ขึ้นชื่อว่าเป็นเมกะเทรนด์แล้ว แสดงว่าต้องเป็นธุรกิจที่จะเติบโตไปกับเราอีก 10-50 ปีครับ
ไม่ใช่สิ่งที่มาแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ไปเหมือนแฟชั่น
ดังนั้น ธุรกิจที่เรามองว่าเป็นเมกะเทรนด์ จึงเป็นธุรกิจในกลุ่มเทคโนโลยี และดิจิทัล เป็นหลัก
ยิ่งปีนี้มี Covid-19 เข้ามาเป็นตัวเร่ง ยิ่งทำให้เมกะเทรนด์เหล่านี้เติบโตแบบก้าวกระโดด
สิ้นปี 2563 นี้ เราเลยได้โอกาสรวบรวมผลตอบแทนของเมกะเทรนด์ทั้ง 12 กลุ่ม ที่ Jitta Wealth เปิดให้คนไทยทุกคนได้เริ่มลงทุนเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ผ่านกองทุนส่วนบุคคล Thematic
ลองมาจัดอันดับดูว่า เมกะเทรนด์ไหนจะคว้าแชมป์ เติบโตสูงที่สุดในปีนี้
ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมาย สำหรับหลายๆ อันดับ ด้วยความต้องการพึ่งพาเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตที่มากขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ เว้นระยะห่างทางสังคม
และ 10 อันดับ ธีมธุรกิจเมกะเทรนด์ที่สร้างผลตอบแทนสูงที่สุดในปีนี้ 🏆 ได้แก่...
จะเห็นได้ว่า 7 อันดับแรก เป็นธุรกิจเมกะเทรนด์ที่ได้อานิสงส์จากการแพร่ระบาดของ Covid-19 และแม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลาย แต่ปริมาณการใช้งานแพลตฟอร์มในธุรกิจกลุ่มนี้ ก็ไม่ได้ลดลงเลยครับ
ขณะที่กองทุน ETF ที่ลงทุนในธุรกิจสหรัฐฯ จีน และอินเดีย 3 ประเทศใหญ่ของโลก ราคาก็ยังปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างเยอะ แม้ว่า 2 ใน 3 ประเทศ จำนวนผู้ป่วย Covid-19 ยังอยู่ในระดับสูง
ส่วนอีก 2 เมกะเทรนด์ที่ไม่ติดโผในครั้งนี้อย่าง ธุรกิจสุขภาพ (+10.56% - iShares Global Healthcare ETF) และธุรกิจกัญชา (-7.56% - ETFMG Alternative Harvest ETF) นั้น ไม่ใช่ว่าไม่น่าลงทุน แต่ผลตอบแทนอาจจะไม่ได้เติบโตปรู๊ดปร๊าดเหมือนกับกลุ่มเทคโนโลยี และดิจิทัลเท่านั้นเอง
โดยเฉพาะกัญชานั้น ราคาพุ่งขึ้นไปสูงมากประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว ช่วงที่กัญชาเพิ่งกลายเป็นอุตสาหกรรมถูกกฎหมายในแคนาดา หลังจากนั้นก็ร่วงลงมาตลอด...
ในขณะที่รายได้ของบริษัทกัญชากลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!
และล่าสุด ประเทศไทยได้ปลดล็อกส่วนของกัญชาและกัญชง ให้นำไปใช้ประโยชน์ได้โดยไม่จัดเป็นยาเสพติด เป็นเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก
แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมกัญชา มีแนวโน้มที่จะเติบโตยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต และถือเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ที่น่าจะมาแรงทีเดียว
นอกจากนี้ สังคมคนสูงวัยที่กำลังคืบคลานเข้ามาในอีก10-20 ปีข้างหน้า ทำให้ไม่ว่ายังไง ธุรกิจสุขภาพและกัญชาเพื่อการแพทย์ ก็น่าจะโตล้อไปกับความต้องการด้านสาธารณสุขทั่วโลก
ถ้าสนใจลงทุนเมกะเทรนด์เหล่านี้ ก็ไม่ยากครับ เพียงแค่เปิดพอร์ตกองทุนส่วนบุคคล Thematic ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 100,000 บาท สามารถเลือกธีมธุรกิจที่คุณเชื่อมั่นว่ามีอนาคตใส่พอร์ตได้ 1-5 ธีม
จากนั้นก็ปล่อยให้ Jitta Wealth บริหารจัดการและปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ
เท่านี้พอร์ตคุณก็สามารถเติบโตล้อไปกับเมกะเทรนด์เหล่านี้ได้แล้วครับ