Cannabis 101: ลงทุน ‘หุ้นกัญชา’ ต้องรู้อะไรบ้าง?

2 มีนาคม 2564ThematicCannabis

ช่วงนี้ใครๆ ก็พูดถึงธุรกิจกัญชา รู้หรือไม่ว่า ที่เป็นกระแสช่วงนี้ เพราะเทรนด์การปลดล็อกให้ใช้กัญชาถูกกฎหมายทั่วโลก

รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของ Joe Biden ประกาศลุยเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อให้ทุกรัฐสามารถใช้กัญชาได้ทั้งทางการแพทย์และสันทนาการ

ไทยเราก็ไม่น้อยหน้าใคร ประกาศถอด ‘กัญชา’ และ ‘กัญชง’ ออกจากบัญชียาเสพติด เปิดให้ประชาชน ชุมชน บริษัทสามารถขอใบอนุญาตปลูกกัญชาและกัญชง หรือขอใบอนุญาตผสมลงในอาหาร ขนม และเครื่องดื่มได้

ราคาหุ้นกัญชาในสหรัฐฯ ช่วงที่ผ่านมา ก็พุ่งขึ้นขานรับกระแสข่าวดี หนุนให้อุตสาหกรรมเติบโตได้อีกยาวๆ เพราะธุรกิจนี้เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน แม้ว่าจะเจอภาวะ Short Squeeze จากนักลงทุนรายย่อยช่วงสั้นๆ ที่ทำให้ราคาพุ่งแรงกว่าเดิม

แต่ปัจจัยบวกเรื่องปลดล็อกให้ถูกกฎหมาย และเป็นเทรนด์ที่หลายๆ ประเทศกำลังจะทำตาม ประกอบกับผลประกอบการของแต่ละบริษัทที่คาดว่าจะสามารถทำกำไรได้ในช่วง 1-2 ปีนี้

จึงทำให้นักลงทุนหลายคน อยากจะลงทุนในอุตสาหกรรมกัญชา เพื่อเกาะกระแสขาขึ้นของธุรกิจที่คาดว่าจะไปได้ดีในอนาคต

แต่ก่อนที่จะลงทุน ETF ‘หุ้นกัญชา’ ลองมาทำความเข้าใจภาพรวมอุตสาหกรรมทั่วโลก และโอกาสภายหลังจากปลดล็อกให้ถูกกฎหมาย

Cannabis 101 ลงทุน ‘หุ้นกัญชา ต้องรู้อะไรบ้าง? จะช่วยให้คุณเข้าใจธุรกิจนี้อย่างรอบด้าน

Cannabis ไม่ใช่แค่ยาเสพติด

ไม่ว่าจะเป็นกัญชา (Marijuana) หรือกัญชง (Hemp) ล้วนมีมาจากพืชสกุลเดียวกัน เรียกรวมๆ ว่า Cannabis

Cannabis มีสารประกอบ Cannabinoid ที่แยกได้ 113-144 ประเภท แต่ที่ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมกัญชา คือ Tetrahydrocannabinol (THC) และ Cannabidiol (CBD)

กัญชาและกัญชงต่างกันตรงที่สัดส่วนของสารประกอบ THC ซึ่งก็คือ สารเสพติด

Cannabinoid ยังมีสารประกอบอื่นๆ ที่ถูกค้นพบ เช่น Cannabigerol - CBG ที่มีคุณสมบัติยับยั้งการเติบโตของมะเร็ง ต้านเชื้อแบคทีเรีย และ Tetrahydrocannabinolic (THCA) ช่วยรักษาข้ออักเสบ ภูมิแพ้ตัวเอง คลื่นไส้ และอาเจียน

ปัจจุบัน Cannabis ต้องถูกพัฒนาสายพันธุ์จากห้องแล็บก่อน เพื่อกำหนดสัดส่วน THC ให้ชัดเจน ก่อนนำต้นกล้าที่ผ่านการทดลองไปขยายพันธุ์ในฟาร์ม และต้องดูแลการเพาะปลูกอย่างใกล้ชิด

บริษัทที่ทำธุรกิจกัญชาต้องมีใบอนุญาต ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการปลูก แปรรูป และผลิต รวมทั้งสำแดงสัดส่วน THC ด้วย ต่อให้เป็นประเทศที่ปลดล็อกกัญชาให้ถูกกฎหมาย ไม่ใช่ว่า ใครๆ ก็ปลูกกัญชาได้

Cannabis_article-02.png

Cannabis ปลูกได้ทั่วโลก

‘กัญชา’ และ ‘กัญชง’ เป็นพืชล้มลุกที่สามารถเติบโตได้ในอากาศชื้น 40–60% โดยอุณหถูมิที่เหมาะสม 24-30°C ที่จะสามารถรักษาสัดส่วน THC ตามที่กำหนดไว้

ประเทศบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตรจะเหมาะกับการปลูก ‘กัญชา’ เช่น ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปแอฟริกา และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนภูมิภาคเอเชียใต้ ภูมิภาคตะวันออกกลาง และทวีปยุโรป เหมาะกับการปลูก ‘กัญชง’ ยังเป็นพืชที่ให้เส้นใยปริมาณมาก สามารถไปผลิตเป็นเสื้อผ้าได้

World Drug Report 2020 ของ United Nations Office on Drug and Crime (UNODC) ระบุว่า ปี 2561 มีผู้ใช้ Cannabis ประมาณ 192 ล้านคนทั่วโลก และคาดว่า 151 ประเทศทั่วโลกที่มีการเพาะปลูก Cannabis ในช่วง 2553-2561 มีทั้งเพาะปลูกถูกกฎหมายและลักลอบปลูก

Cannabis_article-03.png

เทรนด์ปลดล็อกกัญชากระจายทั่วโลก

แคนาดาเป็นประเทศแรกของกลุ่มผู้นำ G7 ปลดล็อกกัญชาถูกกฎหมายสำหรับผู้ใหญ่ มีผลกลางเดือนต.ค. 2561 ส่วนอุรุกวัยปลดล็อกไปก่อน 2557 แต่มีผลทางกฎหมายจริงปลายปี 2560 สถานที่ซื้อขาย คือ ร้านขายยา

จึงมีแค่ 2 ประเทศในโลกเท่านั้น ที่ปลดล็อกให้กัญชาใช้ได้ทั้งทางการแพทย์และสันทนาการ ประชาชนสามารถซื้อขายกัญชาได้ โดยต้องอายุถึงเกณฑ์กำหนดตามกฎหมาย

ในสหรัฐฯ มีแค่ 16 รัฐที่ปลดล็อกให้กัญชาสามารถใช้ได้ทั้งทางการแพทย์และสันทนาการ ได้แก่ อะแลสกา แอริโซนา แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด วอชิงตัน ดี.ซี. อิลลินอยส์ เมน แมสซาชูเซตส์ มิชิแกน มอนแทนา เนวาดา นิวเจอร์ซีย์ ออริกอน เซาท์ดาโคตา เวอร์มอนต์ วอชิงตัน

แคลิฟอร์เนียเป็นรัฐแรกของสหรัฐฯ ที่ปลดล็อกกัญชาให้ใช้ได้ในทางการแพทย์ก่อนในปี 2539 ส่วนโคโรลาโคและวอชิงตันปลดล็อกให้ใช้ในทางสันทนาการเป็น 2 รัฐแรกในปี 2555

อีก 22 รัฐที่ยังใช้กัญชาได้ในทางการแพทย์เท่านั้น ได้แก่ อาร์คันซอ คอนเนตทิคัต เดลาแวร์ ฟลอริดา ฮาวาย ลุยเซียนา แมริแลนด์ มินนิโซตา มิสซิสซิปปี มิสซูรี นิวแฮมป์เชียร์ นิวเม็กซิโก นิวยอร์ก นอร์ทดาโคตา โอไฮโอ โอคลาโฮมา เพนซิลเวเนีย โรดไอแลนด์ ยูทาห์ เวสต์เวอร์จิเนีย

45 ประเทศและดินแดนทั่วโลก ที่ยังใช้กัญชาได้ในทางการแพทย์ ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปยุโรปและอเมริกาใต้ บางส่วนอยู่แอฟริกาและตะวันออกกลาง

สำหรับไทย กระทรวงสาธารณสุขให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากส่วนต่างๆ ของกัญชาและกัญชงที่ไม่จัดเป็นยาเสพติด ได้แก่ ใบที่ไม่ติดกับช่อดอก กิ่ง ก้าน ลำต้น เปลือก ราก และเมล็ดกัญชง รวมถึงสารสกัด CBD และกากที่เหลือจากการสกัดซึ่งต้องมีปริมาณ THC ไม่เกิน 0.2% และน้ำมันและสารสกัดจากเมล็ดกัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ การศึกษาวิจัย และผสมในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ

ยกเว้น ‘ช่อดอก’ และ ‘เมล็ดกัญชา’ ยังจัดว่า มีสัดส่วน THC สูง ซึ่งจัดเป็นยาเสพติด

ที่สำคัญ กัญชาและกัญชงต้องได้มาจากสถานที่ปลูกหรือผลิตในประเทศที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น กรณีนำเข้าทำได้เฉพาะเปลือกแห้ง แกนลำต้นแห้ง และเส้นใยแห้ง นอกเหนือจากนี้นำเข้าได้โดยสำแดงเป็นยาเสพติด

Cannabis article-04.png

ผู้บริโภคทั่วโลกจะใช้จ่ายซื้อกัญชาเพิ่มขึ้น

Bank of America Merrill Lynch คาดการณ์ว่า ตลาดผู้บริโภคกัญชาทั่วโลกจะขยายตัวในอนาคต ทั้งในอุตสาหกรรมยา สุขภาพ และสันทนาการ

ในปี 2562 ขนาดตลาด (Total Addressable Market - TAM) ของผู้บริโภคกัญชามีมูลค่า 166,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่มูลค่าของตลาดถูกกฎหมายอยู่ที่ 14,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสัดส่วนแค่ 8.9% เท่านั้น

เทรนด์การปลดล็อกกัญชาจะเริ่มเห็นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก คาดว่า เม็กซิโกและนิวซีแลนด์จะเป็น 2 ประเทศที่จะปลดล็อกให้กัญชาสามารถใช้ในรูปแบบสันทนาการ (Adult Use Recreational Cannabis) ในลำดับถัดไป

ตลาดผู้บริโภคกัญชาที่คาดว่าจะเติบโตในอนาคต และการปลดล็อกกัญชาให้ถูกกฎหมายในหลายๆ ประเทศ จะเป็นโอกาสของบริษัทที่ทำธุรกิจในอุตสาหกรรมกัญชาให้มีรายได้และกำไรเติบโตตามไปด้วย

Cannabis_article-06.png

ชี้เป้า 10 หุ้นกัญชา เติบโตไปกับเทรนด์ปลดล็อก

นับเฉพาะที่ทำธุรกิจในอุตสาหกรรมกัญชาโดยตรง มีถึง 60 บริษัททั่วโลก

แต่ยังมีอีกหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อย่างพัฒนายา บุหรี่ ยาสูบ เหล้า เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และ Consumer Product ต่างๆ ที่เห็นโอกาสและเข้าสู่อุตสาหกรรมกัญชาด้วย

ดังนั้นธุรกิจกัญชาจึงครอบคลุมทั้งระดับต้นน้ำ (วิจัย ขยายพันธุ์ และเพาะปลูก) กลางน้ำ (แปรรูปผลผลิต สกัดสารประกอบ Cannabinoid) และปลายน้ำ (พัฒนายา สินค้าสุขภาพ สินค้าใช้สันทนาการ อาหาร ขนม เครื่องดื่ม สกินแคร์ และเครื่องสำอาง)

Yahoo! Finance ได้จัดทำลิสต์หุ้นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมกัญชา 20 บริษัท และได้เรียงอันดับเรียงตามมาร์เก็ตแคปหุ้น 10 บริษัทที่มึมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้ง 10 บริษัทอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง NYSE และ Nasdaq แต่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศบ้านเกิดด้วย อย่าง Canopy Growth และ Aurora Cannabis ที่อยู่ใน Toronto Stock Exchange ในแคนาดา

ทั้ง Canopy Growth และ Aurora Cannabis เป็นเบอร์ 1 และเบอร์ 2 ผู้ผลิตและแปรรูปกัญชารายใหญ่ของโลก

ส่วน Altria Group ยังถือหุ้นใน Anheuser-Busch InBev จากเบลเยียม และ Cronos Group จากแคนาดา

สำหรับ GW Pharmaceuticals เป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษ ส่วน Tilray เป็นบริษัทสัญชาติแคนาดา

Cannabis_article-05.png

5 ETF ‘หุ้นกัญชา’ ที่น่าสนใจ

ปัจจุบัน ETF (Exchange Traded Fund) หุ้นกัญชาในตลาดหุ้นสหรัฐฯ มี 9 กองทุน ส่วนใหญ่จดทะเบียนซื้อขายใน NYSE แต่ Global X Cannabis ETF (POTX) จดทะเบียนใน Nasdaq และอีก 1 กองทุน Cambria Cannabis ETF (TOKE) จดทะเบียนใน BATS ของ Cboe Global Markets

ETFMG Alternative Harvest ETF (MJ) เป็นกองทุนแรกของโลกในกลุ่มหุ้นกัญชาที่เปิดมาในเดือนธ.ค. 2558 ปัจจุบัน MJ กลายเป็น ETF หุ้นกัญชาที่มีมูลค่า AUM (Asset Under Management) สูงที่สุดในโลก

ส่วน AdvisorShares Pure US Cannabis ETF (MSOS) เป็นกองทุนน้องใหม่ล่าสุด ที่เปิดเมื่อก.ย. 2563 มูลค่า AUM ทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปเมื่อ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็น ETF ที่ลงทุนธุรกิจกัญชาในสหรัฐฯ เพียงอย่างเดียว

ในบรรดา 9 ETF หุ้นกัญชา มีประเภท ETN (Exchange Traded Note) 2 กองทุน Indxx MicroSectors Cannabis ETN (MJJ) และ Indxx MicroSectors Cannabis 2X Leveraged ETN (MJO)

ETN คือ กองทุนที่ลงทุนตราสารหนี้ประเภทไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Unsecured Debt) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้น โดย ETN จะออกโดยสถาบันการเงิน ผู้ถือครอง ETN จะไม่ได้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย เหมือนถือครองตราสารหนี้โดยตรง แต่จะได้เป็นส่วนต่างราคา (Capital Gain) ของ ETN ก็ต่อเมื่อขายออกมา

นอกจากนี้ในตลาดหุ้นแคนาดา ก็ ETF หุ้นกัญชา 4 กองทุน แต่ที่มีมูลค่า AUM สูงสุด คือ Horizons Marijuana Life Sciences Index ETF (HMMJ) มูลค่า AUM 611.85 ล้านดอลลาร์แดนาดา

ที่ผ่านมา ‘หุ้นกัญชา’ ยังจัดว่าเป็นอุตสาหกรรมที่เริ่มตั้งตัว (Established Industry) หรืออยู่ในช่วงเริ่มต้น (Early Stage) ใช้เงินลงทุนและการจ้างงานมหาศาล จึงทำให้ผลประกอบการของแต่ละบริษัทยังไม่สดใส รายได้โต แต่ยังไม่ทำกำไร จึงทำให้ผลตอบแทนย้อนหลังของ ETF หุ้นกัญชายังติดลบ

แต่ปี 2564 เป็นต้นมา หุ้นกัญชาเป็นขาขึ้นขานรับกระแส Cannabis Reform Bill ของสหรัฐฯ รวมทั้งคาดการณ์จากหลายๆ บริษัทกัญชา ปี 2564-2565 ว่าบริษัทพวกเขาจะกลับมาทำกำไรได้ หลังจากขาดทุนมาหลายปี

สำหรับ Jitta Wealth Thematic ได้เลือก MJ เป็นตัวแทนของธีมหุ้นกัญชา เพราะเป็น ETF ที่มีมูลค่า AUM สูงสุดและมีมานาน สะท้อนความมั่นคงของ ETF และเป็น Passive Fund ที่เน้นให้ผลตอบแทนเป็นไปตามดัชนีอ้างอิง

หากมั่นใจแล้วว่า ได้ศึกษาข้อมูลการลงทุนและทำความเข้าใจอุตสาหกรรมกัญชาอย่างรอบด้าน ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://jittawealth.com/thematic

Cannabis_article-07.png

อ่านบทความอื่นๆ

เจาะลึก ETF ‘หุ้นกัญชา’ ทั่วโลก https://blog.jittawealth.com/post/Intro-Cannabis-Thematic-1

Disclaimer

ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

หากผู้ลงทุนต้องการทราบข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มเติม หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการลงทุน ผู้ลงทุนสามารถติดต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด