การลงทุนเพื่ออนาคต หลายครั้งที่ต้องใช้เวลาและความอดทนเป็นเครื่องพิสูจน์ การลงทุนในเทรนด์แห่งโลกอนาคตอย่าง Thematic Optimize ก็เช่นกัน แต่หากคุณรู้เป้าหมายของตัวเองและเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง วันนึงต้องไปถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับพอร์ต Thematic Optimize ของคุณนัฐทิพล สุริยะโยธิน วิศวะกรหนุ่มผู้ตกผลึกกับการวางแผนในทุกๆ จังหวะชีวิตที่ต้องการจะเดินไปถึงเป้าหมายนั้น ด้วยผลตอบแทนการลงทุน (MWR) +34.13% (15 ธ.ค. 2565 – 8 ก.พ. 2567)
หลังจากเรียนจบไม่นานคุณนัฐทิพล กลับไปทำงานที่บ้านเกิดในจังหวัดภูเก็ต ในองค์กรระดับประเทศอย่างบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ด้วยความสนใจในเรื่องของการเงินการลงทุนมาตั้งแต่ยังศึกษาอยู่ และมองเรื่องการวางแผนเพื่อวัยเกษียณ ทั้งเรื่องสุขภาพร่างกายด้วยการออกกำลังกายและดูแลอาหารการกินไปพร้อมๆ กับการดูแลสุขภาพทางการเงินและการลงทุน เขาตกผลึกกับตัวเองแล้วว่า ในแต่ละช่วงชีวิตจะต้องเตรียมอะไรไว้บ้าง ทั้งเรื่องการเงิน การงาน สุขภาพ ชีวิตคู่ เพื่อที่จะได้รู้ว่าจะทุ่มเทให้กับอะไรบ้าง ไม่มากไม่น้อยเกินไป
และด้วยเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจนว่าต้องการลงทุนระยะยาว ซึ่งไม่ใช่แค่ 5-10 ปีแต่มันมากกว่านั้น เพราะเขามองตัวเองว่าการดูแลสุขภาพออกกำลังกายเสมอจะทำให้เขาอายุยืนยาวไปมากกว่า 80 ปี ซึ่งแม้จะถึงวัยนั้น เขาก็ยังคงที่จะเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง เพราะเขาเชื่อว่าการลงทุนเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิต เป็นสิ่งที่เราต้องทำ เช่นเดียวกับการกินข้าว หรือออกกำลังกาย
จากความสนใจเรื่องการเงินผ่านการอ่านหนังสือและในโลกออนไลน์ เขาได้ไปเจอคลิปคุณตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ซีอีโอ Jitta ที่พูดถึงการลงทุนให้กับน้องไอวี่ ลูกสาว และสนใจในหลักการของ Jitta Wealth มาตลอดตั้งแต่ยังไม่เริ่มลงทุนเพราะในช่วงแรกเม็ดเงินลงทุนเริ่มต้นอยู่ที่หลักล้านบาท ด้วยความที่เพิ่งจบ เม็ดเงินลงทุนยังไม่มากนัก ในช่วงนั้น “ขั้นต่ำในการลงทุน” มีผลต่อการลงทุนของคุณนัฐทิพล ค่อนข้างมาก แต่ทันทีที่ Jitta Wealth ลดขั้นต่ำเงินลงทุน Thematic Optimize ลงมาอยู่ที่ 10,000 บาท เขาจึงไม่รอช้าที่จะเปิดบัญชี และเดินหน้า DCA ต่อเนื่องทุกเดือน
“DCA เป็นวิธีที่ครอบจักรวาลที่สุดแล้ว ไม่ว่าใครจะมองว่าลงทุนแบบเทคนิค หรือลงทุนตอนตลาดลงแรงจะสร้างผลตอบแทนสูงกว่า แต่สำหรับผม DCA คือหนทางสายกลาง คือเส้นทางที่มุ่งตรงไปสู่เป้าหมายตัดปัจจัยเรื่องอารมณ์เรื่องความคิดออกไปได้”
ด้วยวัยที่ยังน้อย เขาลงทุนมาหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นไทย คริปโตฯ หรือ Forex ซึ่งทุกรูปแบบไม่ตอบโจทย์เท่า Jitta Wealth ไม่ใช่แค่เรื่องผลตอบแทน แต่เป็นเรื่องรูปแบบการลงทุนที่จะต้องใช้เวลาในการลงทุนค่อนข้างมาก แต่ Jitta Wealth ใช้ AI ในการบริหารพอร์ต ลดปัญหาในการใช้อารมณ์ในการลงทุน
นอกจาก Thematic Optimize แล้ว ปีที่ผ่านมา เขาเพิ่งมาเปิด Global ETF เพิ่มอีกกอง เพราะต้องการบริหารความเสี่ยง หลังจากที่มีประสบการณ์การลงทุนจากคริปโตฯ ที่ขาดทุนหนัก จึงต้องการที่จะมีพอร์ตที่กระจายความเสี่ยงไว้ “กันเหนียว” หรือให้ตัวเองสบายใจบ้าง
“จริงๆ อยากจะ All in ใน Thematic ยาวๆ แต่ก็อยากกันเหนียวสักพอร์ตให้สบายใจ เพราะผมก็มนุษย์คนนึง เราไม่ได้เก่งขนาดที่จะทนได้ยามตลาดลงจะไม่รู้สึกอะไรเลยคงไม่ใช่ เหมือนเราออกกำลังกาย และกินดีแค่ไหน ก็ต้องมีมีสีสันกินพิซซ่าบ้าง ไอติมบ้าง ลงทุนในคริปโตฯก็เป็นสินทรัพย์นึงที่ลงหนักมาก แต่เราก็ต้องลงทุนเพราะเชื่อว่าอนาคตต้องมาแน่ๆ แต่อย่างน้อยวันนี้เรามีพอร์ตนึงให้มันรู้สึกอุ่นใจ พยุงใจเราไว้บ้าง”
และหากถามว่าพอร์ตลูกรักสำหรับคุณ นัฐทิพล เขาก็ยังยกให้ Thematic Optimize เป็นที่ 1 ในช่วงอายุนี้ เพราะเป็นการลงทุนในเมกะเทรนด์ที่อาจจะเสี่ยงบ้างแต่เขายังมีเวลาอีกมากที่จะค่อยๆ เก็บที่ละเล็กละน้อยไปเรื่อยๆ แล้วภูมิใจไปกับเมื่อพอร์ตไปถึงหลักล้าน และด้วยวัยเพียง 29 ปี เขาสามารถรับความเสี่ยงเพื่อโอกาสที่มากกว่าในอนาคต ขณะที่ Global ETF เขาเปรียบเทียบว่า เป็นพอร์ตที่ต้องมีอยู่แล้วเหมือนยาสามัญประจำบ้านนั่นเอง
แม้จะมีพอร์ตกับ Jitta Wealth มา 2 พอร์ตแล้ว แต่เขาตั้งใจว่าสักวันหนึ่งเมื่อพร้อมเขาจะเปิดพอร์ต Jitta Ranking หุ้นสหรัฐ เพราะมีหลักการลงทุนส่วนตัวว่าต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดของสินทรัพย์นั้นๆ โดยไม่สนใจว่าในช่วงที่ลงทุนราคาของสินทรัพย์นั้นจะถูกหรือแพง เพราะเชื่อในหลักการของ Jitta Wealth ที่ออกแบบมาได้ตอบโจทย์อยู่แล้ว เขาเพียงแค่เดินหน้า DCA ไปเรื่อยๆ เพราะเชื่อว่าแม้จะเข้าลงทุนในจุดที่ราคาสูงที่สุด แต่ในอนาคตสินทรัพย์ที่ดีก็ต้องปรับตัวขึ้นไปอยู่แล้ว
“ทุกอย่างพิสูจน์มาแล้วว่าเราทำแค่ DCA ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องสนใจพื้นฐานอะไรมาก เพราะ AI เลือกมาแล้ว บางคนซีเรียสว่าต้องเลือกหุ้นเอง ต้องดีที่สุด หรือรอให้หุ้นมันตกไปเท่าไร ผมว่าชีวิตเรามีอะไรให้ทำมากกว่านี้ เรามีพาร์ทอื่นในชีวิตที่กินเวลาเราอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าสุดท้าย เราอาจไม่ได้ขึ้นม้า แต่ก็ขึ้นรถไฟฟ้าเหมือนคนอื่นนี่แหละ แม้จะไม่ใช่ขบวนที่ 1 ก็ไม่เป็นไรก็ไปถึงเหมือนกัน”
ทุกพอร์ตที่เขาลงทุน เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตทั้งหมด และไม่คิดที่จะถอนออกมาใช้ในวัตถุประสงค์ใดๆ ส่วนแผนการใช้เงินในชีวิตอื่นๆ เขาเลือกจะเก็บเงินก้อนใหม่มาลงทุนแทน
“ถ้า DCA ไปแล้ว ยากมากที่จะถอน เพราะยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนอื่นๆ ที่เข้ามาในชีวิต เราก็ต้องเก็บใหม่ หากยังไม่พร้อมจังหวะชีวิตก็จะบอกเราเองว่าเรายังไม่พร้อม ต้องแยกให้ชัด ไม่งั้นก็ไม่มีระบบ นึกอยากจะถอนก็ถอน เหมือนคนออกกำลังกายแล้วก็หยุด พอปีใหม่ก็เริ่มใหม่ วนลูปไปแบบนี้ไม่เคยอดทนก็ไปไม่ถึงเป้าหมายเสียที”
เขามีเป้าหมายลงทุนเป็นตัวเลขในใจว่าในอีก 10 ข้างหน้าพอร์ตลงทุนของตัวเองจะเป็นเท่าไร ไม่ใช่เพื่อรองรับการเกษียณไว แต่เขามองไกลกว่านั้นคือมุ่งไปสู่ความฝันที่อยากมีอาชีพ “คุณพ่อฟูไทม์” เพราะอยากเป็นคนที่ให้เวลากับลูกเต็มเวลาแบบ 100% ดังนั้นหากไม่รีบปั้นพอร์ต เขาคงไปถึงเป้าหมายนั้นไม่ได้ ซึ่งโชคดีอย่างนึงในชีวิตนักลงทุนอย่างคุณคุณนัฐทิพล คือการมีแฟนที่เข้าใจและเห็นความสำคัญของการเงินในทิศทางเดียวกัน ยินดีที่จะนำเงินเก็บมารวมเป็นกระเป๋าตังค์เดียวกันเพื่อปั้นพอร์ตลงทุนไปพร้อมกันด้วยความไว้วางใจ ซึ่งการรวมพอร์ตลงทุนกับ Jitta Wealth จะเป็นเหมือนขึ้นรถ Super Car ที่จะพาพอร์ตพวกเขาให้ไปถึงเป้าหมายได้เร็วมากขึ้น