Jitta Wealth Journal ฉบับที่ 17 ประจำวันที่ 16 มี.ค. มีประเด็นข่าวที่น่าติดตามและมีผลกระทบต่อการลงทุนทั้งในหุ้นไทยและต่างประเทศ ดังนี้
- ความหวังครั้งใหญ่ ไทยรับต่างชาติ 1 เม.ย. นี้
- สิงคโปร์เตรียมเปิดประเทศสิ้นปีนี้
- ทั่วโลกเร่งรัดเปิดประเทศ ใช้วัคซีนพาสปอร์ต
- เม็กซิโกปลดล็อกกัญชาเป็นประเทศที่ 3 ของโลก
- จีนเล็งออกมาตรการระวังฟองสบู่ในตลาดหุ้น
- จับตาตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของ Biden
นอกจากนี้ยังมีธีมใหม่ ธีมที่ 14 ของ Thematic นั่นก็คือ Travel Tech ที่ Jitta Wealth ภูมิใจนำเสนอ สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนใน ETF กลุ่มท่องเที่ยว ลงทุนก่อนที่ทั่วโลกจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว
สำหรับใครที่สงสัยว่า Travel Tech น่าสนใจ มีโอกาสเติบโตหรือไม่ ลองอ่านบทความ ‘ลงทุน Travel Tech ก่อน...ได้เปรียบ’ หรือดู Live ‘ลงทุนนำเทรนด์ ‘เทคท่องเที่ยว’ บอกลา Covid-19’ หรืออ่านรีวิว ETF จาก ‘ไดอารี่การเงิน - Money Diaries’ กับ ‘หนีดอย’ ได้
ไปติดตามกันได้เลย
ต้นเดือนหน้านักท่องเที่ยวต่างชาติจากกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ จะเข้าไทยได้แบบมีเงื่อนไข และรัฐบาลไทยยังมีแผนจะเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกกว่า 70 ประเทศเร็วๆ นี้
กลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ เช่น จีน เวียดนาม ไต้หวัน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
นี่คือ ความหวังครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพราะนับจนถึงเดือนมี.ค. ก็จะครบ 1 ปีแล้ว ที่ไทยปิดประเทศ งดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด Covid-19
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาบอกว่า ไทยจะผ่อนปรนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีน 2 โดส สามารถเข้าพักในโรงแรมที่เป็น Area Quarantine โดยอยู่ในบริเวณโรงแรม 7 วัน และสามารถเดินทางไปเที่ยวต่อในจังหวัดอื่นๆ ได้ โดยเริ่มนําร่องใน 5 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ และชลบุรี
นอกจากนี้จะเพิ่มกลุ่มประเทศเสี่ยงปานกลางและสูงให้สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในไทยได้ แต่แนวคิดนี้จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเร็วๆ นี้ เพราะเป็นกลุ่มเป้าหมายสร้างรายได้หลักให้ธุรกิจท่องเที่ยวไทย
การวางแผนเปิดประเทศครั้งนี้ พนักงานที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยว 4 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต ชลบุรี สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีน Covid-19 รวมๆ 50,000 โดสอีกด้วย
นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง แห่งสิงคโปร์ คาดว่าจะเปิดประเทศรับการท่องเที่ยวภายในสิ้นปีนี้ หลังจากที่หลายประเทศต่างเร่งรัดมาตรการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด Covid-19 อย่างจริงจัง
สิงคโปร์ได้มีคำสั่งห้ามไม่ให้มีการเดินทางระหว่างประเทศในช่วง Covid-19 แต่ได้อนุญาตให้มีการเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจ หรือติดต่อกิจการระหว่างประเทศได้เป็นบางกรณี
สิงคโปร์ยังพิจารณาแนวคิดวัคซีนพาสปอร์ตร่วมกับประเทศอื่นๆ ด้วย ดังนั้นแผนการเปิดประเทศจะทำได้อย่างเร็วที่สุด คือ สิ้นปี 2564 หรืออย่างช้าที่สุด คือ ต้นปี 2565
ปัจจุบันสิงคโปร์สามารถรับมือกับการแพร่ระบาด Covid-19 ได้เป็นอย่างดี และดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันให้กับประชาชน ข้อมูลถึง 8 มี.ค. ได้รับวัคซีนแล้วรวม 611,000 โดส จากจำนวนประชากรสิงคโปร์ 5.7 ล้านคน
รัฐบาลสิงคโปร์ยืนยันว่า มีแผนจะจัดฉีดวัคซีนให้กับทุกคนภายในสิ้นปีนี้เช่นเดียวกัน
คว้าโอกาสก่อนหุ้นท่องเที่ยววิ่งไกล ลงทุนหุ้นเทคโนโลยีท่องเที่ยววันนี้ ต้อนรับการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวหลังทั่วโลกเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวกรูกันเดินทางระบายความอัดอั้น และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับมาผงาดเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกครั้ง
Thematic เป็นกองทุนหนึ่งเดียวในไทย ที่ให้คุณลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีการท่องเที่ยวทั่วโลก เช่น Airbnb Booking Uber และ Expedia ผ่าน ETFMG Travel Tech ETF (AWAY)
ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 60.2%* (ณ 1 มี.ค. 2564)
ถ้าคุณอยากลงทุนตั้งแต่ต้นเทรนด์ นี่คือโอกาสที่พลาดไม่ได้เลย!
หรือแมสเสจหาเราเพื่อสอบถามทางเฟสบุ๊ก และไลน์ @JittaWealth
สเปนอาจเริ่มใช้วัคซีนพาสปอร์ตดิจิทัลในเดือนพ.ค. นี้ แต่การออกวัคซีนพาสปอร์ตจะขึ้นอยู่กับว่ามีคนได้รับวัคซีนเท่าไรในสเปน รวมถึงจำนวนผู้ป่วยรายใหม่
ปัจจุบันมีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว 4.8 ล้านคนในสเปน และ 1.4 ล้านคนได้ครบ 2 เข็ม โดยรัฐบาลหวังว่า 30-40% ของประชากรจะได้รับวัคซีนภายในสิ้นเดือนหน้า
กรีซเล็งที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศตั้งแต่ 14 พ.ค แต่ต้องฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 มาแล้ว หรือมีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ติดเชื้อ Covid-19 โดยจะตรวจเชื้อกับนักท่องเที่ยวทุกคนทันทีที่เดินทางมาถึง
ด้านไซปรัสเตรียมเปิดพรมแดนรับคนอังกฤษที่ฉีดวัคซีนครบโดส ตั้งแต่เดือนพ.ค. หลังจากคนในอังกฤษเกือบล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว
ขณะที่ผู้นำอังกฤษบอกว่า จะอนุญาตให้คนในอังกฤษเดินทางไปต่างประเทศได้ เริ่มตั้งแต่ 17 พ.ค. เป็นต้นไป ซึ่งเป็นกำหนดเวลาที่เร็วที่สุด
รู้หรือไม่ว่า นักท่องเที่ยวเกือบครึ่งจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรม ทริปเดินทางท่องเที่ยวต่าวประเทศกันแล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการเปิดพรมแดนให้เดินทางเข้าด้วยซ้ำ นี่คือความอัดอั้นของผู้คนทั่วโลก และโอกาสครั้งสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยว
วันพุธที่ผ่านมา คุณตราวุทธิ์มีโอกาส Live พูดคุยกับคุณภูวรัฐ หน่อชูเวช ผู้เคยมีประสบการณ์ร่วมงานกับบริษัท Travel Tech อย่าง Airbnb และ Agoda รวมทั้งฉายภาพใหญ่ของธุรกิจให้คุณได้ฟังกัน
Travel Tech เป็นธีมที่ 14 ของ Jitta Wealth Thematic ซึ่งคุณสามารถจัดพอร์ตลงทุนใน ETF ที่ได้คัดสรรมาแล้วว่า สร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ร่วมกับธีมอื่นๆ อีก 13 ธีมที่คุณสนใจ เพื่อกระจายความเสี่ยง รองรับเมกะเทรนด์ของโลก
ดูวิดีโอรีวิวของไดอารี่การเงิน - Money Diaries
อ่านรีวิวจากหนีดอยบน Blockdit
ตามหลังอุรุกวัยและแคนาดามาติดๆ สำหรับเม็กซิโกที่ปลดล็อกกัญชาให้สามารถใช้ได้ ทั้งทางการแพทย์และสันทนาการ โดยได้อนุมัติร่างกฎหมายเมื่อวันพุธที่แล้ว จากคะแนน 316 ต่อ 129 ในสภาล่าง
เม็กซิโกยังคงเป็นประเทศที่มีสงครามยาเสพติด แต่ก่อนหน้านี้ก็ได้อนุมัติให้ใช้กัญชาได้เฉพาะทางการแพทย์มานานกว่า 3 ปี
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ก็จะทำให้เม็กซิโกกลายเป็นประเทศที่เป็นตลาดบริโภคกัญชาใหญ่ที่สุดในโลก
แต่ร่างกฎหมายนี้ต้องผ่านการพิจารณาและปรับปรุง และอนุมัติจากวุฒิสภา ก่อนที่จะส่งให้ประธานาธิบดีและประกาศใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งประธานาธิบดี Andres Manuel Lopez Obrador ก็มีจุดยืนชัดเจนในการสนับสนุนกฎหมายกัญชาตัวนี้
ในรายละเอียดของกฎหมาย จะอนุญาตให้ประชาชนที่อายุถึงเกณฑ์สามารถสูบกัญชาได้ และอนุญาตให้ปลูกต้นกัญชาในจำนวนที่กำหนดไว้ รวมทั้งสามารถให้ใบอนุญาตสำหรับธุรกิจการปลูกและแปรรูปกัญชา ทั้งรายใหญ่และรายเล็ก
อย่างไรก็ตามร่างกฎหมายปลดล็อกกัญชา ยังมีความเห็นที่หลากหลายจากประชาชนเม็กซิโก มีทั้งสนับสนุนและคัดค้านปะปนกัน
แต่นี่นับเป็นอีกก้าวของเทรนด์ปลดล็อกกัญชาทั่วโลกครับ แม้จะเป็นประเทศที่ยังมีปัญหายาเสพติดอย่างเม็กซิโก ก็ยังสามารถผ่านร่างกฎหมายได้ ประเทศอื่นๆ ที่ไม่ได้มีปัญหายาเสพติดรุนแรงก็สามารถทำได้เช่นกัน
ตลาดหุ้นจีนทั้งเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นต้องเผชิญภาวะแรงกดดัน หลังจากที่รัฐบาลจีนมีมาตรการเชิงรุกป้องกันฟองสบู่ในตลาดหุ้น โดยเฉพาะการกู้ยืมเงินเพื่อมาลงทุนในหุ้นและอสังหาริมทรัพย์
เริ่มต้นด้วยการออกคำเตือนการซื้อขายหุ้นและสินทรัพย์ต่างๆ ผ่านสื่อที่รัฐบาลจีนหนุนหลัง เป็นความพยายามที่จะป้องกันหรือลดผลกระทบภาวะฟองสบู่จากตลาดการเงินในต่างประเทศ
ทางการจีนยังสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ลดเพดานวงเงินกู้ยืมในปีนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากฟองสบู่ในตลาดการเงินของจีนเช่นเดียวกัน
นี่เป็นผลมาจากการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ชุดที่ 13 ครั้งที่ 4 โดยจีนมีเป้าหมายลดการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างร้อนแรง คาดว่าจะมีตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สำหรับปี 2564 ไว้ที่ 6% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 8%
เป้าหมายอนุรักษ์นิยมนี้ จะช่วยให้หน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของจีนสามารถเฝ้าระวังภาวะฟองสบู่ได้ และนักลงทุนควรจะหลีกเลี่ยงลงทุนหุ้นที่มูลค่าพุ่งสูงเกินกว่าพื้นฐาน แล้วเปลี่ยนมาเป็นหุ้นที่เติบโตตามวัฏจักรของเศรษฐกิจ
ประธานาธิบดี Joe Biden ลงนามแผนพลิกฟื้นเศรษฐกิจจาก Covid-19 วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยจะเริ่มจ่ายเงินให้ประชาชนผ่านบัญชีธนาคารภายในเดือนมี.ค.
แผนกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ให้ชาวอเมริกันคนละ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ และขยายเงินชดเชยว่างงาน 300 ดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์จนถึงเดือนก.ย. รวมทั้งขยายเครดิตภาษีบุตรไปอีก 1 ปี
แผนนี้ยังรวมวงเงิน 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการฉีดวัคซีน Covid-19 อีก 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐช่วยเหลือด้านการเช่าที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค และ 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้แต่ละรัฐใช้ในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
16-17 มี.ค.นี้ ตลาดการเงินทั่วโลกยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยดูท่าทีของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อที่เป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะ 1.642% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี คาดว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวมากขึ้นจากการใช้จ่ายงบประมาณมหาศาลของรัฐบาลสหรัฐฯ
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยังดีดตัวขึ้นขานรับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ต่ำกว่าคาด รวมทั้งดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐฯ ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี
ภาวะการลงทุนช่วงนี้ มีการพูดถึง Sector Rotation อธิบายง่ายๆ คือ ปีที่แล้วหุ้นเทคโนโลยีมาแรง เพราะได้อานิสงส์จากการแพร่ระบาด Covid-19 ส่งผลทำให้มูลค่าหุ้นกลุ่มนี้ขึ้นร้อนแรง ขณะเดียวกันผลประกอบการก็เติบโตด้วย
สำหรับปีนี้ หุ้นวัฏจักร (Cyclical Stock) จะเป็นหุ้นที่จะเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม พลังงาน ธนาคาร รวมไปถึงกลุ่มท่องเที่ยว
ในโลกของการลงทุน ไม่มีสินทรัพย์ตัวไหนเป็นขาขึ้นตลอด และไม่มีสินทรัพย์ตัวไหนที่เป็นขาลงตลอด ทุกอย่างมีวงรอบขาขึ้นขาลงของมันอยู่
อยู่ที่ว่า แนวทางการลงทุนของคุณเป็นแบบไหน รับความเสี่ยงกับภาวะตลาดขาลงได้หรือไม่
หากรับไม่ได้มาก อาจจะพิจารณาการลงทุนที่มีการจัดสรรสินทรัพย์หรือ Asset Allocation ในพันธบัตรควบคู่ไปกับหุ้น อย่างนโยบาย Global ETF ที่ผันผวนน้อยกว่า จะช่วยคุณฝ่าช่วงคลื่นลมแรงในตลาดไปได้อย่างสบายใจ
แล้วพบกันสัปดาห์หน้า