ทางคุณเนย ธนพร เจียรนัยกุลวานิช จากเพจ Stock JourNoey ได้เชิญคุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Jitta Wealth มาพูดคุยเกี่ยวกับบริการกองทุนส่วนบุคคลของ Jitta Wealth โดย Live ผ่าน Zoom ในหัวข้อ ‘ลงทุนไม่เก่ง ก็ซื้อ ETF ตามเมกะเทรนด์โลกได้’
ก่อนหน้านี้ ทางเพจ Stock JourNoey ได้ทำ Special Content 2 เรื่อง ร่วมกับ Jitta Wealth คือ Jitta Wealth กองทุนส่วนบุคคลที่ใช้ระบบอัตโนมัติช่วยดูแลพอร์ตการลงทุน และ แจก E-book เรื่องกองทุน ETF ในภาษาง่ายๆ สรุปสาระสำคัญของลงทุนในกองทุน ETF ต่างประเทศของ Jitta Wealth และแนะนำ E-book ที่ Jitta Wealth ได้พัฒนาร่วมกับ Passive Way ที่ต้องการจะให้ความรู้การลงทุนในกองทุน ETF ทุกมิติ
มีคำถามจากทางแฟนเพจ Stock JourNoey เกี่ยวกับบริการกองทุนส่วนบุคคลต่างๆ ของ Jitta Wealth โดยคุณเผ่า แนะนำ Jitta Wealth ว่า เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เป็นสตาร์ทอัพประเภท WealthTech รายแรกของไทย ที่มีใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการให้บริการกองทุนส่วนบุคคล
“บลจ. แบบ Jitta Wealth แตกต่างจากบลจ. ที่บริหารกองทุนรวม การบริหารกองทุนส่วนบุคคล บางที่จะต้องมีเงินในระดับ 10 ล้าน 20 ล้านถึงจะลงทุนได้ เพื่อให้สามารถกระจายการลงทุนไปได้หลายสินทรัพย์และคุ้มกับค่าธรรมเนียม ค่าธรรมเนียมผู้รับฝากสินทรัพย์ และมีขั้นต่ำที่ต้องจ่าย หากเงินลงทุนน้อย ก็ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายต่างๆ และกัดกินผลตอบแทน แต่มีจุดเด่น คือกองทุนเป็นของเราเอง เลือกลงทุนได้เอง”
“ส่วนกองทุนรวม คือการรวมเงินลงทุนจากหลายๆ คน แล้วไปลงทุน จึงใช้เงินน้อยกว่า มีจะมีเงื่อนไขในการเข้าลงทุนสินทรัพย์ สัดส่วนการถือหุ้น และค่าบริหารจัดการต่างๆ”
“Jitta Wealth อยากสร้างบริการกองทุนส่วนบุคคล ที่ใช้เงินลงทุนน้อย ลดขั้นตอนการเปิดบัญชีต่างๆ นำเทคโนโลยีมาช่วย ดังนั้นเราจึงสามารถนำเสนอบริการด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อย เงินลงทุนเริ่มต้น 100,000 บาท ซึ่งเป็นวงเงินที่มีโอกาสทำกำไร”
คุณเผ่า บอกว่า เก็บเงินก่อนลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ อาจจะกันเงินจากรายได้หรือเงินเดือนออกมาก่อน 10% สะสมให้เป็นก้อนใหญ่ขึ้น หากเรามีโอกาสลงทุน ก็ใช้เงินก้อนนี้ มาลงทุนให้เงินงอกเงยได้
Jitta Wealth มี 3 บริการกองทุนส่วนบุคคล คือ
ย่อมาจาก Exchange Traded Fund อยู่ในรูปแบบกองทุนที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ หากมีบัญชีซื้อขายหุ้นอยู่แล้ว สามารถซื้อกองทุน ETF ได้เลย แตกต่างจากกองทุนรวมที่ต้องไปเปิดบัญชีที่ธนาคาร นายหน้าขายหน่วยลงทุน หรือบลจ.
กองทุนมีข้อดี คือ กระจายความเสี่ยงไปทุกสินทรัพย์ คุณเผ่าบอกว่า กองทุนที่ลงทุนหุ้นสหรัฐฯ 500 ตัว เป็นการกระจายความเสี่ยง ไม่ผันผวนเหมือนลงทุนหุ้นเพียง 1 ตัว แต่สำหรับกองทุน ETF มีจุดเด่นที่เหมือนหุ้น คือ ราคา Real-time
“ผมไม่มีความรู้ในตลาดหุ้นจีน ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน หากลงทุนหุ้นรายตัว ไม่น่าจะรอด ถือหุ้น 10 ตัว อาจจะขายไม่ทัน ถ้าซื้อ ETF ที่ลงทุนในตลาดหุ้นจีนไปเลย ถ้าลดพอร์ตลงทุนหุ้น หรือขายออกในอนาคต ก็สามารถทำได้เลย จาก ETF กองเดียว”
“ETF ในไทย อาจจะไม่ได้รับความนิยมมากนัก มี 17 กองทุน แต่ต่างประเทศนิยมมาก เพราะค่าบริหารจัดการถูกกว่ากองทุนรวมทั่วไป ถ้าคุณเลือกลงทุนถูกกอง คุณอาจจะไม่เหนื่อยเลย ได้ผลตอบแทนมากกว่าหุ้นรายตัว”
คุณเผ่า บอกว่า ปีนี้ทั่วโลกมี Covid-19 การซื้อหุ้น 1 ตัวมันยาก ลงทุน ETF หุ้นจีน ลงหุ้นอเมริกา ก็เท่ากับกระจายความเสี่ยงในหุ้นหลายๆ ตัว กองทุน ETF ที่ลงทุนในพันธบัตรหรือหุ้นกู้ก็กระจายความเสี่ยงเหมือนกัน หากประเทศไหนหรือบริษัทไหนผิดนัดชำระหนี้ ยังมีหุ้นกู้ตัวอื่นๆ ที่ยังสามารถจ่ายดอกเบี้ยให้กองทุน ETF ได้ ไม่ล้มไปทั้งหมด
“หากจะเลือกลงทุน ETF ต่างประเทศเอง ก็สามารถทำได้ คุณเปิดบัญชีซื้อขายจากโบรกเกอร์ไทย แต่ก็มีเงื่อนไข เช่น ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ขั้นต่ำ ค่าธรรมเนียมโอนเงินครั้งละ 1,000 บาท หากมีเงินลงทุนน้อย ก็ไม่คุ้มที่จะซื้อลงทุน เพราะค่าใช้จ่ายต่างๆ กัดกินเงินลงทุนและผลตอบแทน”
คุณเผ่า บอกว่า Jitta Wealth มี 3 เกณฑ์ในการคัดเลือกกองทุน ETF ต่างประเทศ
นอกจากนี้ Jitta Wealth ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยคัดกรองกองทุน ETF และจะรีวิวกองทุนเหล่านี้ หากในอนาคตกองทุน ETF ที่เลือกไว้ เพิ่มค่าบริการจัดการ จะคัดเลือกกองทุนตัวใหม่ ดังนั้นนักลงทุนไม่ต้องเสียเวลาคัดเลือกกองทุนเอง
Thematic ถูกออกแบบมาสำหรับการลงทุนในกองทุน ETF หุ้นโดยเฉพาะ แต่เป็นการคัดเลือกจากมุมมองที่ว่า อะไรที่กำลังจะเป็นทิศทางธุรกิจในอีก 10 ปี หรือ 20 ปี ข้างหน้า หรือที่เรียกว่า Mega Trend จึงเป็นที่มาของ 8 ธีมธุรกิจและ 3 ธีมตลาดหุ้น
“เราต้องรู้ว่าย้อนกลับไปเมื่อ10 ปี หรือ 20 ปีก่อน ตอนนั้นธุรกิจห้าง Modern Trade กำลังเติบโต คนเปลี่ยนจากการเดินตลาดมาเดินห้าง แต่ตอนนี้เป็นโลกของเทคโนโลยีและดิจิทัล ดังนั้น Mega Trend ก็เปลี่ยนไป”
“Covid-19 หุ้นเทคโนโลยีโต 15% หุ้นสุขภาพโต 12% หุ้นอีคอมเมิร์ซโตเกือบ 100% รวมทั้งกลุ่มเทคโนโลยีย่อยๆ อย่าง ฟินเทค อีสปอร์ต และคลาวด์ ก็เติบโตก้าวกระโดดจาก Covid-19”
คุณเผ่า บอกว่า Jitta Wealth ได้เพิ่มธีมธุรกิจใหม่คือ เทคโนโลยีจีน เข้ามาเป็นธีมที่ 11 เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับ Mega Trend ของจีนแผ่นใหญ่ ที่แข็งแกร่งไม่แพ้หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ
“กองทุน ETF หุ้น ถ้าเลือกได้ถูกตัว พอร์ตโตได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปเลือกหุ้นรายตัว ดังนั้นคนที่เลือก Thematic ควรมีประสบการณ์จากการลงทุนในตลาดหุ้นมาด้วย”
Global ETF ถูกออกแบบมาให้นักลงทุนที่ไม่ความชอบผันผวนของหุ้น เอาทฤษฎี Modern Portfolio Theory มาจัดสัดส่วนระหว่างกองทุน ETF หุ้นและตราสารหนี้ในพอร์ตลงทุน หลักการจัดพอร์ตนี้จะแม่นยำ จึงคาดหวังผลตอบแทนได้เลย
คุณเผ่า บอกว่า หัวใจของ Global ETF คือ วินัยการลงทุน ถ้าเราลงทุนเอง เจอช่วงหุ้นร่วงถี่ๆ ช่วงล็อกดาวน์ อาจจะถอดใจ ไม่กล้าซื้อต่อ ตามหลักการแล้ว ช่วงที่หุ้นลง ต้องเข้าลงทุน รอช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้เราได้กำไร
Global ETF เจอสถานการณ์แบบ Covid-19 จะปรับพอร์ตทันที เพราะมูลค่าพอร์ตของหุ้นจะลดลง ระบบของ Jitta Wealth จะขายส่วนกองทุน ETF ตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงน้อยและมีผลตอบแทนดี มาซื้อกองทุน ETF หุ้นแทน และปรับสัดส่วนของพอร์ตลงทุนให้เป็นไปตามแผนที่ลูกค้าเลือกไว้
“เอาเทคโนโลยีมาช่วยให้พอร์ตลงทุนมีวินัย ซึ่งไม่ใช่การจับจังหวะตลาด ปรับพอร์ตลงทุนเมื่อสัดส่วนมีการเปลี่ยนแปลงจากแผนเกิน 5% ดังนั้นจะปรับพอร์ตไม่บ่อย ค่าบริหารจัดการจึงไม่สูง”
“Thematic ก็ใช้หลักการคือ ลงทุนเท่าๆ กัน เลือกได้สูงสุด 5 ธีม เพราะเป็นการกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสม หากธีมใดธีมหนึ่งมาการเปลี่ยนแปลงจากสัดส่วนเกิน 5% ระบบก็จะทำการขาย ETF ธีมนั้น มาลงทุนในธีมที่เหลือ และปรับสัดส่วนให้เท่ากัน”
คุณเผ่า บอกว่า ทุกครั้งที่มีการเพิ่มทุนเข้ามา ก็จะมาจัดสัดส่วนตามแผนการลงทุน หรือตามจำนวนธีมที่เลือกเช่นเดียวกัน
คุณเผ่า บอกว่า ค่าธรรมเนียม 2 ส่วน ส่วนที่เป็นค่าธรรมเนียมการจัดการ 0.5% ต่อปี เป็นการเรียกเก็บจาก Jitta Wealth เอง ปีละ 500 บาท หรือเดือนละ 41.6 บาท สำหรับเงินลงทุน 100,000 บาท
ส่วนที่ 2 คือ ค่าธรรมเนียมจากหน่วยงานภายนอกที่มีใบอนญาตจากก.ล.ต. เช่น ค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ 0.2% สำหรับกองทุน ETF ที่อยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ 200 บาท สำหรับเงินลงทุน 100,000 บาท ค่าธรรมเนียมรับฝากสินทรัพย์ 0.1% ต่อปี หรือขั้นต่ำ 80 บาทต่อเดือน และค่าธรรมเนียมค่าโอนเงินไปต่างประเทศ 500 บาท จ่ายครั้งเดียว
“Jitta Wealth จะทำเงื่อนไขต่างๆ ให้โปร่งใส เวลาโอนเงินเข้ามาลงทุนกับเรา เราจะโอนเงินให้โบรกเกอร์ ที่ทำหน้าที่ซื้อขายหลักทรัพย์และดูแลสินทรัพย์จัดการต่อเลย หากเราเลิกทำ กองทุนส่วนบุคคลของคุณยังอยู่ กระบวนโอนเงิน เปลี่ยนค่าเงิน และลงทุนตามแผน จะใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน”
“ช่วงนี้ค่าเงินบาทแข็ง เป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนต่างประเทศ เพราะคุณจะได้กำไรส่วนที่เกินจากการลงทุนและค่าเงินด้วย เพราะตอนนี้อยู่ที่ 29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ไม่คิดว่าจะแข็งไปมากกว่านี้ เพราะแบงก์ชาติก็ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนอยู่”
“แต่การลงทุนต่างประเทศ มีความเสี่ยงเรื่องค่าเงินอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับระยะเวลาลงทุน 3-5 ปี ได้ผลตอบแทนทบต้นมาเยอะตามระยะ หากมีผลขาดทุนค่าเงิน ก็จะไม่มีผลต่อพอร์ตลงทุนมากเท่าลงทุนเพียง 1 ปี ที่ได้ผลตอบแทนสะสมไม่มาก”
คุณเผ่า ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า หากคุณสนใจกองทุนส่วนบุคคลของ Jitta Wealth อยากให้ศึกษาหลักการลงทุนให้เข้าใจก่อน เพราะถ้าเริ่มลงทุนเลย โดยที่ยังไม่เข้าใจ นักลงทุนจะไม่สบายใจ ดังนั้นทำความเข้าใจกับบริการของ Jitta Wealth เมื่อมั่นใจแล้ว จึงค่อยเริ่มลงทุน
หากคุณสนใจจะเปิดบัญชีลงทุนกับ Jitta Wealth สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน สร้างบัญชี เลือกแผนการลงทุน ถ่ายรูปพร้อมบัตรประชาชน ทาง Jitta Wealth จะยืนยันตัวตนภายใน 24 ชั่วโมง ทุกขั้นตอนมีความปลอดภัย คุณสามารถตรวจสอบ ดูพอร์ตลงทุนผ่านแอปพลิเคชันได้เลย
คุณสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Thematic https://jittawealth.com/thematic
Global ETF https://jittawealth.com/global-etf
Jitta Ranking https://jittawealth.com/jitta-ranking