Jitta Wealth Journal - ทำไมหุ้นญี่ปุ่นแตะ New High ในรอบ 33 ปี?

23 พฤษภาคม 2566Jitta Wealth Journal

หุ้นไทยร่วงไม่หยุด เกิดอะไรขึ้นกันแน่

Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 130 ประจำวันที่ 23 พฤษภาคม 2566

Biden มั่นใจสหรัฐฯ ไม่ผิดนัดชำระหนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นพุ่งเกินคาดดัชนี Topix แตะระดับสูงสุดในรอบ 33 ปี วิเคราะห์ตลาดหุ้นไทย ดร.นิเวศน์วิเคราะห์ทำไมหุ้นไทยร่วงไม่หยุดหลังเลือกตั้ง VinFast เผยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าพุ่ง เทรนด์ผู้ใช้รถยนต์กำลังเปลี่ยนแปลง 

รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth


ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ

S&P 500 +1.65% DJIA +0.38% NASDAQ +3.04%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทะยาน คาด Fed หยุดปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อประเมินว่าจะลดเงินเฟ้อสู่ระดับเป้าหมายได้หรือไม่ นักลงทุนยังจับตารอการประชุมเพื่อขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ เพื่อกำหนดทิศทางต่อไปว่าจะเข้าลงทุนต่อหรือจะชะลอสักพักจนสถานการณ์ปกติ

ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย

CSI 300 +0.17% TOPIX +3.11% VNI +0.02% SET -2.98%

ตลาดหุ้นจีนยังเคลื่อนที่อยู่ในกรอบไซด์เวย์ แต่นักวิเคราะห์คาดจีนจะโตอย่างแข็งแกร่งได้ในปีนี้ ดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดในระดับสูงสุดในรอบ 33 ปี หุ้นญี่ปุ่นยังดึงดูดนักลงทุนเข้าตลาดต่อเนื่อง ตลาดหุ้นเวียดนามขึ้นลงในระดับปกติ ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยผันผวนหนักจากกระแสความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง

ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 21 พฤษภาคม 2566


เลือกตั้งผ่านไป เลือกรับมือยังไงกับตลาดหุ้น 

กระแสการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลของไทยยังร้อนระอุ 

ตลาดหุ้นไทยกำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดโดยนักลงทุน 

มาร่วมย้อนเวลาเปิดสถิติตลาดหุ้นหลังเลือกตั้งตลอด 47 ปี 

พร้อม ‘คู่มือรับมือตลาดหุ้นหลังการเลือกตั้ง’

อ่านต่อ


เศรษฐกิจสหรัฐฯ

Biden มั่นใจสหรัฐฯ ไม่ผิดนัดชำระหนี้

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Joe Biden เตรียมเจรจากับประธานสภา Kevin McCarthy ในขณะที่ความตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้นในการเพิ่มวงเงินหนี้ของสหรัฐฯ โดย McCarthy กล่าวว่า ‘การเจรจาไม่คืบหน้านักเพราะ Biden อยู่ญี่ปุ่นในช่วงเวลานี้’

ทั้งพรรค Republicans และทำเนียบขาวกำลังอยู่ในความขัดแย้งเรื่องการลดค่าใช้จ่าย สามารถสรุปได้ว่า

ทาง Republicans ต้องการเพิ่มงบประมาณของเพนตากอน ในขณะที่ทางทำเนียบขาวไม่ต้องการแบบนั้น เพราะกังวลว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะนำไปสู่การลดงบประมาณในประเทศ เช่น การดูแลสุขภาพและการศึกษา

แม้ว่าความเห็นจะยังไม่ตรงกัน Biden ก็ยังคงมั่นใจว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่ผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ทำให้ Biden เองต้องลดระยะเวลาการเยือนญี่ปุ่น เพื่อมาแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้แทน

นักลงทุนไม่ชอบความไม่แน่นอน ยังต้องติดตามกันต่อไปว่า Biden จะตัดสินใจอย่างไร ถึงวันนั้นก็คงได้เห็นทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชัดเจนขึ้นกว่านี้


Talk of the Town 

เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official

😊 ชวนคุยเรื่อง Personal Finance ใครสาย FIRE มาคุยกัน

📖 สรุปหนังสือ ‘เด็กวัดดอน’ ชีวิตสร้างแรงบันดาลใจจาก ดร.นิเวศน์

🤔 ทำไมปู่ Buffett ชอบลงทุน ‘ญี่ปุ่น’ ในช่วงนี้ 

มาร่วมพูดคุยกับเรา  

(ตอบคำถามให้ครบ 3 ข้อ เพื่อเข้าร่วมกลุ่มนะ 🤗)


เศรษฐกิจญี่ปุ่น

เศรษฐกิจญี่ปุ่นพุ่งเกินคาด GDP +1.6%

ในช่วงเวลานี้ถ้าพูดถึงตลาดหุ้นที่กำลังฮอต คงหนีไม่พ้นญี่ปุ่นที่กำลังเติบโตเร็วเกินคาด จากการผ่อนคลายกฎระเบียบและการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นอย่างมีนัยสำคัญ

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ญี่ปุ่นเติบโต +1.6% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 เกินที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคธุรกิจซึ่งออกมาดีกว่าที่คาดไว้เช่นเดียวกัน

เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในทิศทางขาขึ้น แสดงให้เห็นสัญญาณเชิงบวกของการฟื้นตัว และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ดัชนี TOPIX ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 33 ปี ญี่ปุ่นกำลังมาถูกทางแล้ว หากยังรักษาอัตราการเติบโตที่ยอดเยี่ยมต่อไปจะทำให้ญี่ปุ่นกลับมาขึ้นแท่นอีกครั้ง

ญี่ปุ่นได้แสดงให้เห็นแล้วว่า นโยบายต่างๆ ที่เคยพูดมา ทำได้จริง แถมยังได้รับแรงสนับสนุนจาก Warren Buffett คนก็จับตามองหุ้นญี่ปุ่นมากขึ้น ใครลงทุนหุ้นญี่ปุ่นอยู่ตอนนี้คงยิ้มออกกันถ้วนหน้าใช่ไหม 

ดัชนี Topix พุ่งสูงสุดในรอบ 33 ปี เพราะแรงหนุนจากหุ้นชิป

ดัชนี Topix ของญี่ปุ่นแตะระดับสูงสุดในรอบ 33 ปี หลังบริษัทต่างๆ ในญี่ปุ่นทำผลงานได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นชิป 

บริษัทชิปของญี่ปุ่นแข็งแกร่งพอที่จะสร้างความเชื่อมั่นที่แรงกล้าให้กับนักลงทุน ทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น และหุ้นชิปของญี่ปุ่นหรือหุ้นที่เกี่ยวข้องยังได้รับอานิสงส์จากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ขาดแคลนชิปอย่างหนัก ส่งผลให้มูลค่าชิปเองก็สูงขึ้นด้วย 

นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ต่างให้ความสนใจหุ้นญี่ปุ่นจากแนวโน้มที่แข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ รวมไปถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่โตเกินคาด ยิ่งดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นจนดัชนี TOPIX ปิดตัวสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

ทิศทางที่ดีขึ้นของตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากความสำเร็จในการออกจากภาวะเงินฝืด เปลี่ยนเป็นประเทศที่มีเงินเฟ้อระดับน้อยหรือปานกลาง 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเติบโตอีก 1% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี  ส่วนที่ยังน่าจับตามองคือ การพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ และจีนของญี่ปุ่น ถือเป็นตลาดที่น่าจับตามองที่สุดในช่วงนี้เลย


คู่มือ (กล้า) ลงทุนจาก Warren Buffett 

ความกล้า และความกลัว เป็นของคู่กับความเสี่ยง 

และ 3 สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่วนเวียนอยู่ในสนามการลงทุนตลอดเวลา 

ความกลัวเกินไป อาจจะทำให้เราพลาดโอกาสดีๆ ในการลงทุน 

แต่จะทำยังไงให้กล้าพอ เหตุการณ์ตัวอย่างของปู่ Buffett นี้อาจช่วยคุณได้

อ่านต่อ


ตลาดหุ้นไทย

ดร.นิเวศน์ วิเคราะห์ทำไมหลังเลือกตั้งหุ้นไทยร่วงไม่หยุด

เลือกตั้งไทยผ่านไปแล้ว และรู้แล้วว่าพรรคไหนที่ได้ที่นั่งเยอะที่สุดในสภา แต่หลังจากนั้นตลาดหุ้นไทยก็ผันผวนอย่างหนัก หุ้นไทยตัวใหญ่หลายบริษัทเช่น GULF CPALL TRUE และ GUNKUL ปรับตัวลดลงมากกว่า -7% เกิดอะไรขึ้นกันแน่

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และ คุณสุวัฒน์ สินสาฎก นักลงทุน VI และรองประธานสายงานธุรกิจหลักทรัพย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ BillionMoney ถึงแนวโน้มต่อไปของประเทศไทย ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และตลาดหุ้นไทย สรุปได้ว่า 

หุ้นไทยที่น่าจับตามองเทียบเคียงไปกับนโยบายของพรรคที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดคือ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับนายทุนใหญ่ หรือเชื่อมโยงกับสัมปทานรัฐ รายได้ของโรงไฟฟ้า หุ้นเหล่านี้ต้องติดตามดูกันต่อไป 

เพราะในความเป็นจริง การเปลี่ยนแปลงนโยบายต้องใช้เวลา  เพราะต้องผ่านอีกหลายด่านกว่าจะบังคับใช้นโยบายได้จริงๆ อีกส่วนที่เป็นความกังวลของนักลงทุนคือ ความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งต้องดูกันต่อไปว่าตลาดหุ้นจะตอบสนองยังไงต่อสถานการณ์

แทบทุกครั้งหลังการเลือกตั้ง ตลาดหุ้นไทยมักปรับตัวลงเสมอ จากการเก็บข้อมูล 47 ปี ตลาดหุ้นไทย แต่นั่นก็เป็นโอกาสที่ทำให้หุ้นคุณภาพดีหลายบริษัทมีราคาถูกลงเช่นเดียวกัน 


เศรษฐกิจเวียดนาม 

VinFast ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนาม ยอดขายพุ่ง

VinFast บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนาม คาดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) ได้มากถึง 50,000 คันในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 7 เท่า จากปี 2565 จากการส่งออกไปยังอเมริกาเหนือและกำลังจะมีการจัดส่งไปยังยุโรปด้วย จากเดิมที่ในปี 2565 มีการวางขายแค่เฉพาะในเวียดนามเท่านั้น

คาดการณ์ว่า หากสิ่งต่างๆ เป็นไปตามแผนที่วางไว้ VinFast จะถึงจุดคุ้มทุนภายในปี 2567

นอกจากนี้ VinFast ยังวางแผนผลิตเพิ่มอีกสองรุ่น ได้แก่ รถกระบะไฟฟ้า และรถขนาดเล็กสำหรับใช้ในเมือง คาดจะมีราคาระหว่าง 10,000 ถึง 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น EV ที่มีราคาเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

เป็นอีกครั้งที่เวียดนามได้เข้ามามีบทบาทในเมกะเทรนด์โลก ซึ่งน่าจับตามองว่าในอนาคตจะมีการแข่งขันที่ดุเดือดขนาดไหน ในเวทีรถยนต์ไฟฟ้า ที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่มาแรงในขณะนี้


ลงทุนยังไงให้ได้งาน ที่มาขุ่นแม่คอมมู Jitta Wealth Official

หากคุณเป็นหนึ่งในสมาชิก Jitta Wealth Official 

สำหรับนักลงทุน Jitta Wealth คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับ ‘คุณจ๊ะจ๋า’ 

เธอเป็นใคร ลงทุนยังไงให้ได้มาเป็นขุ่นแม่คอมมู มาหาคำตอบกันได้ที่นี่

รับชมคลิป


ถือว่าเป็นรอบสัปดาห์ที่มีข่าวหลายๆ ข่าวน่าชื่นใจ ข่าวบางข่าวก็ยังต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด

นอกจากการขึ้นอัตราเงินเฟ้อของ Fed แล้วอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องติดตามก็คือ การเพิ่มวงเงินหนี้ของสหรัฐฯ แม้ Biden จะมั่นใจว่าจะไม่มีการผิดนัดชำระหนี้อย่างแน่นอน แต่การเจรจาก็ยังเป็นไปอย่างดุเดือดเข้มข้น 

ตัวเลขตลาดหุ้นอีกตลาดที่มาแบบเรื่อยๆ แต่โดดเด่นอย่างน่าเหลือเชื่อคือตลาดหุ้นญี่ปุ่น ดัชนี Topix แตะ New High สูงสุดในรอบ 33 ปี และตัวเลข GDP ยังเติบโตอย่างยอดเยี่ยม ตอบรับความพยายามอย่างหนักของญี่ปุ่น 

และตลาดหุ้นใกล้ตัวที่น่าจับตามองคงหนีไม่พ้นตลาดหุ้นไทย หลังการเลือกตั้งจบลง ตลาดหุ้นก็ร่วงแรง สร้างความหวั่นไหวให้นักลงทุน จนเกิดคำถามว่า ผลกระทบจะเป็นแบบนี้ต่อไปในระยะยาว หรือแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น 

ไม่มีคำตอบที่แน่นอน 100% สำหรับการคาดเดาอนาคตของตลาดหุ้น เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ แต่สิ่งที่เป็นคำตอบที่แน่นอนที่สุด คือการบริหารพอร์ตและแนวทางลงทุนที่ถูกต้องในระยะยาว ที่จะพาคุณไปสู่ความสำเร็จในการลงทุน  

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด