11 เดือน 11 ของทุกปีถูกจัดว่าเป็นวันสำคัญของเหล่าวัยรุ่นชาวจีน นั่นคือ วันคนโสด (Singles’ Day) มีจุดเริ่มต้นมาจากกลุ่มนักศึกษาชาวจีน ตั้งแต่ปี 2533
คำว่า ‘เป็นโสด’ ในภาษาจีน มีความหมายว่า ‘ท่อนไม้’ ได้ด้วย และเมื่อเรานำเลข 11.11 มาเรียงต่อกัน ก็เหมือนท่อนไม้ 4 ท่อน ทำให้วันที่ 11 เดือน 11 กลายเป็น ‘วันคนโสด’ ไปโดยปริยาย
ปัจจุบันคนยุคใหม่พอใจกับการครองตัวเป็นโสดกันมากขึ้น แต่อาจจะเป็นปัญหาระดับชาติในอนาคต เพราะอัตราการเกิดใหม่ต่ำลง หลายๆ ประเทศ ‘ขาดแคลนคนวัยทำงาน’ มากขึ้น ขณะเดียวกันสัดส่วนคนสูงอายุในแต่ละประเทศเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ทำให้รัฐบาลต้องวางแผนหรือมีทิศทางชัดเจน เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ก่อนเกิดวิกฤตประชากร แต่เพราะอะไร ผู้คนถึงเลือก ‘เป็นโสด’ กันมากขึ้นนั้น มีหลายๆ ปัจจัย ดังนี้
ปัจจุบันคนโสดส่วนใหญ่พึงพอใจกับชีวิตของตัวเองมาก มีหน้าที่การงานและชีวิตที่ดีได้ด้วยตัวเอง ไม่ได้ตั้งเป้าหมายในการสร้างครอบครัว และมีอีกจำนวนมากที่หาคู่ครองที่เหมาะสมให้กับตัวเองไม่ได้ และมองว่าการมีคู่ครองทำให้อิสระการใช้ชีวิตน้อยลง ทำให้ผู้คนตัดสินใจที่จะเป็นโสดแบบมีอิสระ มากกว่ามีพันธะในชีวิต
คู่รักบางคู่พบเจอกับปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้อัตราการหย่าร้างสูงขึ้น สวนทางกับอัตราการแต่งงานที่ลดลง ปัจจุบันมีจำนวนคนโสดเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ พวกเขามองว่าการแต่งงานไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของชีวิตอีกต่อไป
จากค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการมีคู่ เพราะมองว่าค่าใช้จ่ายส่วนตัวสูงพออยู่แล้ว หากต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการมีชีวิตคู่ รวมไปถึงต้นทุนการเลี้ยงดูบุตรที่สูงขึ้น จะทำให้บริหารการเงินลำบากมากกว่าเดิม เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ผู้คนตัดสินใจครองโสดต่อไป
จำนวนคนโสดเพิ่มขึ้นกว่า 30% ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะประชากรในทวีปเอเชียหลายๆ ประเทศ และมีการคาดการณ์ว่า ทุกๆ 10 ครัวเรือน จะมี 1 ครัวเรือนที่เป็นคนโสดในอนาคต แม้ความโสดไม่ใช่เรื่องผิด แต่ตามมาด้วยปัญหาใหญ่ที่หลายๆ ประเทศพยายามหาทางแก้ไข
แต่จะโสดทั้งที คุณต้องโสดแบบมีคุณภาพ ยิ่งสะสมความมั่งคั่งไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ คุณจะเกษียณสุขได้อย่างสบายใจ…ไร้กังวล Jitta Wealth ขอนำเสนอ 11 ข้อแนะนำ ‘วางแผนโสด’ แบบชีวิตดีๆ มีอยู่จริง ดังนี้
เริ่มแรก คุณต้องสำรวจสถานะการเงินของตัวเอง รายได้ ทรัพย์สิน และหนี้สิน รวมทั้งตั้งเป้าหมายหลังเกษียณว่าต้องการใช้เงินเดือนละเท่าไร จากนั้นนำข้อมูลดังกล่าว มาประเมินต่อว่า คุณจะมีอายุจนถึงกี่ปี เช่น ต้องการใช้เงินหลังเกษียณเดือนละ 30,000 บาท และคาดว่าจะมีชีวิตจนถึงอายุ 85 ปี หมายความว่าหากคุณคิดจะเกษียณตอนอายุ 60 ปี ต้องใช้เงินหลังเกษียณทั้งหมด 30,000 บาท x 300 เดือน (25 ปี) = 9,000,000 บาท
ดังนั้นคุณต้องเก็บเงินเกษียณให้ได้อย่างน้อย 9,000,000 บาท ซึ่งจะเก็บออมในเงินฝากแค่เพียงอย่างเดียว คุณอาจจะต้องทำงานหนักมาก กว่าจะถึงเป้าหมายนั้น นี่คือเหตุผลที่คุณจำเป็นต้องลงทุนเพื่อให้เงินของคุณงอกเงยมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราเงินเฟ้อในอนาคต
จำแนกหนี้สินทั้งหมดของตัวเอง ว่าคุณจำเป็นต้องชำระหนี้อีกทั้งหมดเท่าไร ใช้เวลาอีกนานแค่ไหน รวมถึงแยกประเภทหนี้ด้วยว่า คุณมี ‘หนี้ดี’ หรือ ‘หนี้เสีย’ มากกว่ากัน หนี้ดีหมายถึงหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้หรือสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น หนี้บ้าน ส่วนหนี้เสียเป็นหนี้ที่ไม่ได้สร้างรายได้ให้กับคุณ เช่น หนี้สินค้าเงินผ่อน หนี้รถ หรือหนี้บัตรเครดิต
เมื่อคุณรู้รายละเอียดของหนี้ทั้งหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การวางแผนจัดการหนี้อย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากชำระหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงก่อน จากนั้นค่อยแบ่งชำระหนี้ให้หมดไปทีละก้อน เมื่อคุณปลดหนี้ของตัวเองจนหมด ต่อจากนี้รายได้ที่เข้ามาจะมีแต่รายรับ ซึ่งเพิ่มทางเลือกให้กับคุณว่า จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ตัวไหนดี
เมื่อคุณโสด คุณจะมีเวลาว่างมากขึ้น คุณสามารถแบ่งเวลาในชีวิต เพื่อศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุนได้ ซึ่งมีความสำคัญมากก่อนจะตัดสินใจลงทุน หากคุณมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่จะลงทุนมากพอ คุณจะรู้สึกอย่างสบายใจ เมื่อเกิดวิกฤตหรือมีข่าวลบๆ และคุณควรมีเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจนด้วย
เมื่อคุณสามารถจัดการเงินส่วนตัวและแบ่งเงินมาลงทุน เงินของคุณจะเติบโตและงอกเงยมากขึ้นในอนาคต ปัจจุบันมีแผนการลงทุนมากมายให้คุณได้เลือกสรร รวมทั้งโอกาสลงทุนในต่างประเทศ กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth เป็นอีกทางเลือกสำหรับการลงทุนอย่างยั่งยืน เป็นพอร์ตลงทุนแบบโสดเกษียณสุขได้
ถึงคุณจะโสด แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวหรือไม่มีสังคม คุณสามารถหาเพื่อนที่มีแนวคิดเดียวกันกับคุณ ร่วมพูดคุยหรือใช้ชีวิตโสดไปด้วยกันในอนาคต จากผลสำรวจจาก British Psychological Society พบว่า การมีเพื่อนสนิทที่มีแนวคิดเดียวกัน จะทำให้คุณยิ่งประสบความสำเร็จได้รวดเร็วมากขึ้น
การมีเพื่อนที่ดีๆ สักคน จะช่วยผลักดันให้คุณทำงานหนักขึ้น ควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น พัฒนาศักยภาพการทำงาน และช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณควรหาเพื่อนสักคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน และโสดไปด้วยกันในอนาคต
ถึงแม้ว่าการออมเงินจะเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่คุณไม่ควรหักโหมทำงานหนักเพื่อเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัว จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพตัวเอง หากมีเวลาว่างคุณควรแบ่งเวลาเพื่อออกกำลังกายให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ และเป็นเครื่องการันตีว่า คุณจะได้ใช้เงินออมเงินลงทุนของคุณในอนาคต ไม่ควรต้องนำมาใช้ในช่วงเวลาที่คุณเจ็บป่วย
ผลวิจัยจาก University of California Los Angeles พบว่า การออกกำลังกาย ช่วยกระตุ้นสมองของคุณให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น และทำให้คุณมีความคิดที่เฉียบคมอยู่เสมอ ดังนั้นคุณควรแบ่งเวลาออกกำลังกายเพื่อตัวคุณเองอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน เลือกกีฬาหรือสไตล์การออกกำลังกายที่คุณชื่นชอบ เป็นแค่เดินหรือวิ่งก็ได้
ความโสดมาพร้อมกับอิสระ คุณสามารถตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอถามความคิดเห็นจากใคร หากคุณโสด คุณคงต้องมองหาบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่ชอบ ทำเลที่ถูกใจ ราคาที่เหมาะสม เป็นที่พักใจให้คุณ
บ้านหรือคอนโดมิเนียม แบบไหนจะเหมาะสมกับคนโสดมากกว่ากัน เป็นคำถามที่คนโสดหลายคนตั้งข้อสงสัยในโลกออนไลน์ คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณ อย่าลืมว่า ที่อยู่อาศัยเป็น 1 ในปัจจัย 4 ของการดำรงชีวิต จึงมีความสำคัญมาก
สำหรับคนที่ต้องการมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ มีสัตว์เลี้ยง มีรถขับ หรือชื่นชอบความสงบ คุณเหมาะที่จะซื้อบ้าน แต่มีข้อเสียคือ มีภาระดูแลรักษา มีค่าซ่อมบำรุงมากมาย ในขณะที่คอนโดมิเนียม ดูแลรักษาง่ายกว่า ส่วนมากจะอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนโสดที่ต้องการไปไหนมาไหนง่ายหรือต้องการอยู่ในเมือง ข้อเสียคือ มีพื้นที่จำกัด ส่วนมากจะไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ และไม่เงียบสงบเท่ากับอยู่บ้าน
บ้านพักคนชรามีหลายรูปแบบ ทั้งแบบเช่ารายเดือน เช่าระยะยาว (Leasehold) และซื้อขาด (Freehold) เป็นกรรมสิทธิ์ของคุณ แน่นอนว่า ราคาก็แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตัวเลือกหรือแผนการชีวิตที่คุณวาดเอาไว้
ค่าใช้จ่ายรายเดือนสำหรับบ้านพักคนชราที่ดำเนินงานโดยเอกชน จะอยู่ที่ 20,000-30,000 บาท หากใครมีโรคประจำตัวก็ต้องเผื่อค่าใช้จ่ายไปอีก 15,000 บาทต่อเดือน และด้วยอัตราเงินเฟ้อคิดเฉลี่ยไว้ที่ 2.5% ต่อปี ในอีก 20 ปีข้างหน้า จะกลายเป็น 32,000-49,000 บาทต่อเดือน หรือหากซื้อขาดก็จะอยู่ที่ 2-5 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าบำรุงซ่อมแซมและค่ารักษาพยาบาล
นอกจากนี้ยังมีเทรนด์ใหม่ๆ อย่าง Senior Cohousing อาจเป็นไอเดียที่เพื่อนๆ และคุณ สามารถแชร์บ้านร่วมกันได้ แล้วยังแชร์ค่าใช้จ่ายร่วมกันได้อีกด้วย
ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่สุดเมื่อคุณเดินทางมาถึงวัยเกษียณ คือการดูแลสุขภาพ และค่ารักษาพยาบาล คุณจะต้องวางแผนอย่างไร เมื่อคุณเจ็บป่วย คุณจะไม่เดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่าย และยังได้ระบบสาธารณสุขที่ดี
การซื้อประกันสุขภาพ เป็นการวางแผนที่เราแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตเพื่อวัยเกษียณ ประกันสุขภาพแบบคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ยิ่งวงเงินสูง คุณยิ่งวางใจได้ว่า ในอนาคตค่ารักษาพยาบาลจะไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณ
ถือเป็นการให้รางวัลตัวเอง การเป็นอิสระเปิดโอกาสให้คุณสามารถทำกิจกรรม ท่องเที่ยวและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในข้อจำกัดที่น้อยกว่า อย่าลืมเผื่อเงินเก็บไว้ซื้อกับความสุขด้านนี้ด้วย
ไม่ว่าจะเป็นหากิจกรรม งานอดิเรก กีฬาที่คุณชื่นชอบ คุณสามารถใช้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวในชีวิตได้ เป็นการดูแลสุขภาพจิตของคุณให้แจ่มใสอยู่เสมอ อาจจะเป็นกิจกรรมที่นิยมกันหรือกิจกรรมท้าทายพละกำลังของคุณก็ได้
และอีกความฝันของทุกคน ไม่ว่าจะโสดหรือไม่โสด คือการออกเดินทาง หาประสบการณ์ เที่ยวรอบโลก
หลายคนอาจจะมองว่า Online Dating มีเพียงแค่จุดประสงค์เดียว คือการหาความสัมพันธ์แบบคนรัก แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ในแง่มิตรภาพ และได้พบเจอเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ เรียนรู้ความหลากหลายของคนได้ด้วย มีงานวิจัยพบว่า กลุ่มคนที่ใช้งานแอปพลิเคชัน Tinder มีสัดส่วนมากถึง 53% ใช้เพื่อหาเพื่อนใหม่ๆ
คุณอาจจะได้เพื่อร่วมแก๊ง ไกด์ท้องถิ่นเวลาคุณออกเดินทาง พาร์ตเนอร์ทำธุรกิจ เพิ่มความรู้ฝึกภาษา ที่สำคัญเพิ่มโอกาสให้ตัวเองได้พบปะกับผู้คน เผื่อจะมีคนร่วมแชร์บ้านวัยเกษียณไปด้วยกัน
ไม่มีใครรู้จักคุณ…เท่ากับตัวคุณเอง คุณควรตอบตัวเองให้ได้ว่า ในอีก 30-40 ปีข้างหน้า คุณอยากมีชีวิตอย่างไร เพื่อที่จะได้วางแผนได้อย่างมีเป้าหมายมากขึ้น และคุณจะมีแรงทำตาม 10 ข้อเสนอแนะข้างบน เพื่อพิชิตเป้าหมาย โสดแบบสบายๆ ได้ไม่ยาก
Jitta Wealth มีกองทุนส่วนบุคคลที่เชื่อในหลักการลงทุนระยะยาวและกำไรแบบทบต้น โดยนำเทคโนโลยีและระบบดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เช่น AI ในการเลือก ‘หุ้นดีราคาถูก’ หรือ ‘หุ้นดีมีโอกาสเติบโต’ รวมไปถึง AI ในการจัดพอร์ตลงทุนธีมเมกะเทรนด์ใน ETF (Exchange Traded Fund) ทั่วโลก
นอกจากนี้เราได้พัฒนาระบบปรับพอร์ตอัตโนมัติทุก 3 เดือน เพื่อรักษาวินัยการลงทุนในพอร์ตของคุณ โดยที่ไม่ต้องคอยศึกษาหุ้นและ ETF รวมไปถึงอัปเดตข้อมูลด้วยตัวเอง เพื่อให้คุณได้เต็มที่กับชีวิตและการทำงาน เป็นการ ‘วางแผนโสด’ ได้อย่างสบายใจ
คุณสามารถเข้ามาศึกษาหลักการลงทุนระยะยาว และสร้างพอร์ต ‘วางแผนโสด’ อย่างสบายใจ…ไร้กังวลได้ในเว็บไซต์ หรือสอบถามเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน Line ID: @JittaWealth
กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ผู้บุกเบิกสตาร์ตอัป WealthTech สัญชาติไทยรายแรก ที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01
ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน