วิธีรับมือ Covid-19 ฉบับนักลงทุน

22 ธันวาคม 2563WEEKLY DIGEST

ลงทุนก่อนหรือหลังวิกฤตดีกว่า?

อรุณสวัสดิ์ครับ

เช้านี้เราจะมาดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ระลอกใหม่ในประเทศไทยและทั่วโลก กับสิ่งที่นักลงทุนควรทำในเวลานี้ แนะนำธีมลงทุนใหม่ที่จะพาพอร์ตคุณลอยละล่อง พร้อมจับตาดูความเคลื่อนไหวสำคัญๆ ในวงการเทคโนโลยี ที่อาจหยิบยื่นโอกาสดีๆ ให้คุณแบบไม่รู้ตัว

Covid-19 ระลอกใหม่ อาจเป็นจังหวะเพิ่มทุน

มันเกิดขึ้นได้ครับ

การแพร่ระบาด Covid-19 ระลอกใหม่ ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่า อาจจะลากยาวไปจนหลังปีใหม่ ถ้าเราไม่สามารถแก้ไขได้ทันท่วงที

การติดเชื้อกลุ่มใหญ่ที่พบที่ตลาดกลางกุ้ง ในสมุทรสาคร ก่อให้เกิดความกังวลมาก เพราะสมุทรสาครเป็นแหล่งตลาดค้าส่งอาหารทะเลขนาดใหญ่ แถมจุดแพร่ระบาดก็มาจากตลาดสด

ข้อมูลจากไทยรู้สู้โควิด รายงานว่า ช่วง 19-21 ธ.ค. มีคนไทยที่มีความเชื่อมโยงจากตลาดสด จ. สมุทรสาคร ติดเชื้อจำนวน 50 คน

ขณะที่การตรวจเชื้อในกลุ่มแรงงานต่างด้าวช่วง 20-21 ธ.ค. พบผู้ป่วยติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่รวม 876 คน แต่ยังไม่แสดงอาการ

เรียกได้ว่า ติดเชื้อคลัสเตอร์ใหญ่กว่ากรณีสนามมวยและผับ เมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา จนจังหวัดสมุทรสาครต้องล็อกดาวน์ ประกาศใช้เคอร์ฟิวสี่ทุ่มถึงตีห้า ปิดสถานที่เสี่ยง งดจัดงานและกิจกรรมต่างๆ ไปจนถึง 3 ม.ค. 64 เลยทีเดียว

ห้างสรรพสินค้า สาขาธนาคาร และตลาดสดในจังหวัดบางแห่งก็ปิดให้บริการเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อลดการแพร่ระบาด

แต่การแพร่ระบาดไม่ได้กระจุกในจังหวัดเดียวครับ มีรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อยืนยันในกรุงเทพฯ สมุทรปราการ นครปฐม สุพรรณบุรี ราชบุรี สระบุรี ที่มาจากการไปตลาดอาหารทะเล จ. สมุทรสาคร ด้วย

ทำให้จังหวัดนนทบุรี รีบออกมาปูพรมตรวจตลาดบางใหญ่ ซิตี้ เพื่อป้องกันแพร่ระบาด

ระหว่างนี้ภาครัฐยังต้องประเมินสถานการณ์วันต่อวัน แม้จะยกเลิกการจัดงาน Countdown และสวดมนต์ข้ามปีแล้วก็ตาม

ประเด็นการแพร่ระบาด Covid-19 ในประเทศ ทำให้ดัชนี SET เปิดตลาดวันจันทร์ ลดลง 80.60 จุด (-5.44%) ปิดที่ 1,401.78 จุดโดยมีมูลค่าการซื้อขาย 129,435 ล้านบาท ลดลงหนักสุดในรอบ 9 เดือน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บอกว่า ยังไม่ออกมาตรการคุมความเคลื่อนไหวของ SET และยังไม่พบความผิดปกติ คาดว่าที่หุ้นร่วงแรงช่วงนี้ จะเป็นเหตุการณ์ระนะสั้นเท่านั้น

นักลงทุนระยะยาวมักจะมองจังหวะที่ตลาดหุ้นตกรับข่าวร้ายแบบนี้ เป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นที่ดี ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน เพื่อเพิ่มกำไรให้พอร์ตได้มากขึ้น

นั่นหมายความว่า หากคุณพลาดโอกาสลงทุน หรือเพิ่มทุนช่วงต้นปีที่ผ่านมา นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สอง ที่พลาดไปแล้ว อาจต้องเสียใจไปอีก 10 ปีก็ได้

ยังไงก็จับตาดูสถานการณ์ และเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม เพื่อจะได้ตัดสินใจได้ถูกต้องนะครับ

Covid-19 กับผู้นำยุโรป วัคซีน และไวรัสกลายพันธุ์

แม้จะมีวัคซีนออกมาแล้ว แต่สถานการณ์โรคระบาดยังไม่ดีขึ้นครับ

จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังคงเพิ่มทุกวัน บางพื้นที่จำเป็นต้องล็อกดาวน์อยู่ แถมยังมีการค้นพบเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่อีก

และนี่คือความคืบหน้าของสถานการณ์ Covid-19 จากรอบโลกครับ

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron ตรวจพบเชื้อ Covid-19 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้นำยุโรป เช่น นายกรัฐมนตรีเยอรมัน Angela Merkel หรือ Charles Michel ประธานคณะมนตรียุโรป ที่ประชุมพบปะกับ Macron ในช่วงที่ผ่านมา ต้องตรวจหาเชื้อและกักตัวด้วย

Moderna เริ่มกระจายวัคซีน Covid-19 ในสหรัฐฯ หลังจากรัฐบาลได้อนุมัติการใช้วัคซีนเป็นการฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นับเป็นวัคซีนรายที่ 2 ต่อจาก Pfizer

สภาคองเกรสบรรลุข้อตกลงแพ็คเกจเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐฯ วงเงิน 900,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หวังจะเพิ่มสวัสดิการคนว่างงาน แจกเงินโดยตรง และช่วยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19

นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร Boris Johnson ประชุมฉุกเฉินมาตรการรับมือ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ ที่ติดต่อง่ายขึ้น ทำให้ต้องล็อกดาวน์กรุงลอนดอน และเฝ้าระวังการเดินทางออกนอกประเทศ

ฝรั่งเศส เยอรมัน และอีกหลายประเทศทั่วโลกระงับเที่ยวบิน รถไฟ เรือที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร หลังจากพบว่ามีผู้ป่วย Covid-19 สายพันธุ์ใหม่จากอังกฤษ

บริษัทเทคโนโลยีเติบใหญ่ จนรัฐต้องเบรค

เมื่อพูดถึงสถานการณ์ Covid-19 ที่ยังแพร่ระบาดไม่หยุด ก็ต้องพูดถึงธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากวิกฤตครั้งนี้ บริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ที่พากันเติบโตแบบฉุดไม่อยู่ เพราะผู้คนทั่วโลกหันมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้น

เมื่อบริษัทเทคโนโลยีแข็งแกร่งมากขึ้น ก็มีความสามารถในการออกบริการใหม่ๆ หรือมีเงินทุนมากพอในการซื้อกิจการเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวเอง และสิ่งที่ตามมาคือ อำนาจต่อรองที่มากขึ้น

ล่าสุดอัยการ 10 รัฐของสหรัฐฯ ฟ้อง Google เมื่อวันพุธที่แล้ว ในข้อหาผูกขาดโฆษณาออนไลน์ ขัดขวางการแข่งขันเสรี

ในขณะที่ Facebook ก็โดนกล่าวหาว่าดำเนินธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการรายเล็ก จากการเข้าซื้อธุรกิจ Instagram และ WhatsApp

สองยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีนั้นมีส่วนแบ่งตลาดโฆษณาออนไลน์รวมกันมากกว่า 50% ถ้าหากคดีถึงที่สุด และฝ่ายอัยการชนะ Google อาจจะต้องแยกธุรกิจโฆษณาออกมา ในขณะที่ Facebook อาจจะต้องขายธุรกิจ Instagram และ WhatsApp ออกไปด้วย

หาก Google และ Facebook ต้องขายธุรกิจออกมาจริง อาจจะเปิดทางให้อีกหลายธุรกิจเทคโนโลยีเติบโต หรือทำให้มีธุรกิจเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่แข็งแกร่ง มาให้เราเลือกลงทุนก็เป็นได้ครับ

สงครามระหว่างชิป และอนาคตของเทคโนโลยี

เดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา Amazon เริ่มทำการตลาดบริการคลาวด์ใหม่ ที่ใช้ชิปที่พัฒนาขึ้นเองจากเทคโนโลยีของ Arm จุดขายคือ เร็วและราคาถูกกว่าบริการคลาวด์ที่ใช้ชิปของ Intel

ในเดือนพ.ย. Apple ก็เปิดตัว MacBook ใหม่ ที่ใช้ชิป M1 ที่ผลิตขึ้นเองจากเทคโนโลยีของ Arm ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก ทำให้ MacBook ประมวลผลได้เร็วขึ้น 3.5 เท่า และแบตเตอร์รี่อึดขึ้น 2 เท่า

ล่าสุด Microsoft ก็ออกมาประกาศว่า เตรียมจะพัฒนาชิปเป็นของตัวเอง เพื่อใช้กับ Azure บริการคลาวด์ของ Microsoft และในคอมพิวเตอร์ Surface ทำให้ราคาหุ้นของ Intel และ Advanced Micro Devices ที่เป็นซัพพลายเออร์ให้ Microsoft ตกลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ชิปที่ทั้ง Amazon Apple และ Microsoft พัฒนาขึ้นเองต่างใช้เทคโนโลยีของ Arm ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเร็ว และการประหยัดพลังงาน

นั่นหมายความว่า ต่อจากนี้ เราอาจจะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีกำลังการประมวลผลเร็วขึ้น หรือแม้แต่ AI ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ออกสู่ท้องตลาด เพิ่มความน่าลงทุนให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีมากขึ้นไปอีกครับ

Tesla เข้าดัชนี S&P 500

ข่าวดีสำหรับหุ้นยานยนต์ไฟฟ้า Tesla ถูกคำนวณเข้าดัชนี S&P 500 ครั้งแรกวันจันทร์ จะมีสัดส่วนในดัชนี 1.69%

Tesla จะเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดหุ้น Wall Street โดยตลอดทั้งปี 2563 ราคาหุ้น Tesla พุ่งขึ้น 700% มี Market Cap สูงถึง 660,000 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นหุ้นที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่ 6

สำหรับคนที่สนใจลงทุนหุ้น Tesla แต่กังวลเรื่องราคาที่ดูสูงเกินพื้นฐานไปเยอะ สามารถลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงผ่านกองทุนดัชนี S&P 500 หรือกองทุนหุ้นเทคโนโลยีอย่าง iShares Exponential Technologies ETF หรือ XT ที่ให้น้ำหนักลงทุนในหุ้น Tesla สูงสุดในพอร์ตเลยครับ

2 เมกะเทรนด์ล่าสุด ที่คุณไม่ควรพลาดลงทุน

Jitta Wealth Thematic เพิ่ม 2 ธีมใหม่ คือ China Tech (เทคโนโลยีจีน) และ Cannabis (กัญชา) เมกะเทรนด์ใหม่ที่มาแรง มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต

เทคโนโลยีจีน ลงทุนในหุ้นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนชั้นนำในกลุ่ม Information Technology ทั่วโลก ทั้งหุ้น A-share H-share และ ADR ผ่านกองทุน Invesco China Technology ETF

กัญชา ลงทุนใน 40 หุ้นบริษัทในอุตสาหกรรมเพาะปลูกและแปรรูปกัญชา เพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ทั่วโลก และในประเทศที่กฎหมายรับรองให้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ ผ่านกองทุน ETFMG Alternative Harvest ETF

หากคุณสนใจ ลองดูข้อมูลได้บนเว็บไซต์ หรือสอบถามทีมงานของเราเพิ่มเติมได้ที่ Line: @JittaWealth หรือ Facebook: Jitta Wealth

[Promo] แจ้งวันหยุดทำการของ Jitta Wealth

ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทาง Jitta Wealth จะปิดทำการในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 2563 ถึง 3 ม.ค. 2564 โดยวันทำการสุดท้ายของปี 2563 คือ 30 ธ.ค. และเปิดทำการอีกครั้งในวันที่ 4 ธ.ค. 2564 ครับ

ในช่วงปิดทำการ คุณยังสามารถดำเนินการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Jitta Wealth เช่น ดูข้อมูลพอร์ตการลงทุนของคุณ เพิ่มนโยบายการลงทุน

การโอนเงินลงทุนและเพิ่มทุนจะต้องรอตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ในวันเปิดทำการ 4 มกราคม 2564 เป็นต้นไป

เนื่องจากกระบวนการลงทุนจะใช้เวลาประมาณ 15 วันทำการ หากคุณต้องการลงทุนภายในปี 2563 กรุณาโอนเงินลงทุนภายในวันที่ 23 ธ.ค. หากโอนเงินหลังจากวันที่ 23 ธ.ค. คุณจะได้เริ่มซื้อหลักทรัพย์ในปี 2564

ตอนนี้ Covid-19 อยู่ใกล้ตัวพวกเรามากจนประมาทไม่ได้

อย่าลืมใส่หน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์ และรักษาระยะห่าง Social Distancing กันด้วยนะครับ

แล้วพบกันในสัปดาห์หน้าครับ

ตราวุทธิ์ และทีมงาน Jitta

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด