Covid-19 ไม่จบ 'ธีม Travel Tech' เอาไงต่อดี 

15 พฤศจิกายน 2564DIYJitta WealthOptimizeThematic

ตั้งแต่ปลายปี 2562 โรค Covid-19 ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนทั่วโลกอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน วิถีชีวิตเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และโรคระบาดครั้งประวิติศาสตร์นี้ยังคงอยู่ ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่า Covid-19 จะจบลงเมื่อไร 

เรียกได้ว่า เป็นปัญหาระดับโลกที่ทุกคน ทุกประเทศ และทุกธุรกิจต่างต้องเผชิญ เพื่อปรับตัวและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้

จนในที่สุดปลายปี 2563 มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ คือ วัคซีนป้องกัน Covid-19 มีความคืบหน้าอย่างมาก และสามารถใช้ได้ทันทีที่หน่วยงานของรัฐอนุมัติ 

หลากหลายบริษัทในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ต่างร่วมกันพัฒนาประสิทธิภาพของวัคซีน เพื่อการป้องกันโรค ลดการแพร่ระบาด และบรรเทาอาการป่วยรุนแรง รวมไปถึงจุดหมายสำคัญคือ การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ด้วยความหวังจะคืนวิถีชีวิตและสภาพเศรษฐกิจให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด เพราะนั้นคือ ลมหายใจที่อาจจะเป็นเฮือกสุดท้ายของหลายๆ อุตสาหกรรม รวมไปถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

แต่ใครจะคาดคิดว่า เจ้าเชื้อไวรัส Covid-19 กลายพันธุ์ได้อีกหลายสายพันธุ์ เกิดการระบาดครั้งใหม่อีกหลายรอบ วัคซีนที่มีอยู่…อาจจะไม่สามารถป้องกันได้ ความหวังที่จะได้เปิดเมือง ทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจและท่องเที่ยวต้องชะงักงันอีกหลายๆ ครั้ง

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก กลายเป็นกลุ่มที่เจ็บหนักที่สุดในวิกฤต Covid-19 จากมาตรการล็อกดาวน์ ปิดประเทศ และห้ามเดินทาง จำเป็นต้องพึ่งพาปัจจัยหนุนต่างๆ เช่น อัตราการฉีดวัคซีนป้องกัน ยารักษาโรคที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ รวมไปถึงมาตรการเปิดประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้กลับมาเดินทางอีกครั้ง 

หากคุณสนใจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อาจจะมีคำถามว่า ในเมื่อ Covid-19 ยังอยู่และอาจจะเป็นโรคประจำถิ่นในอนาคต เมื่อไรที่การท่องเที่ยวจะกลับมา เมื่อไรที่ธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้จะฟื้นตัวและเติบโต เพราะ ‘การท่องเที่ยว’ เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้คนทั่วโลก

เช่นเดียวกับ ETF (Exchange Traded Fund) ในธีมเทคโนโลยีท่องเที่ยว หรือ Travel Tech อย่าง ETFMG Travel Tech ETF (AWAY) คุณคงมีคำถามเช่นกันว่า AWAY จะไปต่อได้หรือไม่…เมื่อไร 

บทความนี้ Jitta Wealth จะพาคุณไปหาคำตอบ พร้อมผ่าไส้ในผลประกอบการของบริษัทอยู่ใน ‘ธีม Travel Tech’ จนถึงตอนนี้…งบการเงินเป็นอย่างไร 

ผลประกอบการบริษัทใน ‘ธีม Travel Tech’ ดีขึ้นหรือไม่

เกือบ 40 บริษัทที่ AWAY ลงทุนอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก โดย 3 อันดับแรกที่ครองสัดส่วนรวมมากกว่า 50% ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง และสหราชอาณาจักร 

หุ้นอันดับต้นๆ ของ AWAY อัดแน่นไปด้วยบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นบริการจองตั๋วและที่พักออนไลน์ แพลตฟอร์มข้อมูลท่องเที่ยวทั่วโลก และแอปพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่ที่ให้บริการทั่วโลก

ทีมงาน Jitta Wealth อัปเดตผลประกอบการล่าสุด ปี 2564 ของ 7 บริษัทชื่อดังใน ‘ธีม Travel Tech’ ได้แก่ Airbnb Expedia Booking Uber Lyft Trip.com และ TripAdvisor โดยงบการเงินไตรมาสล่าสุด หลายๆ บริษัทเติบโตสูงขึ้น เพราะเติบโตจากฐานที่ต่ำและขาดทุนในปี 2563 พร้อมทั้งคาดการณ์รายได้ในอีก 2 ปีข้างหน้าที่มีแนวโน้มเติบโต

คุณอาจจะลงทุนเลือกธีมเทคโนโลยีท่องเที่ยวใน Thematic DIY อยู่แล้ว หรืออาจจะกำลังสนใจธีมนี้ ลองพิจารณาดูว่า โอกาสและศักยภาพของหุ้นไส้ในของ AWAY จะกลับมาฟื้นตัวได้อีกหรือไม่ หลังจาก Covid-19 คลี่คลาย

Airbnb 

แม้ว่า Airbnb จะได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ยอดจองที่พักลดฮวบฮาบ แต่ CEO ของ Airbnb กลับมองในแง่ดีว่า ถึงธุรกิจท่องเที่ยวสูญเสียไปกว่า 80% เพราะโรคระบาด แต่ในขณะเดียวกัน พฤติกรรมของผู้คนทั่วโลกก็เปลี่ยนไป และอาจจะเปลี่ยนไปตลอดกาล 

นักท่องเที่ยวกลับมีเวลามากขึ้น มีความยืดหยุ่นในชีวิตมากขึ้น เช่น การทำงานแบบ Work from Anywhere ทำให้ใช้บริการในโรงแรมได้นานขึ้น เมื่อก่อนเราเคยทำงานที่หนึ่ง บ้านที่หนึ่ง แต่ในปัจจุบัน มันรวมกันไปแล้ว นี่คือการเปลี่ยนแปลง และผลักดันคือให้คนเดินทางมากขึ้น 

Airbnb ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีกำไรที่แข็งแกร่ง มีรายได้ในไตรมาสที่ 3 สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา อยู่ที่ 2,240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 67% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

งบการเงินจริงและคาดการณ์ของ Airbnb ปี 2562-2566 (หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

งบการเงิน25622563256425652566
รายได้รวม4,805.2 3,378.25,929.047,335.778,997.94
%เปลี่ยนแปลง+31.6%-29.7%+75.51% +23.73%+22.66%
กำไรขั้นต้น3,608.92,502.2N/AN/AN/A
%อัตรากำไร75.1%74.1%79.78%79.57%80.09%
ที่มา: S&P Capital IQ

Expedia 

Expedia รายงานรายได้ที่ 2,960 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นถึง 97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้อีกด้วย ยอดจอง (Gross Bookings) ในไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 117% อยู่ที่ 18,725 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่ากำไรสุทธิและ Ebitda จะยังไม่เท่าปี 2562 ก่อนเกิด Covid-19 แต่มีตัวเลขใกล้เคียงและมีทิศทางการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด

CEO ของ Expedia เชื่อมั่นว่า ไตรมาสที่ 4 มีสัญญาณการฟื้นตัวจากการเปิดประเทศและต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการเติบโตจะมีอย่างต่อเนื่องในอนาคต

งบการเงินจริงและคาดการณ์ของ Expedia ปี 2562-2566 (หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

งบการเงิน25622563256425652566
รายได้รวม12,0675,1998,621.4211,702.8713,606.45
%เปลี่ยนแปลง+7.5%-56.9%+65.83%+35.74%+16.27%
กำไรขั้นต้น9,9903,519N/AN/AN/A
%อัตรากำไร82.8%67.7%81.82%82.28%83.13%
ที่มา: S&P Capital IQ

Booking

Booking รายงาน Gross Bookings รวมในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 อยู่ที่ 23,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 77% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รายได้รวมในไตรมาสเดียวกัน อยู่ที่ 4,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 77% 

CEO ของ Booking มั่นใจในสัญญาณการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดในไตรมาสที่ 3 ที่มีรายได้เป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 นั่นหมายว่า ไตรมาสต่อๆ ไปการท่องเที่ยวก็จะฟื้นตัว

งบการเงินจริงและคาดการณ์ของ Booking ปี 2562-2566 (หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

งบการเงิน25622563256425652566
รายได้รวม15,0666,79610,858.9215,687.7718,613.26
%เปลี่ยนแปลง+3.7%-54.9%+59.78%+44.47%+18.65%
กำไรขั้นต้น12,8184,852N/AN/AN/A
%อัตรากำไร85.1%71.4%99.50%99.65%99.50%
ที่มา: S&P Capital IQ

Uber

Uber รายงาน Gross Bookings ทำสถิติสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 ไว้ที่ 23,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้รวมในไตรมาสเดียวกัน เพิ่มขึ้น 72% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

CEO ของ Uber บอกว่า การฟื้นตัวที่ชัดเจนมาจากธุรกิจ Mobility ซึ่งก็คือ บริการเรียกรถแท็กซี่ออนไลน์ ที่มีกำไรเทียบเท่าช่วงก่อนเกิด Covid-19 และมาตรการล็อกดาวน์ที่ทำให้ธุรกิจ Delivery กลับมามี Ebitda เป็นบวกได้ครั้งแรก นับตั้งแต่แตกไลน์ทำธุรกิจนี้ ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการปี 2564 ถึงจุดคุ้มทุน หรือ Breakeven

งบการเงินจริงและคาดการณ์ของ Uber  ปี 2562-2566 (หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

งบการเงิน25622563256425652566
รายได้รวม13,00011,13916,970.4324,768.2931,213.63
%เปลี่ยนแปลง+24.6%-14.3%+52.35%+45.95%+26.02%
กำไรขั้นต้น4,6374,356N/AN/AN/A
%อัตรากำไร35.7%39.1%49.03%53.25%54.87% 
ที่มา: S&P Capital IQ

Lyft 

Lyft ผู้ให้บริการเรียกรถออนไลน์ (Ride Sharing and Hailing) เหมือนกับ Uber มีรายได้รวมในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 864.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 73% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2564

CFO ของ Lyft บอกว่า บริษัทมีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2 ไตรมาสติดต่อกัน และรายได้ต่อคนขับรถก็เพิ่มขึ้น เพราะความถี่ในการเรียกรถสูงขึ้น คาดว่า ไตรมาสที่ 4 จะมีการเติบโตที่ชัดเจนกว่านี้ เนื่องจากมีคนขับให้บริการมากพอที่จะแข่งขันด้านราคาได้  

งบการเงินจริงและคาดการณ์ของ Lyft  ปี 2562-2566 (หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

งบการเงิน25622563256425652566
รายได้รวม3,6162,364.73,180.274,441.555,424.96
%เปลี่ยนแปลง+67.7%-34.6%+34.49%+39.66%+22.14%
กำไรขั้นต้น803.4531.5N/AN/AN/A
%อัตรากำไร22.2%22.5%53.81%58.82%60.02%
ที่มา: S&P Capital IQ

Trip.com 

Trip.com ให้บริการจองตั๋วและที่พักออนไลน์ในจีนเป็นหลัก งบการเงินล่าสุด คือ ไตรมาสที่ 2 มีรายได้รวมอยู่ที่ 912 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 86% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในตลาดท่องเที่ยวจีน และเติบโต 43% จากไตรมาสที่ 1 ปี 2564 เนื่องจากการคลายมาตรการล็อกดาวน์จากช่วงต้นปี 2564 

สำหรับยอดจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบินในจีน ช่วงไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นถึง 150% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เทรนด์การเดินทางแบบ Staycation ทำงานจากที่ไหนก็ได้เป็นตัวขับเคลื่อนในการฟื้นตัวครั้งนี้ด้วย 

ถึงแม้จะมีกำไรขึ้นต้นที่ 72% ในไตรมาสที่ 2 แต่ Trip.com ยังมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 476 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดยผู้บริหารของ Trip.com มองเห็นโอกาสการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในจีนและทั่วโลก และเตรียมปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวทั่วโลกหลังจาก Covid-19 คลี่คลาย 

งบการเงินจริงและคาดการณ์ของ Trip.com ปี 2562-2566 (หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

งบการเงิน25622563256425652566
รายได้รวม5,579.72,865.43,176.124,800.026,164.76
%เปลี่ยนแปลง+15.2%-48.6%+10.84%+51.13%+28.43%
กำไรขั้นต้น4,426.42,234.8N/AN/AN/A
%อัตรากำไร79.3%78.0%76.93%78.51%79.03%
ที่มา: S&P Capital IQ

TripAdvisor

TripAdvisor ให้บริการข้อมูลท่องเที่ยวขนาดใหญ่ของโลก พร้อมทั้งมีชุมชนออนไลน์ให้สมาชิกเข้ามารีวิวสถานที่ที่น่าสนใจต่างๆ รายงานรายได้รวมไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 303 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 101% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทเห็นสัญญาณการฟื้นตัวและความต้องการท่องเที่ยวจากมาตรการเปิดประเทศและการฉีดวัคซีนทั่วโลก และมีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวในระยะต่อไป รวมไปถึงทิศทางธุรกิจในระยะยาว

แม้ว่า บริษัทจะบันทึกกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 เพียง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Ebitda ในไตรมาสเดียวกันเพิ่มขึ้น ​​380% มาอยู่ที่ 72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

งบการเงินจริงและคาดการณ์ของ Tripadvisor  ปี 2562-2566 (หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

งบการเงิน25622563256425652566
รายได้รวม1,560604913.801,378.881,600.22
%เปลี่ยนแปลง-3.4%-61.3%+51.29%+50.90%+16.05%
กำไรขั้นต้น1,466549.0N/AN/AN/A
%อัตรากำไร94.0%90.9%91.89%93.24%93.38%
ที่มา: S&P Capital IQ

จะเห็นได้ว่า ปี 2564 สถานการณ์ Covid-19 ยังลุ่มๆ ดอนๆ เพราะทั่วโลกต้องเฝ้าระวังเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ ทำให้แต่ละประเทศยังต้องออกมาตรการล็อกดาวน์ แต่ด้วยความพยายามเปิดเมืองให้ท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก ทำให้ผลประกอบการของทั้ง 7 บริษัทยังเติบโตได้ดี บางบริษัทกลับมามีกำไรเกือบเท่ากับช่วงก่อนเกิด Covid-19 และบางบริษัทสร้างกำไรเติบโตสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

หลังจากเดือนมีนาคม ราคา AWAY ลดลงหลังจากทำจุดสูงสุด แต่ก็ไม่ได้ดิ่งลงเท่ากับปี 2563 ที่ทั้งโลกเผชิญกับวิกฤต Covid-19 และยังไม่มีวัคซีนมาช่วยให้เกิดภูมิคุ้มกัน เพื่อเดินทางท่องเที่ยวได้

เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ราคา AWAY เริ่มไต่ระดับสูงขึ้น ขานรับงบการเงินที่ฟื้นตัวของหุ้นใน ETF ไม่ว่าจะเป็นราคาหุ้น Airbnb และ Expedia ซึ่ง AWAY ลงทุนในทั้ง 2 บริษัทรวมๆ เกือบ 10% 

สรุปได้ว่า ภาพรวมของหุ้นใน AWAY เริ่มมีทิศทางที่สดใส มีการท่องเที่ยวในประเทศเป็นปัจจัยหนุนสำคัญในปี 2564 และทุกธุรกิจก็ฝากความหวังในการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากการคาดการณ์ของ S&P Capital IQ มีมุมมองเชิงบวกต่องบการเงินของบริษัทใน AWAY ประเมินว่า ในปี 2564-2566 แต่ละบริษัทที่มีรายได้เติบโตสูงเป็นตัวเลข 2 หลัก และมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ในระดับสูง ส่งผลต่อกำไรสุทธิให้เป็นบวกด้วยเช่นกัน

Travel Tech

โอกาสเติบโตของ AWAY ไปต่อได้หรือไม่

AWAY เป็น ETF กองเดียวในโลกที่ลงทุนบริษัทกลุ่ม Travel Tech เป็น Passive ETF ลงทุนให้ผลตอบแทนจะเป็นไปตามดัชนี Prime Travel Technology Index วัดผลประกอบการของหุ้นใน ‘ธีม Travel Tech’ ทั่วโลก 

นอกจากนี้ AWAY มีความแตกต่างจาก ETF ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ลงทุนเป็นอุตสาหกรรมโรงแรม ร้านอาหาร ท่องท่องเที่ยว และสายการบิน เพราะมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่มีรายได้จากการทำธุรกรรมท่องเที่ยวและเดินทางออนไลน์ รวมไปถึงบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีเป็นพื้นฐานในธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ

หุ้นที่ AWAY เลือกลงทุนมีเกือบ 40 บริษัท ที่ดัชนีอ้างอิงยังคงเพิ่มบริษัทในกลุ่ม Travel Tech ใหม่ๆ มาคำนวณด้วย ล่าสุดเพิ่ม Corporate Travel Management และ Helloworld Travel จากออสเตรเลีย สะท้อนมีบริษัทและสตาร์ตอัปรายใหม่ๆ เข้าสู่ธีม Travel Tech อีกในอนาคต สะท้อนศักยภาพเติบโตในระยะยาว 

พฤติกรรมการท่องเที่ยวของผู้คนทั่วโลกเปลี่ยนไปมาก ทุกคนพึ่งพาเทคโนโลยีเพื่อวางแผนในการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ เช่น การค้นหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ การจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก รวมไปถึงตั๋วเข้าชมสถานที่ต่างๆ ที่มาพร้อมกับส่วนลดอีกมากมายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ นั้นหมายความว่า คุณสามารถไปท่องเที่ยวทั่วโลกได้ด้วยอินเทอร์เน็ตและระบบดิจิทัลในมือ

มีการสำรวจจาก TripAdvisor และ Phocuswright ระบุว่า พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในการใช้บริการออนไลน์มีสัดส่วนที่สูงขึ้นเป็น 53% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตเฉลี่ยกว่า 8% ต่อปี 

สำหรับ AWAY จึงเป็น ETF ที่เกาะไปกับเทรนด์นี้ เพราะจะได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวหลัง Covid-19 และการใช้เทคโนโลยีเพื่อวางแผนท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กัน 

นอกจากงบการเงินของหุ้นใน AWAY ปรับตัวดีขึ้นมากในปี 2564 สภาพคล่องของ AWAY ดีกว่าค่ามัธยฐานของ ETF กลุ่มอุตสาหกรรมและธีมธุรกิจอื่นๆ อีกด้วย 

เมื่อทุกๆ อย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง วัคซีนป้องกันกระจายไปทั่วโลก ยารักษาสามารถนำไปใช้ได้ รวมไปถึงการบริจาควัคซีนเพื่อช่วยเหลือกันให้มากที่สุด สะท้อนภาพว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ แต่มั่นคง และกลับเข้าสู่ภาวะปกติในไม่ช้า  พร้อมทะยานเติบโต เมื่อทุกประเทศเปิดให้เดินทางท่องเที่ยวได้อย่างเสรี 

ดังนั้นโอกาสและศักยภาพเติบโตของ AWAY ยังมีอยู่ และจะเติบโตอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2-3 ปีหลังจากนี้ ส่วนราคา AWAY ที่ลดลงบ้างในช่วงที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ในเมื่อสถานการณ์ Covid-19 ยังไม่จบดี และเรายังเอาชนะโรคอุบัติใหม่นี้ไม่ได้ ราคายังมีความผันผวน

Jitta Wealth หวังว่า ข้อมูลที่เรารวบรวมมาให้นี้จะสามารถช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น หากคุณลงทุนธีม Travel Tech ในกองทุนส่วนบุคคล Thematic DIY จะเปลี่ยนธีมดีหรือไม่ หรือเลือกจัดพอร์ตลงทุน AWAY ต่อไป   

ถ้าพิจารณาช่วงเวลานี้ ความเคลื่อนไหวของราคา AWAY จะยังเผชิญกับความไม่แน่นอน ต้องรอความชัดเจนในการเปิดประเทศให้ท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่ถ้าคิดถึงระยะยาว ใครๆ ก็ต้องการท่องเที่ยว ออกเดินทางอยู่ตลอดเวลาใช่หรือไม่ และอิทธิพลของเทคโนโลยีกับอินเทอร์เน็ต คุณจะเลือกวางแผนท่องเที่ยว จองตั๋วเครื่องบินหรือรถไฟ และจองที่พักต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ใช่หรือไม่

นี่ต่างหากที่ทำให้ธีม Travel Tech หรือเทคโนโลยีท่องเที่ยวเป็นเมกะเทรนด์ที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาว และการลงทุนในช่วงที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกกำลังฟื้นตัว…เป็นโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดี

อ่านมาถึงตรงนี้ หากคุณเชื่อมั่นในธีม Travel Tech และมองว่า ช่วงหลัง Covid-19 เป็นโอกาสลงทุน สามารถเข้าศึกษาเพิ่มเติมในเว็บไซต์หรือสอบถามเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนได้ที่ Line ID: @JittaWealth


กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ผู้บุกเบิกสตาร์ตอัป WealthTech สัญชาติไทยรายแรก ที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01

ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน


อ้างอิง 

  1. AWAY Tech Expensiveness And Risks Of Travel https://seekingalpha.com/article/4456488-away-travel-etf-tech-expensiveness-risks-travel
  2. Airbnb CEO: We had to rebuild our company from the ground up https://edition.cnn.com/2021/09/21/perspectives/airbnb-ceo-brian-chesky-work-travel/index.html
  3. 2021 Investor Presentation by Tripadvisor https://ir.tripadvisor.com/static-files/44b02759-f1e9-42c9-b4b6-203cc15ae461
  4. Travel, Leisure ETFs Rally on Airbnb, Expedia Q3 https://www.etftrends.com/travel-leisure-etfs-rally-on-airbnb-expedia-q3-beat/
  5. What’s next for Airbnb stock 18% Rise Last week? https://www.forbes.com/sites/greatspeculations/2021/11/09/whats-next-for-airbnb-stock-after-18-rise-last-week/?sh=7a48259672c0
  6. Trip.com Investor Relations https://investors.trip.com
  7. Booking Holdings Reports Financial Results https://ir.bookingholdings.com/static-files/bff77f68-ab03-4369-a3f7-595b09f5570e
  8. Uber Announces Results for Third Quarter 2021 https://investor.uber.com/news-events/news/press-release-details/2021/Uber-Announces-Results-for-Third-Quarter-2021/
  9. Lyft Announces Strong Third Quarter Results https://s27.q4cdn.com/263799617/files/doc_financials/2021/q3/LYFT-2021.09.30-Press-Release-(Quarterly)-(1).pdf

อ่านบทความ Travel Tech ที่เกี่ยวข้อง 

ผ่าไส้ใน ETF AWAY หุ้น Travel Tech รับเทรนด์ท่องเที่ยวฟื้น

ลงทุน Travel Tech ก่อน…ได้เปรียบ

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด