Jitta Wealth Journal - ได้เวลาเวียดนามเปิดประเทศ

13 เมษายน 2564Jitta Wealth Journal

ไทยเอาไงดี...Covid-19 ระบาดรอบใหม่

Jitta Wealth Journal ฉบับที่ 21 ประจำวันที่ 13 เม.ย. มีประเด็นข่าวที่น่าติดตามและมีผลกระทบต่อการลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ดังนี้

  • เวียดนามเตรียมพร้อมเปิดพรมแดน ขอแค่มีวัคซีนพาสปอร์ต
  • S&P500 และ DJIA ทำนิวไฮอีกครั้ง
  • ก.ล.ต. สหรัฐฯ กำลังพิจารณา ETF ลงทุน Bitcoin
  • จีนปรับ Alibaba 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กรณีอำนาจผูกขาดตลาด
  • ระบาดรอบที่ 3 ไทยจะเปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยวได้หรือไม่

นอกจากนี้ Jitta Wealth ได้ลดเงินลงทุนเริ่มต้นเหลือ 1 ล้านบาท สำหรับกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking เวียดนาม จากเดิมที่ 3 ล้านบาท 

ต่อไปนี้คุณจะเข้าถึง ‘ตลาดหุ้นเวียดนาม’ ดาวรุ่งพุ่งแรงได้ง่ายขึ้น โดยที่ยังได้ลงทุน ‘หุ้นดี ราคาถูก’ ตามหลักการ Warren Buffett 

ที่สำคัญคือ ดัชนี VNI ของตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ เพิ่งทำนิวไฮใหม่ วิ่งเหนือ 1,200 จุดมาได้หลายวันแล้ว แถมมีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เจอ Covid-19 ก็ยังไม่สะเทือน 

ไปติดตามกันได้เลย


เวียดนามเตรียมพร้อมเปิดพรมแดน ขอแค่มีวัคซีนพาสปอร์ต 

เวียดนามถูกจัดว่า สามารถรับมือกับการแพร่ระบาด Covid-19 ได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แม้ว่าจะมีกระแสข่าวระบาดรอบใหม่บ้าง แต่ก็ยังจำกัดพื้นที่การระบาดได้ดี 

ล่าสุดรัฐบาลเตรียมจะเปิดประเทศให้ 3 กลุ่มเดินทางเข้าเวียดนาม ได้แก่ คนเวียดนามที่อยู่ต่างประเทศ นักลงทุนต่างชาติ และนักท่องเที่ยว ที่มีเอกสารยืนยันว่า ได้รับวัคซีน Covid-19 แล้ว หรือมีวัคซีนพาสปอร์ต

แผนการเตรียมความพร้อมเปิดพรมแดนรอบนี้ เวียดนามจะต้องวางโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีต่างๆ ให้พร้อมต่อการตรวจสอบวัคซีนพาสปอร์ตจากคนที่เดินทางเข้าประเทศทั่วโลก

แน่นอนว่า หากเวียดนามเปิดประเทศได้ตามแผน ก็จะช่วยให้อุปสรรคที่เกิดขึ้นช่วง Covid-19 ระบาด ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวซบเซา และการลงทุนจากต่างประเทศชะลอตัว เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลดีให้เศรษฐกิจของเวียดนาม

สิ่งที่เวียดนามต้องเตรียมความพร้อม คือ คนเวียดนามต้องได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญในประเทศแสดงความกังวลว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนยังมีไม่มากและภูมิคุ้มกันหมู่ยังอยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่คุมไม่ได้อีก เช่น ไวรัสมีการกลายพันธุ์ และวัคซีนมีประสิทธิภาพน้อยในกลุ่มคนที่แตกต่างกัน ส่งผลให้กำหนดระยะเวลาเปิดรับตรวจวัคซีนพาสปอร์ตค่อนข้างยาก 

หลังจากที่วัคซีนป้องกัน Covid-19 กำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก บางประเทศก็เกิดภูมิคุ้มกันหมู่และป้องกันการแพร่ระบาดได้แล้ว แผนการเปิดพรมแดนจึงเป็นสเต็ปถัดไปที่ทุกประเทศกำลังพิจารณา เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

หลังจากนี้ตามกันต่อว่า เวียดนามที่ประสบความสำเร็จในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติได้แล้ว แผนการเปิดพรมแดนจะกระตุ้นให้ธุรกิจท่องเที่ยวของเวียดนามกลับมาคึกคักได้อีกครั้งหรือไม่


จัดพอร์ตลงทุนหุ้นเวียดนามกับ Jitta Wealth พร้อมรับเศรษฐกิจขาขึ้น

ลงทุน 'หุ้นดีราคาถูก' ในตลาดหุ้นเวียดนาม ไปกับกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking ที่มาพร้อมกับระบบ AI คัดเลือกหุ้นตามแนวทาง Warren Buffett พร้อมปรับพอร์ตอัตโนมัติ ด้วยเงินเริ่มต้น 1 ล้านบาท

ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีของ Jitta Ranking เวียดนาม เฉลี่ยอยู่ที่ 141.77%*

ไม่เพียงเท่านั้นดัชนี VNI ของตลาดหุ้นโฮจิมินห์ เพิ่งประเดิมนิวไฮใหม่ และยังทำนิวไฮอีกในวันที่ 12 เม.ย. ปิดที่ 1,252.45 จุด

เวียดนามกำลังเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ด้วยปัจจัยพื้นฐานอันแข็งแกร่ง เศรษฐกิจไตรมาสแรกที่เติบโตถึง 4.48% การส่งออกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าไม่หยุด และการควบคุมโรคระบาด Covid-19 อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นตัวเร่งให้ตลาดหุ้นเวียดนามมีความน่าสนใจมากขึ้น

นี่คือโอกาสสำคัญที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของตลาดหุ้นเวียดนาม ผ่านการลงทุนใน 'หุ้นพื้นฐานดี ราคาเหมาะสม' ใน Ho Chi Minh City Stock Exchange (HOSE) และ Hanoi Stock Exchange (HNX)

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

*ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี ณ วันที่ 1 เม.ย. 64 ของพอร์ตนักลงทุน Jitta Ranking เวียดนาม ที่ลงทุนมานานกว่า 1 ปี ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน


S&P500 และ DJIA ทำนิวไฮอีกครั้ง

สัปดาห์ที่ผ่านมา 2 ดัชนีหลักของตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่าง S&P500 และ DJIA ทำนิวไฮอีกครั้ง เพราะนักลงทุนมั่นใจว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่เร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่เคยประกาศไว้

มีสาเหตุมาจากการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index - PPI) ที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากเดือนก.พ. ได้ช่วยคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และเชื่อว่าจะอยู่ในระดับที่ดูแลได้

นอกจากนี้ยังมีประเด็นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่ภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจาก Covid-19 ยังไปได้ดี

ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา 3 ดัชนีหลัก S&P500 DJIA และ Nasdaq เป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี ก่อนที่จะมีการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกเร็วๆ นี้

แน่นอนว่า หุ้นวัฎจักร (Cyclical Stock) จะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวครั้งนี้ อย่างหุ้นกลุ่มขนส่ง ได้รับแรงส่งจากอัตราการฉีดวัคซีน Covid-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งราคาหุ้นเพิ่มขึ้นแล้ว 10 สัปดาห์ติดต่อกัน

วันศุกร์ที่ผ่านมา S&P500 ปิดที่ 4,128.8 จุด เพิ่มขึ้น 0.77% DJIA ปิดที่ 33,800.6 จุด เพิ่มขึ้น 0.89% และ Nasdaq ปิดที่ 13,900.19 จุด เพิ่มขึ้น 0.51%

สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.655% จาก 1.632% ส่วนพันธบัตรอายุ 30 ปี เพิ่มขึ้นเพียง 2.327% จาก  2.322% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ 


ก.ล.ต. สหรัฐฯ กำลังพิจารณา ETF ลงทุน Bitcoin

แม้ว่าสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) จะยังไม่มีกฎหมายมารองรับให้ใช้เป็นสื่อกลางในแลกเปลี่ยน หรือซื้อขายอย่างแพร่หลาย เหมือนสกุลเงินที่ออกโดยธนาคารกลางของแต่ละประเทศ

แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า สกุลเงินดิจิทัล เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่การเทรดบนตลาดรองออนไลน์ บริษัทยักษ์ใหญ่เริ่มให้ความสนใจ ไม่ว่าจะออกสกุลเงินดิจิทัลเอง หรือมีพอร์ตลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อกระจายความเสี่ยง

และตอนนี้ผู้ออกกองทุน ETF (Exchange Traded Fund) ทั่วโลก ยังให้ความสนใจลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลด้วย ก่อนหน้านี้ก.ล.ต. แคนาดาก็อนุมัติให้เปิด ETF ที่ลงทุนใน Bitcoin แล้ว เมื่อเดือนก.พ.

ตามมาด้วยก.ล.ต. สหรัฐฯ ออกประกาศปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า กำลังพิจารณาและตรวจสอบคำขอ Bitcoin ETF ของ WisdomTree ที่ถูกส่งมาเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีผู้ออกกองทุน ETF อื่นๆ เช่น บริษัทจัดการสกุลเงินดิจิทัล Kryptoin ได้ยื่นไฟล์ลิ่ง Bitcoin ETF ด้วยเช่นกัน และยังมีรายอื่นๆ ที่ก.ล.ต. สหรัฐฯ กำลังตรวจสอบคำขอ อย่าง VanEck SkyBridge Capital และ NYDIG 

ที่ผ่านมา ก.ล.ต. สหรัฐฯ ก็ยังไม่เคยได้อนุมัติ ETF ที่ลงทุนใน Bitcoin ให้รายใดเลย แต่ข่าวล่าสุดอาจจะเป็นสัญญาณที่ดี ให้มี Bitcoin ETF กองแรกบนกระดาน NYSE และ Nasdaq ในอนาคตก็ได้

Bitcoin ETF จะเป็นทางเลือกให้นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน ที่ต้องการลดความเสี่ยง ไม่ต้องลงทุน Bitcoin โดยตรง เพื่อไม่ต้องกังวลในการดูแลพอร์ตลงทุนเอง หรือประสบปัญหาการถูกแฮ็กข้อมูลและอีเมลฟิชชิ่งด้วย


จีนปรับ Alibaba 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กรณีอำนาจผูกขาดตลาด 

นับเป็นบทลงโทษครั้งใหญ่ที่สุด จากการที่ทางการจีนพยายามจะเข้มงวดอำนาจการผูกขาดของบิ๊กเทคจีน Alibaba จึงสังเวยธุรกิจอีคอมเมิร์ซด้วยค่าปรับ 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

Alibaba เป็นบิ๊กเทคที่มีมูลค่าสูงสุดในจีน แต่ก็โดนทางการจีนเข้ามาตรวจสอบตั้งแต่เดือนธ.ค. ต่อการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ด้วยเงื่อนไขที่บังคับให้ผู้ค้ารายเล็กรายน้อยขายของผ่านแพลตฟอร์มของ Alibaba เพียงช่องทางเดียว 

หน่วยงานกำกับดูแลของจีนได้ข้อสรุปเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า เงื่อนไขของ Alibaba ขัดขวางการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ เอาเปรียบผู้ค้าและทำร้ายผลประโยชน์ของผู้บริโภค

ค่าปรับที่ Alibaba โดนนั้นสูงกว่าเคสของ Qualcomm บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ที่โดนปรับไป 975 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2558 

มูลค่าที่โดนปรับไปนั้น คิดเป็น 4% ของยอดขาย Alibaba ในจีนปี 2562 ขณะที่บริษัทรายงานกำไรของไตรมาสสุดท้ายปี 2563 ที่ 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดนปรับครั้งนี้ จึงไม่สะเทือนอาณาจักร Alibaba สักเท่าไร 

อย่างไรก็ตาม ความเข้มงวดของทางการจีนต่อบิ๊กเทคสัญชาติจีน ที่ไม่ได้มีแค่ Alibaba เท่านั้น ยังมี Tencent และ JD.com หรือบริษัทอื่นๆ อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ  ในอนาคต 

เพราะก่อนหน้านี้ Alibaba ได้โต้แย้งว่า ความกว้างขวางของธุรกิจ ที่ต่อยอดไปยังธุรกรรมการเงิน ร้านขายของชำ และโลจิสติกส์จะช่วยให้มีบริการเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น 

แต่ผู้เชี่ยวชาญกลับมองว่า ความยิ่งใหญ่ของบิ๊กเทคจีนกำลังจำกัดผู้เล่นรายใหม่ คู่แข่ง และทางเลือกของผู้บริโภค 

และจุดที่เหมือนกันระหว่างจีนและสหรัฐฯ คือ ความพยายามตรวจสอบอำนาจผูกขาดตลาดของบิ๊กเทคประเทศตัวเอง ในสหรัฐฯ ก็มี Facebook และ Google ที่เคยโดน 10 รัฐ ฟ้องประเด็นฮั้วกันคุมโฆษณาออนไลน์ไปเมื่อปลายปี 2563 


ระบาดรอบที่ 3 ไทยจะเปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยวได้หรือไม่

ความหวังที่จะได้ไปเที่ยวกันยาวๆ ช่วงสงกรานต์ของคนไทยแทบล่มสลาย ตอนนี้เราเจอ Covid-19 ระบาดรอบที่ 3 กันอีกแล้ว ทั้งๆ ที่รอบที่ 2 ยังไม่จบดี ตามมาด้วยดราม่าวัคซีนก็ยังมีข้อกังขาว่า ทำไมเอกชนถึงนำเข้าไม่ได้ 

ไทยมีแผนจะเปิดประเทศ โดยเริ่มลดเวลากักตัวจาก 14 เหลือ 10 วัน ในกลุ่มคนที่เดินเข้าประเทศ หากฉีดวัคซีนแล้ว ลดเวลากักตัวเหลือ 7 วัน 

ยังมีแผนปลดล็อกให้เที่ยวได้ใน 6 จังหวัดได้ โหมประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวภูเก็ต และดีเดย์เดือนต.ค. เป็นต้นไป ถ้าฉีดวัคซีน ก็ไม่ต้องกักตัว ใน 6 จังหวัดนี้ด้วย

และจะเปิดประเทศอย่างเป็นทางการต้นปี 2565 หวังพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยที่ซบเซามาเป็นปีกว่าๆ เพราะพิษ Covid-19 คำถามคือ ระบาดที่ 3 เราจะยังเปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยวได้หรือไม่ แล้วใครจะมาภูเก็ตกัน

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การระบาดรอบใหม่จะส่งผลต่อไทม์ไลน์เปิดประเทศของไทย และแผนที่เตรียมการมาก่อนหน้านี้อาจจะเลื่อนหรือเปลี่ยนแปลง

โดยเฉพาะภูเก็ต จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่จะนำร่องเปิดให้เข้าแบบไม่ต้องกักตัว ถ้าได้รับวัคซีนครบโดส ในเดือนก.ค. ก่อนใคร

ถ้าไทยยังไม่มีแผนรับมือการระบาดรอบใหม่ การกระจายวัคซีนให้คนในพื้นที่ 6 จังหวัดยังไม่ทั่วถึง แต่ยังจะเปิดพรมแดนตามแผนเดิม ผู้เชี่ยวชาญมองว่า จะเป็นหายนะให้ระบบสาธารณสุขโลก เพราะไทยมีโอกาสเป็นแหล่งแพร่เชื้อขนาดใหญ่ 

ต้องมาลุ้นกันว่า รัฐบาลและสาธารณสุขไทยจะรับมือกับการระบาดรอบที่ 3 ได้หรือไม่ อย่าลืมว่า เศรษฐกิจไทยพึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวถึง 20% ของ GDP เลย รองๆ ภาคการส่งออก 

ตั้งแต่ Covid-19 ระบาด ก็ปิดประเทศยาวนาน 13-14 เดือนไปแล้ว จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 40 ล้านคน ปี 2562 เหลืออยู่ไม่กี่ล้านคนในปี 2563 ถ้าระบาดทั้งปี 2564 เปิดประเทศไม่ได้ นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจจะมีแค่หยิบมือเดียว

พอท่องเที่ยวไทยทรุด ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีที่ผ่านมาหดตัวสูงสุดในรอบ 20 ปี และตอนนี้เรากำลังฝากความหวังไว้กับการท่องเที่ยว ที่จะทำให้ภาคธุรกิจได้ลืมตาอ้าปากกันอีกครั้ง


แผนการลงทุนฉบับคนรุ่นใหม่ ทำอย่างไรให้เงินงอกเงย

Covid-19 ทำให้เรารู้ว่า สิ่งที่เราไม่คาดคิดอย่างการปิดล็อกดาวน์ประเทศเกิดขึ้นได้เสมอ การวางแผนการเงินการลงทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่จะวางแผนอย่างไรให้เหมาะกับยุคสมัยนี้ มาฟังผมกับคุณรวิศ หาญอุตสาหะ พูดคุยกันใน Mission to the Moon Podcast ตอนที่ 1100  

YouTube : https://www.youtube.com/watch?v=0HGPGqpjYIk&t=259s

Soundcloud : https://soundcloud.com/missiontothemoon/mm-ep1100-jitta

Spotify : https://open.spotify.com/episode/7tgfMY3QC89u2yxBfw9E9j

Podbean : https://bit.ly/39RYs5W

Apple Podcast : https://apple.co/3d0VTQR


เดือนเม.ย. ปีที่แล้ว ยังกันจำได้ไหม ว่าสงกรานต์เราไม่ได้หยุด ยังต้องทำงานที่บ้าน แถมเดินทางไปไหนก็ไม่ได้ เพราะล็อกดาวน์ทั่วประเทศ

เดือนเม.ย. ปีนี้ เราได้หยุดสงกรานต์ก็จริง เดินทางข้ามจังหวัดได้ก็จริง แต่ Covid-19 ยังอยู่กับเรานะ

หยุดยาว 3 วันนี้ Jitta Wealth ขอให้ทุกคนมีความสุข ปราศจากโรคภัย พักผ่อนช่วงสงกรานต์ให้เต็มที่ ที่สำคัญคือ งดไปพื้นที่เสี่ยง แล้วเราจะผ่าน Covid-19 รอบที่ 3 ไปด้วยกัน

แล้วพบกันสัปดาห์หน้า

อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal - ตลาดหุ้นเวียดนามทุบสถิติในรอบ 20 ปี

Jitta Wealth Journal - 3 กอง ETF ที่ทุกคนควรถือยาวๆ

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด