สัปดาห์สุดท้ายของปีหนูแล้วนะครับ
ช่วงเวลาที่ทุกคนต่างเฝ้ารอ เตรียมเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่...
แต่กลายเป็นว่า ไทยต้องเจอ Covid-19 ระบาดรอบใหม่ ขณะที่ทั่วโลก สถานการณ์ก็ยังไม่ได้ดีขึ้น แม้วัคซีนหลายล้านโดส กำลังกระจายไปทั่วทุกมุมโลกแล้วก็ตาม
เช้านี้เราจะมาติดตามความคืบหน้าของ Covid-19 ในไทยและทั่วโลก ท่ามกลางวิกฤตที่ดูแล้วยังไม่คลี่คลาย อัปเดตการเจรจา Brexit และ 3 ประเทศที่จะขึ้นมาครองโลกในอีกไม่ถึง 10 ปี คุณจะปรับตัวอย่างไร ยังมีโอกาสในการลงทุนตรงไหน มาดูกันครับ
จำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 รอบใหม่ระบาดทั่วไทย
คลัสเตอร์ระบาดใหญ่ไม่ได้มาจากจังหวัดสมุทรสาครที่เดียวแล้วนะครับ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการแพร่ระบาดกลุ่มใหญ่มาจากจังหวัดระยองด้วย มีทั้งมีความเชื่อมโยงกับจังหวัดสมุทรสาคร และมาจากบ่อนการพนัน
รายงานล่าสุดจากเพจไทยรู้สู้โควิด นับถึงวันที่ 27 ธ.ค. มีรายงานพบติดเชื้อแล้ว 43 จังหวัด เพิ่มมาอีก 6 จังหวัด
5 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด คือ สมุทรสาคร กรุงเทพฯ ระยอง สมุทรปราการ และนนทบุรี
ส่วนผู้ติดเชื้อสะสม Covid-19 ระลอกใหม่อยู่ที่ 1,702 ราย
ไม่เว้นแม้แต่ผู้ว่าฯ จ.สมุทรสาคร มีรายงานว่าตรวจพบเชื้อแล้ว จากการลงพื้นที่ ทำให้รมว. กระทรวงสาธารณสุขที่ลงพื้นที่ร่วมกับผู้ว่าฯ จำเป็นต้องกักตัว 14 วัน แม้จะยังไม่พบเชื้อก็ตาม
มาตรการภาครัฐสำหรับ Covid-19 รอบนี้คือ กำหนดพื้นที่ 4 โซน ได้แก่ พื้นที่ควบคุมสูงสุด (แดง) พื้นที่ควบคุม (ส้ม) พื้นที่เฝ้าระวังสูง (เหลือง) และพื้นที่เฝ้าระวัง (เขียว)
โดยยังไม่ล็อกดาวน์ทั่วประเทศ และใช้มาตรการเคอร์ฟิวในจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงเท่านั้น
บรรยากาศการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่เลยสะดุด บางพื้นที่งดจัดงานเคาท์ดาวน์ กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดฮวบ ทั้งๆ ที่เป็นช่วงเวลาทองที่ทุกภาคธุรกิจจะสามารถลืมตาอ้าปากได้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การแพร่ระบาดระลอกใหม่จะสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน (31 ธ.ค. 63 – 3 ม.ค. 64) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,850 ล้านบาท
Covid-19 กลายพันธุ์ในอังกฤษ กับ Brexit
แม้ว่าสหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกของโลกที่ได้รับวัคซีนป้องกัน Covid-19 เมื่อต้นเดือนธ.ค. แต่ใครจะคาดคิดว่า ในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา กลับพบ ไวรัส Covid-19 กลายพันธุ์ ชื่อว่า B.1.1.7
ความร้ายแรงของ Covid-19 กลายพันธุ์ คือ ติดเชื้อระหว่างกันได้ง่ายขึ้น แพร่กระจายได้วงกว้างขึ้น รุนแรงขึ้นกว่า 70%
ทำให้สหราชอาณาจักรต้องกำหนดโซนล็อกดาวน์ทั่วประเทศ เป็น 4 ระดับ เช่นเดียวกัน
ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกระงับเที่ยวบินที่มาจากสหราชอาณาจักร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดด้วย
แต่ก็ยับยั้งไม่ได้ เพราะสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และฝรั่งเศสยืนยันแล้วว่า มีการติดเชื้อกลายพันธุ์จากอังกฤษ
สำหรับอังกฤษ ไม่ได้มีประเด็น Covid-19 กลายพันธุ์เท่านั้น แต่การเจรจาข้อตกลงทางการค้า การเคลื่อนย้ายประชากร และแรงงาน หลังแยกตัวจากสหภาพ EU หรือ Brexit กำลังใกล้เส้นตายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้
ประเด็น Brexit มีการพูดถึงผลกระทบต่อการค้าทั่วโลกมาตลอด 4 ปี และสหราชอาณาจักรก็ได้ออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผ่านมา
ขั้นตอนการเจรจาข้อตกลงต่างๆ ทั้ง 2 ฝ่ายมีเวลา 11 เดือน หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า จะเกิด No Deal Brexit หรือเจรจากันไม่ได้นั่นเอง
แต่ในที่สุดก็เจรจาสำเร็จช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2563 โดยดีลครอบคลุมทั้งด้านการค้า การท่องเที่ยว การประมง ความมั่นคง กระบวนการยุติธรรม และการศึกษาต่อ
ดีลนี้จะกระทบต่อประชาชนและภาคธุรกิจทั้งใน EU และสหราชอาณาจักร ในด้านการค้าระหว่างกัน คือ ไม่มีกำแพงภาษี และไม่มีกำหนดโควต้านำเข้าสินค้า
แต่ภายหลังจากการเจรจาข้อตกลงสำเร็จแล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายต้องไปออกเป็นร่างกฎหมายและผ่านอนุมัติจากรัฐสภา
คงต้องจับตาดูต่อไปว่า ประชาชน ภาคธุรกิจ และเศรษฐกิจของ EU และอังกฤษจะเป็นอย่างไรต่อไปในปี 2564 ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย
เอาชนะวิกฤต Covid-19 ด้วยหุ้นเมกะเทรนด์
ในทุกวิกฤตที่เกิดขึ้น มักจะมีบางธุรกิจที่ยังไปได้ดี สำหรับ Covid-19 นั้น ธุรกิจที่โตสวนทาง ก็ยังเป็นธุรกิจที่ยังมีความผูกพันกับการใช้เทคโนโลยี และการใช้อินเทอร์เน็ต
เพราะวิถีชีวิต New Normal ทำให้เราต้องใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานจากที่บ้าน การช็อปปิ้งออนไลน์ สื่อความบันเทิงออนไลน์ เกมออนไลน์ หรือจ่ายเงินด้วย QR Code
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเมกะเทรนด์เหล่านี้จึงเติบโตมากในปีนี้ Jitta Wealth สรุป 10 เมกะเทรนด์ที่มีผลตอบแทนสูงสุดในปี 2563 จาก 12 เมกะเทรนด์ที่เราเปิดให้คนไทยได้ลงทุนผ่าน ETF โดยธีม Cloud Computing มีผลตอบแทนสูงสุดครับ
เศรษฐกิจจีนจะแซงหน้าสหรัฐฯ ในอีก 8 ปีข้างหน้า
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (CEBR ของอังกฤษ) คาดว่า จีนจะแซงหน้าสหรัฐฯ ขึ้นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ปี 2571 เร็วขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้เดิม 5 ปี เพราะการจัดการวิกฤต Covid-19 ที่แตกต่างกัน
จีนจัดการได้รวดเร็วกว่า แม้ว่าจะเป็นประเทศต้นกำเนิดของโรคระบาดนี้ นั่นหมายความว่า ในอนาคตนั้น จีนจะเป็นเบอร์ 1 และสหรัฐฯ จะเป็นเบอร์ 2
ในรายงานของ CEBR บอกอีกว่า อินเดียจะเข้ามาเป็นอันดับ 3 แทนที่ญี่ปุ่น ทำให้ในอีกไม่ถึง 10 ปี ญี่ปุ่น เยอรมณี และสหราชอาณาจักร จะตกมาอยู่ที่อันดับ 4 5 และ 6 ตามลำดับ
สะท้อนว่าตลาดหุ้นอนาคตไกลในอีก 10-20 ปีข้างหน้า ก็หนีไม่พ้นจีน สหรัฐฯ และอินเดีย
Jitta Wealth Thematic มีลงทุนกองทุน ETF ใน 3 ตลาดหุ้นของประเทศแห่งอนาคตทั้ง 3 ได้แก่ สหรัฐฯ จีน และอินเดีย ด้วยครับ
เริ่มต้นลงทุนไม่ยากครับ เงินลงทุน 100,000 บาท ให้คุณเลือกจัดพอร์ตได้ตั้งแต่ 1-5 ธีม จากนั้น Jitta Wealth จะดูแลและปรับพอร์ตลงทุนให้อัตโนมัติ
ถ้าคุณสนใจลงทุนในธีมธุรกิจที่คุณสนใจและตลาดหุ้นที่คุณเชื่อมั่น ลองดูข้อมูลได้บนเว็บไซต์ หรือสอบถามทีมงานของเราเพิ่มเติมได้ที่ Line: @JittaWealth หรือ Facebook: Jitta Wealth
แจ้งวันปิดทำการ
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทาง Jitta Wealth จะปิดทำการในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 2563 ถึง 3 ม.ค. 2564 โดยวันทำการสุดท้ายของปี 2563 คือ 30 ธ.ค. และเปิดทำการอีกครั้งในวันที่ 4 ม.ค. 2564 ครับ
ในช่วงปิดทำการ คุณยังสามารถดำเนินการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Jitta Wealth เช่น ดูข้อมูลพอร์ตการลงทุนของคุณ เพิ่มนโยบายการลงทุน
การโอนเงินลงทุนและเพิ่มทุนจะต้องรอตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ในวันเปิดทำการ 4 ม.ค. 2564 เป็นต้นไป
เนื่องจากกระบวนการลงทุนจะใช้เวลาประมาณ 15 วันทำการ หากโอนเงินหลังจากวันที่ 23 ธ.ค. คุณจะได้เริ่มซื้อหลักทรัพย์ในปี 2564
นี่คือ Weekly Digest ฉบับสุดท้ายของปี 2563 แล้วครับ เรากำลังจะต้อนรับปี 2564 ผมขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะครับ
ขอให้เป็นปีวัวทอง พอร์ตลงทุนได้ผลตอบแทนดี วิกฤต Covid-19 คลี่คลาย มีวัคซีนใช้กันถ้วนหน้า และสุขภาพร่างกายแข็งแรงกันนะครับ
ในช่วงเทศกาลที่เราอาจจะสามารถจัดเฉลิมฉลองเล็กๆ ได้ในบางพื้นที่ อย่าลืมใส่แมสก์ พกเจลแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงอยู่ในที่แออัดกันด้วยนะครับ
แล้วพบกันในปี 2564 ครับ
ตราวุทธิ์ และทีมงาน Jitta Wealth