สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงและผันผวนหนัก เพราะนักลงทุนกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อ ตามความคาดหวังว่า เศรษฐกิจโลกกำลังจะฟื้นตัวจากวิกฤต Covid-19
ซึ่งความกังวลในอัตราเงินเฟ้อนี้ ส่งผลกระทบทั้งตลาดพันธบัตร และตลาดหุ้นเลย โดย
เราจะเห็นได้จากดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ ที่เป็นขาขึ้น ปิดสิ้นเดือนก.พ. ที่ 1.538% เพิ่มขึ้นสูงถึง 0.4% ตลอดทั้งเดือน ถือเป็นอัตราสูงที่สุดนับจากปี 2559
ในขณะที่เดือนก.พ. ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง โดย NYSE ลดลง 1.87% และ Nasdaq ลดลง 5.94% ส่วนดัชนี S&P500 ลดลง 2.69%
ที่ตลาดหุ้นดูปรับฐานแรง ก็เพราะหุ้นหลายๆ ตัวที่โดนเทขายเป็นหุ้นใหญ่ๆ ที่ก่อนหน้านี้ราคาพุ่งขึ้นมาโดยตลอด เช่น หุ้น Apple หุ้น Tesla หุ้น Amazon.com หุ้น Nvidia และหุ้น Microsoft
หุ้นใหญ่แบบนี้ เคลื่อนไปทางไหน ก็ลากทั้งดัชนีไปด้วย
เมื่อทั้งหุ้นบิ๊กแคปและบิ๊กเทคปรับฐาน มีแรงเทขายทำกำไร เงินก็จะไหลออกจากกลุ่มธุรกิจหนึ่ง ไปอีกกลุ่มธุรกิจหนึ่งแทน โดย Bank of America มองว่า หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมไปถึงหุ้นวัฎจักร (Cyclical) หุ้นธุรกิจดั้งเดิม น่าจะได้รับอานิสงส์จากแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้
ถ้าเป็นไปตามที่ Bank of America คาดการณ์ไว้ ก็อาจจะเป็นโอกาสลงทุน หรือเพิ่มทุน สำหรับนโยบาย Jitta Ranking ซึ่งเป็นการลงทุนใน 'หุ้นดีราคาถูก' และเป็นหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงหุ้นธุรกิจดั้งเดิมที่มีแนวโน้มเติบโตตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวหลัง Covid-19
แต่ถ้าคุณลงทุน Global ETF และ Thematic และตั้งใจลงทุนระยะยาวอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องกังวลว่าเมกะเทรนด์ที่คุณเลือกลงทุนไปจะสูญสลายไป เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมกะเทรนด์แล้ว ก็ควรจะต้องเติบโตในระยะ 5-10 ปี
สถานการณ์แบบนี้ คือการปรับฐานของตลาดหุ้นในระยะสั้น อาจจะส่งผลให้พอร์ตคุณผันผวน แต่ถ้าธีมที่คุณเลือกไว้ ธุรกิจยังเติบโตได้ดี ก็ขอให้มั่นใจในเมกะเทรนด์ที่เลือก และ DCA หรือเพิ่มทุนเข้ามา จะช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของพอร์ตได้
แต่ถ้ายังไม่มั่นใจ รอดูสถานการณ์ไปอีกสักระยะ ก็ไม่ยังสาย
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เผยแพร่บทความบนเว็บบอร์ดสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า ถึง ARK Invest บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่กำลังถูกจับตา เพราะลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีและเมกะเทรนด์โลก
Cathie Wood นักบริหารกองทุน ETF ของ ARK Invest สร้างผลงานที่โดดเด่น ด้วยผลตอบแทนสูงถึง 100-200% ในปี 2563 ส่งผลให้มูลค่า AUM รวมเพิ่มจาก 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 41,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีเดียว
คิดเป็นเงินไทย มูลค่า AUM รวมของ ARK Invest จาก 1 แสนล้านบาท เป็น 1.2 ล้านล้านบาท ในปี 2563
อย่างไรก็ตาม ดร. นิเวศน์ นักลงทุนหุ้นเน้นคุณค่า ก็เตือนว่า การลงทุนใน ETF ถึงจะกระจายความเสี่ยงในตัว แต่อย่าคาดหวังว่ามันจะดีเหมือนเดิมหรือแม้แต่จะดีมากๆ ในปีต่อๆ ไป
โดยเฉพาะคนที่อยากลงทุนใน ETF ของ ARK ควรทราบว่า การบริหารของ ARK นั้น เป็นการบริหารจัดการแบบ Active เน้นคัดเลือกหุ้น ซื้อขาย เปลี่ยนการถือครองหุ้นตลอดเวลา มีความเสี่ยงสูง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้บริหารกองทุน
ซึ่งจะต่างจาก ETF แบบ Passive ที่อ้างอิงดัชนี ซื้อขายไม่บ่อย ค่าธรรมเนียมต่ำ ที่คุณลงทุนผ่าน Jitta Wealth
อานิสงส์ของ Covid-19 ทำให้หุ้นเทคโนโลยีต่างๆ ราคาวิ่งขึ้นตอบรับกับเมกะเทรนด์และสภาพธุรกิจไปแล้ว ทำให้มูลค่า ETF ของ ARK Invest พุ่งแรงอย่างก้าวกระโดดไปด้วย
แต่...ผู้บริหารกองทุนไม่ได้เป็น ‘เซียน’ ที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนโตมากกว่า 100% ได้ตลอดเวลา ผลตอบแทนที่ดีในอดีต อาจจะไม่ใช่ ‘ฝีมือ’ ของผู้บริการ ETF เพียงอย่างเดียว อาจเป็นเรื่องของ ‘โชค’ ด้วย
นี่จึงเป็นความเสี่ยงหนึ่งของการลงทุนใน Active Fund ที่คุณต้องพิจารณาเพิ่มเติม ก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับ ETF ที่ Jitta Wealth เลือกมาให้คุณลงทุน ทั้งแบบ Global ETF และ Thematic นั้น เป็น Passive Fund ทั้งหมด จึงไม่ต้องกังวลว่าผู้บริหารกองทุนจะ ‘มือขึ้น’ หรือ ‘มือตก’
เราเน้นเติบโตตามดัชนีของกลุ่มธุรกิจนั้นๆ ไปเรื่อยๆ ไม่หวือหวา แต่ก็พิสูจน์แล้วว่าให้ผลตอบแทนดี ชนะกองทุน Active ส่วนใหญ่ในระยะยาวด้วยซ้ำไป
ซึ่งก็สอดคล้องกับแนวคิดการเลือกกองทุนของดร.นิเวศน์ ที่บอกว่า ETF ที่อิงดัชนีนั้น ทำผลตอบแทนได้เท่าค่าเฉลี่ยในตลาดหุ้นที่มีประสิทธิภาพสูงมาก เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมแล้วในภาวะปัจจุบัน
Food and Drug Administration (FDA) ได้อนุมัติใช้งานวัคซีน Covid-19 ของ Johnson & Johnson เพื่อการฉุกเฉินเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ทำให้สหรัฐฯ มีวัคซีนยับยั้ง Covid-19 ถึง 3 ชนิด
สหรัฐฯ ยังเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ Covid-19 สูงที่สุดในโลก ปัจจุบันมีทั้งหมด 29.26 ล้านเคส เสียชีวิตไปแล้ว 525,776 คน และรักษาหายแล้ว 19.69 ล้านคน
วัคซีนแบบฉีดเข็มเดียวของ Johnson & Johnson มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกัน Covid-19 ที่มีอาการรุนแรง รวมทั้งยังมีประสิทธิภาพในการป้องกัน Covid-19 สายพันธุ์ใหม่
จากการทดลองทางคลินิกแบบเป็นวงกว้างพบว่า วัคซีนของ Johnson & Johnson มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคแบบมีอาการรุนแรงได้ถึง 85.9%
Johnson & Johnson จะทยอยส่งมอบวัคซีนให้สหรัฐฯ 100 ล้านโดสภายในเดือนมิ.ย. โดยเริ่มส่งมอบโดสแรกตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
สหราชอาณาจักรสั่งวัคซีนของ Johnson & Johnson 30 ล้านโดส สหภาพยุโรป 200 ล้านโดส แคนาดา 38 ล้านโดส และโครงการ Covax อีก 500 ล้านโดสที่ส่งให้กับประเทศยากจน
ETFMG Alternative Harvest ETF (MJ) ที่เป็น ETF ธีมหุ้นกัญชาที่ Jitta Wealth เลือกเข้ามาในบริการกองทุนส่วนบุคคล Thematic
MJ เป็น ETF ที่มีมานานนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2558 ปัจจุบันมีมูลค่า AUM (Asset Under Management) สูงที่สุดในโลก 1,751 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่สัปดาห์ที่แล้ว AdvisorShares Pure US Cannabis ETF (MSOS) ETF หุ้นกัญชาน้องใหม่ ที่เปิดตัวไปเมื่อก.ย. 2563 มีมูลค่า AUM ทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามหลัง MJ มาติดๆ
ประเด็นสำคัญคือ MSOS สามารถไต่ระดับที่มูลค่า AUM 1,019.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือนนับจากเปิดกองทุน ตอนนั้นมูลค่า AUM เพียง 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
ความแตกต่างระหว่าง MJ และ MSOS คือ MJ จะลงทุนในหุ้นธุรกิจกัญชาทั่วโลก ให้ผลตอบแทนอ้างอิงตาม Prime Alternative Harvest Index (Passive Fund) ส่วน MSOS จะจำกัดการลงทุนในธุรกิจกัญชาในสหรัฐฯ และเป็น ETF ที่บริการกองทุนเชิงรุก (Active Fund)
MSOS เป็นกองทุนน้อง ตามหลัง AdvisorShares Pure Cannabis ETF (YOLO) ที่เป็น Active Fund เช่นเดียวกัน แต่ลงทุนในหุ้นธุรกิจกัญชาทั่วโลก มูลค่า AUM อยู่ที่ 427.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
มูลค่า AUM ของ ETF ‘หุ้นกัญชา’ ที่กำลังไต่ระดับเพิ่มขึ้น ล้วนแต่รับกระแสข่าวที่ประธานาธิบดี Joe Biden มีแผนชัดเจนที่จะปลดล็อกให้กัญชาถูกกฎหมายระดับประเทศ จากปัจจุบันที่ขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละรัฐเท่านั้น
อย่าง MJ ก็เติบโตนับจากต้นปี 2564 ที่ 63% ส่วน YOLO เพิ่มขึ้น 62.88% และ MSOS โต 42.30% รวมทั้ง ETF หุ้นกัญชาตัวอื่น เช่น Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) โตจากต้นปี 81%
วันอังคารที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา คุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ได้มีโอกาส Live กับ คุณกอล์ฟ มารุต ชุ่มขุนทด CEO และ Co-founder ของ Class Cafe' สตาร์ทอัพด้าน Innovative Food ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชาสำเร็จเป็นเจ้าแรกของไทย
คุณกอล์ฟให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจกัญชาและความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้เห็นภาพว่า กัญชาและกัญชงของไทยอยู่มีโอกาสเติบโตอย่างไรบ้าง
สำหรับ Jitta Wealth เราเป็นสตาร์ทอัพ Wealth Tech ที่เดียวที่เปิดโอกาสให้คุณได้ลงทุนใน ETF ‘หุ้นกัญชา’ ที่มาแรงขานรับเทรนด์ปลดล็อกให้ถูกกฎหมายทั่วโลก
คุณจิม ศรุติ โชติเสรีวิทย์ แห่งเพจ Stock Vitamins - วิตามินหุ้น มาพูดคุยกับคุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา Podcast นี้จะมาลงลึกหุ้นที่ทำธุรกิจกัญชาทั่วโลก มีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งมากพอ สะท้อนการเติบโตในอนาคตหรือไม่
เศรษฐกิจของเวียดนามยังโตได้อีกในระยะ 10 ปี บริษัทต่างชาติขนเงินมาลงทุน เกิดการจ้างงานและการส่งออกมหาศาล ทั้งหมดนี้ก็ส่งผลให้ ‘ตลาดหุ้นเวียดนาม’ มีทิศทางที่สดใส บริษัทมีผลประกอบการที่ดี
จัดพอร์ต ‘ธีมหุ้นเวียดนาม’ กับ VanEck Vectors Vietnam ETF (VNM) ลงทุนใน 28 บริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นเวียดนามหรือบริษัทต่างชาติที่มีสินทรัพย์และรายได้อย่างน้อย 50% มาจากเวียดนาม
VNM จะลงทุนให้ผลตอบแทนตาม MVIS Vietnam Index (MVVNM) รายงานผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 14.10%
คุณอะตอม พลชา โรจน์เลิศจรรยาแห่งเพจ ไดอารี่การเงิน - Money Diaries ได้รีวิวพื้นฐานตลาดหุ้นเวียดนาม ทำความรู้จักบริษัทจดทะเบียน โอกาสและความเสี่ยงของเวียดนาม และวิธีการลงทุนกับ Jitta Wealth
อย่างที่เราเคยพูดเสมอว่า การลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ ย่อมมีความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ดัชนีตลาดหุ้นที่ผันผวนและปรับฐานลงก็ไม่มีใครรู้ว่า ภาวะนี้จะอยู่อีกนานแค่ไหน
สิ่งที่ต้องมาทบทวน ก่อนจะตื่นตระหนกตามภาวะตลาดคือ เป้าหมายของการลงทุนของคุณ ดูผลประกอบการของหุ้นแต่ละตัว ดูผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาว และที่สำคัญคือ สินทรัพย์ที่เข้าลงทุนยังเป็นเมกะเทรนด์ได้ในอีก 5-10 ปีข้างหน้าใช่หรือไม่
แค่ดัชนีตลาดหุ้นปรับฐานช่วงสั้น...ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล
แล้วพบกันสัปดาห์หน้า
จีดีพีไทยหดตัวแรงในรอบ 2 ทศวรรษ