หากให้คุณลองลิสต์สิ่งของหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของคุณ คุณนึกถึงอะไรบ้าง
แน่นอนว่า รถยนต์ สมาร์ตโฟน แล็ปท็อป คอมพิวเตอร์ ต้องเป็นคำตอบของใครหลายๆ คน
แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า อะไรที่ทำให้อุปกรณ์เหล่านี้ทำงาน สร้างความสะดวกสบายให้กับชีวิตคุณมากขึ้น คำตอบคือ เซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor)
เซมิคอนดักเตอร์ คือ สารกึ่งตัวนำ มีคุณสมบัติในการนำไฟฟ้าและเป็นฉนวนในเวลาเดียวกันได้ ทำให้เหมาะสมที่จำนำไปใช้เป็นส่วนประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นชิปหรือแผงวงจร เป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ นั่นเอง
ยิ่งในช่วง 2-3 ปีมานี้ พร้อมกับโรคระบาด Covid-19 เป็นตัวเร่งให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นที่ต้องการสูงขึ้นทั่วโลก เพราะผู้คนอยู่บ้านมากขึ้น ทำงานจากที่บ้านและเรียนออนไลน์ รวมไปถึงการเปิดรับสิ่งบันเทิงต่างๆ เช่น ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกม
นอกจากนี้เทคโนโลยีเติบโตอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นการผลิตสมาร์ตโฟน การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (EV) แม้กระทั่งกระแสโลกเสมือนจริงหรือเมตาเวิร์ส ลามไปจนถึงเงินดิจิทัลอย่างคริปโทเคอร์เรนซี ผลักดันให้เกิดวิกฤตชิปขาดแคลนทั่วโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเซมิคอนดักเตอร์
เมื่อก่อนคุณสามารถเดินไปซื้อสมาร์ตโฟนได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้คุณอาจจะต้องรอนานกว่าเดิม เพราะบริษัทผลิตไม่ทันกับความต้องการ หรืออย่าง EV ค่ายดังๆ อย่าง Tesla ก็มีปัญหาไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ได้ตามกำหนดอยู่เรื่อยๆ
ดังนั้นวิกฤตชิปขาดแคลนกระทบกับสายการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกมากแค่ไหน
อ่านมาถึงตรงนี้ คุณคงเริ่มสนใจลงทุนใน ‘หุ้นเซมิคอนดักเตอร์’ ขึ้นมาแล้ว เพราะมันคือ อนาคตของอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทุกคนทั่วโลกต้องใช้ในการดำเนินชีวิต แล้วโอกาสในการลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ อยู่ที่ไหน Jitta Wealth หาคำตอบมาให้คุณแล้ว
“Covid-19 เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง และชีวิตคนทั่วโลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป” เป็นคำพูดที่คุณจะได้ยินผ่านสื่ออยู่เสมอ และเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณต้องมองหาโอกาสใหม่ๆ จากการเปลี่ยนแปลงจากโรคระบาดตัวฉกาจนี้
โลกเดินทางเข้าสู่ยุคดิจิทัล สินค้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นที่ต้องการมากขึ้น และไม่มีทีท่าจะลดลงได้เลย กระบวนการผลิตของเซมิคอนดักเตอร์ และมีชิปเป็นชิ้นส่วนสำคัญ จะถูกนำไปประกอบในคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เครื่องมือทางการแพทย์ และ EV
นี่คือ ปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ที่สะท้อนว่า คุณควรลงทุนใน ‘หุ้นเซมิคอนดักเตอร์’ สามารถสรุปออกมาได้ดังนี้
เห็นได้ชัดว่า เซมิคอนดักเตอร์ คือ ธีมเมกะเทรนด์แห่งอนาคตที่น่าจับตามอง นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ Jitta Wealth มองหา Thematic ETF ‘หุ้นเซมิคอนดักเตอร์’ มาให้คุณเลือกจัดไปพอร์ต
Thematic ETF ‘หุ้นเซมิคอนดักเตอร์’ ที่ Jitta Wealth เลือกมาคือ VanEck Semiconductor ETF (SMH) ลงทุนตามดัชนี MVIS US Listed Semiconductor 25 Index ซึ่งเป็นดัชนีที่ติดตามความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปเกิน 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป จำนวน 25 บริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มียอดขายที่มาจากธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์เกิน 50%
แต่ SMH ไม่ได้ลงทุนเฉพาะบริษัทสัญชาติอเมริกันเท่านั้น แม้จะมีสัดส่วนเกือบ 80% โดยมีบริษัทสัญชาติอื่นๆ ได้แก่ ไต้หวัน เนเธอร์แลนด์ และสวิสเซอร์แลนด์
Jitta Wealth เลือก SMH มาเป็น Thematic ETF ตัวแทนธีมเซมิคอนดักเตอร์ ทีมงานมีเกณฑ์การคัดเลือก ดังนี้
อ่านมาถึงตรงนี้ หากคุณสนใจลงทุน ‘หุ้นเซมิคอนดักเตอร์’ และต้องการทำความรู้จักบริษัทกลุ่มนี้มากขึ้น มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ทีมงาน Jitta Wealth ผ่าไส้ในของ SMH แล้วพบว่า ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทั้งหมด และนี่คือ รายละเอียด 5 บริษัทของ SMH ที่มีสัดส่วนประมาณ 40% ของ SMH มาดูกันว่า บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้มีจุดเด่นอะไรบ้าง และผลประกอบการในช่วงที่ชิปขาดแคลนทั่วโลกเติบโตแค่ไหน
หลายคนอาจจะมองว่า บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกคงมีหนีไม่พ้นบริษัทสัญชาติอเมริกัน แต่คุณคิดผิด เพราะ Taiwan Semiconductor Manufacturing หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า TSMC บริษัทเซมิคอนดักเตอร์นี้ต่างหากที่เป็นผู้ผลิตชิปให้กับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์กว่าครึ่งโลก
TSMC เป็นบริษัทผลิตชิปให้แก่สมาร์ตโฟนรายใหญ่ของโลก ทั้งชิป A-series ของ Apple และชิป Snapdragon ของระบบปฎิบัติการ Android นอกจากนี้ TSMC มีส่วนแบ่งทางการตลาดชิปเซตมากถึง 55% ของโลก เรียกได้ว่า ชิปเกินครึ่งโลก ถูกผลิตโดยบริษัทแห่งนี้
โมเดลธุรกิจของ TSMC คือการรับจ้างผลิตชิปเซตให้กับบริษัทอื่นๆ โดยไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำไมคุณอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของบริษัทนี้ เหตุผลที่หลายๆ บริษัทเข้ามาเป็นลูกค้าของ TSMC คือ บริษัทมีเทคโนโลยีในการผลิตที่ซับซ้อน มีความสามารถรองรับความต้องการทุกรูปแบบของลูกค้า ลูกค้ารายใหญ่ของ TSMC ได้แก่ Apple Nvidia และ Qualcomm
งบการเงิน | รายได้รวม | % เปลี่ยนแปลง | กำไรสุทธิ | % เปลี่ยนแปลง |
2564 | 57,272 | +20.16% | 21,522 | +16.77% |
2563 | 47,665 | +33.25% | 18,432 | +59.69% |
2562 | 35,770 | +6.05% | 11,542 | +0.52% |
ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก เป็นผู้คิดค้นชิปประมวลผลชื่อดังสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งขึ้นโดย Jensen Huang ชาวไต้หวัน เป็นบริษัทที่สามารถเข้าตลาดหุ้นได้ภายใน 6 ปีหลังเปิดกิจการ สินค้าชื่อดังของ Nvidia คือ หน่วยประมวลผลทางด้านกราฟิก (GPUs) สำหรับคอมพิวเตอร์
จากเดิมที่ Nvidia มีชื่อเสียงจากการผลิตการ์ดจอที่สามารถตอบสนองการประมวลภาพของเกมได้อย่างดีเยี่ยม ยังพัฒนาเติบโตโดยการใช้เทคโนโลยีอื่นๆ เช่น ธุรกิจคลาวด์ ไปจนถึงระบบรถยนต์ไร้คนขับ เรียกได้ว่า Nvidia เองไม่ได้เป็นแค่บริษัทที่ผลิตชิปเซตธรรมดาอีกต่อไป
งบการเงิน | รายได้รวม | % เปลี่ยนแปลง | กำไรสุทธิ | % เปลี่ยนแปลง |
2565 | 26,914 | +61.40% | 9,752 | +125.12% |
2564 | 16,675 | +52.73% | 4,332 | +54.94% |
2563 | 10,918 | -6.81% | 2,796 | -32.48% |
Advanced Micro Devices หรือ AMD บริษัทผลิตชิปที่มีชื่อเสียง สินค้าชื่อดัง คือ AMD Radeon HD 7970 GHz Edition กราฟิกการ์ดที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก
AMD ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2512 จากอดีตพนักงานของ Fairchild Semiconductor เช่นเดียวกับ Intel แต่เริ่มต้นธุรกิจจากการผลิตแผงวงจรไฟฟ้า และเริ่มเข้าสู่ผู้ผลิต CPU (Central Processing Unit) ในภายหลัง และกลายเป็นคู่แข่งของ Intel ในที่สุด
AMD ประกาศในงาน Accelerated Data Center Premiere ว่า จะร่วมมือกับ Meta Platforms ในการผลิตชิป EPYC รุ่นที่ 3 เป็นการร่วมมือเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ AMD อย่างมาก
งบการเงิน | รายได้รวม | % เปลี่ยนแปลง | กำไรสุทธิ | % เปลี่ยนแปลง |
2564 | 16,434 | +68.33% | 3,162 | +26.99% |
2563 | 9,763 | +45.05% | 2,490 | +630.21% |
2562 | 6,731 | +3.95% | 341 | +1.19% |
ผู้พัฒนาและผลิตซอฟต์แวร์และเซมิคอนดักเตอร์สัญชาติอเมริกัน ผลิตสินค้าและอุปกรณ์ IT มากกว่า จนมีคำกล่าวว่า อุปกรณ์อย่างน้อย 1 ชิ้นในบ้านของคุณต้องมีเทคโนโลยีของ Broadcom
Broadcom เป็นบริษัทที่สร้างฮาร์ดไดรฟ์ชิปสำหรับบลูทูธ และ GPS รวมไปถึงสวิตช์ และสะพานที่รองรับเทคโนโลยีต่างๆ เช่น PCI Express และ Ethernet หรือแม้ในสมาร์ตโฟน Samsung Galaxy S10 ก็มาพร้อมกับชิ้นส่วนของ Broadcom ภายใน รวมไปถึงแล็ปท็อปต่างๆ จาก Asus Dell และ Lenovo ด้วยเช่นกัน
เรียกได้ว่า Broadcom มีสินค้าที่หลายหลายและครบวงจรตั้งแต่ศูนย์รวมข้อมูล พื้นที่จัดเก็บข้อมูล เครือข่าย ซอฟต์แวร์ ไปจนถึงบรอดแบนด์ไร้สาย ซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร การตรวจสอบระบบความปลอดภัย ส่วนประกอบของสมาร์ตโฟน โทรคมนาคม และระบบอัตโนมัติต่างๆ ในโรงงาน
งบการเงิน | รายได้รวม | % เปลี่ยนแปลง | กำไรสุทธิ | % เปลี่ยนแปลง |
2564 | 27,450 | +14.91% | 6,736 | +127.57% |
2563 | 23,888 | +5.71% | 2,960 | +8.66% |
2562 | 22,597 | +8.39% | 2,724 | -77.78% |
ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ สัญชาติอเมริกัน ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2528 เป็นบริษัทที่สร้างชิปประมวลผลบนสมาร์ตโฟนที่ขึ้นชื่อเรื่องความแรงอย่าง Snapdragon
เมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา Qualcomm รายงานผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2564 ทำกำไรไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นถึง +104% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า โดยปัจจัยสำคัญคือ ยอดขายชิปที่เพิ่มขึ้นถึง +56% จากความต้องการชิปทั่วโลก รวมไปถึงธุรกิจสมาร์ตโฟนที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทมหาศาล
Qualcomm คาดการณ์ว่า บริษัทจะมีรายได้ในงบประมาณปี 2565 อยู่ที่ 10,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจชิปของสมาร์ตโฟน และชิปพลังงานต่ำเพิ่มขึ้น
งบการเงิน | รายได้รวม | % เปลี่ยนแปลง | กำไรสุทธิ | % เปลี่ยนแปลง |
2564 | 33,566 | +42.65% | 9,043 | +73.97% |
2563 | 23,531 | -3.06% | 5,198 | +18.51% |
2562 | 24,273 | +7.35% | 4,386 | +188.36% |
นี่คือ 5 ‘หุ้นเซมิคอนดักเตอร์’ ของ SMH แต่ยังมีอีก 20 บริษัทที่เรายังไม่ได้พูดถึงไม่ว่าจะเป็นบริษัท Micron บริษัท Intel บริษัท Texas Instruments บริษัท ASML และบริษัท Analog Devices
เซมิคอนดักเตอร์ถือเป็นหัวใจของเทคโนโลยี เป็นสมองของอุปกรณ์หลายอย่างที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของคุณ และในอนาคตก็จะมีอุปกรณ์ใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น จะเห็นได้ว่า ความต้องการของเซมิคอนดักเตอร์ไม่มีทางที่จะลดลงไปได้เลย
หากคุณไม่อยากตกเทรนด์ การลงทุนใน ‘หุ้นเซมิคอนดักเตอร์’ ผ่าน SHM ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีและน่าสนใจ คุณก็สามารถลงทุนผ่าน Jitta Wealth ได้กับกองทุนส่วนบุคคล Thematic ที่มีให้คุณเลือก 2 แผนด้วยกัน
สำหรับแผน Thematic DIY เปิดโอกาสให้คุณเลือกธีมที่คุณสนใจได้เอง จัดพอร์ตสูงสุด 5 ธีม โดยเป็นการลงทุนใน Passive ETF ทั้งหมด ตอนนี้ Jitta Wealth มีให้คุณเลือกมากขึ้น 23 ธีม และเราจะเพิ่ม Thematic ETF ใหม่ๆ ในอนาคต มาเพิ่มทางเลือกให้คุณมากขึ้น
หากคุณไม่อยากเลือกธีมจัดพอร์ตเอง ไม่รู้ว่าจะเลือกธีมอะไร Thematic Optimize วางใจให้ AI เลือกให้ โดย AI จะวิเคราะห์ธีมที่น่าลงทุนที่สุด และจัดพอร์ต 4 ธีม พร้อมปรับพอร์ตให้คุณทุกไตรมาส
ข่าวดี คือ Jitta Wealth ประกาศลดเงินลงทุนเริ่มต้น เมื่อลงทุนในแผน Thematic DIY หรือ Thematic Optimize อยู่ที่ 50,000 บาท เป็นการเพิ่มโอกาส ให้คุณเป็นเจ้าของกองทุนส่วนบุคคลและวางแผนสะสมความมั่งคั่งได้ง่ายขึ้น
คุณสามารถอ่านข้อมูล ‘หุ้นเซมิคอนดักเตอร์’ เพิ่มเติม ได้ที่ https://jittawealth.com/thematic/SEMICONDUCTORS รวมไปถึงวิธีการลงทุนแบบ Thematic Investment และธีมเมกะเทรนด์ที่น่าสนใจของ Jitta Wealth ได้ที่ https://blog.jittawealth.com/ หรือสอบถามเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนได้ทาง Line ID: @JittaWealth
กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็น WealthTech แห่งแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01
ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน