1. ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นธุรกิจมีความชัดเจน มีความต้องการสูงจากผู้คนทั่วโลก จะเรียกว่า การท่องเที่ยวเป็น DNA ของมนุษย์ ก็ไม่ผิดนัก เพราะทุกคนมีความต้องการท่องโลกกว้าง ก่อนเกิด Covid-19 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวคิดเป็น 10% ของ GDP โลก คิดเป็น 8.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
2. ธุรกิจ Travel Tech หรือเทคโนโลยีท่องเที่ยว กำลังมีบทบาทสำคัญต่อพฤติกรรมนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะการวางแผนท่องเที่ยวทุกมิติต้องพึ่งพาการใช่งานเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชันมือถือ คาดว่า กลุ่ม Travel Tech จะ เติบโตราวๆ 10-20% ต่อปี
3. ETF ในกลุ่ม Travel Tech ปัจจุบันมีแค่กองเดียว คือ ETFMG Travel Tech ETF (AWAY) ที่ลงทุนใน Tripadvisor Trivago Airbnb Trip.com Expedia และบริษัทอื่นๆ รวม 30 บริษัท โดยบริหารพอร์ตลงทุนให้อิงไปกับดัชนี Prime Travel Technology ผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลัง 60.4%
วันพุธที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา Jitta Wealth ได้จัด Live ในหัวข้อ ‘ลงทุนนำเทรนด์ ‘เทคท่องเที่ยว’ บอกลา Covid-19’ หลังจากที่วัคซีนป้องกัน Covid-19 กำลังกระจายไปทั่วโลก เพื่อต่อสู้กับโรคระบาดตัวนี้ ที่ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกเกิดภาวะชะงักงันไป 1 ปีเต็มๆ
เมื่อวัคซีนให้ผลเป็นที่น่าพอใจ จำนวนผู้ป่วยใหม่กำลังลดลงในหลายๆ ประเทศ ก็เป็นสัญญาณที่ดีให้รัฐบาลหลายๆ ประเทศเตรียมจะเปิดประเทศรับการท่องเที่ยว และมีแนวคิดที่จะใช้ ‘วัคซีนพาสปอร์ต’ ควบคู่ไปด้วย เพื่อเป็นการการันดีว่า ได้รับการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทางมาแล้ว
นอกจากการท่องเที่ยวกำลังจะฟื้นตัว กลุ่มที่น่าสนใจคือธุรกิจ Travel Tech หรือบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีเป็นพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น Travel Tech ด้านการจองตั๋วเครื่องบิน รถบัส รถไฟ โรงแรม รีสอร์ต บ้านเช่า หรือซื้อบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ
ธุรกิจเทคโนโลยีท่องเที่ยวยังครอบคลุมไปถึงเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว และแอปพลิเคชันโทรศัพท์ในการเช่ารถหรือเรียกรถแท็กซี่
Live นี้มีคุณภูวรัฐ หน่อชูเวช ผู้มีประสบการณ์ทำงานจาก Airbnb และ Agoda ปัจจุบันเป็น Chief Product and Data Officer ของ Credit OK และคุณตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO ของบลจ. จิตตะ เวลธ์ จำกัด ที่จะพาคุณไปเปิดโลกกว้างว่าธุรกิจ Travel Tech มีอะไรบ้าง และมีโอกาสเติบโตแค่ไหน ท่ามกลางกระแสข่าวเปิดประเทศทั่วโลก
ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่ชัดเจน มีความต้องการสูง เรียกได้ว่า การท่องเที่ยวเป็น DNA ของมนุษย์ ทุกคนมีความต้องการท่องเที่ยว ยิ่งพอล็อกดาวน์หรือปิดประเทศ ก็สร้างความอัดอั้นในผู้คนทั่วโลก เพราะไปไหนไม่ได้
ตอนนี้ผู้คนทั่วโลกต่างต้องการออกเดินทาง แม้จะเป็นแค่การท่องเที่ยวในประเทศก็ยังดี
ถ้ามองภาพรวม ในปี 2562 ก่อนเกิดโรคระบาด Covid-19 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกคิดเป็น 10% ของ GDP ตีมูลค่าเป็น 8.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งธุรกิจท่องเที่ยว ถือว่าโตขึ้นมามาก ดังนั้นโอกาสเติบโตในอนาคตคาดว่าจะพอๆ กับการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ หรือประมาณ 4-5% ต่อปี
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ‘กลุ่มเทคโนโลยีการท่องเที่ยว (Travel Tech) เติบโตประมาณ 10-20% ต่อปี เม็ดเงินที่ไหลเวียนในกลุ่ม ‘Travel Tech’ เป็นมากกว่าครึ่งของธุรกิจท่องเที่ยวทั้งหมด สรุปได้ว่าธุรกิจกลุ่มเทคโนโลยีการท่องเที่ยวกำลังแย่งส่วนแบ่งการตลาดไปจากธุรกิจท่องเที่ยวแบบเดิม
ซึ่งการท่องเที่ยวแบ่งได้เป็น 3 ธุรกิจหลักๆ คือ
ในปัจจุบัน Travel Tech เริ่มเข้ามามีบทบาทและแย่งตลาดจากฐานลูกค้าเดิมๆ อย่างเช่น การเดินทางที่ต้องพึ่งพารถแท็กซี่ ตอนนี้เราก็สามารถเลือก Grab หรือ Uber ผ่านทางมือถือได้ตลอด หรืออาหารที่ต้องไปกินที่ร้าน ปัจจุบันก็มีบริการ Food Delivery ถึงหน้าบ้าน ไม่จำเป็นต้องออกไปซื้อ หรือที่พักที่ต้องนอนแต่โรงแรม ตอนนี้ก็มี Airbnb ให้เลือกไปนอนตามบ้านของคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจ เพราะมีราคาถูกกว่านอนโรงแรมหรือรีสอร์ต
“ปัจจุบัน มีแค่มือถือเครื่องเดียว ก็สามารถแพลนทริป สั่งอาหาร จองโรงแรมได้ทุกอย่างแล้ว”
ยิ่งมีบทบาทของสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) มีมากขึ้น ก็ส่งเสริมให้การท่องเที่ยวนั้นง่ายขึ้นกว่าเดิม และลดค่าใช้จ่ายลงมาได้ ยกตัวอย่าง เว็บไซต์ที่ช่วยเปรียบเทียบราคา เช่น Trivago Tripadvisor หรือ Kayak ก็ช่วยหาดีลและราคาที่ดีที่สุดให้กับนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีขนาดใหญ่มาก จะเห็นได้ว่า มีบริษัทที่ทำธุรกิจท่องเที่ยว ได้เป็น Unicorn อยู่หลายบริษัท อย่าง Traveloka หรือ Uber ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
หากเป็นการลงทุนในหุ้นการท่องเที่ยวแบบเดิม คุณจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งในการลงทุน เช่นหุ้นโรงแรมและรีสอร์ต หุ้นร้านอาหาร และหุ้นสายการบิน
แต่ Travel Tech นั้นกระจายความเสี่ยงให้เรียบร้อยแล้ว บางบริษัทรวมการจองโรงแรม รีสอร์ต สายการบินไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ยิ่งไปกว่านั้นรายได้ของบริษัท Travel Tech มาจากทั่วโลก ไม่ใช่แค่ภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง มีการดำเนินธุรกิจที่ต้นทุนต่ำ แต่อัตรากำไรขั้นต้นสูง
Jitta Wealth ได้แนะนำธีมใหม่ในบริการกองทุนส่วนบุคคล Themetic คือ ธีมเทคโนโลยีการท่องเที่ยว (Travel Tech) ลงทุนในหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยุคใหม่จากทั่วโลก ประมาณ 30 บริษัท ผ่านกองทุน ETFMG Travel Tech ETF (AWAY)
AWAY เป็น ETF เดียวในโลกที่ลงทุนในหุ้น Travel Tech ทั่วโลก เช่น บริษัท Facedrive บริษัท Tripadvisor บริษัท Trivago บริษัท Airbnb บริษัท Sabre บริษัท Trip.com บริษัท On the Beach บริษัท MakeMyTrip บริษัท Expedia และบริษัท Lyft
AWAY บริหารพอร์ตลงทุนให้ผลตอบแทนเป็นไปตาม Prime Travel Technology Index เป็นดัชนีวัดผลการดำเนินงานของหุ้นเทคโนโลยีที่อยู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก
ถ้าคุณอยากลงทุนแบบนำเทรนด์ รอรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กำลังจะมา
นี่คือโอกาสการลงทุนที่พลาดไม่ได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม