Jitta Wealth ได้ออกแบบแผนลงทุนมากมายเพื่อให้คุณมีทางเลือกในการลงทุนต่างประเทศมากขึ้น ในวันนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกนโยบาย ‘ลงทุน Global ETF’ ซึ่งเป็นแผนลงทุนแรกเริ่มของทีมงาน ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สม่ำเสมอและพิสูจน์ตัวเองมาเป็นเวลายาวนาน อีกทั้งยังทนความผันผวนของตลาดหมีในช่วงเวลานี้ได้
ในปี 2565 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตกลงอย่างหนัก ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับผลกระทบตามไปด้วย ดัชนี S&P 500 ปรับฐานลงไปมากกว่า -17% ตั้งแต่ต้นปี ทำให้นักลงทุนหลายคนเริ่มไม่สบายใจ โดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มลงทุนได้ไม่นาน
แน่นอนว่าการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ย่อมส่งผลกระทบต่อนโยบายการลงทุนต่างๆ ของ Jitta Wealth อย่างไรก็ตาม หากคุณมีพอร์ตลงทุนใน Jitta Wealth อยู่หลายนโยบาย คุณจะพบว่านโยบาย Global ETF มีความผันผวนต่ำที่สุด สามารถยืนหยัดฝ่ามรสุมตลาดหุ้นในช่วงนี้ไปได้อย่างมั่นคง
ตรงตามจุดประสงค์ที่ทีมงาน Jitta Wealth ต้องการ นั่นคือการทำให้นโยบาย Global ETF สามารถ ‘สร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดในความเสี่ยงที่ต่ำที่สุด’ ด้วยการจัดสัดส่วนการลงทุนตามทฤษฎีการจัดพอร์ตที่ได้รับรางวัลโนเบล ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนและกระจายความเสี่ยงโดยการนำเงินไปลงทุนในกองทุน ETF ประเภทหุ้นและตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลก
ในวันนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกถึงนโยบาย Global ETF เพื่อให้คุณเข้าใจถึงนโยบายและแผนลงทุนที่ Jitta Wealth คัดสรรมาให้คุณ
หลังจากที่คุณอ่านบทความนี้จบ คุณจะได้คำตอบว่า ‘ทำไม Global ETF ถึงน่าลงทุน’
แค่เพียงชื่อนโยบายก็บอกถึงการกระจายการลงทุนของคุณไปทั่วโลกแล้ว แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า ความหมายของการกระจายความเสี่ยงทั่วโลกนั้น ได้กระจายเงินลงทุนของคุณไปที่ไหนบ้าง
หากคุณลงทุนในนโยบาย Global ETF จะเปรียบเสมือนว่าคุณได้ลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกที่ครอบคลุมทั้ง 2 ประเภทตลาด ดังนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับตราสารหนี้ที่ประกอบไปด้วยพันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้คุณภาพดี จะจำกัดเพียงแค่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ไม่ได้รวมตราสารหนี้ของประเทศอื่นด้วย แต่เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการกระจายความเสี่ยงตามทฤษฎีรางวัลโนเบลอย่าง Modern Portfolio Theory
ทฤษฎี Modern Portfolio Theory เป็นทฤษฎีที่อธิบายว่าการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทที่ราคาไม่ได้เคลื่อนไหวในทิศทางทางเดียวกันจะทำให้ ‘มูลค่าพอร์ตลงทุนของคุณผันผวนต่ำลงมาก’ และนี่คือเหตุผลเบื้องหลังที่ทำให้ Global ETF ผันผวนน้อยกว่านโยบายลงทุนประเภทอื่นๆ ของ Jitta Wealth
อย่างไรก็ตาม การกระจายการลงทุนจำเป็นต้องจัดให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ได้สูงที่สุดภายใต้ระดับความเสี่ยงที่คุ้มค่าด้วย เราจึงแบ่งแผนลงทุนใน Global ETF ออกเป็น 3 รูปแบบ เพื่อให้คุณได้เลือกแผนลงทุนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณนั่นเอง
นอกจากนี้ Jitta Wealth ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยจัดการสินทรัพย์ในพอร์ตให้เป็นไปตามแผนลงทุนที่คุณเลือกโดยปราศจากอคติและอารมณ์ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในกระบวนการปรับพอร์ตลงทุน
ปกติแล้วการลงทุนต่างประเทศจะต้องใช้เงินลงทุนสูงเพื่อให้คุ้มกับค่าธรรมเนียม และเพียงพอต่อการกระจายความเสี่ยงด้วยการซื้อสินทรัพย์หลากหลายประเภท แต่การลงทุนในกองทุน ETF (Exchange Traded Fund) จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
ETF ที่ Jitta Wealth คัดสรรมาอยู่ในนโยบาย Global ETF มีทั้งหมด 5 กอง แบ่งออกเป็นกองทุน ETF ที่ลงทุนในหุ้น 3 กอง และกองทุน ETF ที่ลงทุนในตราสารหนี้อีก 2 กอง โดยแต่ละกองมีนโยบายการลงทุนคร่าวๆ ดังนี้
กองทุน ETF ประเภทหุ้น
กองทุน ETF ประเภทตราสารหนี้
สัดส่วนการลงทุนในกองทุน ETF ทั้ง 5 กองจะถูกจัดสรรอย่างเหมาะสมในพอร์ตลงทุนของคุณตามแผนลงทุน Global ETF ที่คุณเลือก ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการลงทุนใน Global ETF กระจายการลงทุนไปในทั้งหุ้นและตราสารหนี้ทั่วโลก จึงสามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่คุณต้องเผชิญ
สำหรับการลงทุนในนโยบายอื่นของ Jitta Wealth เช่น Jitta Ranking จะมีทีมพัฒนาระบบ AI เพื่อใช้คัดกรองหาหุ้นที่ดีที่สุดในราคาต่ำที่สุดเพื่อจัดพอร์ตให้กับคุณ ซึ่งล่าสุดในปี 2565 ทีมงานได้พัฒนาระบบ AI โดยเพิ่มน้ำหนักให้กับผลประกอบการในปัจจุบัน ก่อนที่จะนำมาจัดอันดับ Jitta Ranking ซึ่งคุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่ Jitta Wealth เปิดให้บริการนโยบาย Global ETF มา เราพบว่าแนวคิดและระบบการทำงานเบื้องหลังนโยบายนี้มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว เราจึงไม่จำเป็นต้องปรับระบบการทำงานของ AI หรือเปลี่ยนแปลงกองทุน ETF ที่คัดสรรมาให้คุณลงทุนเลยสักครั้งเดียว
สิ่งที่พิสูจน์ว่าการ ‘ลงทุน Global ETF’ ทั้ง 3 แผนมีความแข็งแกร่งคือผลการทดสอบ Backtest ในระยะเวลาทั้งหมด 10 ปี ที่จะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่านโยบาย Global ETF สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับคุณได้เป็นอย่างดีในระยะยาว
ในวันนี้ทีมงาน Jitta Wealth จะมาแสดงผลการทดสอบ Backtest ด้วยเงินทั้งสิ้น 50,000 บาท ในนโยบาย Global ETF ทั้ง 3 แผน ว่าหากคุณลงทุน 50,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2554 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 เงินของคุณจะมีมูลค่าเท่าไรในปัจจุบัน
จากการคำนวณผลตอบแทนในระยะเวลาทั้งหมด 10 ปี การลงทุนใน Global ETF แผนพอเพียง จะสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้นอยู่ที่ประมาณ 4.31% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยคาดหวังที่ 4% ต่อปี หรือทำผลตอบแทนรวมทั้งหมด 52.49% ตลอด 10 ปี และด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้นในระดับนี้ ‘จะทำให้เงิน 50,000 บาท กลายเป็น 76,245 บาท ณ สิ้นปี 2564’
จากการคำนวณผลตอบแทน ในระยะเวลาทั้งหมด 10 ปี การลงทุนใน Global ETF แผนสมดุล จะสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้นอยู่ที่ประมาณ 7.48% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยคาดหวังที่ 6% ต่อปี หรือผลตอบแทนรวมทั้งหมด 105.84% ตลอด 10 ปี และด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้นในระดับนี้ ‘จะทำให้เงิน 50,000 บาท กลายเป็น 102,919 บาท ณ สิ้นปี 2564’
จากการคำนวณผลตอบแทน ในระยะเวลาทั้งหมด 10 ปี การลงทุนใน Global ETF แผนเติบโต จะสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้นอยู่ที่ประมาณ 9.82% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยคาดหวังที่ 8% ต่อปี หรือผลตอบแทนรวมทั้งหมด 155.31% และด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้นในระดับนี้ ‘จะทำให้เงิน 50,000 บาท กลายเป็น 127,657 บาท ในสิ้นปี 2564’
ทั้งหมดนี้คือผลตอบแทนจากการทดสอบย้อนหลังในระยะเวลา 10 ปี ของการลงทุนใน Global ETF ทั้ง 3 แผน ซึ่งเราแนะนำให้คุณเลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ โดยในแต่ละแผนลงทุนจะมีความผันผวนที่แตกต่างกันตามสัดส่วนการลงทุนที่คุณเลือก
แต่ถ้าหากคุณต้องการลงทุนใน Global ETF ตามคำแนะนำของ ‘นักลงทุนระดับโลก’ คุณควรเลือกแผนลงทุนใด ในบทความนี้ทีมงานได้รวบรวมข้อมูลเพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจให้คุณแล้วเช่นกัน
Benjamin Graham ผู้ถูกยกย่องให้เป็น ‘บิดาแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า’ และยังเป็นอาจารย์คนแรกๆ ของนักลงทุนระดับโลกอย่าง Warren Buffett อีกด้วย Graham ได้สอนบทเรียนการลงทุนต่างๆ มากมาย และเขียนหนังสือ The Intelligent Investor เพื่อให้คำแนะนำกับทุกคนที่มีความสนใจจะลงทุน
หนึ่งในบทเรียนที่สำคัญที่สุดในหนังสือ The Intelligent Investor คือ การเลือกกลยุทธ์การลงทุนว่าคุณจะเป็น นักลงทุนเชิงรับ หรือ นักลงทุนเชิงรุก ซึ่งนักลงทุนแต่ละแบบจะมีกลยุทธ์การลงทุนที่แตกต่างกันออกไป
ในบทเรียนนี้ Graham ได้ให้ความหมายของแนวทางการเป็น นักลงทุนเชิงรุก และ นักลงทุนเชิงรับ เอาไว้ว่า นักลงทุนเชิงรุก ต้องใช้ความพยายามและความทุ่มเทสูง ซึ่งจะแตกต่างกับ นักลงทุนเชิงรับ ที่จะใช้เวลาและความทุ่มเทที่ต่ำกว่าแต่ต้องอาศัยวินัยในการลงทุนมากกว่า
Graham ได้ย้ำว่าการเป็น นักลงทุนเชิงรับ นั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ และแนะนำกลยุทธ์การลงทุนสำหรับนักลงทุนเชิงรับ ดังนี้
อย่างไรก็ตาม Jitta Wealth ได้เพิ่ม Global ETF แผนพอเพียง เพื่อให้ครอบคลุมสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำด้วย ซึ่งตรงกับความคิดเห็นของ Graham ที่กล่าวเอาไว้ว่า ‘การจัดสัดส่วนการลงทุนสำหรับนักลงทุนเชิงรับขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล’
สำหรับวินัยในการลงทุนที่ Graham พูดถึงสำหรับนักลงทุนเชิงรับคือ เมื่อใดก็ตามที่สัดส่วนของสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งทำผลตอบแทนได้สูงจนทำให้สัดส่วนการลงทุนเปลี่ยนไปจากเดิม คุณต้องมีวินัยในการปรับพอร์ตลงทุน โดยการขายสินทรัพย์ที่มีสัดส่วนสูงกว่าแผนลงทุนเดิมออกไป และนำเงินที่ได้มาลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ที่มีสัดส่วนต่ำกว่าแผนลงทุนเดิม
ยกตัวอย่างเช่น หากแผนลงทุนที่คุณเลือกมีการลงทุนในหุ้น 50% และตราสารหนี้ 50% ของมูลค่าพอร์ตลงทุน แต่สภาวะตลาดขณะนั้นทำให้สัดส่วนของหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 55% และลดสัดส่วนตราสารหนี้ลงเหลือ 45% สิ่งที่คุณควรปฏิบัติ คือ การขายหุ้นออกมาบางส่วนแล้วนำเงินไปซื้อตราสารหนี้เพิ่ม เพื่อปรับสัดส่วนการลงทุนในพอร์ตให้กลับไปที่ 50:50 เหมือนเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้วินัยและต้องจัดการกับอารมณ์ส่วนตัวของคุณด้วย
แต่สำหรับการลงทุนในนโยบาย Global ETF จะช่วยขจัดปัญหานี้ไปได้ เพราะเมื่อใดก็ตามที่สัดส่วนของหุ้นหรือตราสารหนี้ขยับจากสัดส่วนที่ควรจะเป็นเกิน 5% จากแผนลงทุนที่คุณเลือกไว้ ระบบจะปรับสัดส่วนการลงทุนให้โดยอัตโนมัติ คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใช้อารมณ์ในการตัดสินใจลงทุนอย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ทำให้การลงทุนใน Global ETF เข้ากับทฤษฎี ‘นักลงทุนเชิงรับ’ อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีค่าบริหารจัดการถูกกว่าการลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ด้วยตนเอง จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนตามที่ Benjamin Graham แนะนำ
นโยบาย Global ETF เป็นนโยบายที่เหมาะสมสำหรับทุกคนที่สนใจการลงทุน เพราะสามารถเลือกแผนตามความเสี่ยงที่คุณรับได้ โดยสามารถลงทุนได้ในทุกช่วงอายุและยังเหมาะที่จะใช้กลยุทธ์ DCA (Dollar-cost averaging) สำหรับลงทุนและช่วยให้พอร์ตเติบโตได้ในระยะยาวอีกด้วย
หากคุณสนใจจะลงทุนใน Global ETF สามารถไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติบได้ที่ https://jittawealth.com/global-etf หรือหากคุณยังมีข้อสงสัยในนโยบาย Global ETF หรือนโยบายอื่นๆ สามารถสอบถามเข้ามาได้ที่ Facebook: Jitta Wealth และ Line ID: @JittaWealth
กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็น WealthTech แห่งแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01
ผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไม่การันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงอื่นๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน
Jitta Wealth เปลี่ยน ETF ใหม่ในนโยบาย Global ETF และ Thematic
อัปเดตการลงทุนนโยบาย Thematic Optimize และ Jitta Ranking ปี 2566