Jitta Wealth Journal - ลุ้น Microsoft พุ่งแรงแซง Apple

29 มิถุนายน 2564Jitta WealthJitta Wealth Journal

รอย่อรอเก้อ…เวียดนามแตะ 1,400 จุด 

Jitta Wealth Journal ฉบับที่ 31 ประจำวันที่ 29 มิถุนายน 2564 มีความเคลื่อนไหวจากทุกมุมโลก ที่มีผลต่อการลงทุน ดังนี้

  • Microsoft กับมาร์เก็ตแคป 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ดัชนี VNI 1,400 จุด ไม่นานเกินรอ
  • อังกฤษตรวจสอบรีวิวปลอมในกลุ่มบิ๊กเทค
  • Starlink ของ Elon Musk เตรียม IPO ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า 
  • Tesla จะเรียกคืนรถเกือบ 300,000 คันในจีน
  • หวั่นชิปล้นตลาด ยักษ์ใหญ่ขยายกำลังการผลิตทั่วโลก
  • เสฉวนและฉงชิ่ง เตรียมดึงลงทุนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์
  • จีนเป็นตลาดบอนด์สกุลเงินหยวนใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก
  • เศรษฐกิจทั่วโลกจะขยายตัวสูงขึ้นจากการเปิดพรมแดน

ไปติดตามกันได้เลย


2 ธีมใหม่ของ Jitta Wealth Thematic พร้อมให้คุณลงทุนแล้ววันนี้

Jitta Wealth

ธีมจีโนมิกส์ (Genomics) ธุรกิจที่จะมาพลิกโฉมวงการสุขภาพทั่วโลก ลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาล ด้วยการวินิจฉัยโรคลึกไปถึง DNA

ลงทุนใน iShares Genomics Immunology and Healthcare ETF อิงผลตอบแทนตาม 2 ดัชนี คือ NYSE Factset Global Genomics และ Immuno Biopharma Index 

ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 34.08% (ณ 25 มิถุนายน 2564)

ทำความรู้จัก ETF จีโนมิกส์

Jitta Wealth

ธีมพลังงานสะอาดจีน (China Clean Energy) ธุรกิจที่จะมาเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานทั่วโลก ลดการใช้ไฟฟ้าจากถ่านหินและก๊าซธรรมชาติในระยะยาว 

ลงทุนใน KraneShares MSCI China Clean Technology Index ETF อิงผลตอบแทนตาม ดัชนี MSCI China IMI Environment 10/40 Index 

ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 126.72%  (ณ 25 มิถุนายน 2564)

ทำความรู้จัก ETF พลังงานสะอาดจีน


Microsoft กับมาร์เก็ตแคป 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ราคาหุ้นเทคปรับฐานแล้วยังไง ในเมื่อ Microsoft ยังสามารถทะยานจนมาร์เก็ตแคปทะลุ 2 ล้านล้านได้เป็นครั้งแรก ตาม Apple ที่ทำสถิติ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2563

สิ่งที่สะท้อนศักยภาพของหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ คือความเป็นบริษัทระดับโลก มีฐานผู้ใช้งานทั่วโลก และมีรายได้มาจากทุกมุมโลก ดังนั้นราคาปรับฐานขึ้นๆ ลงๆ ในช่วงที่ผ่านมา เป็นแค่เศษเสี้ยวของภาพรวม ที่ไม่น่ากังวลเลย

สำหรับ Microsoft ราคาเปิดต้นปี 2564 อยู่ที่ 217.69 ดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุด 25 มิถุนายน ปิดที่ 266.89 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นมา 22.6% 

อะไรที่ทำให้มาร์เก็ตแคป Microsoft พุ่งขึ้นได้บ้าง

Microsoft เปิดโฉมระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด Windows 11 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ทิ้งช่วงจาก Windows 10 เกือบ 6 ปี ซึ่งมีอุปกรณ์ใช้ระบบปฏิบัติการนี้กว่า 1,300 ล้านเครื่องทั่วโลก
มูลค่าของ Microsoft เพิ่มขึ้นเท่าตัวในช่วง 2 ปี จากปริมาณการใช้งานซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันต่างๆ ในช่วง Covid-19 เช่น Microsoft Teams
⇨ Microsoft ไม่ได้โฟกัสเฉพาะจุดแข็งของตัวเองที่ระบบปฏิบัติการ Windows เท่านั้น แต่ยังขยายธุรกิจระบบคลาวด์ Azure และการเข้าซื้อกิจการเทคโนโลยีอื่นๆ

นอกจากนี้ ราคาหุ้น Microsoft เติบโตได้มากกว่า 600% ตั้งแต่ที่ Satya Nadella เข้ามากุมบังเหียนในตำแหน่ง CEO เพราะเขาเปิดการใช้งาน Office บนสมาร์ตโฟนให้กับ iPhone และมือถือทุกแบรนด์บน Andriod

Nadella ยังตั้งเป้าว่า ระบบคลาวด์ Azure จะกลายเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของ Microsoft ในอนาคต แทนการขายซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการแบบเดิมๆ

ในยุคของ Nadella ได้พยายามหาพันธมิตรจากคู่แข่งด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Red Hat หรือ Salesforce รวมทั้งเพิ่มให้ระบบปฏิบัติการ Linux ใช้ Windows ได้ 

เขาจัดตำแหน่งให้ Microsoft เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ได้ดีกว่า ​Apple และ ระบบปฏิบัติการล่าสุด Windows 11 จะรองรับแอปพลิเคชันบนระบบ Andriod ด้วย

นอกจากนี้ Nadella พยายามที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้บริษัทเจอการตรวจสอบกรณีต่อต้านการผูกขาด (Antitrust Scrutiny) เหมือนกับที่ Amazon Apple และ Facebook เผชิญแรงกดดันจากทางการสหรัฐฯ มาโดยตลอด

อีกบทพิสูจน์หนึ่งของหุ้นบิ๊กเทคอย่าง Microsoft คือ หากผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ที่ดีต่อเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งการหาพันธมิตรในธุรกิจเดียวกัน มากกว่าจะเป็นบริษัทแข็งแกร่งอยู่ฝ่ายเดียว มูลค่ากิจการจะสะท้อนออกมาในทิศทางที่ดี

Microsoft พยายามปรับตัวต่อเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ยึดติดกับความสำเร็จที่เคยมีมาในอดีต พร้อมที่จะกระโดดเข้าสู่เมกะเทรนด์ และเป็นพันธมิตรที่ดีให้กับสตาร์ตอัปรายใหม่ๆ 

ดังนั้นมาร์เก็ตแคป 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐที่ Microsoft ได้มา เป็นเพราะศักยภาพของธุรกิจล้วนๆ เลย


Jitta Wealth

รู้จัก ‘ETF พลังงานสะอาดจีน’ ที่โตมากกว่า 100% ในรอบ 1 ปี

จีนประสบปัญหาค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงอันดับต้นๆ ของโลก รัฐบาลต้องสนับสนุนใช้พลังงานสะอาดเพื่อลดมลพิษ นี่คือ เหตุผลที่ทำให้ ‘ETF พลังงานสะอาดจีน’ มีผลตอบแทนในรอบ 1 ปีโตมากกว่า 100%

อ่านต่อ


Jitta Wealth

KGRN – ETF ที่ลงทุนในกลุ่มพลังงานสะอาดของจีน

เพจ ‘หนีดอย’ ได้สรุปความน่าสนใจและความเสี่ยงของ  ‘ETF พลังงานสะอาดจีน’ อย่างละเอียด พร้อมโชว์กราฟราคา ETF เทียบกับกองอื่นๆ มาให้คุณลองพิจารณาว่า KGRN น่าสนใจพอหรือไม่ 

อ่านต่อ


Jitta Wealth

รู้จัก ‘ETF จีโนมิกส์’ ผู้ปฏิวัติวงการสาธารณสุขทั่วโลก

รู้หรือไม่ว่า วัคซีน Pfizer หรือ Moderna ที่พวกเราอยากได้กันทั้งโลก คือ ผลิตผลจากนวัตกรรม ‘จีโนมิกส์’ และกำลังเป็นโอกาสครั้งสำคัญ สำหรับการลงทุนใน ‘ETF จีโนมิกส์’ 

อ่านต่อ


ดัชนี VNI 1,400 จุด ไม่นานเกินรอ

ไม่มีใครรู้ว่า ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามจะไปทำจุดสูงสุดอีกเมื่อไร หลังจากทำ 1,300 จุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ผ่านมาได้ 35 วันเท่านั้น ดัชนี VNI ทะยานที่ 1,400 จุด ในวันที่ 28 มิถุนายนแล้ว

เรียกได้ว่า ปี 2564 เป็นปีทองของตลาดหุ้นเวียดนามเลย เพราะดัชนี VNI ทำนิวไฮครั้งสำคัญถึง 3 เดือนติดต่อกัน

เดือนเมษายน 1,200 จุดครั้งแรกในรอบ 3 ปี
เดือนพฤษภาคม 1,300 จุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ใช้เวลาเพียง 55 วัน
เดือนมิถุนายน 1,400 จุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ใช้เวลาเพียง 35 วัน

ส่งผลให้ดัชนี VNI ของตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์เติบโตในช่วงครึ่งปีแรกประมาณ 28% ไปแล้ว 

การเติบโตของตลาดหุ้นเวียดนามมีทิศทางสดใส แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ในเวียดนามยังไม่ค่อยดีนัก มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ และอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันยังต่ำอยู่

นั่นเป็นเพราะบริบทอื่นๆ และปัจจัยพื้นฐานของประเทศมีความแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่เติบโตสูง เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติยังมีมาต่อเนื่อง การบริโภคภาคประชาชนยังแข็งแกร่ง และมูลค่าการส่งออกสูง

บริบทในตลาดหุ้นคือ ผลประกอบการของบริษัทก็จะเติบโตได้ดี ตามสภาพเศรษฐกิจ งบการเงินมีความแข็งแกร่ง ทำให้มูลค่ากิจการเพิ่มขึ้น หุ้นเหล่านี้ล้วนมีส่วนผลักดัน ดัชนี VNI ให้ทะยานอย่างต่อเนื่อง 

ดังนั้นนิวไฮของตลาดหุ้นเวียดนาม มีที่มาที่ไป มีปัจจัยรองรับ ไม่มีอะไรน่ากลัว หากจะเข้าลงทุน และยังกังวลว่า ราคาหุ้นแพงเกินไปหรือไม่ 

StockQ ฐานข้อมูลจากจีนบอกว่า ดัชนี VNI จะกลายเป็นดัชนีที่เติบโตสูงที่สุดในโลกไปแล้วในครึ่งปีแรก 2564 ตามมาด้วยดัชนีตลาดอาบูดาบีและออสเตรีย และยังรั้งอันดับ 3 ของตลาดหุ้นที่มีแรงซื้อขายสูง รองจากอาร์เจนตินาและฮังการี

นอกจากนี้ Ho Chi Minh Securities คาดว่า ดัชนีจะทะยานเข้าสู่ 1,500 จุดภายในปีนี้ พร้อมกับค่า Price-to-Earnings Ratio ที่ 18.8 เท่า ถูกกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียน

ส่วน VNDirect Securities บอกว่า มูลค่าหุ้นเวียดนามยังต่ำกว่าพื้นฐาน หมายความว่า แต่ละบริษัทยังมีช่องว่างในการเติบโตด้านรายได้และงบการเงิน เพื่อที่จะดึงมูลค่าหุ้นให้สูงขึ้นได้อีกในอนาคต 


Investor Exclusive: Quarterly Call with CEO

งานนัดพบประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 เพื่ออัปเดตสถานการณ์การลงทุนในช่วงที่ผ่านมา และโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ที่เราสรรหามาให้ พร้อมสอบถามปัญหาข้อข้องใจต่างๆ อย่างละเอียด กับคุณตราวุทธิ์ CEO ของ Jitta Wealth

วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14:00-15:00 น.

ออนไลน์ เฉพาะลูกค้า Jitta Wealth เท่านั้น

ลงทะเบียนพูดคุยกับ CEO Jitta Wealth


Jitta Wealth

Investyle EP. 1 – นพ. โอฬาริก มุสิกวงศ์

ซีรีส์ที่จะพาคุณไปส่องมุมมองการบริหารการเงินส่วนบุคคลของ ‘หมอ’ อาชีพที่ไม่มีเวลาและงานยุ่ง นพ. โอฬาริก ผ่านมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหุ้นในวงข้าวต้มหรือหุ้นหมอกระซิบ จนออกจากห้องผ่าตัดมา พอร์ตหายเกลี้ยง!

ดูวิดีโอ


สรุปสถานการณ์ที่น่าสนใจทั่วโลก

📌 หน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันและตลาด (CMA) ของอังกฤษตรวจสอบรีวิวปลอมในหลายแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ทั้ง Ebay Facebook Amazon และ Google เพื่อปกป้องสิทธิผู้บริโภคและผู้ประกอบการ

Amazon และ Google ถูกสั่งให้จัดการรีวิวปลอมบนเว็บไซต์ของตน ซึ่ง CMA ตรวจสอบปัญหารีวิวปลอมมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 แต่ยังหวั่นว่า ทั้ง 2 บิ๊กเทคอาจจะไม่ได้จัดการหรือดำเนินการใดๆ

ส่วน Facebook และ Ebay ได้รับคำสั่งให้ระงับบัญชีเหล่านั้นเรียบร้อยตั้งแต่ต้นปี 2563 แล้ว

📌 Starlink โครงการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมของ Elon Musk ประกาศเตรียม IPO ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า แต่จะเปิดจองกับผู้ที่ถือหุ้น Tesla ก่อนเท่านั้น

Starlink ทำให้ทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานเกิน 69,420 คนแล้ว เมื่อมีผู้ใช้งานมากขึ้น ราคาค่าบริการก็มีแนวโน้มถูกลง เป็นธุรกิจที่เติบโตสูงในอนาคต

📌 Tesla จะเรียกคืนรถ Model 3 และ Model Y ทั้งที่ผลิตเองและนำเข้าเกือบ 300,000 คัน เพื่ออัปเดตซอฟต์แวร์ช่วยขับ (Autopilot) เนื่องจากตรวจพบว่าโปรแกรมไม่ปลอดภัย

คณะกรรมการกำกับดูแลจีนแถลงผ่านเว็บไซต์ว่า โปรแกรมช่วยขับในรถ Tesla ขณะนี้ทำงานเองเมื่อเจ้าของพลั้งเผลอ เป็นเหตุให้รถเร่งเครื่องกะทันหัน

Model 3 และ Model Y ที่ผลิตในจีนถูกเรียกคืน 249,855 คัน และ Model 3 ที่นำเข้าถูกเรียกคืน 35,665 คัน ถือเป็นเหตุเรียกคืนครั้งแรกของ Tesla ที่ผลิตในจีน

ปัจจุบัน Tesla ผลิตรถ Model 3 และ Model Y ในเซี่ยงไฮ้ เดือนพฤษภาคม รถไฟฟ้าที่ผลิตในจีนขายได้ 33,463 คัน

📌 CEO ของ Chang Wah Electromaterials ของไต้หวัน หวั่นชิปล้นตลาด หลังบริษัทชิปหลายแห่ง รวมถึงยักษ์ใหญ่อย่าง Intel และ Taiwan Semiconductor เตรียมขยายการผลิต เพื่อไม่ให้ชิปขาดตลาด 

Canon Huang บอกว่า จากเหตุขาดแคลนชิปอย่างรุนแรงทั่วโลกในอุตสาหกรรมรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้หลายโรงงานขยายการผลิตในวงกว้าง มีแผนสร้างโรงงานใหม่

แต่เป็นเรื่องน่ากังวลมาก หากเพิ่มการผลิตพร้อมกันจนมากเกินกว่าความต้องการ และล้นตลาด แต่ละบริษัทควรตรวจสอบปริมาณชิปให้สอดคล้องกับความต้องการในอนาคตด้วย

📌 เสฉวนและฉงชิ่ง เตรียมดึงดูดนักลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ระดับโลก โดยมีผลผลิตทางเศรษฐกิจสูงถึง 7.36 ล้านล้านหยวนจีนในปี 2563 คิดเป็นสัดส่วน 34.5% ของ 12 มณฑลทางตะวันตกของจีน 

รายได้ของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์จากเสฉวนและฉงชิ่ง สูงเกิน 2.1 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 18% กลายเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ใหญ่ที่สุดของ 2 เมือง โดยมีอัตราสนับสนุนทั่วพื้นที่เกิน 80%

ส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์มีกำลังการผลิตเกือบ 3 ล้านคันต่อปี มีผู้ผลิตชิ้นส่วนชั้นนำมากกว่า 1,600 ราย

📌 ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) รายงานว่า จีนเป็นตลาดตราสารหนี้สกุลเงินท้องถิ่นใหญ่ที่สุดในบรรดาตลาดเกิดใหม่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยมีตราสารหนี้ที่ยังไม่ครบกำหนดไถ่ถอนคิดเป็น 77.8% ของภูมิภาค

ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 ตลาดตราสารหนี้ในจีนขยายตัว 17.3% มาแตะที่ 15.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว 

แต่รัฐบาลเริ่มออกพันธบัตรลดลงมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2563 เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว ทำให้ความจำเป็นในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลดลง

📌 เครดิต สวิส คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกจะขยายตัวในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากประเทศต่างๆ ทยอยกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังมีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในประเทศ

เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 5.9%ในปี 2564 และขยายตัวต่ออีก 4% ในปี 2565 โดยได้แรงหนุนจากการฉีดวัคซีน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวของภาคบริการในวงกว้าง

นอกจากนี้ เครดิต สวิส ยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัว 6.9%ในปีนี้ ส่วนเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปจะขยายตัว 4.2% ขณะที่ภูมิภาคเอเชีย ซึ่งไม่รวมญี่ปุ่น คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 7.5%

นอกจากนี้ เกาหลีใต้และไทยจะได้ประโยชน์จากปัญหาการขาดแคลนชิปและการอัดฉีดเงินของประเทศต่างๆ ในภูมิภาค และหุ้นไทยยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ตามทิศทางราคาน้ำมันด้วย


Jitta Wealth

สรุป Exclusive Q&A with CEO เดือนมิถุนายน

วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา คุณตราวุทธิ์ CEO ของ Jitta Wealth มี Webinar ประจำเดือนมิถุนายน 2564 ตอบคำถามนักลงทุน รวมทั้งอัปเดต 2 ธีมใหม่ล่าสุดของ Thematic และ 1 ตลาดหุ้นใหม่ของ Jitta Ranking 

ดูวิดีโอย้อนหลัง

อ่านต่อ


3 กลยุทธ์ลงทุนจาก Jitta Wealth ที่สร้างผลตอบแทน 4-20% ต่อปี

รายการลงทุนนิยม ได้มาพูดคุยกับคุณตราวุทธิ์ CEO ของ Jitta Wealth ในหลายๆ ประเด็น ไม่ว่าจะเป็น เริ่มต้นลงทุนควรทำอย่างไร ระหว่าง ‘สำเร็จ’ กับ ‘ล้มเหลว’ ดูอย่างไร การลงทุนระยะยาวสร้างผลตอบแทนที่ดีได้หรือไม่ และปรับพอร์ตลงทุนอย่างมีวินัยคืออะไร

ดูวิดีโอ


นี่เป็นสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสที่ 2 ปี 2564 แล้ว นับเป็นครึ่งปีแรกที่นักลงทุนเผชิญปัจจัยบวกลบรอบด้านจากทุกมุมโลก 

แม้ว่าโรคระบาด Covid-19 จะยังอยู่ แต่เราผ่านบทเรียนช่วงวิกฤตมาเยอะแล้ว หากใครที่ลงทุนถึงตรงนี้ คงได้คำตอบแล้วว่า การลงทุนหลังช่วงวิกฤตได้รับผลตอบแทนดีอย่างไร 

เลือกลงทุนตามความเสี่ยงของตัวเอง รักษาวินัยการลงทุน หมั่นเพิ่มทุนอย่างสม่ำเสมอ และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังอย่างมั่นใจ

แล้วพบกันสัปดาห์หน้า

อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – ยุโรปส่งสัญญาณท่องเที่ยวฟื้นแกร่ง

Jitta Wealth Journal – มติ Fed ชี้ชะตาตลาดหุ้นทั่วโลก

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด