่ยงแล้วขนาดไหน ทุกการลงทุนก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ดี เพราะฉะนั้น อย่าลืมศึกษาข้อมูลการลงทุน Thematic DIY อย่างละเอียดก่อนที่นี่

ลงทุนท้าวิกฤติ พิชิตพอร์ตมังกรทอง

รับเครดิตค่าธรรมเนียม 0.5% ของยอดลงทุนหรือเพิ่มทุนทุกๆ 10,000 บาท สูงสุด 100,000 บาท

พร้อมลุ้นอั่งเปาเครดิตค่าธรรมเนียมอีกเท่าตัว เมื่อโอนเงินลงทุนหรือเพิ่มทุนเป็นลำดับที่ลงท้ายด้วยเลข 9

เมื่อลงทุนหรือเพิ่มทุนในหุ้นจีน ฮ่องกง นโยบาย Jitta Ranking หรือ Thematic DIY ตั้งแต่วันที่ 8-23 กุมภาพันธ์ 2567 เท่านั้น

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม

หากคุณมีข้อสงสัยหรือคำถามเกี่ยวกับการอัปเดตอัลกอริทึมและการบริหารจัดการพอร์ต Jitta Wealth สามารถติดต่อสอบถามในกลุ่ม Jitta Wealth Official หรือทาง Line ID: @JittaWealth ได้ในวันและเวลาทำการ

กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็น WealthTech แห่งแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01 ผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไม่การันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงอื่นๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน