เปิดสูตรสำเร็จ Thematic Optimize ชนะเงินเฟ้อด้วย AI

ในปี 2566 ที่ผ่านมาเงินเฟ้อเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ สร้างความกังวลให้กับเหล่านักลงทุนทั่วโลก โดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ยังสร้างผลกระทบอย่างต่อเนื่อง นโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายประเทศ 

แต่ ‘เงินเฟ้อ’ ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่เสมอตามกลไกที่หมุนไปของเศรษฐกิจ 

เหมือนที่พ่อแม่ของเราเคยเล่าให้ฟังถึงการดำเนินชีวิตในแต่ละวันได้ด้วยเงินไม่กี่บาท เทียบเคียงกับการดำเนินชีวิตด้วยเงินหลักหลายร้อยในปัจจุบัน 

ทำให้ ‘เงินเฟ้อ’ เป็นสิ่งที่อยู่กับชีวิตเรามาตลอดและตลอดไป และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นแรกๆ ของนักลงทุนหลายคน ด้วยเป้าหมายที่ว่า ‘อยากเอาชนะเงินเฟ้อให้ได้!’ 

การลงทุนเป็นทางเลือกที่ถูกทาง ที่ถูกพิสูจน์มานักต่อนักแล้วว่า ถ้าเราลงทุนในสินทรัพย์ที่ถูกต้อง มีโอกาสเติบโตสูง เงินของเราก็จะทำงานได้อย่างดี แล้วสินทรัพย์ที่ว่านั้นคืออะไร มีวิธีลงทุนชนะเงินเฟ้อที่เป็น ‘สูตรสำเร็จ’ พร้อมลงทุนอยู่หรือไม่ 

ในบทความนี้ Jitta Wealth จะพาคุณไปผ่าไส้ใน Thematic Optimize คือหนึ่งในสูตรสำเร็จชนะเงินเฟ้อได้แบบง่ายๆ ของ Jitta Wealth 

ที่พิสูจน์แล้ว! ว่าฝ่าวิกฤติเงินเฟ้อ และทำผลตอบแทน +15% ในปี 2566 ที่ผ่านมา 

AI ทำงานอย่างไรจนชนะเงินเฟ้อมาได้ 

AI คัดเลือก 4 ธีมท็อป เติบโตดีในราคาที่เหมาะสม 

AI ของ Thematic Optimize จะคำนวณผลประกอบการของหุ้นในแต่ละธีม ราคาที่เหมาะสมนของ ETF ธีมนั้นๆ รวมไปถึงความผันผวนและแนวโน้มการเติบโตในธีมนั้นๆ เพื่อจัดอันดับธีมการลงทุนที่ดีที่สุด 

เงินเฟ้อแค่ไหน นักลงทุนในตลาดจะเทขายหุ้นเมกะเทรนด์เหล่านี้เพราะอารมณ์ตลาดอย่างไร AI ก็จัดอันดับอย่างมีหลักการ ไร้อคติ ซื้อ ETF ธีมเมกะเทรนด์เข้ามาในพอร์ตให้คุณรอการเติบโตได้ 

กระจายความเสี่ยงให้พอร์ตด้วยอัตราส่วน 25% เท่าๆ กัน

หลังจาก AI จัดอันดับธีมที่ดีที่สุดในขณะนั้น ก็จะคัดเลือก 4 ธีมท็อปเพื่อลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงในสัดส่วนธีมละ 25% ทำให้การลงทุนของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่เสี่ยงเกินไป 

ยกตัวอย่างเช่น คุณเริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 10,000 บาท จะแบ่งเงินลงทุนออกเป็น 4 กอง กองละ 2,500 บาท และแบ่งไปลงทุนให้ 4 ธีมที่ AI คัดสรรมาให้แล้ว 

เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้พอร์ตเผชิญความเสี่ยงของธีมใดธีมหนึ่งมากเกินไป เพราะไม่มีใครคาดเดาอนาคตได้ การกระจายความเสี่ยงจึงถือเป็นเรื่องสำคัญของการลงทุน 

ปรับพอร์ตทุกๆ 3 เดือน เพื่อรีบาลานซ์สัดส่วนของธีมและให้คุณได้ลงทุนในธีมที่ดีที่สุดอยู่เสมอ 

หลังจากที่คัดเลือกและลงทุนใน 4 ธีมท็อปเรียบร้อยแล้ว AI ก็ไม่หยุดทำงาน ยังคงวิเคราะห์ อ่านข้อมูลและรีวิวธีมต่างๆ พร้อมปรับพอร์ตให้คุณทุกๆ 3 เดือน หากมีธีมการลงทุนไหนมีโอกาสเติบโตมากกว่าธีมที่คุณมีอยู่ 

เพื่อให้พอร์ตของคุณได้ลองทุนในธีมที่ดีที่สุดอยู่เสมอ

และนี่คือเหตุผลและบทพิสูจน์ที่ทำให้ Thematic Optimize สามารถทำผลตอบแทนได้ดี +15%  ในปีที่เงินเฟ้อสูงในปีที่ผ่านมา ด้วยพลังของ AI และเทคโนโลยี ที่คัดสรรและปรับพอร์ตให้กับคุณอย่างดีเยี่ยม 

ในช่วงที่ปัญหาเงินเฟ้อรุมเร้า ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นเมกะเทรนด์เติบโตสูงด้วยความกังวล AI ของ Thematic Optimize ยังคงมองเห็นโอกาส ที่จะช่วยคุณสร้างผลตอบแทน ‘ชนะเงินเฟ้อ’

และด้วย ‘สูตรสำเร็จ’ ที่เราเล่าไป Thematic Optimize ได้พิสูจน์แล้วว่า ช่วยคุณพิชิตเป้าหมายการลงทุนของคุณได้

อยากรีบเอาชนะเงินเฟ้อ ก็ตัดสินใจให้ AI ของ Thematic Optimize ช่วยคุณลงทุนได้เลย 

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Thematic Optimize 

เริ่มต้นลงทุน Thematic Optimize ได้ที่นี่

หากคุณมีข้อสงสัยหรือคำถามเกี่ยวกับการอัปเดตอัลกอริทึมและการบริหารจัดการพอร์ต Jitta Wealth สามารถติดต่อสอบถามในกลุ่ม Jitta Wealth Official หรือทาง Line ID: @JittaWealth ได้ในวันและเวลาทำการ

ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็น WealthTech แห่งแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01 ผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไม่การันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงอื่นๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน