สถิติ 90 ปี เผยความลับตลาดหุ้น

1 มีนาคม 2567Jitta Wealth

ย้อนกลับไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้เริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ตลาดหุ้นเผชิญกับความผันผวน ดัชนีปรับตัวลดลง เริ่มจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก่อนจะกระจายไปยังตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ

จนกระทั่งในปี 2566 แม้สถานการณ์เงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยังทรงๆ แต่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ตลาดหุ้นก็เริ่มปรับตัวขึ้นมา จนปิดบวกไปได้ในที่สุด โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ดัชนี S&P 500 ปรับบวกถึง +24.73% จนหลายคนต่างพากัน ‘เสียดาย’

แต่ในปีนี้! ไม่ต้องกลัวว่าคุณจะพลาดโอกาส ถ้าคุณอ่านบทความนี้…

ความลับที่ต้องใช้เวลารวบรวมข้อมูลถึง 90 ปี ความลับที่จะบอกคุณว่าถึงเวลา ‘คว้าโอกาสลงทุน’ ก่อนที่ตลาดจะพุ่งกระฉูดแบบในปีที่ผ่านมา 

มีโอกาสสูงที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในปีนี้!

สถิติของ CME Fed Watch Tool บอกว่ามีโอกาสเกิน 50% ที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้

หลังจาก Fed ลดดอกเบี้ย ก็มีโอกาสสูงที่เงินกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ไหลเข้าตลาดเงิน พวกพันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา จะไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้น 

เพราะเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งจากสถิติต่อไปนี้…

สถิติกว่า 90 ปี พบการปรับบวกของตลาดหุ้นหลังลดดอกเบี้ย

ข้อมูลสำคัญจาก Schroder Investment Management ที่เก็บรวบรวมมาตั้งแต่ปี 2471 จนถึงช่วงปี 2562 พบว่า เมื่อ Fed เริ่มลดดอกเบี้ย…หลังจากนั้น 12 เดือน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปรับตัวขึ้นมากกว่าปรับลด โดยเฉลี่ยทำกำไร +11% 

และเคยปรับขึ้นไปถึง +82%

ทำให้คนที่เพิ่มทุนก่อน Fed ปรับลดดอกเบี้ย ได้คว้าโอกาสเพิ่มกำไรให้พอร์ต

ซึ่งแม้เราจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าถ้า Fed ปรับลดดอกเบี้ยจริงๆ ในเดือนมิถุนายนนี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้น แต่สถิติก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามีโอกาสสูงที่ตลาดหุ้นจะพุ่ง ส่วนจะพุ่งไปมากน้อยแค่ไหน ต้องรอดูกันต่อไป

ผลลัพธ์ที่เกิดกับตลาดหุ้นทั่วโลก

เห็นได้ชัดว่าการลดดอกเบี้ยของ Fed ส่งผลดีกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ…แต่ที่สำคัญคือ การลดดอกเบี้ยของ Fed ยังเป็นผลดีกับตลาดหุ้นอื่นๆ อีกด้วย

จากข้อมูลของสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนทางเลือก (The Chartered Alternative Investment Analyst (CAIA)) มีการทำวิจัยเกี่ยวกับค่าความสัมพันธ์ระหว่างตลาดหุ้นแต่ละประเทศ 

ด้วยชุดข้อมูลตั้งแต่ช่วงปี 2533 จนถึง 2564 พบว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ตลาดหุ้นยุโรป และตลาดหุ้นเอเชียอื่นๆ มีค่าความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ 

ซึ่งค่าความสัมพันธ์ (correlation) นั้นหากตัวเลขยิ่งเข้าใกล้ 1 มากเท่าไหร่แสดงว่ามีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันมากเท่านั้น ซึ่งตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีค่าอยู่ที่ 0.03 ตลาดหุ้นยุโรปมีค่าอยู่ที่ 0.45 และตลาดหุ้นเอเชียอื่นๆ มีค่าอยู่ที่ 0.27

แสดงว่าถ้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับไปในทางบวก ก็มีโอกาสที่ตลาดหุ้นอื่นๆ จะบวกด้วย

เท่ากับว่า…ไม่ว่าจะเป็นนโยบายใดของ Jitta Wealth ก็สามารถลุ้นเติบโตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ทั้งสิ้น

คุณจะไม่พลาดโอกาสนี้ ถ้าคุณเพิ่มทุนตอนนี้ แถมยังช่วยเสริมโมเมนตัม ให้พอร์ตพุ่งได้แรงขึ้นอีกด้วย

เพิ่มทุนก่อน Fed ลดดอกเบี้ยได้ที่นี่

หากคุณมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Jitta Wealth สามารถติดต่อสอบถามในกลุ่ม Jitta Wealth Official หรือทาง Line ID: @JittaWealth ได้ในวันและเวลาทำการ


กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็น WealthTech แห่งแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01 ผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไม่การันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงอื่นๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด