ลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นดีอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง?

‘การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษานโยบายการลงทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน’ 

เป็นประโยคที่เราเห็นกันอยู่เกือบทุกที่ เมื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน

จริงๆ แล้วก่อนที่เราจะเริ่มต้นลงทุนในสินทรัพย์อะไรสักอย่าง เราต้องรู้อะไรบ้าง 

คำถามสำคัญมากๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนคือ เป้าหมายของคุณคืออะไร คาดหวังผลลัพธ์แบบไหนและมันจะนำมาซึ่งการเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับตัวเอง กับระดับความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้ 

สินทรัพย์ในการลงทุนมีหลายระดับความเสี่ยง และผลตอบแทนคาดหวังก็ต่างกันไปด้วย

แต่ส่วนใหญ่ที่คนทั่วไปอาจคุ้นเคยกันดีก็คือการลงทุนในตลาดทุน เช่นตลาดตราสารทุน จำพวกหุ้นต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง หรือตลาดตราสารหนี้ จำพวกหุ้นกู้ พันธบัตรรัฐบาล ที่ความเสี่ยงต่ำแต่ก็ยังคงเป็นการลงทุนระยะยาวที่ต้องถือไว้เกิน 1 ปีเป็นอย่างน้อยถึงจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า 

ทำให้ในบางครั้งอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนบนความเสี่ยงที่ต่ำ ในระยะเวลาที่ยืดหยุ่นมากขึ้น 

บทความนี้ เราจึงอยากจะมาแนะนำการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนดี บนระยะเวลาที่ยืดหยุ่นตรงกับความต้องการของคุณมากขึ้น นั้นก็คือ ตราสารหนี้ระยะสั้น 

ตราสารหนี้ (Bond) คืออะไร 

ก่อนจะไปทำความรู้จักตราสารหนี้ระยะสั้น ย้อนกลับมาทำความรู้จักตราสารหนี้ (Bond) กันสักนิด 

ตราสารหนี้ คือสินทรัพย์ทางการเงินประเภทหนึ่งซึ่งสามารถเปลี่ยนมือได้ นักลงทุนจะมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ และผู้ออกมีสถานะเป็นลูกหนี้ โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็น ‘ดอกเบี้ย’ ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้ในระยะเวลาที่กำหนด และจะได้รับ ‘เงินต้น’ คืนเมื่อครบกำหนดอายุ

ตัวอย่างตราสารหนี้ที่พบเห็นทั่วไป เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล ที่ออกโดยภาครัฐ และหุ้นกู้เอกชน ที่ออกโดยภาคเอกชน ซึ่งทั้ง 2 แบบก็จะมีความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือและดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน 

ตราสารหนี้ระยะสั้น vs ตราสารหนี้ระยะยาว 

ตราสารหนี้นอกจากจะแบ่งเป็นฝั่งที่ออกโดยภาครัฐ และภาคเอกชนแล้ว ยังจำแนกออกตามระยะเวลาอีกด้วย โดยจะเแบ่งเป็นระยะสั้น และระยะยาว ซึ่งนับจากอายุของตราสารหรือก็คือระยะเวลาที่จะครบกำหนดไถ่ถอนนั่นเอง

โดยตราสารหนี้ระยะสั้น จะเป็นตราสารที่มีอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 1 ปี ส่วนที่มีอายุมากกว่า 1 ปี จะนับว่าเป็นตราสารหนี้ระยะยาว 

ซึ่งตราสารหนี้ระยะยาวจะมีความผันผวนของราคามากกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น 

เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาของตราสารหนี้ ไม่ว่าจะเป็น อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ หรือดอกเบี้ย เป็นต้น ส่งผลให้ยิ่งคุณต้องถือตราสารหนี้นานเท่าไหร่ โอกาสที่จะเกิดผลกระทบทำให้ราคาผันผวนขึ้นลงก็จะมีมากกว่าการถือตราสารหนี้ในระยะเวลาสั้นๆ

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำให้ตราสารหนี้ระยะสั้น มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าระยะยาว แต่ก็แลกกับผลตอบแทนที่ต่ำกว่าตราสารหนี้ระยะยาวเช่นกัน

ตราสารหนี้ระยะสั้นน่าลงทุนแค่ไหน เหมาะกับใคร   

การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เป็นการลงทุนที่ความเสี่ยงไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ บนผลตอบแทนที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก 

เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่อยากให้เงินเติบโตได้มากกว่าบัญชีเงินฝากธรรมดา หรือนักลงทุนที่ต้องการโยกย้ายเงินลงทุนไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ แต่ยังรอจังหวะที่เหมาะสม 

การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นจึงเหมาะจะเป็นที่พักเงินก่อนย้ายไปสินทรัพย์ที่เสี่ยงมากขึ้นในอนาคตก็ได้ หรือใครที่ลงทุนต่างประเทศอยู่และต้องการปรับเปลี่ยนการลงทุน ให้ตราสารหนี้ระยะสั้นต่างประเทศเป็นที่พักเงินก่อนก็ได้ ถือเป็นการลงทุนที่ยืดหยุ่นสูง ไม่จำเป็นต้องถือสินทรัพย์เป็นระยะเวลาหลายๆ ปีเพื่อผลตอบแทนที่คุ้มค่า 

ลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นอย่างไรได้บ้าง

ปัจจุบันการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นมีช่องทางที่หลากหลายมากขึ้น โดยมีกองทุนตลาดเงิน (Money Market Fund) รองรับ มีทั้งที่เป็นการลงทุนในประเทศอย่างเดียว ต่างประเทศอย่างเดียว หรือรวมกันทั้งในและต่างประเทศ 

ซึ่งแต่ละกองจะมีนโยบายการบริหาร หรือสินทรัพย์ที่เข้าไปลงทุนแตกต่างกัน โดยปัจจุบัน JItta Wealth เองก็มีกองทุนตลาดเงิน (Money Market Fund) ซึ่งลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เช่นกัน ในนโยบายที่ชื่อว่า Jitta Money

โดย Jitta Money จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น ผ่าน ETF ซึ่งนอกจากตัว ETF จะกระจายความเสี่ยงในตัวอยู่แล้ว Jitta Money ยังกระจายความเสี่ยงให้คุณเพิ่มอีกด้วยการลงทุน  ETF 2 ตัวในสัดส่วน 50/50 

พร้อมคอยปรับพอร์ต บาลานซ์สัดส่วนใหญ่อัตโตมัติ หากมีตัวใดตัวหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปเกิน 5% 

โดย ETF พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เราคัดเลือกมาให้จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ 

1. เป็น ETF ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น (ต่ำกว่า 1 ปี)​ เพื่อให้มีความผันผวนต่ำ
2. มีการบริหารแบบเชิงรับ (Passive Investing) เพราะจะมีค่าธรรมเนียมการบริการกองทุนที่ต่ำ ให้คุณได้กำไรแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ค่าธรรมเนียมไม่มารบกวน
3. มีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการ (AUM) สูงกว่า 10,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนถึงความมั่นคงของกองทุน
4. ต้องเป็นกองทุนที่มีอายุอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป เพื่อแสดงถึงความน่าเชื่อถือ

ทำไมต้องเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น 

พันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น จะมีความเสี่ยงด้านความผันผวนของราคาที่ต่ำกว่า พันธบัตรรัฐบาลระยะยาว 

อีกทั้ง Jitta Money เลือกลงทุนใน ETF กองทุนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น ซึ่งออกและรับรองโดยรัฐบาลสหรัฐฯ จึงมีโอกาสต่ำมากในการผิดนัดชำระหนี้ ช่วยปกป้องความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 

ให้คุณได้ลงทุนแบบเย็นใจ ในนโยบายที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดของ Jitta Wealth บนผลตอบแทนล่าสุด 5.16% ต่อปี เหมาะจะเป็นพอร์ตเริ่มต้น หรือพอร์ตพักเงินพักใจ รอลงทุนต่อในตลาดใหม่ที่คุณต้องการ

ดูวิดีโอแนะนำ Jitta Money ลงทุนต่างประเทศสายเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนฉ่ำว้าวกว่าเงินฝาก! ที่นี่

หรือ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและลงทุนใน Jitta Money

ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน