นี่คือนิยามการลงทุนแบบฉบับของคุณบอย อภิศิลป์ ตรุงกานนท์ Co-founder และ Chief Product Officer ของเว็บไซต์ Pantip ที่ได้เห็นผลตอบแทนจากการลงทุนในพอร์ต Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ ตั้งแต่เริ่มลงทุนบวกไกลกว่า +109.65% และที่สำคัญคือตั้งแต่ต้นปี ได้เห็นผลตอบแทน (YTD) กว่า +34.36% เอาชนะดัชนี S&P 500 TR ไปกว่า +21.29%
หนึ่งในเว็บไซต์ที่อยู่คู่กับคนไทยมานานกว่า 20 ปีอย่าง Pantip.com เติบโตและยืนหยัด ท่ามกลางโซเชียลมีเดียอื่นๆ มาได้ ด้วยฝีมือของหัวเรือใหญ่อย่าง คุณบอย ที่ให้ความสนใจทั้งเรื่องของเทคโนโลยีและการลงทุนไปพร้อมกัน
ด้วยความรักในงานสายวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ที่ร่ำเรียนมา เขาจึงทำงานอยู่กับ Pantip ยาวนานกว่า 20 ปี ตั้งแต่วันที่ไม่มีเงินเดือน มาจนถึงวันที่ขึ้นเป็นหัวหน้า เพราะหลักในการใช้ชีวิต ที่มีหน่วยวัดเป็นความสุข
“ความสุขของมนุษย์มีหลายปัจจัย ตั้งแต่ความต้องการพื้นฐาน เรื่องอาหาร ที่อยู่อาศัย สุขภาพที่แข็งแรง และการสร้างความมั่นคงในชีวิต ซึ่งก็ต้องใช้เงิน” เขากล่าวเช่นนั้น ดังนั้น เขาจึงเลือก ‘ลงทุน’ ในที่ที่มั่นคงและเชื่อถือได้
คุณบอยยิ่งยิ้มแก้มปริกับผลตอบแทนที่ได้เห็นว่าพอร์ต Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นปีมา +34.36% (YTD) เหนือกว่าดัชนีตลาด และกองทุนอื่นๆ ยิ่งตอกย้ำความมั่นใจในเทคโนโลยีของ Jitta Wealth
เริ่มการลงทุนด้วยรากฐานของการเก็บออม ผมเป็นคนที่โชคดี ที่มีความสนใจเรื่องการออมเงิน ตั้งแต่เด็ก คุณพ่อคุณแม่จะมีกระปุกออมสินให้เราหยอดเงิน แล้วก็พาไปเปิดสมุดบัญชีเงินฝากพอเข้ามัธยมปลายก็เริ่มหาเงินก้อนแรกได้ด้วยการแข่งคอมพิวเตอร์ พอเข้ามหาวิทยาลัยก็หารายได้ทางอื่นด้วยตัวเราเอง เช่น รับเขียนโปรแกรม ฯลฯ
ผมตั้งเป้าเอาไว้ว่า ถ้าจบมหาลัยอยากสะสมเงินให้ได้ 100,000 บาท ซึ่งก็ทำได้ หลังจากนั้นผมก็ฝากเงินในบัญชีฝากประจำ 2 ปี โดยแบ่งเงินเดือนครึ่งหนึ่งเพื่อออม เป็น 2 ปีที่มีวินัยและอดกลั้นมาก ที่จะไม่ซื้อของฟุ่มเฟือยต่างๆ การเก็บออมเงินมันทำให้เรา รู้สึกปลอดภัยและมั่นคงในชีวิต ชอบลงทุนในที่ที่มั่นคงและควรกระจายความเสี่ยง
พอผมเริ่มมีเงินเก็บเยอะขึ้น โอกาสการลงทุนก็จะเยอะขึ้นตาม ผมเริ่มสนใจตลาดหุ้น อ่านหนังสือของ ดร.นิเวศน์ ที่เป็นลงทุนแบบ Value Investing สิ่งที่ผมชอบในการลงทุนแบบนี้ คือมันมีเหตุผล มีหลักการที่มาที่ไป เพราะมันคือการที่เราได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัท หรือเป็นเจ้าของบริษัทนั้น เราจึงสนใจการลงทุนในแนวทางนี้
ผมแตะ 1 ล้านบาทแรกตอนอายุ 30 ปี จากทั้งการทำงานหารายได้ เก็บออม ฝากประจำ และลงทุนในหุ้นด้วย ผมก็เริ่มตั้งเป้าหมายมากขึ้นว่าอยากมีเงิน 10 ล้านภายในอายุ 40 ปี มันยากนะแต่เราก็พอรู้แล้วว่ามันต้องทำยังไง พอเราเริ่มมีความรู้มากขึ้น เริ่มนำงบการเงินของบริษัทต่างๆ มาอ่านเยอะขึ้น ก็ส่งผลให้เราเหนื่อยมากกับการลงทุน เพราะหุ้นมันมีตั้งหลายร้อยตัว สุดท้ายเราก็ไม่มีเวลาไปตามก็เลยทิ้งพอร์ตหุ้นไว้เฉยๆ จนได้มาเจอกับ Jitta
เพราะเทคโนโลยีนั้นเชื่อถือได้ ตอนนั้นผมลองเข้าไปใช้ Jitta เวอร์ชันแรก ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลหุ้นแล้ว มีให้กดโหวตหุ้นที่คุณชอบ จนเวลาผ่านไป Jitta เริ่มมีการปรับปรุงจนมี Jitta Score ที่ช่วยประเมินมูลค่าบริษัทว่าดีหรือไม่ คล้ายกับหลักการ Value Investing ทั้งเรื่องรายได้ กำไร ฯลฯ และ Jitta Line ที่ช่วยประเมินมูลค่าที่แท้จริงว่าบริษัทเหล่านั้นควรมีมูลค่าเท่าไหร่ในตลาด
ในตอนนั้นเราซื้อหุ้นที่อยู่ใน Jitta Ranking 5 อันดับแรก ถือไป 1 ปี บางตัวบวกมาก บางตัวก็ติดลบ เลยมาทำความเข้าใจใหม่ว่า เราควรจะกระจายความเสี่ยงมากกว่านี้ โดยต้องซื้อหุ้น 20-30 ตัว เราก็มานั่งเคาะซื้อไป ปรากฏว่าเหนื่อยมากเลย
จนมาถึงจุดที่เราคิดว่าน่าจะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า หลังจากนั้นผมเลยเริ่มใช้บริการของ Jitta Wealth ซึ่งมันช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลา ถ้าระบบซื้อแล้วทำกำไรได้ เขาก็ขอแบ่งกำไรบางส่วนออกไป แต่ถ้าพอร์ตไม่กำไร เราก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมนั้น มันเป็นแนวคิดที่ดีและก็แฟร์มากๆ ผมเลยลองเปิดพอร์ต Jitta Ranking หุ้นไทยในช่วงเวลานั้น
พอผมเริ่มเข้าใจหลักการของ Jitta Wealth แล้ว ปัจจุบันผมเข้าไปเปิดพอร์ตลงทุนกับ Jitta Wealth อีกหลายพอร์ตด้วยกัน ทั้งพอร์ตไทย เวียดนามและสหรัฐฯ โดยกลยุทธ์การลงทุนจะพยายามสะสมเงินก้อนเพื่อเพิ่มทุน
ณ วันนี้พอร์ต Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ ของคุณบอย ที่ลงทุนในหุ้นดี ราคาเหมาะสมของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ไม่ได้เจาะจงในอุตสาหกรรมไหนเป็นพิเศษ แต่ก็สร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า +109.65% ผลตอบแทน (YTD) + 34.36% เอาชนะดัชนี S&P 500 TR ไปกว่า +21.29%
นอกจากนี้ยังลงในพอร์ตที่ความเสี่ยงไม่สูงมาก อย่าง Global ETF โดยพอร์ตนี้เราตั้งใจใส่เงินเพิ่มเข้าไปเดือนละ 10,000 บาทเรื่อยๆ จนเกษียณเลย
ทุกวันนี้ก็ถือว่ามีการลงทุนที่มั่นคงแล้ว แล้วเป้าหมายการเก็บเงิน 10 ล้านภายในอายุ 40 ปี ก็ทำได้แล้วด้วย ดังนั้นหลังจากนี้ผมตั้งใจจะลงทุนใน Jitta Wealth เป็นหลักเพื่อวางแผนเกษียณต่อไป
“การลงทุนคือการทำงานแบบยกกำลัง มันคือการที่เรานำเงินไปลงทุน แล้วมันจะสร้างผลตอบแทนให้เราแบบทวีคูณ”
ผมมองว่า เทคโนโลยี เข้ามาช่วยงานมนุษย์ได้จริงๆ และถ้าเราจะลงทุนในตลาดหุ้นที่เราไม่ชำนาญ อย่าง ตลาดหุ้นเวียดนาม หรือ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เราไม่รู้ข้อมูลเลย เราไม่มีทางประเมินเองได้ ดังนั้นเราจึงไว้ใจให้เทคโนโลยีประเมินให้กับเรา ก็เลยฝากให้ Jitta Wealth จัดการให้ ชีวิตจะได้มีเวลามากขึ้น เพื่อเอาไปทำอย่างอื่น และจะได้ไม่เสียเวลาในการมานั่งลงทุนเอง